ความคิดเห็นที่ 1 เอ้า...เริ่ม ผลการวิเคราะห์ดิน   1.  ธาตุอาการพืชฟอสฟอรัส  1 ppm   ต่ำมาก 2.  โปตัสเซี่ยม                  23 ppm   ต่ำมาก 3.  แคลเซี่ยม                  694 ppm   สูง 4.  ความเป็นกรด-ด่าง (ph)  4.6 (6.3)  กรดจัด 5.  ระดับความอุดมสมบรูณ์ของดิน       ต่ำ ตรวจดินจากห้องแลบแล้วได้ผลอย่างที่บอกค่ะ อยากทราบความคิดเห็นของท่านสมาชิกทุกคนว่าควรจะปรับปรุงดินกันอย่างไรคะ เพื่อให้ดินอุดมสมบรูณ์ มากพร้อมที่จะปลูกอ้อยได้อะค่ะ แล้วอยากทราบว่าปูนต่อไปนี้มีสรรพคุณอะไรบ้างมีประโยชน์ต่อดินมากน้อยแค่ไหนคะ 1.  ปูนขาว 2.  ปูนมาร์ล 3.  ปูนบด 4.  ปูนโดโลไมท์ ---------------------------------------------------------------------- ตอบจากข้อมูลครับ ดินบริเวณนี้ เป็นดินที่มีลักษณะเป็นดินกรดนะครับ ดูได้จากผลการวิเคราะห์นะครับ ดูจากปริมาณของธาตุอาหารแล้วพบว่าต่ำในส่วนของธาตุอาหารหลักครับ ส่วนที่ว่าทำไมลักษณะของแคลเซี่ยมที่สูง หากมองเผินๆแล้วอาจจะรู้สึกดีว่าแคลเซี่ยมสูง แล้วดี ไม่ต้องให้แคลเซี่ยมเพิ่ม แต่ต้องอย่าลืมว่าแคลเซี่ยมค่านี้เป็นปริมาณของแคลเซี่ยมที่มีในดิน ไม่ได้หมายความว่าปริมาณทีพืชทำไปใช้ได้ครับ ถ้าให้ผมทายก่อน...ดีกว่าว่า ดินนี้เป็นดินค่อนข้างออกไปทางดินร่วนออกไปทางดินเหนียว หรือเปล่าครับ ต้องดูลักษณะของดินก่อนครับ ถ้าให้ดีต้องมีข้อมูลอื่นๆประกอบเช่น เป็นที่ราบ ที่สูง ที่ลุ่ม เป็นดินแบบใหน ร่วน ทราย หรือ เหนียว ประวัติการใช้ดินว่าปลูกอะไรมาบ้าง อนาอคตอยากจะปลูกอะไร เป็นต้นครับ จากคุณ : seto16 - [ 16 ต.ค. 50 23:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่ะ มาตอบต่อไป หาหนังสือไม่เจอเลย มาตอบเรื่องปูนต่อครับ ข้อมูลจากหนีงสือ ความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดย ผศ.มุกดา สุขสวัสดิ์ ค่าทำให้เป็นกลางของปูนหรือ ค่า CCE ปูนมาร์ล 70-106 ปูนโดโลไมต์  97-111 หินปูนฝุ่น  89 ปูนขาว 124 เป็นไงครับ รู้ค่าไปแล้วใช้ใหมครับ ว่าตัวใหนแรงสุด ตัวใหนอ่อนสุดในการปรับสภาพ จากคุณ : seto16 - [ 16 ต.ค. 50 23:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อไปครับ ปูนขาว นี่จะให้ผลที่เร็วที่สุด ดูได้จากค่าด้านบนนะครับ แต่เรื่องราคาจะแพงที่สุด ปูนมาร์ลและหินปูนฝุ่น จะให้ผลที่รองลงมา แต่จะให้ผลช้าเพราะเป็นของที่ยังไม่ผ่านกระบวนการมา เรื่องราคาอาจจะต่ำกว่า ปูนขาว (ไม่แน่ใจ) ส่วนปูนโดโลไมต์ นี่ ให้ผลกลางๆครับ แต่...