ความคิดเห็นที่ 1 เดินทางจากกรุงเทพ ถึงกรุงมนิลา ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ค่ะ พอเครื่องลง หันไปเห็นชื่อเครื่องบิน  .. อะฮ้า.... ชื่อ นครนายก ซะด้วย บ้านเราพอดีเลย จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 13:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ้าว.. เล่าเลยไป เครื่องจอดซะแล้ว ก่อนเครื่องลง จะให้เห็นภาพมนิลาว่า บ้านเรือนแน่นขนัดมากๆๆๆๆๆๆ กรุงเทพยังพอมีอากาศหายใจมากกว่านะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 13:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลงเครื่องแล้วมาพักที่ในมนิลาคืนนึงค่ะ เช้าวันรุ่งขึ้นก็นั่งรถไปบาเกียว ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศทางเหนือของมนิลา อยู่บนเกาะลูซอนเหมือนกันค่ะ   ระยะทางมนิลา-บาเกียว ประมาณ 250 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะถนนแคบมาก แถมมีสามล้อวิ่งสวนไปๆมาๆ ตลอดทางค่ะ มิชชี่เห็นว่าระบบชลประทานที่นี่น่าจะมีปัญหา น้ำในลำธารระหว่างทาง แห้งมากเลย จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 13:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่นี่เขานิยมทำนากันเหมือนบ้านเราค่ะ แต่สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขา ทำให้มีนาขั้นบันไดจำนวนมาก ที่แยะๆ และสวยๆ เป็นมรดกโลก ก็ต้องไปที่ บานาเว่ (Banaue) ภูเขาเป็นลูกๆ เลย สวยมากๆ ค่ะ มิชชี่เคยไปมาแล้ว แต่นั่งงรถกันก้นแฉะเลย 11 ชั่วโมงแน่ะจากมนิลา (ถ่ายจากบนรถ) จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นั่งรถกันมากราวๆ หกชั่วโมงก็เข้าเขตบาเกียวแล้ว อากาศเย็นเลยค่ะ บาเกียวเป็นเมืองบนภูเขา  ดูไกลๆ หุบเขามีภูมิประเทศคล้ายๆ ยุโรปเลย อากาศก็ใช่เลย เสียแต่บ้านเรือนบนนั้นอะดิ....เน่ามากๆ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นี่คือวิวภูเขามุมที่ไม่มีบ้านเรือน เทียบกะรูปข้างบน เห็นไหมว่า ความเจริญที่ขาดการจัดการที่ดี ทำให้สภาพแวดล้อมดีๆ มันเสียไปหมด จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่พัก คือ Camp John Hay Manor เป็นรีสอร์ตบนเขา เป็นสถานที่จัดประชุมด้วยล่ะค่ะ หากไปเมืองนี้ ก็จะแนะนำให้พักที่นี่เพราะว่าปลอดภัย และสะดวกสบายดีค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาชมดอกไม้ในรีสอร์ตกันหน่อย พอดีไม่ค่อยถนัดชื่อดอกไม้อะค่ะ คงต้องรบกวนผู้รู้มาชี้แนะด้วย มิชชี่ถ่ายมาฝาก สีมันสวยดี จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดอกนี้ เคยเห็นในกระถาง ตามร้านดอกไม้ ที่นี่เขาลงเป็นกอเลยค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในเมืองบาเกียว มีต้นสนเยอะแยะเลย เป็นเมืองกลางป่าสนค่ะ เขาเลยเรียกเมืองนี้ว่า City of Pine จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วันแรกไปถึง ยังไม่ได้ประชุมอะไร เลยนั่งแท้กซี่ออกไปชมตลาด ที่นี่เขาเป็นแท้กซี่มิเตอร์แล้ว ดีเหมือนกัน แต่ก่อนต่อรองราคาก็นเหนื่อย ตอนนี้มีมิเตอร์ ค่าแท้กซี่ราวๆ 50 เปโซ ก้ถึงตลาดค่ะ ตรงนี้ เขาขายส้มพื้นเมือง ที่เขียวๆ นี้เขาเรียก ดาลันดัน Dalandan เป็นเหมือนส้มเขียวหวานเรา แต่กลิ่นเหมือนส้มจุก มิชชี่เอาเม็ดมาปลูก ไม่รู้จะขึ้นหรือเปล่า ส่วนที่สีส้มๆ คือส้มลูกเล็กของจีน ที่ตอนนี้บ้านเราขายกันตรึม จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาดูคุณยายขายปลา ดูๆ คล้ายปลาทู แต่ไม่ใช่ ไม่รู้เขาเรียกปลาอะไร  ท่าทางจะขายดี จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนปลาที่แบๆ ขาวๆ นี่คือปลา Bangus หรือ บางงุส เรียกอีกชื่อว่า Milk Fish เป็นปลาที่ก้างเยอะมากกกกกกกกกก แต่คนปินส์ เขารู้วิธีถอดก้างปลาชนิดนี้  ไม่งั้นไม่มีคนกิน เวลาขายปลาที่ถอดก้างแล้ว จะเป็นแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ ปลาชนิดนี้เป็นปลาเศรษฐกิจ เขาทำออกมาเป็นปลารมควัน Smoke Bangus ก็มี ปลาสดแช่แข็งก็มี  เป็นสินค้าส่งออกไปหลายประเทศค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดอกไม้พื้นเมืองที่นี่ค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อันนี้มะนาวพื้นเมือง