ความคิดเห็นที่ 24
คัดลอกมาจากบ้านบันเทิง จากบุคคลหนึ่งซึ่งเคยคลุกคลีและหาข้อมูลมาพอสมควร ในความเห็นผม ผมว่าโอเคนะ ลองอ่านกันดูแล้วกัน
ความคิดเห็นที่ 34 ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นกลาง และด้วยความเคารพ ในสิทธิเสรีภาพทางความคิดของทุกคน สำหรับผม วิธีการในการแนวคิดในทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับไม้ต้องสงสัยนั้น ผมคิดว่าไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลทางเหตุผล และวิทยาศาสตร์ สักเท่าไหร่นะครับ 1. คือ ไม่เป็นประชาธิปไตยเลย เอื้ออำนวยให้เสียงข้างน้อยจนเกินไป เหมือนเป็น ทำยังกับกรรมการเป็นประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจ 5 ประเทศที่ดำรงตำแหน่ง ถาวร ใน สหประชาชาติ คือมีสิทธิ วีโต้เพื่อผลประโยชน์ของมหาอำนาจก่อน 2. จะแน่ใจได้อย่างไรว่า กรรมการ มีความรู้ความเข้าใจในหลักของการอนุกรมวิธานดีพอ 3. เท่าที่เข้าใจ และเคยได้คุยกับทางสมาคม ผมเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ในนั้น เข้าใจว่า การที่ ลูกไม้ครอกหนึ่ง มีลักษณะที่แสดงลักษณะของพันธุ์ไม่แท้ โดยมีทั้งต้นที่เหมือน และไม่เหมือนพันธุ์แท้นั้น เกิดได้ จาก สองกรณีคือ a เป็นลูกผสมจริง b เกิดจากการผสมเกสรซ้ำ โดยครั้งหนึ่ง จากแมลงในสวนกล้วยไม้ และอีกครั้ง จากผู้เพาะพันธุ์เอง ซึ่งถ้าคนที่ไม่มีความรู้และความเข้าใจในชีววิทยาของกล้วยไม้ดีพอ อาจจะคิดว่า มันน่าจะมีเหตุผลเช่นกัน แต่ด้วยหลักเหตุผลแล้ว b นั้นเป็นไปแทบไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลดังนี้ 3.1 กรณี แมลงมาผสมเกสรก่อน แล้ว คนค่อยผสมทีหลัง 3.1.1ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า แมลงผสมเกสรของกล้วยไม้ในสกุลรองเท้านารีส่วนใหญ่นั้นคือแมลงวันป่า ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแมลงวันบ้าน มักมีรายการ และผมเคยเห็นกับตาว่า แมลงวันบ้าน เข้าไปติดในกระเป๋ารองเท้านารีเหลืองปราจีน แล้วติดอยู่ ที่ทางออก จนตายไม่สามารถออกมาได้ ดังนั้นผู้ต้องสงสัยรายนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก 3.1.2 หากจะต้องมีการผสมข้ามสายพันธุ์จริงๆ ในที่เพาะเลี้ยงนั้นก็จะต้องมีสายพันธุ์ทั้งสองเลี้ยงอยู่ในบริเวณเดียวกันและออกดอกเวลาเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ไม่ได้มากนัก เพราะรองเท้านารีไม่ใช่ดอกเฟื่องฟ้าที่จะออกดอกทั้งปีทั้งชาติและออกดอกมากพอจำนวนมากพอที่จะดึงดูด แมลงผสมเกสร (การที่กล้วยไม้ป่า ที่ไม่มีกลิ่นและมีสีสะดุดตา ไม่ได้มีรางวัลเป็นนำหวานตอบแทน และมีจำนวนดอกบานไม่กี่ดอกนั้น ยากที่จะดึงดูดแมลงผสมเกสร) แต่มันง่ายมาก หาก คนผสมจงใจผสมเอง เกสรที่ออกต่างช่วงเวลานั้นก็แช่ตู้เย็นไว้ 3.1.3 ในการผสมเกสรกล้วยไม้รองเท้านารีนั้น แม้ว่ามันจะบานอยู่ได้นานนับเดือน แต่หากจะผสมให้ได้เมล็ดที่ดีและมากนั้นก็ควรที่จะผสมตั้งแต่ดอกบานในช่วงวันแรกๆ เพราะ Pollen tube ของเกสรตัวผู้ในกล้วยไม้สกุลนี้ จำเป็นต้องใช้เวลาในการไชผ่าน Stigmaม, Column ไปถึง Ovary และ Ovule ดังนั้น โอกาสและช่วงเวลาที่แมลงจะมาผสมเกสรนั้นจึงมีช่วงเวลาไม่กี่วัน 3.1.4 ถึงแม้ว่าจะมีแมลงมาผสมเกสรได้จริง ผู้ผสมเกสรกล้วยไม้สกุลรองเท้านารี ก็มักที่จะตัดกระเป๋า ออกเพื่อที่จะได้เห็น Stigma และ สามารถผสมเกสรได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เมื่อผสม ผู้ผสมเกสร ดอกไม้ที่ได้รับการผสมเกสรไปแล้ว เขา น่าจะเห็นร่องรอยยางเหนียวสีเหลือง ของเกสรที่ติดอยู่ก่อนแล้ว ถ้าเค้าไม่ได้จงใจผสมเอง เค้าน่าจะยกเลิก การผสมครั้งนั้นซะ เพราะว่าเค้าจะได้ไม้อะไรก็ไม่รู้ 3.1.5 แต่หากว่า ผู้ผสมเห็น หรือไม่เห็นว่ามีการผสมเกสรอยู่ก่อนแล้ว แล้วได้ทำการผสมทับซ้อนไป Double Pollination นั้น ยิ่งเป็นไปได้น้อยที่จะมีลูกผสมที่เป็นพันธุ์แท้ออกมา เนื่องด้วย Time of Pollen Deposition, and Pollen-Tube Competition ถ้าหากจะมีการผสมซ้ำโดยที่ผู้ผสมไม่รู้ การผสมที่เกิดจากแมลงก่อนหน้านั้น น่าจะเกิดก่อนหลายชั่วโมง หรือหลายวัน ซึ่ง เมื่อมีการผสมครั้งแรกไปแล้ว เกสรของกล้วยไม้ต่างชนิดซึ่งมีความใกล้ชิดพอที่จะผสมข้ามพันธุ์ได้นั้น ใน 1 เกสรตัวผู้ Anther นั้นซึ่งมี pollen หรือ Microspores มากมาย และน่าจะเพียงพอสำหรับ Ovule ที่สมบูรณ์ในรังไข่ ของ 1 ดอก อีกทั้งมันมีเวลาที่จะชอนไช และจับคู่กับไข่ ovule ก่อนหน้า ที่คนจะผสมทับไป ดังนั้น จึงเป็นไปได้น้อยมากๆที่จะมี ลูกไม้พันธุ์แท้อยู่ในครอกนี้
3.2 กรณี คนผสมเกสรก่อน แล้ว แมลงค่อยผสมทีหลัง 3.2.1 ถ้าหากคนผสมก่อนโดยไม่ตัดกระเป่าออก ซึ่งก็ไม่เห็นมีเซียนกล้วยไม้คนไหนทำ แต่ถ้าทำจริง ลูกไม้ทั้งหมดน่าจะเป็นสายพันธุ์แท้ โดยเหตุผลตามข้อ 3.1 3.2.2 ถ้าหากผู้ผสมตัดกระเป๋าออกในการผสมเกสร เป็นไปไม่ได้เลย ที่แมลงวันจะมาเล่นกายกรรมเปียงยาง เอาเกสรจากต้นแรกมาก็น่าเหลือเชื่อแล้ว แต่การที่จะเอาเกสร ที่หลังไปติด ที่ยอดเกสรตัวเมียของดอกที่ตัดกระเป่าออกแล้วนั้น ถ้าแมลงวันตัวนั้น ไม่บ้า ก็ฉลาด จนน่าจะนำมาเล่นหนังเรื่อง แมลงวันเพื่อนรัก 4. หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ในตอนนี้ยังไม่สามารถช่วยได้ เพราะ พื้นฐานข้อมูล ทางพันธุกรรมโดยละเอียดในการจำแนกชนิดพันธุ์กล้วยไม้สกุลรองเท้านารีที่ใกล้เคียง นั้น ยังไม่ได้ทำการวิจัยกว้างขวางและครอบคุลมพอ และยังต้องใช้ งบประมาณและความพยายามอีกมากๆๆ ในการทำวิจัยเรื่องนี้
ในกรณีของ JC9 ผมว่าไม่มี
Paphmania
จากคุณ :
พีแพท47
- [
27 ส.ค. 50 10:08:52
]
|
|
|