ความคิดเห็นที่ 1 มาดูผีเสื้อน้อย (Phalaenopsis parishii) กันก่อนนะครับ อยู่ใน Subgenus Parishianae ซึ่ง ประกอบไปด้วย:- Phal. appendiculata, Phal. gibbosa, Phal. parishii (ผีเสื้อน้อย), Phal. lobbi ตามการแบ่งของ Christenson, 2001 เราจะพบผีเสื้อน้อยตามแนวชายแดนตะวันตก เข้าไปถึงพม่า (เช่นเดียวกับ Phal. gibbosa ที่พบได้ในประเทศไทย แถบตะวันตกเลยไปทางแม่ฮ่อนสอน เชียงราย) ส่วน Phal. appendiculata น่าจะเป็นพืชเฉพาะถิ่นของมาเลเซีย ส่วน Phal. lobbi พบในเวียดนาม จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดูสีที่กลีบดอกของผีเสื้อน้อยเป็นสีขาวเสมอ โดยสีที่ปากจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่พื้นที่ที่ค้นพบ เป็นกล้วยไม้ที่พบเกาะตามต้นไม้แบบ epiphyte habit ช่อดอกสั้น แต่ถ้าปลูกให้หนาแน่นเวลาออกดอกพร้อมกัน ก็สวยงามได้เช่นเดียวกัน จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เวลานำเอาผีเสื้อน้อยผสมกับม้าวิ่ง ได้ Dtps. Anna-Larati Soekardi จะทำให้ช่อดอกยาวขึ้น จำนวนดอกมากขึ้น การเจริญเติบโตเหมือนม้าวิ่งเลยที่นี้ มาดูกันครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สังเกตสีของกลีบดอก ไม่ว่าจะใช้ม้าวิ่งสีอะไร จะได้กลีบดอกสีขาวเสมอ ส่วนที่แตกต่างกันออกไปคือรูปร่างของปาก และสีของปาก น่าจะเป็นลักษณะ gene interaction กันระหว่าง ผีเสื้อน้อยและม้าวิ่ง จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หรืออาจจะได้ปากสีโทนขาวก็ได้ ซึ่งเป็นไปได้ที่ลูกผสมชุดนี้ใช้ม้าวิ่งเผือกเป็นคู่ผสม จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดู Dtps. Anna-Larati Soekardi ต้นนี้ ที่ดอกขนาดใหญ่ทีเดียว และมีสีปากที่ชมพูจัด สวยดีใช่มัยครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ถ้าดู Link นี้ http://www.parishianae.de/ALS_En.php จะเห็นว่า Dtps. Anna-Larati Soekardi ส่วนใหญ่มีกลีบดอกสีขาว ยกเว้น ภาพด้านล่างซ้าย ที่ให้กลีบดอกสีแดง (น่าจะเป็นการเอาม้าวิ่งที่มีลักษณะพิเศษมาผสมหรือปล่าวจึงให้กลีบดอกสีแดงได้...งงจริงๆๆ หรือเป็นการเอาลูกผสมม้าวิ่งที่มีเลือดชนิดอื่นปนอยู่ด้วย......หรือปล่าวไม่แน่ใจ) จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูต้นถือฝัก (ต้นแม่) นะครับ ผมเลือกเอาต้นที่มีกลีบดอกไม่ขาวสนิท ดูแล้วเหมือนเป็นสีเหลืองด้านๆ ด้วยซ้ำ จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดูชัดๆ ต้นแม่นะครับ กลีบดอกไม่ขาวสนิท ตอนที่ผสมคิดว่าถ้าเอา pollen จากต้นที่ให้สีในรุ่นลูก ก็น่าจะได้ลูกที่มีกลีบดอกที่ไม่ใช่สีขาว จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาดูต้นพ่อผมใช้ม้าบิน (Doritis pulcherrima var. choompornensis) ที่มีสแปรสสีแดง (ชมพูเข้ม) เพื่อดูการถ่ายทอดของสีว่าจะมีผลต่อการแสดงออกอีกหรือไม่ รวมถึงศึกษาการถ่ายทอดลักษณะสแปรสของม้าบินด้วยครับ ถ้าสนใจเรื่องม้าบินผมเขียนไว้ในนี้ครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=appendiculata191&month=09-2007&date=07&group=2&gblog=4 จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 00:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาดูลูกของต้นกระทู้นะครับ ลูกผสมที่ได้มีประมาณ 100 ต้น แล้วนำออกปลูก โดยมีจำนวนใบ 3-4 ใบ ก็แทงช่อดอกเพียง 3 ต้น โดย #1 ดอกฝ่อไม่บาน มีที่บานให้เห็นเพื่อทำการศึกษาคือ #2, #3 มาดู #2 กันก่อนนะครับ ดอกไปทางม้าวิ่งแล้ว (เลือดม้าเพื่มขึ้น) แต่สีกลีบดอกเป็นสีขาว จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สังเกตให้ดี #2 มีลักษณะสแปรสของม้าบินซึ่งสามารถถ่ายทอดมายังลูกผสมต้นนี้ได้ และสามารถให้สีที่สแปรสได้ด้วย โดยหากดูสีปากของต้นแม่ เทียบกับลูกผสมต้นนี้จะเห็นว่าเปลี่ยนสีปากจากแดงๆ ของต้นแม่ กลายเป็นสีม่วงอ่อนๆ เกือบบลู (แต่ไม่บลู) แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 10:13:32 จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:13:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาดูต้น #3 พบกลีบดอกยังเป็นสีขาว ไม่มีสแปรส และ ลักษณะของ lateral lobes ยกขึ้นมากกว่า #2 (ดูเหมือนม้าวิ่งทีเดียว) จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เทียบให้เห็นกันจะๆ ระหว่างต้น #2 (ซ้าย) และต้น #3 (ขวา) จะเห็นได้ว่าสีกลีบดอกในลูกผสมเป็นสีขาว โดยที่สีกลีบดอกสีม่วงเข้มของม้าบินไม่มีอิทธิพลต่อการแสดงออกหรือไม่มีผลต่อการทำงานของเม็ดสีในลูกผสม เหมือนกระทู้ของคุณ Drosera ที่พบในลูกผสมรองเท้านารี ที่delenatii x armeniacum เจอกันเมื่อไร เป็นสีขาวทุกที  http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J5791972/J5791972.html แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 10:13:58 จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เทียบขนาดของลูกผสมต้นกระทู้กับม้าวิ่งป่าแท้ๆ (Doritis pulcherrima Lindl.) นะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เทียบกับม้าวิ่งป่าแท้ๆ อีกต้นนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เทียบกับม้าวิ่งเผือก แบบสามพี่น้อง จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เทียบกับม้าวิ่งแคระ (Doritis regnieriana) จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เทียบกับ Dtps. Siam Treasure (Phal. lowii x Dor. pulcherrima) จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากการสังเกตพบว่า 1. การไม่ทำงานของเม็ดสีในส่วนของกลีบดอกในลูกผสมชั้นแรก Dtps. Anna-Larati Soekardi ยังไม่มีการศึกษาว่าทำมัยจึงเป็นเช่นนี้ 2. ถึงแม้ว่าจะนำเลือดม้าเข้าไปเพิ่มเติม ในที่นี้ใช่ม้าบินที่มีสแปรสสีชมพูเข้มเข้าไปผสม ก็ไม่สามารถทำให้การทำงานของเม็ดสีในกลีบดอกได้ทำงานเพิ่มขึ้น 3. แต่ลักษณะการมีสแปรสยังคงถ่ายทอดไปยังลูกผสมได้ แบบยีนข่มสมบูรณ์ คือคาดว่าจะพบลักษณะมีสแปรสและไม่มีสแปรสในลูกผสมชุดนี้อย่างละครึ่ง ลองช่วยกันพิจารณากันนะครับ เหตุใดการทำงานของเม็ดสีจึงไม่เกิดขึ้น ในส่วนของกลีบดอก หากมีเลือด Phalaenopsis parishii (ผีเสื้อน้อย) ปนอยู่ในลูกผสมในทุกๆ ชั้น (ในที่นี้อย่างน้อยสองชั้น) จากคุณ : appendiculata191 - [ 14 ก.