ความคิดเห็นที่ 1 สีขาวกลมๆ ที่ไม่รู้จักชื่อ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:19:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กลีบขาวปากชมพู ที่ไม่รู้จักชื่อ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลีบขาวแล้วให้ปากมีสีชมพูแบบมีลายเสียด้วย กับการไม่รู้ชื่อ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กลีบขาวแล้วให้ปากมีสีชมพูเข้ม แต่ไม่รู้ชื่อ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาดูแบบสีอ่อนชมพู ที่ไม่รู้จักชื่อเช่นกัน จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:25:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชมพูที่มีหลายลักษณะ ดูกันเพลินๆ กับการสร้างลูกผสมของเกษตรกรกันเอาเองนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชมพูหรือม่วงกระมั่ง ที่ไม่รู้จักชื่อเช่นกัน จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นักผสมเกสรผมว่าสุดยอดนะครับ เป็นชมพูเข้มๆ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การมีสีใหม่ๆ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ อยากได้แบบสีเข้มๆ เกษตรกรจัดให้ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หากรัฐฯ มองเห็นว่าธุรกิจหวายตัดดอกได้นำเงินตราเข้าประเทศได้มาก ก็น่าจะส่งเสริมในหลายๆ ด้าน.....ว่าป่าวครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เช่นส่งเสริมการลงทุน นักวิชาการและเกษตรกรเข้าถึงปัญหาร่วมกัน...บอกใครดีหว่า จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หรือเป็นโครงการแห่งชาติ อย่างประเทศไต้หวันที่ให้โครงการปลูกฟาแลนนอฟซิสเป็นวาระแห่งชาติ รัฐฯ สร้างโรงเรือนที่ได้มาตราฐานให้เกษตรกรลงทุน...พอจะได้หรือปล่าว จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องระบบตั้งชื่อ การขึ้นทะเบียนชื่อ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องสำคัญในลำดับต้นๆ  เพื่อทราบข้อมูลของพ่อแม่พันธุ์ที่ถูกต้อง จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การรวบรวมสายพันธุ์เพื่อสร้างความแปรปรวนให้สายพันธุ์ รัฐฯ จะต้องบริการหรือปล่าวไม่แน่ใจ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ระบบการปลูกเลี้ยง ผมว่าเกษตรผู้ปลูกเลี้ยงเก่งอยู่แล้ว เหลือเพียงการจัดการให้ได้คุณภาพของสินค้าของเราอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานแบบดีเยี่ยม จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บ่นเสียเยอะ มาดูพวกกลีบบิดกันบ้างนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลากหลายจริงๆ นะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อยากได้แบบไหน มีหมด....แล้วขาดอะไรหว่า จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เว้นวรรคการเมืองนิดนึงนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอาแบบเข้มข้นแดงมืดไปเลย แต่ไม่รู้ชื่อเช่นเดิม จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หรือสีเหลืองก็ได้....จัดให้ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหลืองสว่างก็ได้....