ครับแต่... ผลของตัวนี้หากใส่ลงไปจะมีการให้ แมกนีเซี่ยมด้วยครับ เรื่องราคาไม่แน่ใจครับ ถามว่าอันใหนดี อันนี้ถ้าไม่รีบมากใช้หินปูนฝุ่นก็ได้ครับ แต่จะใช้เวลานาน ผมว่าโดโลไมต์ก็น่าสนใจตรงให้แมกนีเซี่ยมเพิ่มเติมมาจาก แคลเซี่ยมที่มีในปูนครับ จากคุณ : seto16 - [ 16 ต.ค. 50 23:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ...ถามต่อครับคุณ digy ไม่ทราบได้วิเคราะห์ค่า OM หรือ Organic Matter หรือ อินทรีย์วัตถุในดิน หรือเปล่าครับ ค่านี้จะบอกคุณต่อไปว่า คุณควรจะทำอะไรต่อไป เช่น ถ้ามีน้อย ควรจะมีการเพิ่มอินทรีย์วัตถุเช่น แกลบ มูลสัตว์ หรืออะไรก็ได้ ที่ทำให้ดินมีพวกนี้เยอะๆๆๆ โดยที่ราคาไม่แพง ไม่แนะนำปุ๋ยอินทรีย์ เพราะมัน "แพง" เอาตังค์ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า ถ้ามีเยอะแล้ว ก็แค่ปรับกรดก็พร้อมครับ หลังจากนี้...ผมก็ต้องรอการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณต่อไปหละครับ ใครมีความคิดเห็นอย่างไรก็ช่วยแนะนำกันเข้ามาครับ ผมเองอาจจะเดาพลาดก็ได้ครับ จากคุณ : seto16 - [ 16 ต.ค. 50 23:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องของปูน อ่านต่อได้ที่นี่ครับ http://www.agri.ubu.ac.th/seminar/masterstu/Calcium_in_Peanut_Production.htm ลึกซื้งได้เลย เหอๆๆๆ ผมเองยังต้องอ่านเพิ่มเลย ของเดิมลงหม้อหมดแล้ว จากคุณ : seto16 - [ 16 ต.ค. 50 23:49:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืมม...  เข้ามาอ่านครับ อ่านแล้วมึนเลย  วิชาการไม่ค่อยเข้าสมองหยักน้อยๆ ของผมเท่าไร  แต่ก็ได้เความรู้ดีครับ  แบบว่าเคยทำแต่เกษตรแบบมั่วๆ  อิอิ จากคุณ : ผมชื่อ... (โจ-หลังสวน) - [ 17 ต.ค. 50 10:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอามาให้อ่านเสริมนะครับ http://www.kasetonline.net/newsite/index.php?id=97 http://www.plantgenetic-rspg.org/herbs/herbs1-1.htm ลองศึกษาให้รู้ก่อนแล้วค่อยๆ ทำนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 50 11:16:59 จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 17 ต.ค. 50 11:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่ะ คุณดอกไม้ทะเล คุณseto16 คุณ ญี่ปุ่น35 มากๆๆค่ะที่เข้ามาตอบแต่ยังไม่กระจ่างค่ะ ขอตอบคำถามคุณseto16 นะคะ 1.  ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ราบลุ่ม 2.  ที่ดินเป็นแบบ ร่วนปนทราย สีดินจะออกสีขาวๆ 3.  ประวัติการใช้ดิน  ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาเมื่อปี 2538 ค่ะ เจ้าของเดิมปลูก     ข้าวฝ้าง  ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ได้ทำไร     เลยค่ะ ปล่อยร้างว่างเปล่ามา 12 ปี แต่ไม่เห็นมีหญ้าขึ้นให้ลกหูลกตาเลย     ค่ะ คงเพราะดินไม่มีสารอาหารนะคะ 4.  