ย. 50 01:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอ่านหาความรู้ ขอบคุณครับ คิดแบบคนไม่มีความรู้ก็ต้องเอาม้าวิ่งสีเข้มๆ ผสมเข้าไปจนกลีบดอกมีสีแล้วก็เอาผีเสื้อน้อย ผสมเข้าไปที่ละชั้นจนกลีบดอกมีสีขาว ก็จะได้ ลูกผสมผีเสื้อน้อยกับม้าวิ่งที่กลีบดอกมีสีมาจำนวน หนึ่งครับ จากคุณ : ชัดเจนน้องนาง - [ 14 ก.ย. 50 08:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ได้ความรู้มากเลย ขออนุญาตเก็บความรู้ไว้ใบบล็อกนะครับ จากคุณ : voravan_mike - [ 14 ก.ย. 50 09:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นประโยชน์มากเลยครับ  แต่พอม้าไปผสมกับฟาแลนสีขาวกลับเป็นดอกสีชมพูซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ชมพูเข้มหรืออ่อน ไม่ว่าจะใช้ม้าสีอะไรก็ตาม หรือใช้ม้าเผือกก็ยังจะได้สีชมพูอยู่  แทบไม่มีลูกออกมาขาวล้วนเลย (มีน้อยมาก) จากคุณ : บ้านค่าย - [ 14 ก.ย. 50 09:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตามมาชมครับ Dtps. Anna-Larati Soekardi x Doritis pulcherrima var. choompornensis เป็นลูกผสมที่สวยมากๆ ครับ จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 14 ก.ย. 50 10:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ทั้งหมด จากคุณ : เจ้าพระยาสุราบาน (เจ้าชายเคโระ) - [ 14 ก.ย. 50 11:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านสนุกดีค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : อินถวา - [ 14 ก.ย. 50 12:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นานๆ จะมีวิชาการเข้ามาสักครั้ง อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : แกลง - [ 14 ก.ย. 50 13:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอโทษนะครับ....นิดนึง.... บลู( = blue) นะครับ ต้อง  บ  ล  อู  บลู ครับ   ไม่ใช้ บูล (= bull ) ขอบพระคุณครับ  -_____-" จากคุณ : friedericksianum - [ 14 ก.ย. 50 17:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อย่างนี้เรียกว่า ข่มไม่ลงหรือเปล่าครับ ผีเสื้อน้อยมีสีที่แข็งกว่า ขนาดม้าที่ว่าแข็งๆก็ทำไรไม่ได้ ผมชอบที่ออกมาแล้วให้ดอกดก ก้านยาวนะครับ จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 14 ก.ย. 50 17:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คงต้องเลือกต้นด้วยครับ สมัยก่อน ฟาแลนฯ x ม้าวิ่ง ทำออกมาสีสวยมาก ไต้หวัน ไปพัฒนา เป็นฟาแลนฯสีเข้ม แต่ ฟาแลน X เขากวางอ่อน ผมว่า สีเหลืองลายกลีบมันหนา ไม่ได้ถ่ายทอดไปยังลูกเลย รุ่นต่อมาก็ไม่ค่อยเห็นใครทำต่อ ไม่รู้ว่า จะได้สี กลีบมันแว็กซ์ กลับมาบ้างไหม คงถอดใจ ตั้งแต่รุ่นลูก ? ถ้ามีคนทำต่อ น่าจะได้ กลีบมันหนา ฟอร์มดี แบบ แวนด้าในปัจจุบัน ? จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) - [ 14 ก.