จัดไป จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เหลืองไม่บิดก็ได้ ทำได้หมด จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เหลืองปากม่วงเข้ม ก็ทำได้ (เกษตรกรทำนะครับ) จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผสมสีได้เลย สวยจริงๆ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้ว่าสีอะไร แต่ไม่มีในธรรมชาติแน่นอน จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หวายแทบทุกสี นักปรับปรุงพันธุ์ทำได้หมดแล้วกระมั่ง แม้แต่สีบลู ก็ยังไม่ต้องพึ่งการตัดต่อยีน คัดพ่อแม่พันธุ์ ผสมเกสรสำเร็จแล้ว จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 15:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แล้วมันติดขัดตรงไหนกันแน่ ที่ทำให้ธุรกิจส่งออกหวายตัดดอกบ้านเราเติบโตแบบหยุดชะงัก ลองวิเคราห์กันดูตามอัธยาศัยนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 16 พ.ย. 50 16:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวยสด คมชัด จอไม่แบน.. จากคุณ : XR71USA - [ 16 พ.ย. 50 16:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จารย์ ค.2 ไมมันน่ารักจังครับ แล้วอยู่ในกลุ่มหวายแคระเป่าอ่ะ สวยๆๆ จากคุณ : Cafe`tea - [ 16 พ.ย. 50 17:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าธุรกิจไม้ตัดดอก ( เกษตรกรอื่นๆด้วย) ของบ้านเรา ขาดการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ การหาตลาดใหม่ๆยังไม่รวดเร็วพอ ขั้นตอนการจัดส่งเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ขั้นตอนเยอะ สินค้าเกษตร เป็นสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว สำหรับตัวเกษตรกรเอง มักประสบกับปัญหาเรื่องทุน เรื่ององค์ความรู้ต่างๆ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต่างคนต่างทำ แข่งขันกันเอง ทำลายกันเอง สุดท้าย เราก็ได้ส่วนแบ่งในตลาดโลกไม่มากนัก ทั้งๆที่ประเทศเรามีความสามารถในการผลิตสูง แต่ไม่สามารถทำมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้นไปได้ จากคุณ : ปุ้ม ครับ - [ 16 พ.ย. 50 17:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าส่วนใหญ่หวายบ้านเราไม่เหมาะต่อการขนส่งข้ามประเทศครับ เช่น Den. arumirai Den. Mairu Lukkaiwhar Den. Mua-leal Mua-eek Den. Random4 X Den. Random5 หวายทั้ง 4 ชื่อนี้ค่อนข้างจะบอบบางครับ แต่ต้องยอมรับว่าความงามใช้ได้เลย จากคุณ : voravan_mike - [ 16 พ.ย. 50 17:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห 1 น่าจะเป็น บ๊อบบี้ไวท็ คห 20 เป็นหวาย ดร แจ๊ก      คห 32 คุณน่าจะดูกระทู้เก่าๆ  สวยกล้วยไม้แคริฟอเนีย อเมริกา  เขาสั่งหวายตัดดอกของไทยจาก บี เอฟ ซี นี่ แหละ  เอาต้นเล็กๆไปปลูกขายที่อเมริกา  สั่งทีละ แสน ต้นเลยว่ากันเป็นพันๆไร่ จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร - [ 16 พ.ย. 50 18:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ช่ายแล้ว สีแจ๋แจ๋น เห็นจะเค้าล่ะ หวาย อิอิ ( รองลงมาจากน้องแมวนะ ) จากคุณ : taklomklom - [ 16 พ.ย. 50 19:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ชอบพันธุ์นี้อ่าคุณ voravan_mike Den. Mairu Lukkaiwhar มีพันธุ์ Rupao Porkukai ขายด้วยป่าวอ่าาา จากคุณ : จาโพ้ด - [ 16 พ.ย. 50 20:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กระทรวงเกษตร ว่างัย จากคุณ : ยุ่น..ดิ - [ 16 พ.ย. 50 20:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ..สวย............................................................ภาครัฐ จากคุณ : na_nin - [ 16 พ.ย. 50 21:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 lสวยมาก ๆๆๆๆๆ คะ จากคุณ : เอื้องโมก - [ 16 พ.ย. 50 22:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คห 1 น่าจะเป็นสุรีย์ไวท์ ของมานะออร์คิดนะคะ จากคุณ : sunnyorchids (sunnyorchids) - [ 16 พ.