ความคิดเห็นที่ 1 ห่างจากหาดชะอำประมาณ 10 กิโลเมตรไปทางใต้ ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบและรื่นรมย์ แวดล้อมไปด้วยพรรณไม้ร่มรื่น เกลียวคลื่นและหาดทรายขาวสะอาดตา   คือที่ตั้งของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชวังฤดูร้อนไม้สักทองแห่งแรก และแห่งเดียวของโลก ที่งดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ควรแก่การอนุรักษ์     พระราชนิเวศน์แห่งนี้ สร้างขึ้นจากพระราชประสงค์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ที่จะให้เป็นที่ประทับ สำหรับการเสด็จแปรพระราชฐานฤดูร้อน จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 06:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใน พ.ศ. ๒๔๖๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม มอบหมายให้ นายเอกอล มันเฟรดดี ( Mr. Ercole Manfredi  ) หรือนายเอกฤทธิ์ หมั่นเฟ้นดี สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน ซึ่งรับราชกาลในกรมโยธาธิการ เป็นผู้ออกแบบรายละเอียดตามแบบที่ทรงร่าง จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 06:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระราชนิเวศน์แห่งนี้สร้างขึ้นจากไม้สักทอง ซึ่งหาได้ง่ายในสมัยนั้น ประกอบไปด้วยพระที่นั่งขนาดใหญ่ 3องค์ และเรือนไม้รวม 16 หลังกระจายกันออกไป เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดินไม้ มีหลังคาคลุมเพื่อกันแดดกันฝน เรียงกันในทิศ เหนือ – ใต้ หันหน้าสู่ทะเล ทำให้อาคารทุกหลังได้รับลมทะเลในเวลากลางวัน และลมจากเขาในเวลากลางคืน       พื้นที่ส่วนที่ประทับและที่อยู่อาศัยทั้งหมด ยกพื้นสูงในระดับเดียวกัน บนเสาคอนกรีตเสริมเหล็กทรงสี่เหลี่ยม ๑๐๔๖ ต้น เสากลมอีก ๓๔  ต้นในบริเวณสโมสรเสวกามาตย์ รวม ๑๐๘๐ ต้นค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารหลังเดียวของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ที่ใช้พื้นที่ชั้นล่างด้วย จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โถงอัฒจันทร์(บันได) ทางเสด็จขึ้นพระราชนิเวศน์ชั้นบน ซึ่งมีลักษณะโค้ง จากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบนเลียบผนังสองด้าน จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อาคารทุกหลังเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวเพดานสูง และมีช่องลมใต้หลังคาเป็นไม้ฉลุลวดลายขนมปังขิง ซึ่งเป็นแบบที่นิยมกันในสมัยนั้นค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีแนวระเบียงเชื่อมองค์พระที่นั่งทั้งสามองค์ เรียกว่า คัฟเวอร์ เวย์  (Cover Way) เพื่อความสะดวกสบาย และปลอดภัยในการสัญจรไปมาของข้าราชบริพาร     ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยไปแล้วค่ะ สง่างาม สมควรที่คนไทยจะรักษาและหวงแหนไว้เป็นสมบัติของชาติค่ะ จากคุณ : คนแก่แดด (คนแก่แดด) - [ 21 ส.ค. 50 07:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ห้องสรงของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 07:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ห้องแต่งพระองค์ของพระบาทสมเด็จมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระแท่นบรรทมของร.ที่6ค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ห้องทรงพระอักษร จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 น่าไปเที่ยวมากเลยค่ะ บรรยากาศ ร่มรื่น ชวนเดิน จากคุณ : นกหวาน - [ 21 ส.ค. 50 08:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ภายในห้องบรรทมของพระนางเจ้าสุวัทนา มีโต๊ะเครื่องแป้งและคันฉ่องแบบตะวันตกค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวยจังเลย บ้านสมัยก่อน ถ้าจะคิดสร้างตอนนี้ เป๋าแฟ๊บแหลกลาน  เหอ เหอ จากคุณ : radiergummi - [ 21 ส.