ความคิดเห็นที่ 1 หลายคนบอกว่า ปุ๋ยเคมี ไม่เป็นธรรมชาติ งั้นดูนี่ก่อนเลย ที่มา yara.com จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:07:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อๆๆๆ มาดูเรื่องใกล้ๆตัวก่อน เรื่องสูตรปุ๋ยนะครับ เช่น 15-15-15+3CaO+1.5CaO คือปุ๋ยนี้จะมี ไนโตรเจน อยู่ 15 เปอร์เซนต์ ฟอสเฟต 15 เปอร์เซนต์ โพแทสเซี่ยม 15 เปอร์เซนต์ แมกนีเซี่ยม 3 เปอร์เซนต์ แคลเซี่ยม 1.5 เปอร์เซนต์ บางคนบอกว่ารู้แล้ว จะบอกทำไม นั่นสิบอกทำไมอิๆๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอากระดาษมารอจด จากคุณ : ต้มยำทะเล - [ 27 ต.ค. 50 00:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อๆอีก มาดูตัวแรกกัน ไนโตรเจน ครับ พูดกันแบบง่ายๆไม่มีวิชาการเข้ามาร่วมเลยนะครับ แบบบ้าน จะช่วยในการเจริญเติบโตในช่วงแรกๆของการเพาะปลูก หรือจะใช้เพื่อการฟื้นต้นไม้ผลหลังการเก็บเกี่ยวก็ได้นะครับ เช่น เพิ่งปลูกต้นไม้ใหม่ๆเลย จะใช้อะไรดี ตอบง่ายๆ ยูเรีย (46-0-0) หรือว่าจะใช้ แอมโมเนี่ยมซัลเฟตหรือว่าปุ๋ยน้ำตาลทราย (21-0-0) หรือว่าอีก 25-7-7 หรือ 16-8-8 หรือ สูตรใหนก็ได้ที่ตัวหน้าสูงๆ แต่หากจะฟื้นต้นหลังการเก็บเกี่ยวนั้น ยังมีอีกตัวที่แนะนำคือ แคลเซี่ยมไนเตรท (15-0-0+26CaO) บางคนถามว่า ตัวหน้าน้อยจังเลย มันจะได้ผลเหรอ ตอบเลย ปุ๋ยตัวนี้จะให้ไนโตรเจนในรูปของไนเตรท ซึ่งอยู่ในรูปที่พืชทำไปใช้ได้เลยครับ อีกทั้งมีแคลเซี่ยมที่ช่วยในเรื่องของโครงสร้างพืชอีกด้วยครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันนี้เป็นกระบวนการในการเปลี่ยนรูปของไนโตรเจนครับ ก่อนที่พืชจะนำไปใช้ครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอเพิ่มอีกรูปครับ จะได้เข้าใจง่ายหน่อย จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วถามว่าหากไม่ใส่ปุ๋ย แล้ว ไนโตรเจนจะได้จากใหนอีกบ้าง ก็เช่น ในอากาศก็มีไนโตรเจน ถ้างง ไปดูรูปแรกครับ ปัจจุบันมีการผลิตปุ๋ยไนโตรเจนจากอากาศกันมากว่าร้อยปีแล้วนะครับ เคยถามเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีการผลิตไนโตรเจนจากอากาศเนี่ย เขาใช้อะไร เขาบอกว่าใช้ โซเดียม ไนเตรท อะ งง เลยเหมือนกัน งง เพราะไม่รู้จักอิๆๆ แต่เขาบอกว่าพวกปุ๋ยหมักก็ให้ไนโตรเจนได้เหมือนกันหละ เลยอ๋อไป อิๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 00:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อกี๊เขียนฟอสเฟตกำลังจะเสร็จ มือเผลอไปกดไรไม่รู้ หายหมดเลย เศร้า... จบเรื่องไนโตรเจน แค่นี้ก่อนหละ มาต่อเรื่อง ฟอสเฟต หรือ ฟอสฟอรัส กันดีกว่าเนอะ ฟอสเฟตคือ... จำตอนเรียนชีวะม.ปลายได้หรือเปล่า ATP คืออะไร หน้าที่เกี่ยวกับอะไร Adenosine Tri Phosphate เป็นไงคุ้นๆกันหรือครับ หน้าที่ก็เกี่ยวกับพลังงาน (ถ้าผิดก็ทักท้วงหน่อยนะ) อืม...แล้วมันเกี่ยวไรกะต้นไม้ตรูฟ่ะ เกี่ยวสิ ไม่เกี่ยวได้ ก็มันช่วยให้ต้นไม่มีพลังงาน super hipower super action เอ้า..