อยากจะปลูก อ้อย ค่ะ เพราะมีโรงงานน้ำตาลอยู่ใกล้ๆ ห่างกันแค่  20     กิโลเมตร  ตอนแรกคิดจะปลูก พันธุ์หญ้า เลี้ยงโค ล้านตัว เพื่อตัดขาย     แต่โครงการไม่เกิด เลยอยากปลูก อ้อย ส่งโรงงานน้ำตาล แทนค่ะ จากรายงานผลการวิเคราะห์ตัวอย่างดิน ห้องแลป รายงานว่า   การใส่ปูน   ปริมาณความต้องการปูนในการปรับสภาพการเป็น กรด เท่ากับ ปริมาณปูน อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ค่ะ 1.   ปูนขาว                                  468   กก./ไร่ 2.   ปูนมาร์ล                                720   กก./ไร่ 3.   หินปูนบด                               900   กก./ไร่ 4.   ปูนโดโลไมท์                          654   กก./ไร่ และการใส่ปุ๋ย  พืชที่ปลูกคือ  อ้อย  ปริมาณธาตุอาหารที่ต้องการ ปุ๋ย N   P2 O5   K2 O   เท่ากับปุ๋ยสูตร   15-15-15 ใส่ลงในดิน  80  กก./ไร่ ค่ะ ห้อแลปแนะนำว่า ก่อนปลูก อ้อย ให้ปลูกพืชตระกูล ถั่ว ก่อน แล้วไถกลมจึง ปลูก อ้อย ได้ค่ะ  ข้อมูลได้มาเท่านี้เองค่ะ ค่า  CCE  คืออะไรคะ   หวังว่าคุณ seto16  จะเข้ามาตอบอีกครั้งนะคะ และช่วยแนะนำด้วยว่าจะเริ่ม ต้นทำอะไรก่อน - หลัง จะได้ให้ดินที่สมบูรณ์ 100 % นะคะ ขอบคุณอย่างมากๆๆ ค่ะ ให้ 5 กระเช้าเลยค่ะ   จากคุณ : digy - [ 17 ต.ค. 50 17:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลืมบอกว่า ที่ดินมีทั้งหมด 20 ไร่ค่ะ แบ่งเป็นสระน้ำ  3  ไร่ และมีบ่อน้ำลึกตึก 3 - 4 ชั้นได้ค่ะ ทั้งสองบ่อมีน้ำเต็มทุกปีค่ะ เพราะหน้าฝน ฝนตกไหลลงบ่อ ทั้ง 2 เต็มทุกปีค่ะเลยหมดห่วงเรื่องน้ำไปเลยค่ะ  คิดว่าถ้าปรับปรุงดินได้ผล 100 %  และปลูกอ้อยได้ผลน้ำหนัก  20  กว่าตัน/ไร่  ก็จะขยายพื้นที่ปลูก ในบริเวณใกล้เคียงอีกให้เป็น ร้อย ๆ ไร่ อาจจะขอเช่าที่ก่อน แล้วจะซื้อในภายหลังค่ะ  นี่คือโครงการในฝันที่อยากทำมากๆ ค่ะ แต่ไม่เคยทำการเกษตรใดๆ มาก่อน เพราะเป็นลูกพ่อค้าค่ะ เห็นเกษตรสมัยนี้ถ้ามีความรู้ศึกษาให้รู้รอบด้านก่อนแล้ว ทั้งที่ดิน การปรับปรุงบำรุงดิน พืชที่จะปลูก ศัตรู พืชมีอะไรบ้าง การป้องกันศัตรูพืช การให้ปุ๋ย ดูแลผลผลิตอย่างใกล้ชิด  มี เครื่องไม้เครื่องมือ คนงานพร้อม มีที่ปรึกษาที่มีความรู้ มีโรงงานรับซื้อ ได้ราคาตามราคาคลาดโลก  ก็คิดอยากจะเป็นเกษตรกรกะเขาบ้างค่ะ ไม่รู้ฝัน มากไปรึเปล่านะคะ  อย่างไรก็ขอให้คุณ seto16 ช่วยตอบให้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ จากคุณ : digy - [ 17 ต.ค. 50 18:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ...อยากตอบเร็วๆจังแต่วันนี้ดื่มเยอะไปหน่อยครับ เดี่ยวพรุ่งนี้จะหาคำตอบมาให้นะครับ อ้อ...พื่นที่นี่อยู่จังหวัดอะไรครับ เพราะเท่าที่คุยดินที่ แคลเซี่ยมสูง แต่ เป็นกรด มักจะเป็นดินพรุ หาก แคลเซี่ยมสูงมาก ดินมักจะเป็นด่างนะครับ ตอนนี้กำลังปรึกษากับเพื่อนๆผมอยู่ครับ แล้วเดียวจะมาตอบให้ใหม่ครับ คุณญี่ปุ่น35 มีอะไรแนะนำบ้างครับ คุณผมชื่อ... (โจ-หลังสวน) ครับ ผมว่าผมพยายามทำให้ง่ายสุดแล้วนะครับ สงสัยผมคงมำการบ้านไม่ดีเอง แล้วผมจะพยายามใหม่ครับ คุณโจ้นี่อยู่ตรงใหนของหลังสวนครับ ผมไปชุมพรทุกเดือนเลย เผื่อจะได้แวะจันสมกันอิๆๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 18 ต.ค. 50 01:18:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ได้ถาม แต่มาอ่านด้วยเน้อ อยากรู้กะเขาเหมือนกันค่า จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 18 ต.ค. 50 07:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากค่ะ คุณ seto16 ที่ดินแปลงนี้ อยู่ที่  ต. หัวหวาย   อ. ตาคลี  จ. นครสวรรค์ ค่ะ  ใกล้โรงงาน น้ำตาล ต. หนองโพ   อ. ตาคลี  จ.นครสวรรค์  ค่ะ ธาตุอาหารแต่ละชนิดในดิน  ตามค่า   ppm  ที่วัดได้มีตั้งแต่ระดับ ต่ำมาก   ต่ำ   ปานกลาง   สูง   สูงมาก   สูงเกินไป ธาตุอาหารพืชแคลเซี่ยม ที่วัดได้เท่ากับ   694  ppm  จึงมีค่า   สูง   ค่ะ ส่วนความเป็น  กรด  เป็น   ด่าง   ของดิน  ( pH )  ที่วัดได้จะจัดความรุนแรง ได้ดังนี้นะคะ กรดรุนแรง   กรดจัด   กรดปานกลาง   กรดเล็กน้อย   กลาง   ด่าง ดินของเราที่ได้วัด ความเป็น กรด - ด่าง มีค่า  pH  เท่ากับ  4.6  ( 6.5 ) ดิน จึงเป็น  กรดจัด  ค่ะ ขอถามค่ะ  ดิน พรุ  หมายถึงดินลักษณะแบบไหนคะ ดินของเรามีลักษณะ ดิน ร่วนปนทราย  คือ จับบีบดูมันจะเป็นเม็ดๆ เล็กๆ คล้ายเม็ดทราย และมีดิน ปนอยู่ด้วยอะค่ะ แต่ไม่ใช่ดินเหนียวนะคะ  เพราะที่ติดกันเขาขุดดินไปถมเป็น ถนน  หรือไปปรับพื้นที่บ้านจัดสรร ค่ะ อยากให้คุณ seto16  ตอบให้ละเอียดตามขั้นตอนการปรับปรุงดินที่วัดค่าได้ ตามที่กล่าวข้างต้นนี้ อย่างมากๆๆๆๆเลยนะคะ  จะได้เป็น กรณีศึกษา  ให้แก่ คนที่มีที่ดินว่างปล่าวไม่ได้ทำไรมานานนับสิบปี  แล้วคิดอยากเป็นเกษตรกร กะเขามัง แต่ไม่รุ้จะ ปรับปรุงดิน ของตัวเองได้อย่างไร อะคะ จะได้นำกรณี ของ digy  ไปเป็นตัวอย่างการทำเกษตรแบบใหม่ มีการเตรียมดินตั้งแต่เริ่ม แรก หากลงผลผลิตไปแล้วจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ลงไปได้อย่างเต็มร้อย อาชีพของเกษตรกรจะได้ร่ำรวยแข่งชาวโลกกะเขาได้บ้าง ไม่ใช่ทำแบบมั่วๆ ไม่มีความรู้เรื่องดินดีพอ  ลงทุนไปก็เป็นหนึ้นายทุนรวยฝ่ายเดียว เกษตรกร เป็นหนี้จนตาย อย่างนี้ไม่ดีเลยค่ะ  อยากให้คุณ seto16  ตอบให้ละเอียดค่ะ ขอบคุณอย่างมากๆๆนะคะ จากคุณ : digy - [ 18 ต.