ย. 50 20:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตามมาเก็บความรู้ด้วยคนครับ ผมตามไปอ่านที่ blog แล้ว ได้ใจมากครับ ขอบพระคุณครับที่เขียนเรื่องราวดีมาแบ่งปันกัน เอ้...ทฤษฎีการข่มกันแล้ว ทำให้ลูกไม่สร้างเม็ดสีนี้ พอจะโยงเข้ากับการกำเนิดของช้างส้มได้ไหมครับ ในทางธรรมชาติมันจะเกิดช้างส้มสีแสบตา เกาะอยู่บนต้นไม้ในป่าได้ไหมอ่ะครับ สีส้มมาจากไหนกันครับ ผมดูพาทเวย์การรวมกันของเม็ดสีของกล้วยไม้แล้ว ก็ยังงงอยู่ดีน่ะครับ สำหรับสกุลนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับผมยังงงง กับการมาของช้างสายนี้อยู่เลยครับ ..... จากคุณ : Drosera - [ 14 ก.ย. 50 20:25:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ จากคุณ : พีแพท47 - [ 14 ก.ย. 50 20:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยังงัยก็สวยอยู่ดี จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 14 ก.ย. 50 22:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ยอดมากครับ เก็บเข้าคลังแล้ว จากคุณ : Pic-s - [ 15 ก.ย. 50 08:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 35 - หากดูทั้ง 4 ชนิดใน Subgenus  Parishianae จะเห็นได้ว่าเป็นกลุ่มชนิดที่มีลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างฟาแลนนอฟซิสในกลุ่มอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด คือ ลักษณะของปาก จะกระดุกกระดิกได้ (mobile lip midlobe) และส่วนของเส้าเกสรสั้นและผองตัวออกเป็นปีกอีกต่างหาก (prominent swellings "colume wings") - และที่สำคัญ มีก้อนเกสร 4 ก้อนเช่นเดียวกับกล้วยไม้สกุล Doritis (ม้าวิ่ง แดงอุบล ม้าบิน และม้าวิ่งแคระ) - โดย 3 ชนิดในกลุ่มนี้ ที่ sepals และ petals มีลักษณะเด่นคือมีสีขาวล้วน (ไม่พบ pigmentation ปรากฏบนกลีบดอก) ซึ่งได้แก่ Phal. gibbosa, Phal. lobbii และ Phal. parishii (ผีเสื้อน้อย) มาดู  Phalaenopsis gibbosa Sweet กันครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 19:04:44 จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อีก 1 ชนิดมีลักษณะรูปร่างเหมือน 3 ชนิดแรก แต่ sepals และ petals มีพื้นสีขาวแต่มีจุดม่วงกระจายอยู่ทั่วไป และที่ปากมีลายสีม่วง หรือสีครามปรากฏเป็นขอบและเป็นเส้นที่ปาก แต่ดอกมีลักษณะห่อกลมๆ และมีขนาดเล็กกว่า 3 ชนิดแรกอยู่มากทีเดียว ลองดูนะครับ Phalaenopsis appendiculata C. E. Carr แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 19:05:57 จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องการข่มสีไม่สำเร็จในลูกผสม Dtps. Anna-Larati Soekardi (มีเลือด Phal. parishii ปนอยู่) ถ้าดูการทำลูกผสมชั้นแรก (primary hybrids) ใน กลุ่มนี้ โดยภาพกว้างๆ จะให้ลูกที่มีกลีบดอกพื้นขาวเสมอ 1. ดูใน primary hybird ของ Phal. parishii http://www.phals.net/parishii/index_e.html จะได้ลูกชั้นนี้เป็นสีขาวทั้งหมด ยกเว้น หากมีเลือด x Phal. equestris ได้ลูกพื้นขาว มีชมพูแซมเล็กน้อย 2. ดูใน primary hybird ของ Phal. gibbosa http://www.phals.net/gibbosa/index_e.html จะได้ลูกผสมชั้นนี้เป็นสีขาวเช่นเดียวกัน แต่อาจมีจุดชมพู หรือมีสีชมพูปนเล็กน้อย เมื่อมีเลือด  x wilsonii, x honghenensis 3. ดูใน primary hybird ของ Phal. lobbii http://www.phals.net/lobbii/index_e.html ก็จะให้ลูกผสมชั้นนี้เป็นสีขาวเช่นกัน ยกเว้น x stuartiana var. nobilis (กลีบดอกเป็นสีเหลือง) ได้ลูกผสมเป็นสีเหลือง (น่าสนใจทีเดียว ที่สามารถข่มสีได้สำเร็จ....ทำมัยจึงข่มสีได้) 4. แต่ใน primary hybird ของ Phal. appendiculata ยังไม่มีการจดทะเบียนชื่อ  แต่เท่าที่รู้ในเมืองไทย มีลูกผสม appendiculata x equestris ได้ดอกที่น่ารักทีเดียวกำลังจดทะเบียนชื่อ (ผมไม่เห็นดอกจริงครับ...ใครมีรูปผมขอดูอีกสักครั้งครับ) หากไม่ผิดผลาดแต่อย่างใด จะมี Phalaenopsis appendiculata x Doritis pulcherrima var. coerulea เพื่อศึกษากันต่อไปครับ (โปรดติดตามตอนต่อไป) แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 50 19:08:29 จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาดูลักษณะต้นลูกผสมนะครับ มีลักษณะเหมือนม้า (เลือดม้าเพิ่มขึ้น) จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอลักษณะต้นอีกสักรูปนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณทุกท่านที่มาชม มาแนะนำ มาแก้คำผิด และมาเสริมข้อมูลนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หากมีอะไรจะสอบถาม หรือมีข้อผิดผลาดประการใด กรุณาแนะนำ ติติงได้เลยครับ.....ขอบคุณครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 15 ก.ย. 50 09:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาก๊อปไว้ก่อนคับ....เดี๋ยวค่อยไปอ่าน...อิอิ จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 15 ก.ย. 50 14:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แวะมาเก็บความรู้จ้ะ อ๊ะ!!!!!!!!!!! จำได้ว่าน้าจังเกิลเคยบอกในกระทู้เก่าๆว่า Phalaenopsis บ้านเรา 7 ชนิด กลายเป็น Doritis ไปแล้ว 3 ชนิด คือ ผีเสื้อน้อย (parishii) ผีเสื้อชมพู (lowii) เอื้องหนูขาว (gibbosa) เนื่องจากเค้าใช้ DNA ในการจำแนก และแถมยังยุบๆ ๆ Kingidium ไปรวมกับ Doritis อีก ทำให้ Doritis มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 3 ชนิด ได้แก่ กาตาฉ่อ (deliciosum) ม้าลาย (minus) และ hainanensis แล้วอย่างนี้ ผีเสื้อน้อย ผสมกับม้าวิ่ง มีผลต่อชื่อสกุลหรือไม่??? งงงง????? จากคุณ : บุหงากะสุต - [ 17 ก.ย. 50 17:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ข้อมูลด้าน DNA สำหรับการบ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตหนึ่งควรอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือกลุ่มต่างกัน หรือกลุ่มใกล้ชิดกัน เป็นเรื่องที่นักจำแนกพันธุ์พืช (จริงๆ ใช้ในสิ่งมีชีวิตทุกประเภท) ในปัจจุบันอาจคิดว่ามันทำให้สับสนเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ ผมมองว่ามันมีมติในการคิดเหมือนกัน