PANTIP.COM : J6182854 เลี้ยงปลาอื่นคู่กับปลาอโรวาน่าเพื่ออะไรครับ [ปลาสวยงาม]

ความคิดเห็นที่ 3

ข้อดีประการแรกก็คือ...การที่มีปลาอื่นในตู้มีส่วนทำให้ปลา Arowana บางตัวว่ายดีขึ้น ไม่เครียด รวมทั้งปลา Arowana บางตัว เมื่อได้ว่ายไล่และข่มปลาอื่น ก็จะมีความรู้สึก”กร่าง” ทำให้ขับสีสันดีขึ้น ณ ระดับหนึ่ง

ปลา Arowana บางตัวมีพฤติกรรมกินไม่ดี หรือมีพฤติกรรม”จอด”นิ่ง ๆ อยู่ก้นตู้ การใส่ปลาอื่นเข้าไปว่ายในตู้ ก็มีส่วนแก้ไขพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้ และประเด็นนี้ก็เป็นประเด็นหลักไม่น้อยของผู้เลี้ยงหลายท่านที่ต้องมีปลาอื่นเลี้ยงร่วมอยู่ในตู้ด้วย

อย่างไรก็ตาม...ในประเด็นนี้ก็มีจุดหักมุมได้ด้วยเช่นกัน เช่นในตู้บางตู้ที่ปลา Arowana มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น จอดก้นตู้ หรือ ลอยตัวนิ่ง ๆ อยู่ผิวน้ำ และในตู้นั้นมีปลาอื่นอยู่ร่วมด้วย เช่น ตะเพียน (ซึ่งก็เป็นเพื่อนที่สามัญที่สุดแล้วสำหรับปลา Arowana) ในบางกรณีแค่ผู้เลี้ยงตักปลาตะเพียนออก ปลาก็เปลี่ยนพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ได้ในทันที จากปลาที่ว่ายไม่ดี ก็กลายเป็นปลาว่ายดีว่ายสวยสง่างาม จากปลาที่เคยจอดก็ไม่จอดอีกเลย จากปลาที่กินไม่ดีก็กลายเป็นปลาที่กินดีได้ในเวลาต่อมา

ประเด็นต่อไปก็คือ...เพิ่มความสวยงาม ผู้เลี้ยงบางท่านอาจจะรู้สึกว่า..การมีปลา Arowana ตัวเดียวว่ายในตู้ขนาดใหญ่นั้น รู้สึกว่าดูโล่ง ๆ ชอบกล และปลา Arowana ก็ว่ายแต่ผิวน้ำ ระดับพื้นตู้และกลางตู้ก็ดูโล่ง ๆ ชอบกล น่าจะมีปลาอื่นว่ายร่วมด้วยเพื่อเพิ่มความสวยงามของตู้ เป็นต้น

ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่องของความชอบของแต่ละคน ไม่มีใครถูกใครผิด

โดยปกติแล้วปลาที่ถูกเลี้ยงร่วมกับปลา Arowana เพื่อความสวยงามนั้น ในระดับก้นตู้ก็มักจะเป็นปลากระเบน แคทฟิตที่สวยงาม หรือปลาหมูอินโดที่มีขนาดใหญ่ ในส่วนระดับกลางตู้ก็มักจะเป็นปลาจำพวก ปลาตะเพียน ปลาหมอนกแก้ว เป็นต้น

ส่วนข้อดีหลัก ๆ อีกข้อหนึ่งก็คือ เพื่อใช้ประโยชน์จากปลานั้น ๆ ปลาแต่ละชนิดก็มีลักษณะเฉพาะ เช่น ปลาบางชนิดก็มีความไวต่อคลอรีนในน้ำ ปลาบางชนิดก็กินตะไคร่น้ำเป็นอาหาร เป็นต้น

อย่างกรณีปลาตะเพียน โดยพื้นฐานแล้ว ปลาตะเพียนเป็นปลาที่มีความไว(sensitive)ต่อคลอรีนมากกว่าปลา Arowana โดยเฉพาะอย่างยิ่ง....ปลาตะเพียนเผือกตาแดง ดังนั้นผู้เลี้ยงหลาย ๆ ท่านจึงมักจะมีปลาตะเพียนเผือกตาแดงไว้เป็นเพื่อนร่วมตู้กับปลา Arowana อันเป็นที่รักของผู้เลี้ยง เพื่อเป็นตัวเช็คว่าน้ำใหม่ที่ถูกเปลี่ยนถ่ายเข้าไปในตู้นั้นมีปัญหาเรื่องคลอรีนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม...ในจุดนี้ผมไม่แนะนำให้หวังพึ่งปลาตะเพียนเป็นตัวทดสอบคลอรีนในน้ำเป็นหลัก โดยความเป็นจริงและถูกต้องนั้น ผู้เลี้ยงควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำโดยการเติมน้ำใหม่ที่ปราศจากคลอรีน ไม่ว่าจะเป็นการพักน้ำเพื่อให้คลอรีนระเหย หรือการใช้เครื่องกรองคลอรีน