ค. 50 09:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอเก็บความรู้ด้วยคนนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ทะเล - [ 18 ต.ค. 50 09:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณdigy..........แถวนั้นมีหมอดินมั๊ยค่ะ  เด๋วนี้ตามตำบล  หมู่บ้านเค้าจะมีหมอดินคอยให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรอ่ะค่ะ จากคุณ : สาวสวนแตง (จาปาตี) - [ 18 ต.ค. 50 11:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กลุ่มชุดดินที่ 52 การจำแนกดิน Loamy-skeletal, carbonatic, isohyperthermic Entic Haplustolls การกำเนิดเ กิดจากตะกอนน้ำพาทับถมอยู่บนชั้นปูนมาร์ล บริเวณเนินตะกอนรูปพัด สภาพพื้นที่ ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงลูกคลื่นลอนลาด ความลาดชัน 3-12 % การระบายน้ำ ดี การไหลบ่าของน้ำบนผิวดิน ช้าถึงปานกลาง การซึมผ่านได้ของน้ำ ปานกลาง พรรณธรรมชาติและการใช้ประโยชน์ที่ดิน ป่าเบญจพรรณ พืชไร่ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่ว ทานตะวัน หรือไม้ผล เช่น น้อยหน่า ขนุน มะม่วง การแพร่กระจาย พบมากบริเวณที่สูงตอนกลางของประเทศต่อกับภาคกลาง การจัดเรียงชั้นดิน Ap(A)-Bw-Ck ลักษณะและสมบัติดิน เป็นดินตื้นถึงชั้นปูนมาร์ลที่พบภายใน 50 ซม.จากผิวดิน ดินบนเป็นดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินเหนียวปนทรายแป้ง สีดำ สีเทาเข้มมาก สีน้ำตาลปนเทาเข้มมาก หรือสีน้ำตาลเข้มมาก ปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงเป็นด่างปานกลาง (pH 7.0-8.0) ดินล่างเป็นดินร่วนปนดินเหนียวหรือดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง และมีเม็ดปูนปน สีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเข้ม และมีสีขาว ของผงปูนทุติยภูมิหรือปูนมาร์ล ปฏิกิริยาดินเป็นด่างปานกลาง (pH 8.0) ใต้ชั้นดินลงไปเป็นชั้นปูนมาร์ลสีขาวทั้งที่เป็นเม็ดและที่เชื่อมต่อกันหนาแน่น ความลึก (ซม.) อินทรียวัตถุ ความจุแลกเปลี่ยน แคตไอออน ความอิ่มตัวเบส ฟอสฟอรัส ที่เป็นประโยชน์  โพแทสเซียม ที่เป็นประโยชน์  ความอุดมสมบูรณ์ ของดิน 0-25  ปานกลาง สูง สูง ปานกลาง สูง สูง 25-50 ต่ำ สูง สูง ต่ำ ปานกลาง ปานกลาง 50-100 ต่ำ ปานกลาง สูง ต่ำ ปานกลาง ปานกลาง ชุดดินที่คล้ายคลึงกัน ชุดดินชัยบาดาล และชุดดินลำนารายณ์ ข้อจำกัดการใช้ประโยชน์ ดินตื้นถึงชั้นปูนมาร์ลซึ่งจะมีผลกระทบทางกายภาพและทางเคมีต่อพืช ดินอาจขาดสมดุลธาตุอาหารโยเฉพาะการขาดฟอสฟอรัสและจุลธาตุบางชนิด ข้อเสนอแนะในการใช้ประโยชน์ เพาะปลูกพืชที่มีระบบรากสั้น ได้แก่ พืชไร่ และพืชผัก ปรับปรุงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดินในเบื้องต้นโดยการคลุกเคล้าด้วยอินทรียวัตถุ ใช้ปุ๋ยเคมีโดยเฉพาะฟอสฟอรัสในรูปที่ละลายช้า และให้ จุลธาตุเพิ่มเติมสำหรับพืชบางชนิดเมื่อพืชเริ่มแสดงอาการขาด จากคุณ : seto16 - [ 18 ต.ค. 50 19:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอ่อ...จากการพูดคุยกันหลายๆคนแล้วว่า ให้ลองตรวจค่า ความเป็นกรดและด่างอีกครั้ง เพราะบริเวณนั้นไม่น่าจะเป็นกรดได้ น่าจะเป็นด่างด้วยซ้ำครับ ให้สังเกตว่าแถวนั้นมีโรงงานปูนเยอะมากๆๆ แต่อาจจะเกิดจากการกระทำอย่างอื่นที่ทำให้เป็นกรดหรือเปล่าคครับ ค่า CCE พูดง่ายๆคือค่าความสามารถในการทำลายกรดครับ ดินพรุหรือดินอินทรีย์ คือ หมายถึง ดินที่มีอินทรียวัตถุสะสมอยู่เป็นจำนวนมากจนเป็นชั้นหนา มีความหนาอย่างน้อยตั้งแต่ 50 เซนติเมตรขึ้นไป น้ำที่ท่วมขังพื้นพรุอยู่เป็นน้ำจืด (Freshwater) มีสภาพความเป็นกรดระหว่าง ๔.๕ ถึง ๖.๐ อินทรียวัตถุที่ทับถมกันเป็นเวลานานจนแปรสภาพเป็นดินอินทรีย์นั้นมีสภาพเป็น "อินทรีย์คาร์บอน (Organic carbon)" ป่าไม้ที่ประกอบไปด้วย ดินพรุ เรียกว่า ป่าพรุ ป่าพรุที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย คือ ป่าพรุโต๊ะแดง ที่มา : http://kanchanapisek.or.th/kp1/data/32/th32-33.htm จากคุณ : seto16 - [ 18 ต.ค. 50 20:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับแนวทางการปรับปรุงตามแบบที่ผมชอบคิด แต่ยังไม่ได้ทำนะครับ ขอย้ำเป็นเพียงแนวคิดของผมครับ เริ่มด้วยปลูกพืชตระกูลถั่ว หรือ โสน เพื่อปรับปรุงดิน ให้พืชพวกนี้ตรึงไนโตรเจน แล้วไถกลบเลยครับ ทำสักสองสามรอบ ดูว่าดินมีอินทรีย์วัตถุเยอะพอหรือยัง ดูได้จากเนื้อดินครับ ก่อนไถกลบตรวจความเป็นกรดหรือด่าง หากกรด ใส่ปูนครับ เรียบร้อยหละ อิๆ ดูเหมือนง่ายเนอะ แต่พอเอาจริงต้องแก้ไขตามอาการครับ หลังจากนั้นก็เริ่มปลูกหละ พื่นที่ดินด่างเนี่ยมีแคลเซี่ยมสูงช่ายป่ะครับ การมีแคลเซี่ยมสูงนั้น Ca ซึ่งเป็นธาตุประจุ + จะไปจับการธาตุที่เป็น - เช่น P หรือ Phosphate ซึ่งจะทำให้เกิดผลต่อเนื่องก็คือ มันจะกลายเป็น Calcium Phosphate ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ละลายน้ำและพืชนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ครับ เลยอาจจะต้องหมั่นตรวจกอาการการขาด P จากใบพืชครับ ซึงจะมีสีม่วงๆครับ คราวนี้เมื่อโตแล้วก็ลองหาสูตรที่เหมาะสมจากการทดลอง หรือ แอบถามสวนข้างๆอิๆๆ หรือมีอะไรสงสัยจิ้มปากกว้างผมมาได้เลยครับ ถ้างงอีก ทิ้งเบอร์ใว้แล้วผมจะโทรไปตอบให้ก็ได้ครับ ผมไม่ได้เก่งมากนะครับ อย่าคาดหวังกันเยอะนะครับ ความรู้ลงหม้อหมดละอิๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 18 ต.