ดังนี้ 1. หากใช้ข้อมูลด้าน DNA เพียงด้านเดียว (genotype) เวลาวิเคราะห์แถบดีเอ็นเอ โดยใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม จะทำให้การวิเคระห์ข้อมูลผิดผลาดได้ ในกรณีที่สิ่งมีชิวิตมีความใกล้ชิดกันมาก อาจต้องใช้เทคนิคทางอณูชีวโมเลกุลหลายอย่างผสมผสานเพื่อให้มันแยกออกจากกัน ทั้งๆ ที่ดูการแยกทางสัณฐานวิทยาแล้วมันแยกไม่ออก (เป็นพวกเดียวกัน) 2. หรือการวิเคราะห์เฉพาะแค่ด้านสัณฐานวิทยาเพียงอย่างเดียว ก็จะพบการเข้าพวกกันแบบก่ำกึ่ง 3. ปัจจุบันนักอนูพันธุศาสตร์และนักอนุกรมวิธาน จะคำนึงถึงเรื่องนี้พอสมควร เวลาวิเคระห์ข้อมูล จึงต้องใช้ข้อมูลทางสัณฐานวิทยา (ให้คะแนน= score band) (phenotype) ร่วมกับการใช้ข้อมูลทาง genotype  (score band) ร่วมด้วย แล้วให้คอมพิวเตอร์ช่วยในการประมวลผล 4. จะสังเกตได้ว่าในปัจจุบัน อะไรก็ใช้ข้อมูลดีเอ็นเอในการระบุเอกลักษณ์เฉพาะ (แล้วก็เป็นที่ยอมรับเพิ่มขึ้น.....เสียด้วย) แต่ความจริงการแบ่งแบบเก่าที่นักอนุกรมวิธานได้เคยแบ่งไว้ อาจถูกต้องแล้ว แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 23:23:28 จากคุณ : appendiculata191 - [ 17 ก.ย. 50 23:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณคุณบุหงากะสุต ที่ถามเรื่องการเปลี่ยนกลับไปกลับมาในพวก Phalaenopsis, Doritis, Kingidium มีคนพูดให้ฟังเหมือนกัน แต่ผมไม่เคยเห็นเอกสารนี้ครับ ใครมีผมขอนะครับ ปัจจุบันผมก็ใช้เทคนิค AFLP ในการจำแนกกล้วยไม้สกุล Phalaenopis  อยู่ครับ โดยมี Doritis และ Kingidium เป็น out group แต่ผมไม่มี Phal. hainanensis ในการทดลอง และยังวิเคระห์ข้อมูลไม่แล้วเสร็จ หากเป็นไปตามที่คุณบุหงากะสุตบอก ผมจะได้มายืนยันกันอีกทีครับ ข้อมูลทาง DNA ดูเหมือนจะมาแรงในการจัดจำแนก  ทำให้ลูกผสมที่เคยจดทะเบียนชื่อไว้ (จะทำอย่างไร) ต้องแก้ไขหรือไม่...ผมไม่มีข้อมูลครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 17 ก.ย. 50 23:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 46 1. จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 18 ก.ย. 50 10:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 2. จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 18 ก.ย. 50 10:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 3. จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 18 ก.ย. 50 10:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อยากทราบข้อมูลเชิงลึกของการยุบ รวม ย้าย ของกล้วยไม้ในสกุลอื่น มาเป็นกล้วยไม้ในสกุล Doritis ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 18 ก.