พอๆๆ มันก็ช่วยให้ต้นไม้ออกดอกครับ เวลาอยากให้ต้นไม้ออกดอกก็ให้ฟอสเฟตสูงๆหน่อย สักพักดอกก็จะออก ใช้ใหมเอ่ย อืม...จบหน้าที่หลักของตัวนี้ คราวนี้มาดูผลอื่นๆของตัวนี้กันบ้าง ...ช่วยกระตุ้นรากพืช จำได้หรือเปล่าเวลาปลูกต้นไม้ ปุ๋ยรองก้นหลุม สูตรอะไร ใครตอบได้ให้เลยหนึ่งเม็ดๆ ตอบ 0-3-0 ครับ หรือ Rock Phosphate เอ...ชื่อคุ้นๆอีกแล้ว ช่ายเลย ไปดูรูปแรกแล้วจะอ๋อ ว่ามันคือวัตถุดิบของการผลิตปุ๋ยฟอสเฟตไงครับ ...ช่วยเพิ่มการต้านทานโรค จริงๆมันไม่ได้เป็นผลทางตรงหรอก แต่การใช้ปุ๋ยฟอสเฟตสูงๆ จะทำให้ไนโตรเจนมีอิทธิพลในต้นพืชลดลง อาการใบอ่อนเยอะแยะ อวบน้ำ จะน้อยลง การเกิดโรคเลยน้อยลงตามไปครับ แล้วจะใช้ไงหละปุ๋ยอันนี้ วิธีใช้เหรอ มองหาก่อนเลย ปุ๋ยที่ตัวกลางสูงๆๆๆๆ ปัจจุบัน มีไม่กี่สูตรเองครับ เช่น 8-24-24 หรือ 12-24-12 ไงครับ ลืมบอกไปอีกอย่างครับ ต้องใช้ให้เป็นครับ เพราะมันแพงที่สุดในบรรดาปุ๋ยด้วยกัน ปุ๋ยชนิดนี้ข้อจำกัดเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆครับ เช่น ละลายได้ยากครับ และ จับกับ แคลเซี่ยมที่มีในดินได้ด้วย ทำให้ฟอสเฟตที่พืชนำไปใช้ได้ มีปริมาณที่น้อยลงครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 01:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มง่วงแล้วหละ แต่สู้โว้ย.... คืนนี้เอา โพแทสเซี่ยม ให้จบก่อนนอนดีกว่า อ่ะ เริ่มกันเลย อย่าให้เสียเวลา โพแทสเซี่ยม ช่วยเรื่องคุณภาพผลผลิตครับ สั้นไปหรือเปล่าครับ ยาวขึ้นอีกนิด ช่วยเรื่อง ความหวาน สี รสชาด ครับ แถมช่วยให้ทนต่อโรคอีกเหมือนกัน แถมอีกหน่อย ช่วยให้ทนต่อดินเค็มได้ด้วยหละเออ... ปุ๋ยพวกนี้มีตัวใหนบ้างก็พวก 13-13-21 , 0-0-50 ,0-0-60 ครับ ถามต่อๆๆๆ  0-0-50 กับ 0-0-60 ต่างกันตรงใหน ถ้าราคาเท่ากัน เราเลือก 60 ที่สูตรสูงไม่ดีกว่าเหรอ ตอบอีก ผมลืมบอกตัวต่อท้ายไปครับ 0-0-50 มี ซัลเฟอร์ เป็นของแถม ช่วยให้ สีและกลิ่นในไม้ผล ดีขึ้นครับ ชาวไม้ผลคงคุ้นเคย 0-0-60 นี่มี คลอไรด์เป็นของแถม ใครอยากได้คลอไรด์ ยกมือขึ้น เงียบ ชาวไม้ผลเงียบ แต่ชาวสวนปาล์มน้ำมันชูมือพรึบ อิๆๆ สรุป 50 ไม้ผล 60 ปาล์มน้ำมัน จบแบบง่าย แต่มั่วหน่อยๆ จริงๆใช้แล้วไม่ต่างกันมากครับ จบดีกว่า ง่วงๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 01:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เดี่ยวมาต่อใหม่นะครับ ถ้าอ่านแล้วงงก็ถามได้นะครับ เป็นกระทู้แอคทิฟไปเรื่อยๆครับ แลกเปลี่ยนกันๆๆ เดี่ยวพรุ่งนี้ต้องทำงานอีก มาแล้วมาทักทายกันหน่อยนะครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 01:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคร้าบ มาอีกๆ จากคุณ : ดอกไม้ทะเล - [ 27 ต.ค. 50 07:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณนะคร้า   ตอนนี้ยังไม่มีอะไรจะถามเพราะยังไม่ได้ลงไม้ลงมือเลย คันคะยิกคะยิกแบบว่าร้อนวิชาอ่ะ เห็นสวนเพื่อนพ้องรุดหน้าไปไกลแย้ว จากคุณ : สาวสวนแตง (จาปาตี) - [ 27 ต.