ค. 50 08:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พระแท่นบรรทมของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พระบรมฉายาลักษณืของร.6 และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในวันอภิเษกสมรสค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ภายในห้องบรรทมของพระนางเจ้าอินทศักดิ์ศจี พระบรมราชินี   ( ต่อมาโปรดเกล่าโปรดกระหม่อมให้ออกพระนามว่า พระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา) จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ....    o o ! จากคุณ : Mr.Swat_D - [ 21 ส.ค. 50 08:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หอเสวยฝ่ายในสำหรับจัดเครื่องเสวยแบบไทย จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 08:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ห้องรับแขกของพระนางเจ้าอินทศักดิ์ศจี ภายในพระที่นั่งพิศาลสาครค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เฉลียงที่ยื่นออกไปจากตัวอาคารเพื่อรับลม จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทางเดินพร้อมหลังคาคลุมตรงไปยังศาลาลงสรงริมทะเล จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ ตาม มาเที่ยวด้วยค่ะ  ภาพ สวย งาม  เนื้อหา ความรู้ ครบ ถ้วน .. สมัยเรียนหนังสือ มีเพื่อน พัก อยู่ ในค่ายทหารที่นี่ .. ดึกๆ เที่ยงคืนตี 1-ตี 2 แก่นเซี้ยว  มา ดู ความลึบลับ วังเวง..บรรยากาศ ยามดึก ลมพัดเวิ้งๆๆๆ เสียงคลื่นซัดสาด ..เสียงต้นสน กระทบกัน สมัยก่อนน่ากลัวมากๆ..ยังไม่ได้พัฒนา บูรณะแบบนี้   เค้าจะปิดไฟทั้งวังเลยค่ะ แล้วแบบเงียบมาก มีเพียงแค่ไฟฉาย กับแสงไฟหน้ารถ  ฮืม.. ไม่เห็นอะไรหรอก เพราะ ว่า วิ่งกันเตลิดเปิดเปิง ไปเสียก่อน 555 จากคุณ : honeybfit - [ 21 ส.ค. 50 09:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ศาลาลงสรงริมทะเล จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปัจจุบันพระราชนิเวศน์แห่งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศเข้าเยี่ยมชม เพื่อเผยแพร่พระเกียติคุณ และพระปรีชาสามารถทางสังคม วรรณกรรม นาฏศิลป์และดนตรี ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชนรุ่นหลัง ในส่วนของวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดสุดสัปดาห์ จะจัดการแสดงดนตรีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 และบทเพลงร่วมสมัย โดยมีทั้งวงดนตรีไทย วงโยธวาธิต และวงปี่สกอตจากวชิราวุธราชวิทยาลัย การสาธิตร้อยมาลัย โดยพนักงานฝ่ายในจากพระบรมมหาราชวังที่เกษียณอายุ การดำเนินโครงการเปิดสอนดนตรีไทย และการขับร้องเพลงไทย แก่บุตรหลานของข้าราชการตำรวจ และผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 11:28:23 จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีจังเลยคุณสเลเต ว่างๆเจ้บัวต้องขอไปเที่ยวเสียหน่อยแล้วค่ะ..... ปล. เจ้บัวเคยเข้าค่ายไปนานมากๆแล้ว สมัยเรียนยุวกาชาดแหละ..... แบบว่าอารมณ์เดียวกับที่คุณhoneybfit พูดเลยค่ะ..... จากคุณ : เจ้บัวผุด (naugat) - [ 21 ส.ค. 50 09:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณทุกท่นที่แวะเข้ามาชมค่ะ ภาพใหญาอาจทำให้โหลดนาน ขออภัยค่ะ แต่อยากให้เห็นความงามของพระราชนิเวศน์แห่งนี้ชัดๆ เนื่องจากในปัจจุบันไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพค่ะ หากจะถ่ายภาพหรือบันทึกภาพใดในลักษณะใดๆ ต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยัง มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในพระอุปถัมภ์ ของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาสิริโสภาพรรณวดี  ค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 09:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตามาเที่ยว จนจบ  เดี๋ยวนี้ มีค่าเข้าชมแล้ว นี่ค่ะ ราคา 20-30 บาทเนี่ยค่ะ กิจกรรมก็ ปั่นจักรยาน ชมวัง.. ใครไม่เคยไป ลองไปเที่ยวดู ค่ะ ต้นไม้ มีอายุ เก่าๆ เยอะ เชียวค่ะ   ยิ่งถ้าไปช่วง ปลาย ฝน ต้นหนาว อากาศ ดีๆเย็นลมทะเล  ปั่นจักรยาน ชมวัง สนุกเชียวค่ะ ขอบคุณ ที่นำภาพ มาให้ ชม ค่ะ จากคุณ : honeybfit - [ 21 ส.