ย. 50 10:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ข้อมูลเชิงลึกผมไม่มีหรอกครับ แต่ตั้งข้อสังเกตไว้ 1. หากให้ Phal. parishi (ผีเสื้อน้อย) กับ Phal. gibbosa (เอื้องหนูขาว) มาเป็น Doritis ทำมัยไม่เอา Phal. lobbii มาเป็น Doritis ด้วย 2. Phal. lowii (ผีเสื้อชมพู) หากดูสัณฐานวิทยาของดอกเมื่อเทียบกับพวก Doritis ดูจะใกล้เคียงพอสมควร แต่ผีเสื้อชมพูเป็นกล้วยไม้ที่เกาะตามต้นไม้และระบบรากไม่เหมือน Doritis ผีเสื้อชมพูเป็น epiphyte habit แต่ Doritis ทั้งหมดเป็น terrestial habit 3. ส่วน Kingidium minus (ม้าลาย) และ Kingidium deliciosum (ตากาฉ่อ) ระบบรากกับนิสัยการอยู่รอดในธรรมชาติ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวก Doritis เหตุผลคล้ายข้อ 2 ส่วน Phal. hainanensis ผมไม่มีความเห็นครับ 4. สรุปต้องดูรายละเอียดของงานทดลองเป็นสำคัญครับ ว่าเค้าใช้เทคนิคใดในการแยกความแตกต่าง และมีตัวอย่างมากน้อยเพียงใดเป็นประเด็นสำคัญที่ใช้ประกอบมากกว่าครับ 5. อย่างน้อยที่ Christenson. 2001 ให้ Doritis ทั้งหมด (ม้าวิ่ง แดงอุบล ม้าวิ่งแคระ) เป็น Phalaenopsis เวลาจดทะเบียนชื่อยังปรากฏเป็น Doritis ดูลิงค์ที่คุณบ้านค่ายบอกในกระทู้ด้านบน http://www.rhs.org.uk/learning/publications/orchidreview/download/orrevsep07.pdf จะเห็นว่ายังคงเขียนไว้ว่า Dor. [Phal.] buyssoniana x Dtps. Purple Gem = Jeane Abdullah จดทะเบียนโดย K-H. Wong (Leong Kam Loong), 2007 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 20:14:40 จากคุณ : appendiculata191 - [ 18 ก.ย. 50 16:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มีข้อมูลจากนักศึกษาปริญญาเอกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (personal communication) ใช้เทคนิค RAPD ในการแยกกลุ่ม จัดกลุ่ม โดยใช้ข้อมูล DNA ในกล้วยไม้สกุล Phalaenopsis พบว่า Phalaenopsis braceana อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Kingidium minus ซึ่ง กลุ่มของ Kingidium แยกออกมาจากกลุ่มของ Doritis อย่างเห็นได้ชัด ใน Christenson, 2001 อ้างการใช้ข้อมูลทางโมเลกุลในการจัดจำแนกกล้วยไม้ในสกุล Phalaenopis โดยใช้ matK gene (เป็นวิธีหาลำดับดีเอ็นเอของ matK gene แล้วนำมาเทียบกัน แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลเพื่อหาความเหมือน ความต่างแล้วจัดกลุ่มเข้าหากัน) (Jarrell unpubl. ป่านฉะนี้คงเผยแผ่แล้วละครับ) ในเบื้องต้นพบว่า Doritis มีวิฒนาการที่ตกอยู่ตรงกลางของกล้วยไม้สกุล Phalaenopsis คืออยู่ระหว่าง sungenera Aphyllae และ Polychilos ข้างหนึ่ง กับอีกข้างใน section Phalaenopis ฉะนั้น Christenson, 2001 จึงให้ Doritis เป็น Phalaenopsis (แก่มีเหตุผลของแก่เพิ่มเติมด้วย......) ใครสนใจเรื่องทำมัย Doritis แตกต่างจาก Phalaenopsis ผมเขียนในนี้ครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=appendiculata191&month=09-2007&date=02&group=2&gblog=3 จึงเห็นได้ว่าการใช้เทคนิคที่ต่างกันในการจัดจำแนกโดยใช้ข้อมูลทาง DNA จะให้ผลแตกต่างกัน (มีข้อจำกัดเหมือนกัน) แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 20:02:42 จากคุณ : appendiculata191 - [ 18 ก.ย. 50 19:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ จากคุณ : ตะวันสุริยา - [ 19 ก.ย. 50 15:40:43 ]