ค. 50 10:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ  ที่บ้านก็ใช้แต่ปุ๋ยคอก จากคุณ : ธัมมะระตี - [ 27 ต.ค. 50 15:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณ seto16  ที่แนะนำที่มาของปุ๋ยนะครับ                      ที่จริง  เรื่องที่ว่า  การใช้สารเคมีมากๆ  จะทำให้ดินเสีย   นักวิชาการหลายๆ ท่านพูดมา   แต่ไม่ได้นึกถึงความเป็นจริงกันเลย    เรื่องมีอยู่ว่า  สมัยก่อนที่ยังไม่มีปุ๋ยเคมีใช้  ชาวบ้านทุกคนต่าง ใช้ มูลสัตว์ชนิดต่างๆ  มาเป็นปุ๋ย   นี่คือการใส่ อินทรีย์วัตถุลงไปในดิน  ทำให้ดินเกิดการร่วนซุย   ต่อมายุคของปุ๋ยเคมีได้เข้ามา   ชาวบ้านตาดำๆ  ก็เลิกใส่ มูลสัตว์  หันมาใช้ ปุ๋ยเคมีแทน  นี่ไงครับ ( ด้วยความคิดของชาวบ้านที่ว่า  ใส่ปุ๋ยเคมี  ต้นไม้ก็โตแล้ว  แล้วเราจะเสียเวลา  ใส่มูลสัตว์ให้เสียเวลากันทำไม ) เป็นเหตุที่อ้างว่า  ปุ๋ยเคมีทำให้ดินเสีย             ปุ๋ยเคมีที่ใช้กัน  ก็ดีอยู่แล้ว  เพียงแต่ เราต้องหันมาประยุกต์ใช้ให้เป็น  ถึงจะถูกและเหมาะสมกับสภาพดิน  เอาไว้  จะมาเล่าการทำเกษตรที่ ญี่ปุ่นนะครับ จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 27 ต.ค. 50 19:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับ คุณseto ขอขอบคุณสำหรับความรู้เรื่ องปุ๋ยเคมีครับ อันที่จริงการใช้ปุ๋ยก็ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการปลูกต้นไม้  สำหรับผมจะใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 70-80เปอร์เซนต์ อีก 20%ใส่ปุ๋ยเคมี ครับ เพราะเป็นการเพิ่มส่วนของธาติอาหารที่ปุ๋ยคอกไม่มี  การใส่ปุ๋ยเคมีบ้าง จะเพิ่มรสชาดของผลไม้หรือผักให้ดีมากขึ้น และเพิ่มความสวยงามของดอกและใบหรือลำต้นได้อีกด้วย  อันที่จริงปุ๋ยคอกนั้นยังจำเป็นอยู่มากในการช่วยบำรุงดินให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีโพลงอากาศ ทำให้ดินไม่แน่นจนทำให้ไม่สามารถรถบายน้ำได้ สุดท้ายรากก็ไม่เดิน ไม้ก็ไม่โต สุดท้ายก็โทษว่าดินไม่ดี ทำนองนั้น จากคุณ : p_warat - [ 27 ต.ค. 50 20:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับทุกท่าน สาเหตุที่ผมต้องตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาคือว่าไม่อยากให้หลายๆคนมองปุ๋ยเคมีในแง่ลบ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปครับ หลายๆที่พยามที่จะบอกว่าปุ๋ยเคมีเป็นสิ่งทีทำลายดินๆๆๆๆทำให้ดินเสีย ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ผมเลยอยากให้ทุกคนรู้จักปุ๋ยมาขึ้น ผมขอต่อประเด็นจากคุณญี่ปุ่น35 นะครับ ช่ายครับเรื่องที่คุณบอกมา เมื่อก่อนเราผลิตเพื่อการกินใช้กันเองในครัว หรืออาจจะแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย ความต้องการผลผลิตสูงสุดจึงไม่ใช่เป้าหมายสำคัญ จริงใหมครับทุกท่าน ต่อมาเมื่อถึงยุคต่อมา มีการทำการเกษตรเพื่อการค้าหรืออุตสาหกรรมมากขึ้น บวกกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คือเด็กเกิดใหม่มาก คนแก่ตายช้าลง จำกันได้ใช่ใหม ดังนั้นความต้องการผลผลิตสูงสุดก็คือเป้าหมาย ถามว่าทำอย่างไร ก็พยายามหาทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาช่วย ปุ๋ยเคมี สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ก็เริ่มที่จะแพร่หลาย อืม...