ค. 50 09:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาชมความสวยงามและเก็บเกี่ยวความรู้ครับ จากคุณ : kmml - [ 21 ส.ค. 50 10:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีค่ะคุณคนแก่แดด ปัจจุบันพระราชนิเวศน์แห่งนี้ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ โดยกรมศิลปากรแล้วค่ะ คุณนกหวานคะ บรรยากกาศร่มรื่นมากเลยค่ะ ผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน สวัสดีค่ะคุณMr.Swat_D คุณradiergummiคะ มูลค่าของสถานที่แห่งนี้ ไม่อาจประเมิณได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณ honeybfit ความจริงมีข้อมูลมากกว่านี้ค่ะ แต่เกรงว่าจะทำให้เบื่อกันไปก่อน เลยตัดมาเฉพาะที่สำคัญๆเท่านั้น ที่นำมาลงใรนกระทู้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น รายละเอียดทั้งหมด อยู่ในคอลลัมม์"เยี่ยมเรือนเยือนอดีต" ตีพิมพ์ไปตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ด้วยความยินดีค่ะเจ้บัวผุด ใกล้ๆแค่นี้เองค่ะ ถ้าไปวันธรรมดานี่...เงียบเชียว น่าไปเที่ยวนะคะ ค่าเข้าชมก็ไม่แพงเลย จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 10:16:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวยมากค่ะ พื้นเงาวับเชียว จากคุณ : cholth_cha - [ 21 ส.ค. 50 10:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าววววว สวนทางกับคุณhoneybfit ใช่เลยค่ะ ค่าเข้าชมถูกมากๆ ประมาณ 20 บาทมังคะ เท่าที่ทราบมานะคะ มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ไม่ได้รับงบประมาณในการบำรุงรักษาจากภาครัฐค่ะ ทางมูลนิธิเลยต้องจัดกิจกรรมต่างๆ เช่นแสดงเกร็ดความรู้ด้านวัฒนธรรม ให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสรับรู้ อาทิ การจัดแสดง  วิถีชีวิตของข้าราชบริพาร ที่เรือนข้าราชบริพารด้านหลังอาคารพระที่นั่งต่างๆ ในส่วนของวันหยุดนักขัตฤกษ์ สวัสดีค่ะ..คุณkmml เชิญแวะไปเที่ยวนะคะ คุณcholth_cha คะ มฤคทายวันพระราชนิเวศน์แห่งนี้ เป็นไม้สักทองทั้งหลังค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 10:34:07 จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 10:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนสมัยโป๊ยเซียนบูม ที่นี่เคยจัดขายและประกวดโป๊ยเซียน เราก็ยังเข้าไปขายด้วยเลย จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 21 ส.ค. 50 10:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มีโอกาสได้ไปเที่ยว 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนเป็นเด็กเลย โรงเรียนจัดไป ครั้งสองที่ทำงานจัดไป ชอบบรรยากาศค่ะ ถ้ามีโอกาสว่าจะแวะไปอีกครั้ง คุณสเลเตสามารถจัง ได้ถ่ายรูปมาด้วย จากคุณ : reunion - [ 21 ส.ค. 50 11:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อยากไปเที่ยวอีกแล้ว....... เล่นเอารูปมาสะกิดต่อมเที่ยว..........555 จากคุณ : โมกแดง - [ 21 ส.ค. 50 11:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นทางผ่านเวลาไปบ้านที่บ่อฝ้ายหัวหิน เคยแวะเข้าไปนานมากแล้ว เมื่อก่อนเงียบวังเวงมากหลังบูรณะสวยงามมากนะคะ จากคุณ : ทะเลที่บ่อฝ้าย (แม่มีมี่จัง) - [ 21 ส.