ย. 50 22:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่าธุรกิจไม้ตัดดอก ( เกษตรกรอื่นๆด้วย) ของบ้านเรา ขาดการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ การหาตลาดใหม่ๆยังไม่รวดเร็วพอ ขั้นตอนการจัดส่งเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ขั้นตอนเยอะ สินค้าเกษตร เป็นสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว สำหรับตัวเกษตรกรเอง มักประสบกับปัญหาเรื่องทุน เรื่ององค์ความรู้ต่างๆ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต่างคนต่างทำ แข่งขันกันเอง ทำลายกันเอง สุดท้าย เราก็ได้ส่วนแบ่งในตลาดโลกไม่มากนัก ทั้งๆที่ประเทศเรามีความสามารถในการผลิตสูง แต่ไม่สามารถทำมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้นไปได้ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณป้มค่ะ   เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา  บีโอไอ เกือบจะอนุมัติให้ไต้หวันเข้ามาลงทุนในไทย  แถมใช้เงินของไทยอีกด้วย  ดีที่มีการประท้วงจนยกเลิกไปในที่สุด ถ้าเอาเงิน 35000  ล้านบาทมาสนับสนุนเกษตรกรไทย  จัดหาพ่อแม่พันธุ์ดี  จากทั่วโลกให้เกษตรกรที่มีฝีมือใช้  เรื่องแคทเอย  ฟาแลนเอย  ก็น่าจะรุ่งกว่านี้  ที่ไหนๆ ในโลกก็ใช้โรงเรือนปรับอุณหภูมิทั้งนั้น  ถ้ารัฐช่วย  ตรงนี้อย่างเต็มที่  รับรองว่าไม่มีใครสู้เกษตรกรไทยได้หรอกค่ะ จากคุณ : sunnyorchids - [ 16 พ.ย. 50 22:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ้อเกือบลืม  ถ่ายภาพได้เด็ดขาดจริงค่ะ จากคุณ : sunnyorchids - [ 16 พ.ย. 50 22:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่อยากให้ต่างประเทศเลือกหวายตัดดอกจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศไทยนะครับ หากเรายังทำคุณภาพของหวายตัดดอกที่ตรงต่อความต้องการของผู้ซื้อได้อยู่ แต่กลเม็ดแบบนี้ต้องช่วยกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะภาครัฐต้องผลักดันหลายสิ่งหลายอย่าง....บ่นอีกรอบครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 17 พ.ย. 50 09:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เพิ่งอ่านหนังสือชื่อ "พันธุ์พืช เทคโนโลยี และการจัดการพืชสวน ในไต้หวัน" อ่านไปได้นิดหน่อย ได้แต่อิจฉาเกษตรกรบ้านเค้า เพราะหน่วยงานรัฐเค้าเข้าถึงและสนับสนันเกษตรกรมากๆ ไล่มาตั้งแต่ระดับนโยบายของรัฐลงมาจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้ปฏิบัติงานโดยตรง มานึกถึงบ้านเราได้แต่ปลงอนิจจัง นโยบายรัฐเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาซ้ายทีขวาที เอาแน่เอานอนไม่ได้ เกษตรกรต้องดิ้นรนกันไปเอง จากคุณ : จิ้งจอกภูเขาหิมะ - [ 17 พ.ย. 50 17:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณจิ้งจอกภูเขาหิมะ ผมอยากอ่านหนังสือที่อ้างในคห.43 ครับ เรื่องนโยบายของรัฐเกี่ยวกับเกษตรกรรม ดูจะไม่ได้รับการเลี้ยวแลจริงๆ ครับ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จากคุณ : appendiculata191 - [ 17 พ.ย. 50 23:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พี่แอพเพน หันมา PCR Dedrobium แล้วเหรอ เมื่อไหร่จะมาลอง Sequencing Paphiopedilum มั่งอะครับ ผมรออยู่นะพี่ จากคุณ : Paphmania - [ 17 พ.ย. 50 23:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยังหาโครงการต่อไปไม่ได้เลยครับคุณ Paphmania หมายถึงแหล่งทุนนั้นเองครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 18 พ.