ปลาอีกชนิดที่นิยมเลี้ยงในตู้ปลา Arowana ก็คือ..ปลาหงส์(semaprochilodus insignis) ...หรือที่นิยมเรียกกันว่า”ปลาอินซีเน็ต” เหตุผลที่นิยมก็เพราะปลาชนิดนี้สามารถกินตะไคร่ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นตู้และผนังตู้ ทำให้ผู้เลี้ยงที่ไม่ชอบตู้ที่มีตะไคร่เกาะเบาแรงในการขัดทำความสะอาดตู้ไปได้ ณ ระดับหนึ่ง

จริงอยู่..หน้าตู้กระจกนั้นผู้เลี้ยงสามารถใช้แม่เหล็กขัดกระจกขัดได้ แต่ตำแหน่งก้นตู้และด้านหลังของตู้ ถ้าผู้เลี้ยงไม่ชอบให้มีตะไคร่เกาะก็ต้องขัดเองโดยการเปิดฝาตู้ แล้วใช้มือหรือไม้ขัดช่วย แต่ถ้ามีปลาหงส์...ปัญหานี้ก็แทบจะหมดไป

อย่างไรก็ตาม...ก็มีปลาหงส์บางตัวที่ขี้เกียจ เรียกว่าเป็นแม่บ้านที่ใช้ไม่ได้ นั่นคือไม่คอยกินตะไคร่ตามผนังตู้และพื้นตู้ แต่กลับรอกินแต่อาหารเม็ดหรือไส้เดือนน้ำอันเป็นอาหารหลักนั่นเอง

นอกจากปลาหงส์แล้ว ก็ยังมีปลาน้ำผึ้งที่สามารถกินตะไคร่ได้เช่นกัน ในอดีต ปลาอีกชนิดที่นิยมเลี้ยงเพื่อใช้ประโยชน์จากการกินตะไคร่เป็นอาหารก็คือปลาซัคเกอร์นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะไม่สวยงาม รวมทั้งปลา Arowana บางตัวมีอาการหน้าปูดคล้ายกับมะระ อันมีสาเหตุมาจากการที่ปลา Arowana ตัวนั้น ๆ แพ้เมือกของซัคเกอร์ (ขอย้ำว่าอาการแพ้เมือกซัคเกอร์นั้น ไม่ใช่เป็นกับปลา Arowana ทุกตัว แต่เป็นกับปลา Arowana บางตัวเท่านั้น)

และหนึ่งในเหตุผลหลัก ๆ ที่ผู้เลี้ยงหลายคนนิยมเลี้ยงปลาอื่นร่วมตู้กับปลา Arowana ก็คือ ใช้เก็บเศษอาหารตามก้นตู้ ปลา Arowana บางตัวมีนิสัยไม่กินอาหารก้นตู้ และผู้เลี้ยงก็ไม่อยากจะฝึก ในกรณีนี้การที่ผู้เลี้ยงมีปลาที่กินง่าย ๆ เช่น ปลาตะเพียน ปลาหมอนกแก้ว ปลาเหล่านี้ก็จะช่วยกินเศษอาหารที่ตกตามก้นตู้ ทำให้ผู้เลี้ยงไม่ต้องคอยตักเศษอาหารที่ปลา Arowana ตัวโปรดไม่ยอมกิน

ทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีหลัก ๆ ของการมีปลาอื่นร่วมตู้กับปลา Arowana ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เลี้ยงก็ควรจะพิจารณาถึงจำนวนปลาที่เลี้ยงรวมอยู่ในตู้ด้วย ถ้าผู้เลี้ยงมีจำนวนปลาที่มากเกินไป แทนที่จะช่วยเก็บกินเศษอาหารก้นตู้ ซึ่งเป็นข้อดี กลับกลายจะเป็นภาระ เพราะต้องค่อยให้อาหารแก่ปลาร่วมตู้จำนวนมาก รวมทั้งขาดความสวยงาม เพราะว่ายกันยั้วเยี้ย ทำให้ไม่เห็นความสวยงามในท่วงท่าของปลา Arowana อย่างชัดเจน