ค. 50 11:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณที่พาเที่ยว.........เน้อ อยู่บ้านเหมือนได้เที่ยวไปด้วย ภาพงามๆ ประวัติเรื่องเล่า.......ชอบเน้อ...อิอิ จากคุณ : ครูอาร์ท - [ 21 ส.ค. 50 11:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ดีจังเลย อยู่ที่บ้านก็ได้ความรู้ และได้ชมภาพเหมือนได้ไปเองเลยค่ะ ขอบคุณคุณสเลเตมากๆที่นำความรู้และภาพสวยๆมาให้ชมค่ะ จากคุณ : นางหงส์ - [ 21 ส.ค. 50 12:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ก็รู้สึกเสียดายที่ตอนนี้ไม่ให้ถ่ายภาพแล้ว แต่เคยติดต่อไปบางที่เค้าบอกว่า มีคนขออนุญาตเข้าไปถ่ายภาพแต่งงาน ฟังแล้วก็งง ทำไมถ่ายภาพแต่งงาน ได้แต่จะถ่ายภาพเพื่อเผยแพร่ให้กับคนที่ไม่เคยไปได้รู้สึกว่ามันสวยงามและ น่าสนใจที่จะไปชมกลับไม่อนุญาตก็เลยรู้สึกแปลกๆ แล้วตอนนี้พระที่นั่งทุก แห่งก็ไม่เปิดโอกาสให้ถ่ายภาพทั้งหมด ตอนที่ไปนั้นกฏนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นก็ เลยสามารถที่จะถ่ายภาพได้เกือบทั้งหมด นึกแล้วเสียดายที่ไม่ได้ไปพระที่ นั่งหลายๆที่ เลยไม่ได้มีภาพมา ขอบคุณเลเตที่ขุดกรุออกมา จำได้ว่าไปมา นานมากพอสมควรแล้วนับได้ก็เป็นปีแล้วล่ะมั้ง ตอนนั้นยังเดินชมความงาม คนก็ไม่พลุกพล่าน เงียบ ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว ว่าจะไปทบทวน ความรู้สึกอีกสักครั้งก็น่าจะดีนะ คิคิคิคิ จากคุณ : สนามหญ้าหน้าบ้าน - [ 21 ส.ค. 50 12:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตามมาเที่ยวด้วยแล้วครับ วันนี้งานเยอะ เลยมาบ่ายเลย ขอบคุณภาพถ่ายสวยงามและข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ :-) จากคุณ : ชิดขวา (cosmicDiscovery) - [ 21 ส.ค. 50 13:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณคุณสเลเต และคุณสนามหญ้าหน้าบ้านครับ ผมขอเสริมข้อมูลนิดนึงครับ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่๖ ทรงมีปัญหาเกี่ยวกับพระพลานามัยบ่อยครั้ง แพทย์หลวงจึงได้ถวายคำแนะนำให้เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปยังที่มีอากาศดี ในการก่อสร้างครั้งนั้น จึงโปรดให้ช่างทำเสาปูนทั้ง 1080 ต้น ให้มีร่องหล่อน้ำทุกต้น เพื่อป้องกันมด ไม่เว้นแม้เชิงบันได ไม่มีส่วนใดที่มดจะไต่ขึ้นไปได้เลย สังเกตดูในภาพ ขอยืมมาทำศรชี้นะครับ จากคุณ : พรเลิศ - [ 21 ส.ค. 50 14:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ชมเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ปีที่แล้วไป  ก็ให้ถ่ายแต่ภายนอกค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 14:28:30 จากคุณ : คนซอย8 - [ 21 ส.ค. 50 14:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณต้นโพธิ์ต้นไทร มาไกลนะคะ จากศรีราชาไปถึงชะอำเลยหรือคะ ปัจจุบันนี้..คงไม่อนุญาตให้ขายอะไรแล้วมังคะ บรรยากาศดีค่ะคุณreunion ยังคิดว่า...วันไหนว่างๆ จะไปอีกเลยค่ะ แหะแหะ คุณพี่ชายเป็นคนถ่ายภาพ พี่สนามหญ้าหน้าบ้านค่ะ ไปถ่ายมาประมาณ 2ปีแล้วค่ะ ตอนนั้นยังให้ถ่ายภาพได้ พี่โมกแดง(แรงฤทธิ์) อิอิอิ... ขอเกาะล้อไปด้วยคนสิพี่สาว อยากไปอีกครั้งเหมือนกันค่ะ คุณแม่มีมี่จังคะ หลังจากบูรณะแล้ว ที่นี่ปรับปรุงได้ดีมากเลย แต่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวนะคะ ถ้าครูอาร์ทชอบเรื่องเรื่องราวแบบนี้ วันหน้าจะนำมาแบ่งปันกันอีกค่ะ มีสถานที่อีกหลายแห่ง ที่ไปทำงานและถ่ายภาพไว้ ไปเที่ยวกับสเลเตนี่ล่ะ ไม่ต้องจ่ายเงิน...อิอิอิ เย้...เย้ พี่หนามหญ้าฯเจ้าของภาพมาแล้ว นั่นสิเนาะ...เสียดายจัง มีพระราชวัง/วังโบราณอีกหลายแห่ง ที่ไม่อนุญาตให้ไปถ่ายภาพเพื่อการเผยแพร่ แต่กลับอนุญาติให้ถ่ายภาพแต่งงานได้ งงเหมือนกันค่ะ... ด้วยความยินดีค่ะคุณชิดขวา (cosmicDiscovery) หากกระทู้นี้มีประโยชน์คนโพสต์ก็ดเจค่ะ ป.ล.