หรือ คาลามันซี่ Calamansi ลูกเล็กๆ เหมือนส้มจี๊ด  ทานกับอาหารพื้นเมืองเช่น Sisig อร่อยดี ชงน้ำแบบน้ำมะนาว ก็อร่อยค่ะ แต่เอามายำ หรือตำส้มตำไทยๆ ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ราคาจำหน่าย ลิตรละ 30 เปโซ ในตลาดนี้ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาดูไส้กรอกอิสานที่นี่ สีแปร๊ดดดด มาก จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไส้กรอกอิสานที่นี่ เรียก ลองกานิสซ่า Longanisa คล้ายๆไส้กรอกอิสานบ้านเรา แต่ว่าไม่เปรี้ยวอะค่ะ รสจืดๆ เค็มๆ เวลาทาน มิชชี่ชอบบีบคาลามันซี่นิดหน่อย ทานกะพริกขี้หนู จะได้รสชาติเหมือนของบ้านเรา จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หอมกระเทียมที่นี่เขาขายกันสดๆ เลยค่ะ ไม่ตากแห้งแบบบ้านเรา จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผักอื่นๆ ก็เหมือนบ้านเราค่ะ แต่มะระ กะ ถั่วฝีกยาวเขาเขียวมากๆๆ ดูไม่น่าทานแบบของเรา จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ปลาคล้ายๆ ยี่สก แต่เขาเรียกอะไรไม่รู้ ถามแล้วจำไม่ได้อะค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Tilapia ตรงกับปลาตะเพียน หรือปลาสลิด บ้านเราค่ะ ที่นี่เขาเรียกคำเดียวกัน แต่ของเราเรียกไม่เหมือนกัน ที่นี่นิยมทานกันมาก จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 14:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หัวมันสีม่วง หรือ Ube เป็นมันหอมสีม๊วงม่วงของที่นี่ เอามาแปรรูปเป็นแยม เป็นไอติม และ เป็นสารพัดขนมที่เป็นสัญญลักษณ์ของที่นี่ค่ะ อะไรม่วงๆ ให้เดาว่าเป็นรส "อุเบะ" ก่อนเลย จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาฟิลิปปินส์ ก็ต้องเห็นมะม่วง เขาเรียกมะม่วง คาราบาว ถ้าสุกจัดๆ จะหวานมาก แต่ถ้าบ่มจะไม่หวานเลย เสี้ยนน้อย และเป็นผลไม้ส่งออกอันดับหนึ่ง พอๆ กับกล้วยหอม จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาดูร้านขายของชำที่นี่ค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นี่คือขนมยอดนิยม ที่เห็นม่วงๆ คือ Ube Jam หรือมันสีม่วงกวน ส่วนเหลืองๆ คือคัสตาร์ดไข่ ที่นี่เรียก Lyche Flan ค่ะ เอามาใส่น้ำแข็งไส ราดนม แล้วใส่ลูกชิดกะวุ้นมะพร้าวหน่อย ก็เป็นขนมอร่อยของที่นี่ได้ค่ะ เขาเรียกน้ำแข็งไสที่ว่านี้ว่า Halo-Halo ค่ะ อร่อยจริงๆ นะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 15:34:06 จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ร้านขายขนมที่ระลึกค่ะ ที่นิยมก็มีถั่วตัด  แยมสตอเบอรี่ แยมมันสีม่วง คุ้กกี้ลิ้นแมว (lengua) และกะละแม คุณป้าคนนี้แกนำเสนอใหญ่เลย จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาบาเกียว ขาดไม่ได้คือสตอเบอรี่ค่ะ พอดีไปช่วงที่สตอเบอรี่กำลังออก เลยมีขายเต็มไปหมดเลย จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ออกจากตลาด พาไปเที่ยวไร่สตอเบอรี่ดีกว่า นั่งแท็กซี่ไป ไม่ไกลค่ะ แต่รถติด จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 15:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มารอชมภาพสวยๆและเรื่องเล่าดีๆ ต่อค่ะ...ขอบคุณคุณมิชชี่นะคะ... ถ่ายภาพสวยเหมือนเคยค่ะ (รถติด จริงๆด้วย...หนังเลยขาดตอน...) จากคุณ : แมกไม้ไทย - [ 4 ก.พ. 51 16:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วิวข้างทาง จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 16:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เน็ตแจมอะค่ะ คุณแมกไม้ โพสต์ไม่ขึ้นเลย มาชมไร่สตอเบอรี่กันต่อนะคะ เขาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลย ให้คนมาเก็บสตอเบอรี่เองได้ด้วย  คิดกิโละ 200 เปโซ ตะกร้าใบละ 20 เปโซ ถ้าไม่เอาตะกร้าก็ได้  แต่มันจะไม่เหมือนสาวน้อยในไร่สตอเบอรี่อะดิ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ที่นี่เขาปลูกแบบยกร่อง หุ้มพลาสติกด้วยค่ะ น่าจะกันแมลงได้พอควร จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ระหว่างร่อง ไม่ให้เสียเปล่า ลงผักสลัดไว้อีกต่างหาก จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบร่องก็ลงต้นหอม หรือ ต้นกระเทียม ไว้น่ารักเลย เป็นเหมือนรั้วกลายๆ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 พี่Michy    ไม่บอกราคา สินค้า  ของประเทศฟิลิปินส์บ้างหรอครับ     ว่าแต่  ส้มจีนลูกเล็กๆ  ถ้าซื้อยกลัง  น้ำหนัก 2.8 กิโล  ราคา 120 บาท                                                         8 กิโล     ราคา 300 บาท                                               ขายปลีกน่าจะ กิโลละ    50 บาท ปล. รอชมต่อ อิอิ จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 4 ก.พ. 51 17:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดอกสตอเบอรี่ เอามาให้ดูอีกทีค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จบแล้วค่ะ ขากลับขึ้นเครื่องบินกลับ ลำแค่นี้เองง่ะ เวลาตกหลุมอากาศที สวดมนต์ไม่ถูกเลย ฮือๆ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ให้ดูความไฮเทคของสนามบิน  เอิ้กๆ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ราคาสินค้า เท่าทีหามาได้ เอามาฝากคุณ ญี่ปุ่นค่ะ อันนี้ พวกขนมที่ระลึก แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 17:23:52 จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 40 นี่คือไวน์สตอเบอรี่ ราคาไม่แพง จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ราคาไม้กวาด จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ราคากะละแม จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จบค่ะ จากคุณ : Michy - [ 4 ก.พ. 51 17:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณคับ  ....ที่เอามาเผยแพร่ รอชมต่อภาค 2 นะคับ   พี่ ญี่ปุ่น35 อยากชมตอนไปฝึกงานที่ ญี่ปุ่น คับ  จัดด่วน  ๆๆๆ.....รอชมคร๊าบบบบบบบบ..... จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 4 ก.พ. 51 18:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เกือบตกเครื่อง..... น่าชมมาก  แต่....ยังไง้ๆๆๆๆยังไงๆๆๆๆๆ ก็สู้บ้านเราไม่ได้นิ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เฟื่องฟ้าสาวิตรี - [ 5 ก.พ. 51 00:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 46 นี่แหละค่ะที่เราอยากเห็นเวลาไปเที่ยวเมืองนอกค่ะ เราชอบเที่ยวแบบนี้ค่ะ ขอบคุณจขกท.มากๆค่ะ จากคุณ : quilt - [ 5 ก.พ. 51 00:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เยี่ยมเลย ได้เห็น ได้รู้ว่าต่างประเทศเขาไปกันถึงใหนแล้ว ขอบคุณมากนะครับ รอชมภาคต่ออีกนะครับ     จากคุณ : ดอกไม้ทะเล - [ 5 ก.พ. 51 07:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ภาพสวยครับ เรื่องน่าสนใจ ขอบคุณครับ จากคุณ : MR.PJ - [ 5 ก.พ. 51 13:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แล้วคุณมิชชี่ซื้ออะไรมาฝากเพื่อน ๆ บ้างค่ะ  (ล้อเล่น) จากคุณ : ธัมมะระตี - [ 5 ก.พ. 51 18:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่มีโอกาสได้ไป แต่ได้อ่านเรื่องราวของคุณแล้วเหมือนได้ไปด้วยตนเอง ขอบคุณสำหรับทริปดีๆ ครับ จากคุณ : ตะวันส่อง - [ 5 ก.พ. 51 22:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาแล้ววว เหมือนได้ไปเที่ยวปินส์ด้วยตัวเองเลย  เอาเรื่องราวดีๆ อย่างนี้มาเล่าอีกค่ะ  จะรอชม ทั้งคำบรรยาย และรูปภาพ แจ่มมากค่ะ พ่อบ้านดิฉันบอก ที่บาเกียวนี่ เมื่อก่อนสวยกว่านี้เยอะ เมื่อก่อนคนรวยอยู่  แต่เดี๋ยวนี้ดู แต่คงเป็นเพราะ ประชากรหนาแน่น เลยดูแออัด  ที่นี่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งไม่เชื่อในเรื่องการคุมกำเนิด  ประชากรเยอะเหลือเกิน   ทิวทัศน์สวยงามดีค่ะ  แต่บ้านเรือนไม่เป็นระเบียบเลยน๊อ  แถมที่บาเกียวนี่ เป็นเมืองที่ฝนตกมากที่สุดใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ความชื้นสูง  เลยทำให้บ้านเรือนเป็นเชื้อราได้ง่าย  ไม่แปลกใจเห็นภาพอาคารบ้านเรือนเน่าอย่างคุณมิชชี่ว่าเลย จากคุณ : Farm Girl in High Sierra - [ 6 ก.พ. 51 04:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ สนุกมากๆ ครับ จากคุณ : นายทิว - [ 6 ก.พ. 51 12:58:14 ]