คุณ qgee (กล้วยไม้สีเงิน) เธอเป็นคนไปพบ เจ้าสิงโต ที่เดินปากห้อย(ไม่ยักกะมี 120 แบบนักการเมืองคนดัง) กรามหัก อยู่ในชุมชนที่อยู่ระหว่างวัดปทุมวนาราม และสยามพารากอน (เหมือนเส้นขีดแบ่งระหว่างสวรรค์กับนรกเลย) เธอได้รับข้อมูลว่าสิงโต โดนรถทับ และเธอตั้งใจจะไปรับสิงโตไปรักษาด้วยตนเองในวันรุ่งขึ้น
ครั้นถึงวันจริงๆ คุณ qgee เธอป่วย เธอส่งหลังไมค์ถึงดิฉันและคุณ value_of_life กรรมของเวร!! ตั้งกะช่วยหมามายังไม่เคยเยื้องย่างไปไหนด้วยตัวเอง มีแต่คนอื่นเขาไปช่วยมาแล้วดิฉันเข้าไป"ชุบมือเปิบ" งานนี้ต้องไปเองรึ? กะจะชวนคุณ value_of_life ก็ทราบว่าเธอต้องทำงาน ไอ้เรามันพวกชอบหนีงาน ก็เลยโทร.ไปชวนคุณ....เธอบอกว่าไม่ประสงค์ออกนาม แต่เธอว่างงานพอที่เมื่อฉันชวนปั๊บเธอก็ไปด้วยปุ๊บ!!!
เมื่อไปถึงที่หมาย (ซึ่งต้องดั้นด้นพอสมควร) ที่จริงคุณ qgee เตือนแล้วว่าเมื่อจอดรถไว้ในวัดแล้วให้นั่งตุ๊กๆต่อ คุณนาย 2 คน พร้อมด้วยเด็กน้อยอีกหนึ่ง(ลูกชายของผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม) ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม ซื้อไก่ทอดกลิ่นหอมฉุย เพื่อเอาไปล่อหมา แล้วก็เดินกลืนน้ำลาย(กลิ่นไก่มันหอมค่ะ) ไปยังจุดหมาย ผลคือ หอบแฮ่ก เพราะไกลมากกก
แต่เมื่อไปเจอ สิงโต ก็ลืมเหนื่อย เขาผอมโซ ปากล่างห้อยเพราะกรามหัก ขนตั้ง หนังแห้ง แบบหมาที่ขาดน้ำและอาหารมานานวัน ไก่ที่เอาไปไม่มีประโยชน์สำหรับสิงโต เพราะกินไม่ได้
ด้วยความเป็น expert ของเธอ"ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม" เธอบอกว่า "พี่เยาว์ หนูว่ามันไม่ใช่รถทับนะ ถ้ารถทับมันต้องแบน แต่นี่มันหัก เหมือนโดนตี" ฉันพยักหน้าหงึกหงัก พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นหมาตัวเมียอีกอนงค์หนึ่ง ผอมโซ ก้นแดงแจ๋ เป็นสัญญลักษ์ของวีจี ก็เลยตัดสินจะ"เหน็บ" เธอมารักษาด้วย แล้วยังนึกขำตัวเองว่า กะไปช่วยหมาตัวเดียว แล้วทำไมพก box ไป 2 อัน เป็น"ลาง"ไม่ดีแต่แรก!!! กระบวนการจึงเริ่มต้น
"สิงโต" เขามีชื่อ เพราะเป็นหมามีเจ้าของค่ะ มีเด็กน้อยคนหนึ่งบอกว่า"หมาบ้านหนูเอง" ดิฉันถามว่า "อ้าว แล้วทำไมไม่พาไปรักษา?" เธอมองหน้างงๆเหมือนกับว่า ทำไมต้องรักษา!!! ส่วนเจ้าตัวเมียที่เป็นวีจี ไม่มีชื่อ ไม่มีเจ้าของ คือเร่ร่อนสมบูรณ์แบบ ดิฉันเลยตั้งชื่อเขาว่า "ไหมไทย"
จุดไคลแม็กซ์อยู่ที่ เมื่อมาถึงมือหมอเจี๊ยบที่มณียารักษาสัตว์(ที่รักษาและเลี้ยงดูหนูดำ ที่ถูกรถชนที่บางบัวทอง) หมอพูดตรงกับ"ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม"ว่า สิงโตไม่น่าถูกรถทับหรอก คงถูกตี เพราะกรามหัก 3 ท่อน และห้อยออกมาแบบแทบจะหลุดออกจากปาก และคงโดนมาหลายวันแล้ว เพราะแผลเน่าเฟะ เหม็นแบบ"ได้ใจ"เลย หมอคงต้องรักษาให้แผลหายก่อน แล้วจึงจะนำไปผ่าตัด(อาจต้องไปผ่าที่เกษตร) ระหว่างนี้ก็ต้องตรวจเช็คและฟื้นฟูอวัยวะภายในที่ไม่รู้บอบช้ำแค่ไหน ที่แน่ๆคือไม่ได้กินทั้งน้ำทั้งอาหารมาหลายวัน หมอบอก "ถ้าช้ากว่านี้คงอยู่ได้อีกไม่กี่วัน" ดิฉันฟังแล้วขนลุก ถ้าคุณ qgee ไม่ไปเจอเข้า ชีวิตไร้ค่านี้ก็คงสาบสูญไปจากโลกอีกหนึ่ง...อย่างง่ายๆ...ไม่มีใครถามหา
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 18:08:43
จากคุณ :
แม่เก็บตก
- [
2 ต.ค. 50 18:00:56
]