ภาพสวย ต้องขอบคุณพี่สนามหญ้าหน้าบ้านนะคะ อิอิอิ ดิฉันจิ๊กภาพจากพี่ชายมาค่ะ ขอบคตณคุณพรเลิศมากค่ะ ลืมข้อมูลที่สำคัญไปได้อย่างไม่น่าให้อภัยเลยค่ะ ลักษณะการทำเสาที่มีร่องสำหรับใส่น้ำนี่ ถือเป็นลักษณะพิเศษของที่นี่เลยค่ะ ทั้งนี้เพราะ ในบริเวณพระราชนิเวศน์มีมดดำชุกชุม รอบฐานเสาแต่ละต้นจึงมีร่องสำหรับใส่น้ำ เพื่อกันมิให้มดไต่ขึ้นไปชั้นบน แสดงถึงภูมิปัญญาไทยของช่างไทย ในการป้องมดแมลง โดยไม่ต้องอาศัยสารเคมีอันตรายเช่นสมัยปัจจุบัน นึกถึงตู้กับข้าวสมัยโบราณนะคะ ที่มีที่รองขาตู้หล่อน้ำไว้กันมดขึ้น แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 15:04:20 จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 14:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สวนทางกับพี่คนซอย8 ปีที่แล้วก็ตั้งใจว่าจะไปถ่ายภาพค่ะ แต่ทางมูลนิธิฯให้ทำหนังสือขออนุญาต พอดีมีภาพอยู่บ้างแล้วจากที่ไปครั้งก่อน เลยไม่ได้ทำหนังสือขออนุญาตไปค่ะ น่าเสียดายนะคะ... ปัจจุบันสถานที่บางแห่ง ทำหนังสือขออนุญาตไป ยังไม่ให้ถ่ายภาพ อย่างที่พี่สนามหญ้าหน้าบ้านบอกนั่นล่ะค่ะ เมื่อหลายเดือนก่อน ก็ทำหนังสือจากกองบรรณาธิการ ขออนุญาตถ่ายภาพนิ่ง พระราชวังบ้านปืนที่เพชรบุรี ปรากฏว่า...ไม่ผ่านค่ะ เสียดายจริงๆเลย แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 15:10:51 จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 15:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณที่พาเที่ยวจ้า...ชอบพื้นไม้สักจังเลย มันวาบให้พี่สายเดินอยู่ในนั้นคงได้ลื่นหัวคมำเข้าสักทีหรอกน่า... จากคุณ : สายเดี่ยว โจงกระเบน - [ 21 ส.ค. 50 15:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สถานที่สวยมากครับ เคยไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังถ่ายภาพได้ ก็แปลกดีนะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ หุ หุ จากคุณ : พ่อ@LLถุง - [ 21 ส.ค. 50 15:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ถ่ายภาพสวยมากๆค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะคะเคยไปครั้งเดียวนานมาแล้ว สีไม่ใช่แบบนี้ด้วย จากคุณ : อุมาวดี - [ 21 ส.ค. 50 15:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เคยไปนานมากแล้วค่ะ   แต่ดีจังเลยที่คุณเลเต   นำภาพมาให้ได้ชมอีก... จากคุณ : YingPla - [ 21 ส.ค. 50 16:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 งามมากเลยค่ะ สมัยป้ายังเด็กๆ เคยได้ชม ก็ไม่งดงามอย่างนี้ ป้ามีโอกาสได้รู้จัก คุณแพ็ท ลูกชายของสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนท่านนี้ คุณแพ็ทยังเล่าบ่อยๆ ถึงบิดาที่ได้รับใช้เบื้องยุคลบาท ของรัชกาลที่ 6 ตระกูลท่าน อยู่เมืองไทย ที่แถวคลองตัน จนหลานๆ กลายเป็นคนไทยไปหมดแล้วค่ะ ป้าสงสัยนิดนึง อ่านและชมภาพจนจบแล้ว ยังไม่เข้าใจที่เลเตโพสต์ว่า พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง คาดว่า น่าจะมีความหมายเป็นพิเศษแน่นอน รออ่านค่ะ ขอบคุณ ที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : ป้าดาวกระจาย (-.-) - [ 21 ส.ค. 50 17:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยว่าถ่ายภาพได้สวยงามมาก ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะคะ จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา - [ 21 ส.ค. 50 17:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณภาพสวย ๆ และเรื่องราวดี ๆ รออ่านส่วนที่เหลือเหมือนป้าจายนะคะ จากคุณ : tanya\j - [ 21 ส.ค. 50 17:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณที่พามาเที่ยวครับ เดี๋ยวนี้รถยังติดอยู่หรือเปล่าครับ กะว่าตุลานี้จะพาครอบครัวขับรถลงมาเที่ยวทะเลแถวชะอำเสียหน่อย แต่ถ้ารถติดจะเปลี่ยนไประยองแทนครับ จากคุณ : แม่ริม - [ 21 ส.