Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ใครว่าลุงย้ายภูเขาไม่ได้

    อนามุ  จือผะฉะ

    ภาพชายร่างเล็กที่ก้มหน้าก้มตาขุดดินอยู่อย่างขะมักเขม้น สองมือจับขอบเกร็งจนเห็นเส้นเอ็นที่ข้อมือของแกปูดโปน ทั้งแดดก็ร้อนเปรี้ยงปานนั้น แต่หน้าของแกก็เฉยเมยราวกับไม่รับรู้ถึงความร้อนที่แผดเผาอยู่บนดอยสูง เป็นภาพที่ชาวลีซอแห่งบ้านป่าเกี๊ยะ บนยอดดอยสามหมื่นเห็นกันจนชินตาเมื่อหลายปีก่อน ใครต่อใครที่เห็นอนามุกำลังขุดดินอยู่ทุกวี่วัน ต่างก็อดไม่ได้ที่จะต้องร้องทักถามว่า
           "อนามุ ทำอะไรอยู่"
           "ขุดภูเขา"
           "แล้วจะขุดภูเขาไปทำอะไรล่ะ"
           "ทำถนน ให้รถมันแล่นเข้ามาบ้านเฮาได้"
           ทอดตาดูเบื้องหน้าแล้ว ใครๆ ก็เห็นว่าถนนที่อนามุว่านั้นที่แท้คือภูเขาย่อมๆ ทั้งลูก หนทางที่กว่ามันจะทอดไปถึงบ้านแกได้ก็ยาวนับกิโล แล้วใครเลยจะอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นทั้งบ้าและโง่ พูดภาษาลีซอก็ว่าเอาไม้ไปทิ่มตาตั๊กแตนเลือดก็ไม่ออก นั่นคือคิดหรือทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ว่าใครจะเยาะเย้ยหรือทัดทานอย่างไร อนามุยังคงยิ้มตามแบบของแก แล้วก้มหน้าก้มตาขุดถนนต่อไป

           สองปีผ่านไป ใครที่เคยปรามาสก็ได้ประจักษ์แก่สายตาตนเองว่า ภูเขาที่ขวางหน้าบ้านอนามุนั้นหายไป มีถนนสายเล็กๆ ที่ทอดยาวให้รถเข้าไปขนผลผลิตจากไร่แกได้อย่างสบายเข้ามาแทนที่ อนามุอาจไม่เคยรู้เรื่องราวของ "ลุงโง่ย้ายภูเขา" เรื่องเล่าที่นักปฏิวัติกลางพงไพรเล่าขานกันสืบมา เพื่อเป็นกำลังใจว่าแม้กระทั่งมนุษย์คนเดียวก็ยังย้ายภูเขาทั้งลูกได้ อนามุอาจไม่รู้ว่าการปลูกมะม่วงนั้น เขาต้องเพาะเมล็ดหรือไม่ก็ปักชำ ตอนกิ่ง เมื่อแกอยากจะปลูกมะม่วงแกจึงไปซื้อมะม่วงมากินถึง 20 กิโลกรัม แล้วเอาเม็ดไปฝังดิน รอให้มันงอกขึ้นมาเอง

           หลายๆ เรื่องที่เขาทำ ใครๆ ก็พากันหัวเราะเยาะ บ้างก็ว่าเขาเป็นคนง่าว บ้างก็ว่าเป็นคนหลึกอันหมายถึงคนดื้อ ที่คิดจะทำอะไรก็มุทะลุทำไปของตน แต่ใครจะว่าอนามุโง่หรือดื้อก็ตาม อนามุรู้แต่เพียงว่าขุดถนนนั้นสบายกว่าขนฝิ่นมากนัก และปลูกมะม่วงก็ได้เก็บกิน ไม่มีใครมาตัดฟันทิ้งเหมือนทำไร่ฝิ่น ปรัชญาง่ายๆ ของแกก็คือ "ถ้าเราไม่ทำ มัวแต่คิดว่าสักวันมันคงมีถนนมา มันก็คงเป็นไปไม่ได้"
           เรื่องราวของลุงโง่ย้ายภูเขาคนนี้เกิดขึ้นที่บ้านป่าเกี๊ยะใหม่ หมู่บ้านลีซอเล็กๆ บนยอดดอยสามหมื่น อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ดอยสามหมื่นในปัจจุบันคือพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้นหนึ่งของประเทศ ที่ขึ้นชื่อเลื่องลือถึงทิวทัศน์ตระการตาของภูสูงเสียดฟ้า และทะเลหมอกระเรี่ยทิวเขาสลับซับซ้อน ความงามของห้วยน้ำดังและห้วยน้ำรู ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้หลั่งไหลมาเยือนที่นี่ในแต่ละปี แต่นั่นคือภาพความงามที่เห็นได้ในปัจจุบัน ต่างจากเมื่อ 20-30 ปีก่อน ที่ยามฤดูฝิ่นสุก ทั้งเทือกดอยสามหมื่นจะดารดาษไปด้วยดอกฝิ่นชูช่อสีแดง ขาว ชมพูสล้างไปทั้งเทือกดอย เป็นความงามของดอกไม้มรณะที่น้อยคนนักจะย่างกรายเข้ามาเห็น