ค. 50 20:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ คุณseto16 เป็นข้อมูลที่ดีและมีประโยชน์มากครับ แต่รู้สึกมึนๆ ขอเซฟไว้ศึกษาเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : p_warat - [ 18 ต.ค. 50 22:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ p_warat มึนตรงใหนเอ่ย... บอกได้เลยครับ ผมเขียนอธิบายไม่เก่งครับ งง ตอนใหนบอกได้ครับ จะได้อธิบายใหม่ ผมจะได้ฝึกฝีมือในการเขียนด้วยครับ จากคุณ : seto16 - [ 18 ต.ค. 50 23:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แอบเก็บข้อมูล  ได้หมดดินเพิ่มอีกคนแล้ว  เกษตรกรไม่ทอดทิ้งกัน ขอบคุณนะคร้า จากคุณ : สาวสวนแตง (จาปาตี) - [ 19 ต.ค. 50 08:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณ seto16 ที่หลังสวน ผมอยู่ บ้านนาร่อง ต.แหลมทรายครับ(จะอยู่วันอาทิตย์)  ส่วนที่สุราษฎร์ ผมอยู่แถวห้างโลตัส (อยู่วันเสาร์) ส่วนที่กทม.บ้านผมอยู่แถวดอนเมือง แต่ผมขี้เกียจเดินทางเลยมาเช่าหอพักอยู่แถว ดินแดงครับ (ผมจะอยู่กทม.ช่วงจันทร์-ศุกร์) แต่บางวันทร์ก็ออกนอกเส้นทางได้ อย่างช่ว 20-24 นี้ผมจะไปอ.ภูเวียง จ.ขอนแก่นครับ ไปหาลูกชายคนเล็ก ปล.ขอโทษท่านอื่นๆ ที่นอกเรื่องคร้าบบบบ... จากคุณ : ผมชื่อ... (โจ-หลังสวน) - [ 19 ต.ค. 50 09:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับคุณ seto16 ที่จริงคุณseto16 อธิบายได้ดีทีเดียวครับ แต่เนื่องจากความรู้เชิงวิชาเกินของผมเรื่องดินนี่มันน้อยนิด เลยต้องขอเซฟข้อความนี้เอาไว้อ่านหลายๆครั้งและพยายามทำความเข้าใจให้มากขึ้น ต้องขอบคุณมากเลยครับทำให้ผมพลอยได้รับความรู้ไปด้วย เอาดอกไม้มาฝากครับ จากคุณ : p_warat - [ 19 ต.ค. 50 21:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณโจครับ ถ้าผมกลับบ้านเสาร์อาทิตย์ จะแวะไปให้คุณโจเลี้ยงหอยใหญ่อิๆ คุณp_warat ครับ สงสัยอะไรถามได้ครับ ตอบได้จะตอบ ถ้าตอบไม่ได้ จะไปหาข้อมูลมาให้ครับ คุณสาวสวนแตงครับ ผมจะพยายามเข้ามาตอบบ่อยๆนะครับ หากว่างๆเดี่ยวจะเขียน Fertilizer Hand Book มาให้อ่านกันครับ พอดีได้มาจากที่บริษัทครับ มันเป็นภาษาปะกิตอ่ะ เลยต้องใช้เวลาด้วย จากคุณ : seto16 - [ 20 ต.ค. 50 13:56:06 ]