ค. 50 20:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะเคยไปมาเมื่อ2ปีกว่าๆหรือ3ปีแล้วมั้งคะที่นี่ สวยงามมากๆเดินจนเหนื่อยเลยค่ะ แต่เห็นแล้วก็อยากไปอีกจังเลย จากคุณ : ดอกปีป - [ 21 ส.ค. 50 20:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อยากไป    ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : jasmin rice - [ 21 ส.ค. 50 21:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดียามค่ำจากเมืองไทยค่ะพี่สาย พื้นมันวับจริงๆค่ะ ไม่มีฝุ่นเกาะแม้แต่น้อย ทั้งๆที่อยู่ใกล้ทะเล ใช่แล้วค่ะคุณพ่อ@LLถุง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยังถ่ายภาพได้เลยค่ะ แต่ทุกวันนี้...มีข้อห้ามค่ะ น่าเสียดายนะคะ คุณอุมาวดี ไปมาเมื่อไหร่เอ่ย.... สีที่เห็นนี้.... คาดว่าเป็นการบูรณะใหม่ค่ะ สวัสดีค่ะคุณYingPla ถึงไปมาแล้วหลายครั้ง ก็ยังอยากไปอีกนะคะ ที่สำคัญ...ไม่ไกลเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลจากป้าจายค่ะ เลเตก็รออยู่เชียวว่า.... จะมีใครถามหรือเปล่านะ ว่าทำไมพระราชนิเวศน์แห่งนี้ จึงมีชื่อว่า"พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" เรื่องนี้ต้องขยายค่ะ เลเตขออนุญาตไปตอบอีกความเห็นหนึ่งนะคะ จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 21:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวยงามน่าไปเที่ยวชมกันอีกซักครั้ง  น่าภูมิใจในสถาปัตยกรรมงามๆของเราชาวไทยนะคะ  ขอบคุณน้องเลเต และคุณสนามหญ้า  ที่นำภาพงามๆมาให้ชมค่ะ จากคุณ : The mother of 4 - [ 21 ส.ค. 50 21:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยังไม่มีโอกาสไปเลยค่ะ ขอบคุณที่นำภาพและความรู้มาให้ชมค่ะ จากคุณ : aster_star - [ 21 ส.ค. 50 21:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 59 พระราชนิเวศน์มฤคทายวันแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่า “  พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง ” เนื่องเพราะพระราชนิเวศน์แห่งนี้ เป็นที่รวมแห่งความรักและความหวัง ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสถานที่ทรงอภิบาลพระมเหสีด้วยความรัก และเป็นสถานที่ทรงพบรักอีกครั้ง   กล่าวคือในช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ทรงทรงพระครรภ์นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระเกษมสำราญยิ่ง ด้วยทรงมุ่งหวังว่าจะทรงมีพระปิโยรสไว้สืบสันตติวงศ์ แต่ความหวังนั้นก็มีอันให้มลายสูญสิ้นไป เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี  พระบรมราชินี ไม่สามารถมีพระราชโอรสได้       เนื่องจากตกเสียไม่เป็นพระองค์ ในระหว่างแประพระราชฐานไปประทับ ณ พระที่นั่งสมุทรพิมาน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสียพระทัยมาก แม้กระนั้นก็ยังทรงดูแลพระบรมราชินีด้วยทรงเป็นห่วงอย่างยิ่ง   และพระราชนิเวศน์แห่งนี้อีกเช่นกัน ที่เป็นสถานที่รวมแห่งความรัก ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสถานที่ซึ่งทรงพบรักกับพระนางเจ้าสุวัทนาอีกครั้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 21:32:35 จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 21:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เอิ๊ก...จาเป็นลม ภาพใหญ่ยักษ์ ด้วยความยินดีค่ะคุณกาแฟรสเสน่หา ไว้คราวหน้า จะนำเรื่องราวของสถาปัตยกรรมเก่า และสถานที่ที่น่าสนใจ มาฝากกันอีกนะคะ คุณธัญญ่า.... ถึงตอนนี้....