ย. 50 00:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พี่ลองหาแถวนี้ได้นะครับ คนที่เลี้ยงและรักกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีและพอมีฐานะก็มีเยอะอยู่ครับ ถ้าลองคิดโครงการและจำนวนเงินที่ตาดว่าจะต้องใช้ ก็น่าจะหาได้ ทั้ง จากรัฐ บริษัทเอกชน หรือ ส่วนบุคคล หรือแม้แต่ทุนต่างประเทศ ถ้าเขียนโครงการได้น่าสนใจ ก็น่าจะขอได้ไม่ยาก เดี๋ยวผมช่วย ด้าน Population and field study ครับ ใครที่อยากรู้ว่า ตกลงแล้วรองเท้านารีมีกี่ชนิดกันแน่ ต้นไหนพันธุ์แท้ ต้นไหน ลูกผสม เหลืองตรัง เหลืองพังงา ขาวชุมพร ช่องอ่างทอง ขาวสตูล ขาวพังงา เหลืองสิงขร เหลืองกาญจน์ เหลืองปราจีน เหลืองอุดร เหลืองประจวบ ฝาหอย ฝาหอยจีน มีความแตกต่างทางพันธุกรรม อย่างไร และต่างพอที่จะเป็น Species, subspecies , varieties หรือ forms ไม้กลุ่มนี้เกือบทั้งหมดพบได้ในประเทศไทย (Paphiopedilum subgenus Bachypetalum) จะดีไหมหากคนไทยจะเป็นผู้คนคว้า วิจัย ทำ DNA Sequencing เพื่อไขข้อข้องใจทางอนุกรมวิธานและการวิวัฒนาการ ของไม้กลุ่มนี้ ดีกว่ารอให้ฝรั่ง ญี่ปุ่น หรือไต้หวัน มาวิจัยและเอาทรัพยากรของประเทศเราไปใช้ประโยชน์หมดครับ ใครสนใจบริจาคก็ลองติดต่อ คุณ Appendiculata ได้ครับ เป็นดร. นักวิจัยหนุ่ม ที่ทำวิจัย เกี่ยวกับ Plant Molecular Biology ครับ จากคุณ : Paphmania - [ 18 พ.ย. 50 00:58:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาตอบคุณ Appendiculata ครับ ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าหนังสือเล่มนี้ยังมีตามท้องตลาดหรือไม่ เพราะเห็นปีพิมพ์ตั้งแต่ 2548 เป็นของสำนักพิมพ์เคหะการเกษตรแต่คาดว่ายังมี เพราะผมเพิ่งยืมมาจากห้องสมุดที่ใช้บริการอยู่ ยังเป็นหนังสือใหม่ที่เพิ่งรับเข้าห้องสมุดไม่นานนี่เอง ผู้เขียนชื่อคุณกาญจนา สุทธิกุล  ไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่ไต้หวันเลยเขียนหนังสือไปด้วย อ่านแล้วได้มุมมองหลายๆอย่าง อยากให้ผู้รับผิดชอบด้านการเกษตรบ้านเรามาอ่านบ้าง เผื่อจะได้ไอเดีย เพราะพืชผักหลายๆอย่างในบ้านเรา ผลิตได้คุณภาพไม่ได้ด้อยกว่าบ้านเค้าเลย แต่เค้าสามารถขายผลผลิตได้ในราคาแพงกว่าบ้านเราหลายเท่า มีการจัดการตลาดที่ดี ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมว่าไทยเรายังสู้ชาติอื่นไม่ได้ เรื่องการผลิตเกษตรกรไทยเก่งอยู่แล้ว(สังเกตุจากผลิตอะไรออกมาเห็นล้นตลาดได้ทุกที) แต่เรื่องการขาย กลับไม่มีใครไปช่วยเหลือเลย จากคุณ : จิ้งจอกภูเขาหิมะ - [ 18 พ.ย. 50 20:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณคุณจิ้งจอกภูเขาหิมะเรื่องข้อมูลเพิ่มเติมครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 18 พ.ย. 50 20:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เก่งมากๆเลยค่ะ ที่ผสมได้สีสวยจัดจ้านจริงๆ... เป็กำลังใจให้นะคะ จากคุณ : มือใหม่หัดเลี้ยง (ภัสสรา) - [ 19 พ.ย. 50 09:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 51 บ่นซะยาวเลยนะเฮีย....ไปถ่ายที่ไหนมาคับ..ได้ต้นมาด้วยป่าว...ผมจองหน่อนะ...อิอิ จากคุณ : เสือเจ้าถิ่น - [ 19 พ.ย. 50 10:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอชี้แจง ไม่ใช่ไม้ผมครับ ไม่ได้ทำเอง ไปถ่ายรูปมาครับ แล้วมานึกดูว่าสิ่งที่เราเห็นว่าสวยแล้วเราเข้าถึงได้มากน้อยอย่างไร 1. สวยแต่ไม่สามารถสืบประวัติได้.....