เริ่มเข้าประเด็นหละ ขอกดส่งก่อน อิๆ กลัวหาย จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 20:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืม...กดส่งปุ๊บพระเอกคุณ p_warat มาช่วยผมต่อประเด็นทันทีเลย อ่านของเขาต่อได้เลยนะ คิดคล้ายๆกัน หลังจากเป้าหมายที่ต้องการผลผลิจสูงสุด เริ่มเป็นต้องการ การใช้สิ่งต่างๆเข้ามาช่วยก็เริ่มหละ ปุ๋ยเคมี ใส่กันเข้าไป เมื่อพืชได้รับธาตุอาหารเยอะ การตอบสนองต่อปุ๋ยก็แสดงออกมา ผลผลิตเยอะ ชาวบ้านเลยคิดปุ๋ยคือพระเจ้า ยามใดที่ผลผลิตกลัวจะตกต่ำ ใส่มันเข้าไป ยิ่งเยอะยิ่งดี คราวนี้เริ่มหละ ใส่แต่ปุ๋ยเคมี จนลืมนึกถึงการปปรับปรุงดินที่เคยทำกัน เช่นใส่ปุ๋ยคอก ใส่ใบไม้ ใส่นั่นนู่นี่ ที่พอหาได้ ดินก็เริ่มจะเสียหละ พอเสียปุ๊บ...ต้องหาผู้ร้ายหละ ใครน้อ ทำดินเสีย อ้อ เจอหละ เจ้าปุ๋ยเคมีนี่เอง ทำให้ดินเสีย งั้น...แบนมันซะ อย่าใช้ เดี๋ยวดินเสีย เฮ้อ...นักวิชาเกินทั้งหลาย ท่านรู้จักคำว่า Crop Removal หรือ การนำธาตุอาหารออกไปจากดิน กันหรือเปล่าครับ เช่น การที่เราปลูก กล้วยหนึ่งต้น ได้ กล้วยออกมา หนึ่งเครือ นะครับ สมมติให้ หนึ่งเครือ หนัก 1 กก กรัม สิ่งที่มีในกล้วยหนึ่งเครือคืออะไรบ้าง ถอดมันออกมา น้ำ เส้นใย และอะไรอีกเยอะมากมาย ขาดอะไรเอ่ย เจ้าธาตุอาหารต่างๆที่นำมาเลี้ยงเจ้าเครือนี้ไงครับ เราสามารถนำมาหาค่าต่างๆได้นะครับ ว่าเราสูญเสียธาตุอาหารที่ติดออกไป กันเจ้ากล้วยเครือนี้เท่าไร อืม...เริ่มเห็นเค้ากันหรือยังครับ เดี่ยวต่อ อันต่อไปครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 20:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต่อครับๆๆ เมื่อเจ้ากล้วยเครือนั้นถูกตัดออกไป ธาตุอาหารของเราก็หายไปซะแล้ว หากเราปลูกต่อไปเรื่อยๆๆๆ ธาตุอาหารก็หายไปเรื่อยๆๆ เหมือนกัน แล้วหากเราไม่ทำอะไรเลยหละ ตอบเลย ดินก็จะกลายเป็นแค่ที่อะไรบางอย่างให้รากเกาะเท่านั้นเอง แล้วถ้าเราใส่ปุ๋ยอินทรีย์หละดีใหม ดีครับ มันช่วยปรับโครงสร้างดินได้ด้วย แต่การให้ประโยชน์จะค่อนข้างช้ามากๆ ดังนั้นอะไรพอจะช่วยตอบโจทย์ตรงนี้หละ ปุ๋ยเคมีไงครับ ที่ให้ธาตุอาหารสูง และรวดเร็ว ดังนั้น สรุปเลยสั้นๆ ควรใช้ร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดครับ ทำแบบที่คุณพี ทำก็ได้ครับ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 21:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ให้ลองสังเกตกันเล่นๆนะครับ เช่นถ้าปลูกพวกพืชที่ออกดอกออกผล น้อยๆ นานๆจะมีสักครั้ง การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ หรือ... ให้ตายเหอะ มันก็ยังออกมาหละ อิๆๆ ผมเคยได้ฟังประโยตหนึ่งจากอ.สมัยเรียนครับ หลายคนอาจจะเคยได้ยินแล้ว ท่านพูดว่า "การปลูกต้นไม้โดยไม่ใส่ปุ๋ย เป็นการเอาทรัพยากรลูกหลานมาใช้" งงกันใหมกับประโยคนี้ อิๆๆ สุดท้ายไม่ต่างอะไรกับการให้พื่นที่ไร้คุณภาพแก่ลูกหลาน ในขณะที่เรารับดินที่อุดมสมบูรณ์มาจากบรรพบุรุษ แล้วมาตักตวงๆๆเอาอย่างเดียว เหมือนกับการขับรถมือสองสักคัน ที่ที่บ้านให้มา ที่บ้านดูแลอย่างดีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตลอด เข้าศูนย์ตลอด ท่านให้เราขับ เราก็ขับๆๆๆๆ น้ำมันเครื่องไม่เปลี่ยน ศูนย์ไม่เข้า พอถึงเวลา ส่งให้ลูกต่อ ลองคิดภาพดูแล้วกันครับ นอกเรื่องเยอะไปหน่อยอิๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 27 ต.ค. 50 21:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาเก็บความรู้ค่ะ   ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เฟื่องฟ้าสาวิตรี - [ 28 ต.ค. 50 23:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดีๆ ค่า  มาให้ความรู้กันอย่างนี้ ช่วยให้ เข้าใจเรื่องปุ๋ย และสารที่พืชต้องการ ที่บ้านเจ๊ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ครือว่า ไม่มี มันนี่ แถวนี้มีปล่อยปุ๋ยฟรีมั้ย จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 29 ต.ค. 50 03:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาเก็บความรู้เดี๋ยวลองเอาไปใช้ ที่สวนมั่ง คุณซีโต้  อยากรู้เรื่องผสมปุ๋ยตามสูตรที่ต้องการบ้างอ่ะครับ มันต้องมีแม่ปุ๋ยอะไรบ้าง และมีเทคนิคอะไรมั่งครับ  แล้วมันประหยัดกว่าแบบสำเร็จจริงมั้ย ขอบคุณมากสำหรับความรู้ครับ ว่าแต่มีปุ๋ยฟรีมั้ยครับ  กลัวน้อยหน้าเจ้ข้างบนอ่ะ       จากคุณ : BongKoch - [ 29 ต.ค. 50 06:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีค่ะ ปุ๋ยฟรี...... ปุ๋ยโบร่ำโบราณ.....กล้วยกินสารอาหารจากดินมา คนกินกล้วย เพื่อสมดุลย์ก็หาทางคืนสารอาหารที่คุณไม่ใช้ ให้พื้นดิน...................อย่างถูกต้องตามวิธีการ ขอบคุณความรู้ที่นำมาแพร่ ให้เข้าใจกันดีขึ้นค่ะ..... จากคุณ : แมกไม้ไทย - [ 29 ต.ค. 50 09:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อิๆๆ คุณ Farm Girl in High Sierra กับคุณ BongKoch สนใจปุ๋ยฟรีจากคุณ แมกไม้ไทยป่ะครับ แล้วคุณ เฟื่องฟ้าสาวิตรี คุณ ดอกไม้ทะเล คุณพี คุณญี่ปุ่น35 คุณสาวสวนแตง คุณธัมมะระตี  สนใจของฟรีด้วยป่ะครับ อิๆๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 29 ต.ค. 50 21:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบตุณบงกชครับ เรื่องการผสมปุ๋ยใช้เองใช่ใหมครับ ตามความคิดผมนะครับ จะถูกกว่าดีกว่าหรือจะอะไรก็ตามขึ้นอยู่กับพืชที่คุณปลูกครับ ถ้าพวกพืชไร่ผมว่าแค่ปุ๋ยผสมในประเทศ หรือผสมเองก็ใช้ได้ครับ ถ้าพวกไม้ผล ถ้าไม่เยอะและดูแลเอง ปุ๋ยผสมเอง ก็ได้ครับ ถ้าไม้ผล ปลูกเยอะ ไม่ได้ดูและเองแนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอมปาวด์ ครับ ถ้าปลูกผัก แนะนำคอมปาวด์นำเข้า เพราะละลายเร็ว อ้อ...