คงทราบแล้วนะคะว่าทำไม สถานที่แห่งนี้ จึงได้รับการขนามนามเช่นนั้น คุณแม่ริมคะ มาส่งเสียงเชียร์ ให้แวะไปชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวันค่ะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ที่นี่เป็นพระราชวังฤดูร้อนไม้สักทอง แห่งแรกและแห่งเดียวของโลกเลยนะคะ ดอกปีปจ๋า คราวที่ดอกปีปไปนั้นถ่ายภาพมาบ้างหรือเปล่าคะ เพราะช่วงนั้น...เค้ายังให้ถ่ายภาพได้เลยนะคะ พี่ข้าวหอมขา ไปเลยค่ะ ใกล้ๆแค่นี้เอง ขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ สวัสดีค่ะพี่อู้ แสดงว่าพี่อู้ต้องไปมาแล้วหลายหนแน่เลย เลเตก็เห็นเช่นเดียวกับพี่อู้ค่ะ น่าภูมิใจนะคะที่เรามีมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าเช่นนี้ คุณaster_star หากมีโวลาต้องหาโอกาสไปสักครั้งค่ะ เชื่อว่า......ไปแล้ว คุณต้องหลงรักและอยากกลับไปอีกครั้งแน่เลย จากคุณ : สเลเต - [ 21 ส.ค. 50 21:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณคุณสเลเตและคุณสนามหญ้าหน้าบ้านมากๆเลยครับ พระราชนิเวศน์มฤคทายวันสวยงามมากๆ อยากกลับไปเที่ยวชมอีกครั้ง จากคุณ : กะได - [ 21 ส.ค. 50 22:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตามคุณกะไดค่ะ เคยไปมาสองครั้งแล้ว เพิ่งทราบนะคะว่าเค้าห้ามถ่ายรูปด้านในแล้ว จากคุณ : บัวนลิน - [ 21 ส.ค. 50 23:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวยมาก ๆ ครับ น่าไปเที่ยวจริง ๆ ^_^ จากคุณ : PingP - [ 22 ส.ค. 50 01:19:21 ]

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาทักทาย พี่ชาย พี่สาวค่ะ ..ยังไม่เคยไปที่นี่เลย...อยากไปๆ เมื่อต้นปี พี่สาวก็เพิ่งไปมา กลับมาบอกว่าสวยมาก แต่เค้าห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีรูปมาฝาก ^^ เรื่องห้ามถ่ายรูป เพื่อนพี่เค้าถามมาเหมือนกันค่ะ... เค้าบอกว่าเพราะแสงเฟลช ทำลายสีของเครื่องเรือน เครื่องประดับได้ เคยห้ามใช้แฟลช ก็ยังใช้กันไม่สนใจป้ายที่ห้ามไว้ แล้วก็เรื่องของมารยาท และกาละเทศะ ของคนที่เข้ามาถ่ายรูป บางทีวันรุ่นมากอดกันถ่ายรูปหน้าพระที่นั่งก็มี บางคนก็ข้ามเชือกกั้นไปถ่ายใกล้ๆเพื่อให้ได้ภาพสวยๆ ฯลฯ เตือนกันไป ก็ไม่มีใครฟัง เจอวัยรุ่นว่าสวนเข้าให้ก็มี ก็็เลยห้ามถ่ายรูปซะเลย สิ้นเรื่องกันไป -*- ส่วนเรื่องที่มีการอนุญาตให้ถ่ายรูปแต่งงานนี่ไม่ออกความเห็นดีกว่า อิอิ... ปล. ไปละ แว๊บๆๆ อยู่นานเกินไปละ เดี๋ยวร้อนนนนน 5555 จากคุณ : นีออน - [ 22 ส.ค. 50 07:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 บางห้องเขาไม่ให้ถ่ายภาพไม่ใช่เหรอค่ะ ถ่ายมาได้เก่งจัง จากคุณ : jkloring - [ 22 ส.ค. 50 07:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ไปเที่ยว อีกแล้วนะน้อง น่าอิจฉา จังเลย จากคุณ : ritman - [ 22 ส.ค. 50 08:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดียามสายค่ะคุณกะได พระราชนิเวศน์แห่งนี้ต้องมีมนต์ขลังแน่เลยค่ะ ดูสิคะ...ใครที่ไปมาแล้วรวมทั้งคนโพสต์ด้วย ต่างก็อยากกลับไปอีกครั้ง พี่บัวนลินคะ เค้าเพิ่งห้ามถ่ายรูปภายใน เมื่อ 2 ปีมานี้เองค่ะ ใช่แล้วค่ะคุณPingP น่าไปเที่ยวจริงๆค่ะ อ้าวววววน้องสาว ยังไม่เคยไปเหรอ ไว้มีเวลา...ชวนพี่ชายอีกคนไปกันดีกว่าเนาะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องการถ่ายภาพนะคะ ตอนที่เขายังให้ถ่ายภาพนั้น พี่ชายเราทั้งสองก็ระวังเรื่องแฟลชมากเลยจ้า จะเห็นว่าบางภาพไม่ชัด เพราะถ่ายในที่แสงน้อย และไม่ได้ใช้แฟลชเลยจ้า คุณ jkloring เราถ่ายเฉพาะที่เขาอนุญาตให้ถ่ายค่ะ ไม่ได้ถ่ายในที่ติดป้ายว่า "ห้ามถ่ายภาพ"แต่ประการใด ปัจจุบันนี้...ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน แต่ภาพที่เห็นและนำมาโพสต์นี้ เป็นภาพเมื่อ2ปีมาแล้ว ช่วงนั้นยังอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ค่ะ พี่ritmanขา ไมได้ไปเที่ยวค่ะ นี่ล่ะคืองานของน้องล่ะ เหมือนไปเที่ยวเลยเนาะ ป.ล.