จุดหนึ่งที่ผมต้องย้ำให้ผู้เลี้ยงทุกท่านควรพิจารณาก็คือ...เราต้องทราบจุดมุ่งหมายในการเลี้ยงปลา Arowana ของเรา ถ้าจุดมุ่งหมายของเราคือการเลี้ยงปลา Arowana เป็นปลาหลัก ส่วนปลาอื่นนั้นเป็นเพียงแค่ปลาเสริม ดังนั้นการเลี้ยงปลาอื่นร่วมด้วยหลาย ๆ ตัวในตู้ก็ย่อมแตกต่างกับตู้ปลาหมอสีมาลาวี ซึ่งในนั้นก็จะมีปลาหมอสีหลากหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้มีปลาไหนเด่นเป็นพิเศษหรือเด่นชัด

ถ้าผู้เลี้ยงสนุกกับการเพิ่มปลาไปเรื่อย ๆ ในตู้ จากตู้ที่มีปลา Arowana เป็นปลาเด่นหลักในตู้ ก็จะกลายเป็นตู้ที่มีปลาว่ายเต็มตู้ยั้วเยี้ย โดยที่ปลา Arowana ตัวโปรดของเรา...ไม่ได้มีความเด่นอะไรเลย ตรงนี้ต้องระวังก่อนที่จะผิดจุดประสงค์ไปในที่สุด

รวมทั้งต้องรับความเสี่ยงเวลาไฟดับหรือระบบกรองมีปัญหา และตู้ปลาที่หนาแน่นก็ย่อมต้องการการดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำที่มีความถี่และปริมาณมากกว่าตู้ที่มีปลา Arowana ตัวเดียว หรือ ปลาอื่นร่วมตู้เล็ก ๆ น้อย ๆ

ท้ายที่สุด...ตู้ที่มีปลาหนาแน่นนั้น...ปลาในตู้จะมีความเครียดมากกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสที่จะป่วยได้ง่าย

ไม่ใช่แค่ปริมาณ ชนิดของปลาร่วมตู้ก็ต้องพิจารณาด้วย ปลาที่ก้าวร้าวก็ย่อมมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของปลา Arowana ตัวโปรดของเรา ปลา Arowana บางตัวต้องมีริ้วรอยตามตัว หรือหางแตก หรือเหงือกอ่อนฉีกขาดได้ ถ้าปลาที่เราเลี้ยงร่วมด้วยมีความก้าวร้าว

และอย่างที่ผมได้บอกไว้ในตอนต้นว่า...ปลา Arowana นั้นจะขับสีเข้มขึ้นถ้าได้”ข่ม”ปลาอื่น แต่ถ้าปลา Arowana ของเราถูกปลาอื่นข่ม แทนที่จะเห็นปลา Arowana มีสีสันเข้ม เรากลับจะได้เห็นปลา Arowana ของเราสีสันหม่นหมอง ไม่เข้มสดใส รวมทั้งลักษณะการว่ายที่ไม่สง่างามเท่าที่ควร

อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการเลือกชนิดของปลาร่วมตู้ก็คือ...ลักษณะการใช้ชีวิต และอาหารการกิน ปลาที่เลี้ยงร่วมด้วยก็ควรจะเป็นปลาที่ว่ายกันคนละระดับน้ำ และอาหารที่ปลากินก็ไม่ควรจะแตกต่าง ไม่ใช่ว่าเราต้องไปหาอาหารชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ไรทะเล ซึ่งปลา Arowana ตัวใหญ่ของเรา ไม่ได้กินเป็นอาหารเลย

ท้ายที่สุดก็คงจะเป็นขนาดและอัตราการเจริญเติบโตของปลาร่วมตู้ก็ควรจะมีอัตราเดียวกับปลา Arowana ของเรา ปลาบางชนิดโตช้ามาก รวมทั้งขนาดเมื่อโตเต็มที่กี่ไม่ใหญ่เพียงพอก็ไม่สมควรเลี้ยงรวมกับปลา Arowana เพราะท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นอาหารของปลา Arowana อยู่ดี เช่น ปลาจูบ..แม้จะกินตะไคร่ตามผนังตู้ได้ แต่ก็มีขนาดโตเต็มที่ไม่ใหญ่ ดังนั้นจึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงร่วมกับปลา Arowana

หรือปลาบางชนิดโตได้เร็วมาก และตะกละ เช่น Red tail catfish ในกรณีนี้ถ้าผู้เลี้ยงซื้อปลาขนาด 6 นิ้วมาเท่ากันคือ..ทั้งปลา Arowana และปลา Red tail catfish ในไม่ช้า..ผู้เลี้ยงก็จะเห็นแต่ปลา Red tail catfish เพียงตัวเดียวในตู้ เพราะเจ้านี้..กินเก่ง โตเร็ว พร้อมที่จะกินทุกอย่างที่เข้าปากได้

(คัดลอกมาจาก...นิตยสารปลาสวยงาม AQUA)

จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 50 11:01:45 ]