ความคิดเห็นที่ 1 ข้อสำคัญ คือ อุปสรรคจากภายใน เช่น ความท้อแท้ ท้อถอย ซึ่งมักเกิดจากการจดจ่ออยู่กับความสำเร็จที่ยังอยู่อีกไกล จนลืมมองไปว่าทุกขณะก็มีความก้าวหน้าอยู่แล้ว  หากเราจดจ่อกับจุดหมายข้างหน้าให้น้อยลง และใส่ใจกับงานที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน ชื่นชมกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นทุกขณะ เราจะมีกำลังใจมากขึ้น ในการเดินทางไกลนั้น ถ้าเรามัวแต่นึกถึงเป้าหมาย จะรู้สึกอึดอัด เพราะใจเอาแต่บ่นว่าเมื่อไหร่จะถึง แต่ถ้าหันมาชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทาง เราจะเพลิดเพลินกับการเดินทาง และรู้สึกว่าถึงเป้าหมายได้ในเวลาไม่นานัก ปล. รูปนี้ก็น่ารัก (ขออนุญาตแม่ละมุนนะคะ) แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 51 12:04:24 จากคุณ : chaosy - [ 25 ม.ค. 51 11:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 บ่อยครั้งเราทุกข์เพราะคอยเปรียบเทียบกับคนอื่น โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่เก่งกว่าหรือทำได้มากกว่าเรา ลองพิจารณาดูว่าที่ทุกข์นั้นเป็นเพราะอิจฉาเขาหรือไม่ ที่จริงน่าจะยินดีที่เขาทำได้ดี เพราะนั่นหมายความว่าประโยชน์จะเกิดแก่ส่วนรวมได้มากขึ้น งานของกลุ่มจะก้าวหน้ามากขึ้น ความยินดีเมื่อคนอื่นทำดีหรือดีกว่านั้นเรียกว่ามุทิตา มุทิตาเมื่อเกิดกับใครย่อมทำให้เขามีความสุข และเป็นตัวป้องกันจิตไม่ให้รุ่มร้อนเพราะความอิจฉา บางครั้งความทุกข์ก็เกิดเพราะไม่มีใครเห็นความดีของเรา ที่จริงคนเราเมื่อได้ทำความดี ก็มีความสุขอยู่แล้วในตัว เช่นเดียวกับดอกไม้ที่มีความสุขเมื่อได้เบ่งบาน จะมีคนเห็นหรือไม่ดอกไม้ไม่เคยสนใจ ขอเพียงแต่ได้สยายกลีบก็สุขใจแล้ว เป็นความสุขเนื่องจากพลังสร้างสรรค์ภายในได้เบ่งบานออกมา และเป็นความสุขที่ได้ช่วยแต่งแต้มโลกให้งดงาม จากคุณ : chaosy - [ 25 ม.ค. 51 11:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ความดีงามในใจเราก็เช่นกัน เพียงได้เปล่งประกายออกมาสู่โลกภายนอกก็เป็นสุขแล้ว แม้จะไม่มีใครรับรู้ก็ตาม การสนใจคนภายนอกต่างหากที่กลับจะทำให้มีความทุกข์ เพราะทำให้เกิดความห่วงกังวล จริงอยู่คำชื่นชมจากคนรอบข้างอาจทำให้เกิดความพอใจ แต่เมื่อมีคำชื่นชนแล้ว มีหรือที่ไร้คำตำหนิ ใครที่เป็นสุขเพราะคำชม ก็ย่อมเป็นทุกข์เมื่อถูกตำหนิ ถ้าไม่อยากเป็นทุกข์เพราะคำตำหนิ ก็อย่าหลงใหลได้ปลื้มเมื่อมีคนชม เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ทำดีจะมีคนเห็นหรือไม่ ก็มิใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป จากคุณ : chaosy - [ 25 ม.ค. 51 12:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การทำความดีถ้าจะให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่แล้ว ควรก่อให้เกิดทั้งประโยชน์ท่านและประโยชน์ตน กล่าวคือนอกจากคนอื่นจะได้รับประโยชน์แล้ว เราก็พลอยได้รับอานิสงส์ด้วย อานิสงส์นั้นไม่ใช่แค่ความสุขจากการทำดีเท่านั้น ที่สำคัญก็คือได้ลดละกิเลศ ความเห็นแก่ตัว หรือความยึดถือในตัวตน เกณฑ์วัดความสำเร็จในการทำงานเพื่อส่วนรวมประการหนึ่งก็คือ ตัวตนเล็กลง หรือปล่อยวางได้มากขึ้น นึกถึงตัวเองน้อยลง ใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น ยิ่งปล่อยวางตัวตนได้มากเท่าไร ก็มีความทุกข์น้อยลงและมีความสุขได้ง่ายขึ้น แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ก็รับฟังได้โดยไม่โมโหโกรธา ถึงมีคนสรรเสริญก็ไม่หลงระเริง เมื่อถึงตอนนั้น การทำความดีโดยไม่มีคนรู้จัก กลับเป็นเรื่องง่ายดายและน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : chaosy - [ 25 ม.ค. 51 12:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากหนังสือ "เมื่อดอกไม้บานสะพรั่งทั้งแผ่นดิน" พระไพศาล วิสาโล จากคุณ : chaosy - [ 25 ม.ค. 51 12:03:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สาธุ...พระคุณเจ้า ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากค่ะ จากคุณ : แม่หนูดี (kantakart) - [ 25 ม.ค. 51 12:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีมากๆเลย ขอบคุณคะ จากคุณ : แม่ไมกี้ (won.p) - [ 25 ม.ค. 51 13:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ซึ้งค่ะ จากคุณ : pyramidas - [ 25 ม.ค. 51 15:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยทุกอย่าง  ขอให้ทุกคนที่ช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ได้รับอานิสงค์แห่งบุญอย่างทั่วถึงทุกคนด้วยนะคะ จากคุณ : SnOw BunnY - [ 25 ม.ค. 51 19:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณก๊าบ จากคุณ : จ็อบ - [ 26 ม.ค. 51 02:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นาน ๆจะได้อ่านธรรมะตอนรุ่งสาง ..รู้สึกดีจังค่ะ แม่น้องเท็ดดี้ อิอิ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : babbbirdbird - [ 26 ม.ค. 51 03:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ น้องเจ๋งรูปนี้น่ารักสุดๆ เลยคะ เห็นเลยว่าเธอน่ะไม่ธรรมดา...he he he คุณจ๊อบ โปรเจคไปถึงไหนแล้ว น่าจะมีการจับมือกับคนทำงานอาสาในห้องนี้ แล้วก็โคโปรเจ็คกันเลยนะคะ เพราะทางนี้น่าจะให้คำแนะนำได้หลายอย่าง ว่างๆ โทรหาเรานะคะ เราไม่มีเบอร์คุณ ถ้าอยากรู้ว่าเราเป็นใคร เข้าไปในบล็อกเรา หรือว่าไปถามเพื่อนๆ ที่ทำงานคุณ (mk)ก็ได้ อิอิ     หวัดดีค่ะทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม   kantakart แม่ไมกี้ (won.p)   pyramidas   SnOw BunnY แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 51 05:53:42 จากคุณ : chaosy - [ 26 ม.ค. 51 05:52:53 ]