อย่าลืมใส่วัสดุปรับปรุงดินด้วยนะครับ เดี่ยวจะมาอธิบายต่อครับ จากคุณ : seto16 - [ 29 ต.ค. 50 21:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ต่อๆๆๆ งงใหมกับศัพท์ปุ๋ย อิๆๆ เขียนเองงงเองเลยต้องมาอธิบายต่ออิๆๆ ปุ๋ย Compound คือปุ๋ยที่เมื่อคุณหยิบเนื้อปุ๋ยมาหนึ่งเม็ดนะครับ แล้วเอามาวิเคราะห์ปุ๊บ สมมติคุณหยิบสูตร 15-15-15 ขึ้นมาหนึ่งเม็ด เอามาบี้ๆๆๆ แล้วเอาไปวิเคราะห์ห้องแลปจะบอกเลยนี่คือปุ๋ย 15-15-15 ครับ ปกติแล้ว Compound นี่จะเป็นปุ๋ยนำเข้าครับ ข้อดี ทุกเม็ดเท่ากัน ละลายได้สม่ำเสมอ ข้อเสีย แพง ต้องนำเข้า จากคุณ : seto16 - [ 29 ต.ค. 50 21:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ต่อๆๆ ปุ๋ย Bulk Blend แค่ชื่อก็บอกแล้วว่ามาจากการผสมครับ นำแม่ปุ๋ยมาหลายๆตัว แล้วคลุกๆๆๆๆ ผลที่ได้ออกมาคือ หนึ่งกระสอบจะมีหลายๆสีครับ สังเกตุง่ายๆๆๆเลย ข้อดี ถูก ผลิตในประเทศ ข้อเสีย อาจจะละลายช้า แต่ละต้นที่ได้รับอาจจะได้รับปุ๋ยในสัดส่วนของ NPK ที่แตกต่างกัน จากคุณ : seto16 - [ 29 ต.ค. 50 21:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อเรื่อง แม่ปุ๋ยที่ใช้ในการผสมปุ๋ยต่อนะครับ แม่ปุ๋ยที่ให้ N Nitrogen Urea หรือ 46-0-0 AS หรือ Ammonium Sulphate หรือ 21-0-0 ------------------------------------------------ แม่ปุ๋ย ที่ให้ P Phophorus DAP หรือ Di Ammonium Phosphate หรือ 18-46-0 MAP หรือ Mono Ammonium Phosphate หรือ 12-52-0 TSP หรือ Triple Super Phosphate หรือ 0-46-0 RP หรือ Rock Phosphate หรือ 0-3-0 -------------------------------------------------- แม่ปุ๋ยที่ให้ K Potassium SOP หรือ Sulphate Of Potass หรือ 0-0-52+S มีSเท่าไรลืมแย้ว MOP หรือ Muriate Of Potass หรือ 0-0-60+Cl มี Cl เท่าไรลืมอีกแล้ว อิๆ ----------------------------------------------------- แม่ปุ๋ยอื่นๆๆๆ CN หรือ Calcium Nitrate หรือ 15-0-0+25CaO --------------------------------------------------------- จบแค่นี้ก่อนนะครับ พอดีไม่ได้เปิดหนังสือเขียนอ่ะครับ มันอาจจะไม่ครบ แต่แม่ปุ๋ยเหล่านี้หาได้ง่ายแน่นอนตามท้องตลาดครับ สำหรับวิธีคิดการผสมไม่ยากครับ แค่บวกลบคูณหารเป็นก็ทำได้แล้วครับ ขอให้สนุกกับปุ๋ยนะครับ ---------------------------------------------------- Soil Science is My Life. By Aek_Soil24 จากคุณ : seto16 - [ 29 ต.ค. 50 21:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อุๆๆๆ กระทู้เงียบเลย พูดมากไปหรือเปล่าหว่า อิๆ จากคุณ : seto16 - [ 30 ต.ค. 50 20:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาเก็บเข้าคลังกระทู้ เดี๋ยวความรู้ดีๆจะหายไป เสียดาย ทีนี้เราก็ทำลิ้งมาที่กระทู้นี้เลย เวลามีใครถาม  ฮ่า ฮ่า เบาแรง จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 30 ต.ค. 50 21:30:24 ]