           อนามุ จือฉะผะ เกิดและเติบโตบนยอดดอยสูง ที่ไม่อาจปฏิเสธวิถีทางของคนภูเขาได้ว่า ชีวิตนั้นเกิดมาก็ต้องทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่น สำหรับคนหนุ่มฉกรรจ์ในหมู่บ้าน นอกจากจะปลูกฝิ่นเองแล้วก็มักถูกชักชวนให้ไปรับจ้างขนฝิ่นตามหมู่บ้านต่างๆ ที่เรียกว่าการ "ไปเป๊อะฝิ่น" คือไปรับจ้างซื้อจากชาวเขาด้วยกันเอง แล้วบรรทุกฝิ่นที่รวบรวมซื้อจากบ้านต่างๆ แบกใส่บ่า ขนไปส่งให้จนถึงจุดนัดหมาย

           อนามุในวัยหนุ่มก็ถูกชักชวนไปเป๊อะฝิ่นให้กับกำลังขุนส่า ราชายาเสพติดระดับโลกด้วยเช่นกัน ความยากลำบากในการรับจ้างขนฝิ่นให้กับทหารขุนส่าในครั้งนั้น อนามุยังจดจำได้ไม่รู้ลืม

           "เฮาก็ไปรับจ้างซื้อตามบ้านลีซอ บ้านแม้ว แล้วต่างหลังไปส่งให้เขา ฝิ่นน้ำหนักหลายสิบกิโล เวลาเดินก็ต้องเดินไม่หยุดทั้งกลางวันกลางคืน 3 วัน 4 วัน กลางคืนก็ห้ามใช้ไฟฉาย เดินไปก็สะดุดไปหกล้มไป เวลาไม่สบายเป็นไข้ป่า ถึงเดินไม่ไหวก็ต้องเดิน เพราะเขาถือปืนบังคับให้เดิน แต่เวลาเขาให้ค่าจ้างมาแค่ไหนเราก็ต้องรับ"

           เที่ยวแล้วเที่ยวเล่าของการขนฝิ่น อนามุนึกถึงว่าถ้าตัวเองแก่ขึ้นมา ถ้าชีวิตนี้รับจ้างไม่ไหวเขาก็คงไม่ให้เงิน แกเองก็เคยเห็นตัวอย่างที่ว่า บางคนแค่มีข้าว เก็บผัก ตำน้ำพริก ก็กินได้อยู่ได้ แกจึงคิดว่ากลับมาอยู่บ้านดีกว่าไม่ต้องไปรับจ้างใครเขา

           แต่แม้ความฝันที่จะเปลี่ยนชีวิตของตนเองจะเริ่มขึ้น อนามุก็ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้ความฝันของแกเป็นจริงขึ้นมาได้ ถึงแม้เมื่อเลิกรับจ้างขนฝิ่นแล้ว อนามุก็ยังคงปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยอยู่ต่อไป จนกระทั่งปี พ.ศ. 2526 เมื่อทหารเข้ามาตัดฟันไร่ฝิ่นทิ้ง พร้อมๆ กับที่ หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยน้ำรู โดยกรมป่าไม้เข้ามาดูแลเพื่อให้ชาวเขาเลี้ยงตัวเองได้ และอยู่อย่างเป็นหลักแหล่งถาวร ไม่ทำลายแหล่งต้นน้ำลำธารด้วยการทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป อนามุจึงปักหลักอยู่บนที่ดิน 19 ไร่ ที่แกเคยถากถางทำไร่ฝิ่นและข้าวโพดมาเมื่อปีก่อนๆ

