ความคิดเห็นที่ 1 รูปที่ 1. ไมโครชิพ ที่ได้ มาตราฐานต้อง บรรจุในเข็มที่ยา อยู่ในซองที่ อบฆ่าเชื้อด้วยแก๊ส Ethylene Oxide แล้ว ดังนั้นถ้า มาในรูปนี้ มั่นใจได้ ว่า เมื่อทำการ ฝังไมโครชิพไป จะไม่มีการติดเชื้อ ที่แผล แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 50 23:55:42 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 50 23:54:37 จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขออภัย ลดขนาดรูปก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 50 23:56:10 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 50 23:55:13 จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .. จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รูปที่ 2 . จะต้องมี เครื่อง Reader เพื่อทำการอ่านรหัสไมโครชิพ ที่เราจะฝัง หรือทำการฝังไปแล้ว ประกอบการฝังด้วยทุกครั้งเพื่อ ยืนยัน ว่ารหัสไมโครชิพ ถูกต้อง จากคุณ : Dr. Dolitle - [ วันเกิด PANTIP.COM 23:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รูปที่ 3. ต้องทำการ สแกนเข็มที่บรรจุ ไมโครชิพ เพื่อ เช็กก่อนว่าในเข็มได้ บรรจุไมโครชิพไว้แล้ว จะได้ ไม่เจ็บตัวโดนเข็มจิ้มฟรี ๆ และ เพื่อทำการ ตรวจสอบ รหัสของไมโครชิพ ที่ สติ๊กเกอร์ข้างซอง ว่า ตรงกับเลขที่ขึ้นบนเครื่อง Reader หรือ ไม่ จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รุปที่ 4 . เอาเลขที่ขึ้น บนหน้าจอ เครื่องReader มาตรวจสอบถ้าตรงก็ ดำเนินการต่อได้ครับ จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถามจริงนะครับมิได้ลบหลู่ เอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัว  ไม่ว่าคนหรือสุนัข ร่างกาย สัตว์ ทุกชนิดจะมี อาการอย่างไรบ้างครับ ผมเคยเอาสุนัขไป ตี ประวัติ ที่หู คือสุนัขพันธ์ ต้องการเพดดีกรี ว่าจะง่ายกว่านะ มีนัมเบอร์ มีประวัติ เหมือนคนสักยันต์ ประมาณนั้น จากคุณ : yatamjai - [ 8 ต.ค. 50 00:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รูปที่ 5. ก่อนทำการ ฝังไมโครชิพ ต้องทำการ สแกนหา ที่ตัว สุนัขก่อนว่า เคยได้ รับการฝังไมโครชิพแล้วหรือ ยัง จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รูปที่ 6. จะพบว่า เครื่อง Reader แจ้งว่า No ID. Found ถ้าขึ้นแบบนี้ก็ ทำการฝังไมโครชิพได้ ถ้า มีรหัสขึ้นก็ แปลว่า เคยฝังมาแล้ว จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รูปที่ 7. ทำการ ฝังไมโครชิพ โดยการใช้เข็มที่บรรจุไมโครชิพ ทำการฉีดเข้าไป ที่ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณ ระหว่างหัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็น มาตราฐานสากล การที่จะ แทงเข็มบรรจุไมโครชิพเข้าไป ต้องทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะ ฉีดด้วย Alcohol 70 % ก่อนทุกครั้ง จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปที่ 8 . จากนั้นก็ ทำการ สแกนหา ไมโครชิพ ที่ตัวสุนัขอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้า ไมโคชิพ ได้เข้าไป อยู่ที่ชั้นใต้ผิวหนังเรียบร้อยแล้ว ต้องมีเลขขึ้น จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รูปที่ 9. ไมโครชิพได้ เข้าไปอยู่ในตัว สุนัขเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ข้อควรทราบเพิ่มเติม 1. รหัสไมโครชิพ ที่ได้ มาตราฐาน ISO และ  ICAR ซึ่งกทม. ยอมรับให้ใช้ในการขึ้นทะเบียนสุนัขได้ นั้นต้องเป็น ไมโครชิพ 15 หลัก ที่ขึ้นต้นด้วย 9 เท่านั้น  มีข้อมูลมาว่า บางบริษัทลักไก่ เอาไมโครชิพ รุ่นเก่า ที่เป็น 7 หลัก มาทำการ ฝัง ซึ่งทาง กทม. ไม่อนุญาตให้ผ่าน ต้องผ่าตัดเอา ไมโครชิพเดิมออกก่อน ค่อยฝังอันใหม่ได้ ครับ 2. ราคาที่ สถานพยาบาลสัตว์เอกชน ให้บริการ จะอยู่ ที่ 350 บาท ขึ้นไป ซึ่งราคานี้ ผันแปรตามต้นทุนของแต่ละสถานที่ และ มักจะรวมถึงการให้ บริการขึ้นทะเบียน โดยการนำส่งเอกสารให้ กับหน่วยงานของ รัฐบาลแทนเจ้าของสัตว์เลี้ยงด้วย 3. ราคาที่ต่ำกว่า 350 บาท น่าจะเป็น กลุ่มที่เสี่ยงต่อการ ไม่ได้ มาตราฐาน นะครับ เช่น พวกเอาไมโครชิพรุ่นเก่า มาฝัง , พวกที่ลักลอบเอา ไมโครชิพฟรีจาก หน่วยอนามัยของ กทม. มาจำหน่ายต่อให้สัตวแพทย์  หรือ แม้กระทั่ง การใช้ไมโครชิพ ที่ไม่ได้ บรรจุซองที่อบ ฆ่าเชื้อแล้วใช้ครั้งเดียวทิ้ง มาไมโครชิพมายัดเข็มที่ใช้แล้วฉีดกันซ้ำ ๆ ๆ ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ น่าจะพอเป็นประโยชน์กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ สนใจ จะนำสุนัข ของท่านไป รับการฝังไมโครชิพ นะครับ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร เข้าไปดูได้ ที่ www.kallapaphruk.pantown.com ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ ความเห็น 9. นะครับ ถ้าฝังไมโครชิพ ด้วยกรรมวิธีปลอดเชื้อ ตามที่ผมนำเสนอให้ดูแล้วนั้น ไม่มีปัญหา ต่อตัวสัตว์แน่ครับ เพราะ ไมโครชิพ จะอยู่ เฉย ๆ ไม่มีปฏิกริยาใด ๆ ต่อตัวสัตว์ ส่วนการ ตอกหู , สัก , ฯลฯ เป็นกรรมวิธีเก่า ซึ่งมีการลบเลือน หรือ เสียหายได้ ง่ายกว่าครับ การฝังไมโครชิพ ในตัวสัตว์ ทำให้ ง่ายต่อการจำแนก  และ ทำงานด้านข้อมูลที่สนับสนุขกระบวนการทาง สารสนเทศ มากกว่า และ ไม่เสียหาย ลบเลือน หรือ มีข้อผิดพลาดทางผู้ปฏิบัติหรือผู้อ่าน เท่าการ สัก หรือ ตัดหู ครับ จากคุณ : Dr. Dolitle - [ 8 ต.ค. 50 00:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ Dr. Dolitle มากๆเลยค่ะ ...ที่เอาความรู้ดีๆมาฝาก เวลาพาเด็กๆไปฝังชิพที่คลีนิค (ในอนาคตที่อาจจะไปหรือไม่ไปก็ได้) จะได้คอยสังเกตุค่ะ จากคุณ : babbbirdbird - [ 8 ต.ค. 50 00:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณค่ะ ที่ให้ข้อมูลและความรู้แก่พวกเราเพื่อที่จะได้เข้าใจขึ้นค่ะ จากคุณ : catgang - [ 8 ต.ค. 50 01:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ Dr. Dolitle เช่นกันที่นำความรู้ดีๆมาฝากกัน จากความเห็นที่ 15 ถ้าสุนัขเคยทำการฝังไมโครชิฟมาจากต่างประเทศแล้วย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯก็ต้องทำการผ่าตัดเอาชิฟเก่าออกแล้วฝังชิฟใหม่หรือค่ะ จากคุณ : Appreciator - [ 8 ต.ค. 50 01:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คือไม่ได้หาข้อมูลมาเยอะ  ขอถามในกระทู้นะคะ ว่า  Database ที่อ่านได้ เขาอ่านกันยังไง ถึงจะทราบว่าเป็นสุนัขของใคร   คือเครื่องมัน Online  หรือว่าต้องเอารหัสไมโครชิปที่ได้ ไป search หาอีกที   โดยที่ Database จะรวมกันเป็นศูนย์กลางของ กทม. ไม่ใช่เอาไว้แค่คลินิคทีฝัง ใช่ไหมคะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : santycy - [ 8 ต.ค. 50 01:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากคะ จากคุณ : แม่เฮงเฮง (My revenge) - [ 8 ต.ค. 50 08:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อยากรู้เหมือน คห 20 ค่ะ แล้วทุกคลีนิคควรจะมีเครื่องแสกนไหมคะ จะได้รู้ว่าเป็นสุนัขของคนนั้นจริงๆ จากคุณ : เมื่อไรจะมีฯ - [ 8 ต.ค. 50 08:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีนะคะ จากคุณ : แม่+ป๊ะป๋าน้องนาตาลีสุดสวย (piaw+pop) - [ 8 ต.ค. 50 09:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชักลังเล ว่าจะฝังหรือไม่ฝังดีกว่ากันหน๊อ... จากคุณ : gibgabgoogee - [ 8 ต.ค. 50 10:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จุดที่จะฝัง ที่ดีที่สุดคือตรงไหนคะ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะสแกนเจอแน่ๆ เมื่อฝังไปแล้วนานๆ (ไมโครชิพจะเลื่อนไปอยู่ตรงอื่นหรือไม่) หมาที่มาจากต่างประเทศ เค้าจะฝังไว้ตรงคอข้างๆ ใบหู ซึ่งน่าจะตรวจสอบได้ง่ายกว่าการฝังบริเวณคอด้านหลังค่อนไปทางหัวไหล่ซึ่งนิยมทำกันในบ้านเรา ที่บ้านมีหมาที่ฝังไมโครชิพในเมืองไทย 1 ตัว หมอฝังให้ตรงบริเวณหลัง กว่าจะสแกนเจอ ยากมากหากันอยู่หลายหน กว่าจะอ่านได้ และยิ่งเป็นหมาขนยาวฟูแบบพูเดิ้ล ยิ่งลำบากค่ะ จากคุณ : เต้าเจี้ยว - [ 8 ต.ค. 50 11:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะที่มาให้ความรู้ จากคุณ : เบิร์ดแม่จินนี่-แจ๊สซ่าส์ (byrd_r) - [ 8 ต.ค. 50 14:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาก็มีขึ้นมาทันที แล้วคนที่ไม่รู้ว่ามีรุ่นเก่าหละครับ น้องหมาต้องเจ็บตัวฟรีๆด้วยเหรอครับ แล้วถ้าเป็นเช่นนี้ใครจะรับผิดชอบครับ กทม.อยู่ไหน เอาสมองมาใส่ในหัวหน่อยสิครับ น้องหมาจะได้ไม่เจ็บฟรี เซ็งโคตร จากคุณ : ครอบครัวตัวขาว - [ 8 ต.ค. 50 19:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ........... ขอบคุณมากคะ Dr. Dolitle  ที่มาให้ความรู้ ........... ที่บ้านมีน้องหมาสองตัว กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ ว่าจะทำอย่างไรดี จากคุณ : (-.-) nongthoong (mom and sum) - [ 9 ต.ค. 50 00:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูล ตอนนี้ที่บ้านกำลังอยู่ในช่วงของการตัดสินใจว่าจะพาน้องหมาที่บ้านไปฝังชิปหรือไม่ จากคุณ : พี่เจ้าดุ๊กดิ๊ก (family_love_dog) - [ 9 ต.ค. 50 14:53:58 ]