จบกัน 2. การส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มีภาครัฐบาลมาส่งเสริมหรือไม่อย่างไร 3. นักปลูกเลี้ยงหน้าใหม่มีโอกาสทำเป็นธุรกิจส่งออก มีสัดส่วนตลาดได้มากน้อยอย่างไร 4. ทำอย่างไรให้เกษตรและนักวิชาการแก้ไขปัญหาแบบร่วมกันได้มากน้อยอย่างไร 5. และอื่นๆ โดยเฉพาะจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกในหวายตัดดอกให้สูงขึ้นได้อย่างไร เป็นต้น จากคุณ : appendiculata191 - [ 19 พ.ย. 50 12:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณจิ้งจอกและคุณแอพเพน.. ผมว่าเกษตรกร(ผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้) ของเรามีความรู้ ความสามารถในด้านการผสมพันธุ์ การพัฒนาพันธุ์ การคัดเลือกต้นพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสม การปลูกเลี้ยงดูแลให้เจริญงอกงามเป็นอย่างดี รวมทั้งสภาพแวดล้อมบ้านเราก็เหมาะสมกับการเลี้ยงกล้วยไม้ทางเขตร้อนเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่ายังคงขาดการสนับสนุนทางด้านความรู้ทางด้านพื้นฐาน ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ความรู้ทางด้านการตลาด ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์หรือว่าการค้าขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต สังเกตได้ว่าส่วนใหญ่มักจะทำการผลิตแล้วขายส่งให้ตัวแทนทั้งในหรือต่างประเทศในราคาถูก แล้วไปให้ทางโน้นเขาขายในราคาแพง ๆ หรือไม่ก็ส่งขายพ่อแม่พันธุ์ในราคาต้นละเป็นแสนหรือหลายแสนไปให้เขาใช้ประโยชน์เพิ่มมูลค่าได้อีกเป็นสิบเป็นร้อยเท่า  แทบไม่มีเลยหรือมีน้อยมากที่จะไปทำตลาดหรือเปิดบู๊ธตามงานต่าง ๆ หรือเปิดเว๊บไซต์ทำการตลาดโดยตรง ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในสวน ทำการผสมพันธุ์ ปลูกเลี้ยง เท่านั้น แทบไม่ค่อยได้ไปเปิดหูเปิดตาตามงานระดับชาติมากนัก(มีบ้าง) ส่วนเรื่องทางด้านการติดตามข่าวสารในวงการกล้วยไม้ทางเน็ต ยิ่งน้อยมากที่มีเกษตรกรใช้งานอยู่ ยิ่งความรู้ด้านพันธุวิศวกรรมยิ่งน้อยมาก ๆ เลย ก็ได้แต่อิจฉาต่างประเทศที่มีการสนับสนุนอย่างดีทั้งจากรัฐ จากสมาคม จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้งครับ จากคุณ : บ้านค่าย - [ 20 พ.ย. 50 16:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ได้แต่อิจฉาต่างประเทศที่ให้การสนับสนุนภาคเกษตรกรรมอย่างประเทศอิสราเอล ไต้หวัน ญีปุ่นและที่อื่นๆ เหมือนกันครับ ไม่รู้จะไปบอกใครดีนะครับ จากคุณ : appendiculata191 - [ 20 พ.ย. 50 19:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ดูอย่างเลือกตั้งคราวนี้ไม่พรรคไหนมีนโยบายเกี่ยวกับเกษตรโดยเพราะเรื่องกล้วยไม้ ทำใจ จากคุณ : asuorchid - [ 21 พ.ย. 50 14:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 56 จริงด้วย ไม่มีพรรคไหนพูดเรื่องการเกษตรเลย เบื่อจัง จากคุณ : appendiculata191 - [ 21 พ.ย. 50 21:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไทยส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ก็จริง แต่เมื่อเทียบมูลค่าแล้วยังน้อยมาก มูลค่าไม้ตัดดอกอยู่ที่ปีละเกือบ 300,000 ล้านบาท มูลค่าหวายตัดดอกจะอยู่ที่ 2000 ล้านบาท เราผลิตดอกกล้วยไม้เยอะมากในแต่ละปี แต่บางครั้งก็ส่งออกได้ราคาต่ำเพราะมาตรฐานของดอกไม่ได้ ต้องขายลงมาเป็นไม้ดอกร่วงบ้าง มาลัยบ้าง จะเพิ่มมูลค่าก็พอทำได้คือต้องผลิตช่อดอกให้ได้มาตรฐานจริงๆ นอกจากเรื่องการผลิตแล้วปัญหาสำคัญอีกก็คือพื้นที่ในการขนส่งของสายการบินต่างๆ อาจไม่เพียงพอทำให้เพิ่มปริมาณการส่งออกไม่ได้เต็มที่ ขั้นตอนการส่งออกที่ผู้ส่งออกบางท่านว่าช้าเพราะการตรวจสอบสินค้าให้ทันแต่ละเที่ยวบิน สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องมีการแก้ไขอย่างจริงจัง ดูให้ลื่นไหลทุกจุด ไม่ทันเพราะอะไรคนไม่พอก็ต้องเพิ่มอัตรากำลัง เห็นประชุมกันทุกปี เรื่องกล้วยไม้หมื่นล้านแต่ก็เหลว หรือว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการก็ไม่รู้ การแก้ปัญหาเรื่องการขยายตลาดเห็นท่านว่าจะขยายไปแถบตะวันออกกลางทั้งหลาย มีการจัดต้งโรงเรือนเพาะเลี้ยงในแต่ละประเทศเพื่อขนส่งลูกไม้ไปขุนแล้วค่อยขาย จะลดปัญหาระวางการขนส่งได้ การจัดทำ E auction ที่ก็ยังเพียงแค่เริ่มต้น ก็เห็นจะจริงที่ว่ารัฐยังทำอะไรที่เป็นรูปธรรมได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ ตัวเกษตรกรเองจะต้องรวมกลุ่มกันอย่างจริงจังและยอมเสียบางส่วนเพื่อให้ส่วนรวมได้ประโยชน์ไม่ต้องขายหั่นราคากันเอง ถ้าลองดูตามเวปที่ขายกล้วยไม้กระถางราคาหวายแพงกว่าแคทเสียอีก ราคาใกล้เคียงกับฟาแลน ถึงเวลาแล้วล่ะที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อผลักดันให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ในทุกด้านทั้งภาคการผลิต และ การขยายตลาดการส่งออก จากคุณ : su (sunnyorchids) - [ 22 พ.ย. 50 08:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับคุณ su (sunnyorchids) และคุณอื่นๆ ที่เข้ามาบอกปัญหานะครับ หรือเราต้องยอมรับว่าคุณภาพของหวายตัดดอกของเราถดถอยลงแล้วครับ แรงขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาในทุกๆ จุดที่ไม่มากพอและไม่ทันการณ์ อาจเป็นตัวเร่งให้ผลผลิตของเราเสื่อมลงหรือปล่าว จากคุณ : appendiculata191 - [ 22 พ.ย. 50 11:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นกระทู้ที่สร้างสรรค์ดีครับ ประเทศเรายังถูกจัดว่าเป็นประเทศโลกที่สาม แปลว่าด้อยพัฒนา(ทางวัตถุ) เงินทองก็ไม่ค่อยจะมี ทรัพยากรก็เหลือน้อย แถมมีคอรัปชั่นในทุกวงการ ผมว่าท่านผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานทั้งหลาย เริ่มจากตัวเราก่อนนี่แหละ เรารู้ว่าอะไรดี ก็ลงมือทำซะ ไม่ดีก็หลีกเลี่ยงให้ไกล การที่จะไปรอรัฐบาล หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องลงมาทำ หรือแก้ไข ก็คงต้องรอ รอ และรอ ต่อไปเรื่อยๆแหละครับ เอกชนไทยนี้เก่ง ขอแค่ราชการ ถ้าไม่ช่วย ก็อย่าขัดขาแล้วกัน ขนาดภาครัฐแทบไม่ได้ช่วยอะไร ยังมากันได้ไกลขนาดนี้ แล้วโดยหลักการ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนรู้หมด ว่าทำอย่างไรให้ดี ให้เจริญ เพราะเราติดกับผลประโยชน์ส่วนตน พอจะทำ เราก็มักจะถามว่า ทำไปแล้วได้อะไร ทำแล้วคนอื่นได้ ทำทำไม ทำให้ประโยชน์ส่วนรวมไม่เกิด การพัฒนาโดยรวมไม่มี จากหลายคคห ข้างบน ทุกคนทราบหมดเลยว่าปัญหาคืออะไร เริ่มจากตัวเราก่อนได้เลย ณ บัดนาว จากคุณ : Oatz - [ 22 พ.ย. 50 16:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นลักษณะคนไทย ที่รวมกันเมื่อใด .....แตกกันทุกที จริงๆ คนไทยเก่งมากในระดับส่วนบุคคล แต่เราขาดการฟังเหตุผลของอีกคน เรามักจะชอบทำทั้งหมดด้วยตนเองทั้งขบวนการ หากเราใช้ศักยภาพอีกหลายฝ่ายที่เค้าถนัดจะทำให้เราขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ .....win win จากคุณ : appendiculata191 - [ 22 พ.ย. 50 23:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มาปิดกระทู้ครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม มาเสริมข้อมูลและให้ความเห็นต่างๆ จากคุณ : appendiculata191 - [ 25 พ.ย. 50 09:28:27 ]