คิดถึงพี่ritmanค่ะ ต้องหาสถานที่มิตติ้งกันแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวไปปรึกษาเจ้าของสถานที่ก่อนนะคะ ได้เรื่องแล้วจะส่งข้อความไปชวนค่า จากคุณ : สเลเต - [ 22 ส.ค. 50 09:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาชมภาพจากพี่หนามหญ้าและเรื่องราวจากคุณนายด้วย อิ อิ ภาพสาวผมยาวนั่งบนบันไดมองไปด้านขวาอยู่ไหน.. แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 50 10:24:36 จากคุณ : เงือกลม - [ 22 ส.ค. 50 10:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 69 นั่นสิพี่เงือก ผมก็มองหาภาพนั้นอยู่ อิอิ กระทู้นี้ให้ความรู้ดีจังครับ ได้เกร็ดประวัติศาสตร์ด้วย (เรื่องพระนามพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี  เพิ่งทราบครับว่ามีการเปลี่ยนพระนามโดยเพิ่ม ร.เรือเข้าไป จากเดิมที่ไม่มี) ขอบพระคุณครับ จากคุณ : MisterTon - [ 22 ส.ค. 50 11:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อิอิอิ คุณเพื่อนบ้านและน้องต้นขอมาทั้งที ไม่จัดให้จะได้อย่างไร จัดให้ค่ะ อิอิอิ.... น้องต้นอย่าเป็นลมไปก่อนล่ะ 5555 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 50 12:37:22 จากคุณ : สเลเต - [ 22 ส.ค. 50 12:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เสียดายเรื่องพระราชวังบ้านปืนที่เพชรบุรีจังเลยค่ะ...น่าจะยอมให้ถ่าย จากคุณ : Montela_Hoya - [ 22 ส.ค. 50 12:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เสียดายเช่นกันค่ะคุณMontela_Hoya อดเขียนเรืองพระราชวังบ้านปืนเลย อุตส่าห์ทำหนังสือไปยื่นอย่างดิบดีเชียวนา จากคุณ : สเลเต - [ 22 ส.ค. 50 14:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เคยเที่ยว2ครั้งแล้ว  ได้ความรู้มานิดเดียว มาอ่านกระทู้ได้รายละเอียดมาก    ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สาวน้อย ซอยริมวัง (สาวน้อย ซอยริมวัง) - [ 22 ส.ค. 50 17:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ด้วยความยินดีค่ะคุณสาวน้อย ซอยริมวัง ไว้จะนำสถานที่น่าสนใจมาฝากกันอีกนะคะ มีเยอะเลยค่ะ... จากคุณ : สเลเต - [ 22 ส.ค. 50 20:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เลเตจ๋า.....เป็นไรไป...ทามมายมีตุ่มดำๆทั้งตัว... ไปถ่ายภาพวังแล้วเผลอตกบ่อปลา   โดนปลากัดมันกัดเอารึเปล่าเนี่ย ขอชมนะทั้งคนถ่ายและคนตั้งกระทู้... ทำได้สุดยอดไปเลย.... จากคุณ : เฟื่องฟ้าสาวิตรี - [ 22 ส.ค. 50 20:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เอิ๊ก....เอิ๊ก พี่แหม่มขา คิดได้ไงกันนี่ 555 ตกบ่อปลาบึกอะจิ ก๊ากกกกกกกก สุดยอดเลยพี่สาวเลเตนี่ คิดถึ้งงงงงงงงงงงคิดถึงค่า จากคุณ : สเลเต - [ 22 ส.ค. 50 21:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณเรื่องราว+เกร็ดความรู้ดี ดี จากพี่เลเต แล้วก็รูปสวยๆ จากคุณสนามหญ้าหน้าบ้านด้วยค่ะ มฤคทายวัน ไม่ได้ไปนานนนแล้ว ดูรูปแล้วอยากไปขึ้นมาทันทีเลย แต่ไปเองก็ยังไม่ได้ความรู้เท่ากับอ่านกระทู้นี้เลยค่ะ จากคุณ : คุณน้องเขียว - [ 23 ส.ค. 50 03:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ด้วยความยินดีค่ะน้องจุ๋ม มีคนชอบแบบนี้ พี่เลเตก็จะหาเรื่องราวดีดีมาโพสต์กันอีกค่ะ มีสถานที่และสถาปัตยกรรมเก่า ที่พี่เลเตและพี่สนามหญ้าไปถ่ายภาพมาอีกเยอะเลยค่ะ คิดถึงน้องจุ๋มนะคะ หายไปนานจังเลยค่ะ จากคุณ : สเลเต - [ 23 ส.ค. 50 07:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดีจังค่ะ ได้เที่ยวด้วย ได้ความรู้ด้วย คุ้ม จริง จริง จากคุณ : ดอกคูนเสียงขิม - [ 23 ส.ค. 50 11:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ถ้าคุณดอกคูนเสียงขิมชอบ วันหน้าไปเยี่ยมเรือนเยือนอดีตกันอีกนะคะ จากคุณ : สเลเต - [ 23 ส.ค. 50 15:32:21 ]