           ห้วงเวลานั้น ประสบการณ์ครั้งหนึ่งก็หวนกลับคืนมาสู่ความทรงจำ อนามุจำได้ว่าผลายปีก่อนเคยลงไปทำธุระที่อำเภอเชียงดาวแล้วเกิดฝนตกหนัก ไม่มีรถขึ้นมาบนดอย แกจึงไปขออาศัยนอนบ้านคนเมือง ไปอยู่กับเจ้าของสวนรับจ้างเขาทำงานแลกที่พัก แกก็ได้เห็นว่าเจ้าของสวนเขาปลูกมะม่วง ปลูกลำไย ขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ภาพที่เห็นนั้นทำให้อนามุจดจำไว้ในใจ และฝันว่าสักวันหนึ่งจะลงมือทำของตนเองบ้าง เมื่อทหารเข้ามาตัดฟันไร่ฝิ่นทิ้งไป

           ในปีนั้น อนามุจึงตัดสินใจเดินตามความฝัน ที่เก็บงำอยู่ในใจมาเนิ่นนาน ในขณะที่เพื่อนบ้านคนอื่นๆ พลิกผันชีวิตตนเองจากการทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่น ไปสู่วิถีเกษตรกรรมแบบชาวพื้นราบคือการปลูกพืชไร่ พืชชนิดเดี่ยวขาย อนามุก็เริ่มลงมือทำสวนเล็กๆ ของแกตามความคิดฝันเดิมที่ตั้งไว้ แกคิดจะปลูกมะม่วงไว้กินก่อนเป็นอันดับแรก แต่ด้วยความตั้งใจมั่นผนวกกับความซื่อเสียจนใครๆ ได้ยินก็อดที่จะหัวเราะขำไม่ได้ อนามุไปซื้อมะม่วงจากรถที่เข้ามาขายสินค้าบนยอดดอยมากินถึง 20 กิโลกรัม หลังจากนั้นก็เอาเม็ดมะม่วงไปฝังดิน แล้วเฝ้าคอยให้มันแตกหน่อออกมาเป็นต้น

           มะม่วง 20 กิโลกรัมในครั้งนั้น แม้จะงอกออกมาให้แกได้ชื่นใจแค่ 5 ต้น แต่อนามุก็ไม่ท้อใจ หนที่สองอนามุไปขอพันธุ์มะม่วงจากหน่วยจัดการต้นน้ำห้วยน้ำรูมาปลูก แล้วไปเก็บมะม่วงป่ามาเป็นต้นตอ มิใยที่ใครจะทักท้วงว่าผิดวิธี เพราะมะม่วงป่านั้นจะทำกลิ่นมะม่วงพันธุ์ดีเสีย กลายเป็นมะม่วงป่าที่มีรสชาติฝาดเฝื่อน แต่อนามุก็ไม่ฟังเสียงทัดทาน แกเชื่อของแกว่ามะม่วงป่านั้นระบบรากดี ถ้าปลูกเป็นต้นตอก็จะทำให้ลำต้นแข็งแรงกว่าการปลูกด้วยกิ่งพันธุ์เฉยๆ

           หลังจากปลูกมะม่วงไปได้แล้ว 2 รุ่น อนามุก็เริ่มคิดที่จะปลูกต้นไม้อย่างอื่นลงในสวนของแกเพิ่มเติม แกจึงไปขอท้อพันธุ์ดีจากหน่วยส่งเสริมการเกษตรบนที่สูงมาต่อกับท้อพันธุ์พื้นเมือง จากนั้นก็ขยับขยายมาปลูกลิ้นจี่ บ๊วย และพืชผักสวนครัว ระหว่างที่อนามุค่อยๆ ปลูกต้นไม้ลงในสวนนั้น แกก็ยังต้องไปรับจ้างเป็นช่างตีเหล็กในหมู่บ้าน และบางครั้งบางคราวก็ลงไปจากดอยไปรับจ้างตัดแพให้นักท่องเที่ยวล่องแพที่ลุ่มน้ำแม่แตง เพื่อให้พอได้เงินมากินและเลี้ยงดูลูกทั้งสามคน ในขณะที่ต้นไม้ที่แกปลูกยังไม่ให้ผลผลิตใดๆ ขึ้นมา

    จากคุณ : จาปาตี - [ 29 พ.ย. 50 11:59:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom