ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้ช่วงเย็นๆราวๆ 5 โมงเย็น ขณะที่ผมกำลังรดน้ำกล้วยไม้อยู่ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนจะหน้ามืด รู้สึกมึนศรีษะ เหงื่อออกมากผิดปรกติ ทั้งๆที่อากาศตอนนั้นก็ไม่ได้ร้อนเท่าไหร่ รู้สึกหายใจลำบาก และ มีอาการคลื่นไส้ ทั้งๆที่ร่างกายผมเองก็แข็งแรงดี หลังจากรดน้ำ กล้วยไม้เสร็จ ผมต้องรีบกลับเข้าห้องมานอนพักทันที หลังจากนอน ไปได้สักพักถึงเวลาทานอาหารเย็น อาการก็ยังไม่ดีขึ้นครับ แม่เรียก ไปทานอาหารแล้ว แต่ผมตักเข้าปากได้คำสองคำก็รู้สึกว่ากินไม่ลง (ต้มยำกุ้งรสแซ่บด้วย...) เลยกลับเข้ามานอนพักต่อครับ เพิ่งรู้สึกดีขึ้น ก็ตอน 3 ทุ่มกว่าๆนี่ละครับ หลังจากที่ลองวิเคราะห์ดูว่าที่ผมเป็นเกิดจาก อะไร โดยลองคาดเดาสาเหตุจากอาหารที่กินเข้าไปก็พอจะทราบต้นเหตุ ของอาการดังกล่าวนี้แล้วครับ นอกจากส้มที่มีทานปรกติทุกวัน ของกินเล่นตอนบ่ายวันนี้ที่ผมทานเข้าไป ก็คือ "ถั่วทอด" ถ้าเป็นถั่วทอดเฉยๆคงไม่แปลกเท่าไหร่ครับ เพียงแต่ว่า ถั่วทอดร้านนี้ที่มีคนซื้อมาฝากเค้าใส่ "กลอย" ลงไปด้วยครับ... ปล.ตอนแรกผมกะจะเขียนเรื่องนี้ให้เสร็จตั้งแต่เมื่อคืน แต่พอนั่งเขียนได้ ไม่นานเท่าไหร่ก็มึนศรีษะอีกแล้วครับ เลยต้องไปนอนต่อ แล้วตื่นมาเขียน จนจบตอนเช้านี่เองครับ ภาพจาก http://www.doa.go.th/botany/gloy.html จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะอะไรผมถึงสันนิฐานว่าเป็นเพราะกลอย ลองมาทำความรู้จักกับ เจ้ากลอยกันก่อนดีกว่าครับ ข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร กองพฤษศาสตร์และวัชพืช กลอยเป็นพืชแป้งชนิดหนึ่งซึ่งนิยมบริโภคมาตั้งแต่สมัยโบราณ จัดเป็นพันธุ์ไม้ล้มลุก ที่ชาวบ้านรู้จักกันดี เนื่องจากทำเป็นอาหารได้หลายรูปแบบ เช่น กินแทนข้าวนึ่งปนกับ ข้าวเหนียว ทำเป็นข้าวเหนียวกลอยหน้ากะฉีด หน้าสังขยาหรือโรยน้ำตาลป่นปนกับงา ก็อร่อย หรือจะหั่นกลอยเป็นชิ้นบางๆนำไปชุบแป้งทอดกินแบบกล้วยแขกฉาบน้ำตาล กินแบบกล้วยฉาบก็รสชาดไม่เลว โดยทั่วๆไปเมื่อนำหัวกลอยมาปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นบางๆพบว่า สีของเนื้อกลอยจะ แตกต่างกันออกไป คือมีคั้งแต่สีขาวนวลจนถึงเหลืองเข้ม ทางกลุ่มงานพฤกษศาสตร์ กองพฤกษศาสตร์และวัชพืชได้แบ่งกลุ่มพืชสกุลกลอยออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะ การเลื้อยพันไม้ใหญ่อื่นๆ คือลักษณะที่พืชพันไปทางซ้าย (ทวนเข็มนาฬิกา) และ พันไปทางขวา(ตามเข็มนาฬิกา) ส่วนชาวบ้านจะแบ่งง่ายๆตามลักษณะของลำต้นและตามสีในเนื้อหัวกลอย กล่าวคือ กลอยข้าวเจ้าจะมีลักษณะของเถาและก้านใบสีเขียว ส่วนกลอยข้าวเหนียวมีเถาสีน้ำตาล อมดำ ลักษณะใบของกลอยทั้งสองชนิดมี 3 แฉกคล้ายใบถั่ว เส้นใบถี่ส่วนเถาจะมี หนามแหลม ตลอดเถาดอกออกเป็นช่อมีดอกย่อยดอกเล็กๆสีขาวจำนวนมาก หัวกลอย จะฝังในดินตื้นๆ มีหลายหัวติดกันเป็นกลุ่ม เท่าที่พบมีตั้งแต่ 3 หัวถึง 14 หัวใน 1กอ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหัวกลอยวัดได้ตั้งแต่ 2.5 ซม.ถึง 25 ซม. ภาพจาก http://admin.pha.nu.ac.th/toxic_plant/dioscorea_hispida.html จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลอย ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dioscorea hispida  Dennst. var. hispida ชื่อพ้อง : D. hirsuta  Blume วงศ์ :  Dioscoreaceae ชื่อสามัญ : Intoxicating yam, Nami, Wild yam ชื่ออื่น :  กลอยข้าวเหนียว กลอยหัวเหนียว (นครราชสีมา) กลอยนก กอย (ภาคเหนือ) คลี้ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) กลอยเป็นไม้ลงหัว ชอบขึ้นตามที่โปร่งๆป่ารกร้างและไหล่เขาทั่วๆไปที่มีดินร่วยซุย พบมากทางเหนือของเทือกเขาหิมาลัย พม่า ไทย จีน กัมพูชา เวียดนามลาวและ มาเลเซีย กลอยมีลักษณะลำต้นเรียวมักเลื้อยพันต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง กลอยเป็นไม้วงศ์ DIOSCOREACEAE ชื่อวิทยาสาสตร์คือ Dioscorea hispida Dennst. มีชื่อพื้นเมืองต่างๆเช่น กลอย มันกลอย กลอยข้าวเหนียว กลอยหัวเหนียว ก๋อย นกกอย หัวกลอย และกลอยนก เป็นต้น เมื่อนำหัวกลอยมาปลอกเปลือกและหันเป็นแว่นบางๆ จะพบว่า กลอยข้าวเจ้าจะมีเนื้อสีขาวนวลและเนื้อหยาบกว่ากลอยข้าวเหนียวซึ่ง มีสีเหลืองอ่อมถึงเหลืองเข้ม(สีทอง) และเนื้อเหนียว กลอยข้าวเหนียวจะมีรสชาดดีกว่า กลอยข้าวเจ้าซึ่งมีเนื้อร่วยซุย ฉะนั้นชาวบ้านหรือเกษตรกรจึงนิยมรับประทาน กลอยข้าวเหนียวมากกว่ากลอยข้าวเจ้าเพราะคุณสมบัติดีกว่าดังกล่าว แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 05:41:33 จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อมูลจาก ฐานข้อมูลพืชพิษ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สารพิษของกลอย พืชในสกุล Dioscorea จะมีสารพิษ คือ dioscorine ในปริมาณที่แตกต่างกัน แล้วแต่ species ในหัวกลอยจะมี dioscorine ในปริมาณมาก หัวกลอยแห้งแล ะลอกเปลือกออกแล้ว จะมีแอลคาลอยด์ที่เป็นพิษ 0.19 % ปริมาณสารพิษจะแตกต่าง กันไป ในช่วงฤดูฝน (เดือนสิงหาคม) จะมีพิษมากที่สุด และในฤดูร้อน (เดือนเมษายน) จะมีพิษน้อยที่สุด กระบวนการทำที่ไม่ถูกวิธี จะทำให้เกิดพิษต่อผู้ที่รับประทาน อาการพิษ หากรับประทานหัวกลอยมาก จะกดระบบทางเดินหายใจ และทำให้ตายได้ อาการเป็นพิษ เนื่องจากรับประทานกลอยคือ คันปาก ลิ้น คอ ม่านตาขยาย และระบบประสาทส่วนกลาง ถูกกระตุ้น คลื่นไส้ อาเจียน มึนเมา วิงเวียน ใจสั่น ตาพร่า อึดอัด เป็นลม และตัวเย็น บางราย มีอาการประสาทหลอนคล้ายกับอาการของคนบ้าลำโพง และอาจมีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อด้วย การรักษา ให้ phenobarbital หรือ diazepam เพื่อป้องกันอาการชัก แต่ต้องระวังไม่ให้ในรายที่ ขนาดของกลอยที่ได้รับนั้นทำให้เกิดอาการพิษที่ไปลด การเคลื่อนไหว (motor activity) หรือกดระบบประสาทส่วนกลางแล้ว ยาเหล่านี้อาจไปเสริมฤทธิ์แทนที่จะต้านฤทธิ์ของกลอย ภาพจาก http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/toxic_42.htm แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 05:43:36 จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การทำให้กลอยหมดพิษเพื่อนำมาบริโภค หัวกลอยสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ แต่ต้องผ่านกรรมวิธีชะล้างพิษออกให้หมด โดยนำมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แช่ในน้ำที่มีน้ำไหลตลอดเวลาประมาณ 7 วัน หรือจนแน่ใจว่า พิษหมด หรือหมักเกลือ นำมาคั้นน้ำทิ้ง ทำ 3 วัน แล้ว จึงนำมาปรุงอาหารรับประทาน อีกวิธีหนึ่งคือ ปอกเปลือกหัวกลอยให้สะอาด หั่นเป็นแว่น แต่ละแว่นหนาประมาณ 1-1.5 ซม. นำหัวกลอยที่หั่นแล้วใส่ในภาชนะเช่นโอ่งน้ำไหหรือภาชนะอื่นที่หาง่ายในท้องถิ่น ใส่ชิ้นกลอย ที่หั่นแล้วลงไปในภาชนะหนาประมาณ 10 ซม. โรยเกลือให้ทั่วหน้า 1-2 ซม. แล้วใส่ชิ้นกลอย ลงไป ทำสลับกับเกลือจนกว่าจะหมด ทิ้งไว้ค้างคืน วันรุ่งขึ้นนำกลอยที่หมักออกมาล้างน้ำ ให้สะอาด ใส่ชิ้นกลอยที่ล้างแล้วลงไปในถุงผ้าดิบหรือผ้าขาวบาง นำของหนักทับไว้เพื่อ ไล่น้ำเบื่อเมาของกลอยออกให้หมด หลังจากนั้นนำชิ้นกลอยจากถุงผ้าเทกลับลงไปในภาชนะเดิม ใส่น้ำให้ท่วมเนื้อกลอย ทิ้งไว้ค้างคืนรุ่งเช้าจึงนำชิ้นกลอยมาล้างให้สะอาดและทำเช่นเดิม ประมาณ 5-7 วันจึงจะปลอดภัยจากสารพิษและนำมาบริโภคหรือ ปรุงอาหารได้หรือจะผึ่งแดด ให้แห้งเก็บตุนไว้ เมื่อจะบริโภคจึงนำชิ้นกลอยมาแช่น้ำนำไปนึ่งหรือปรุงอาหารอื่นรับประทานได้ ชุมชนทางภาคเหนือ หากเก็บกลอยในฤดูร้อน จะลอกผิวออก ฝานเป็นแผ่นบางๆ นำไปตากจนแห้ง เก็บไว้ได้นาน เป็นเดือนหรือเป็นปี ก่อนจะนำมาประกอบอาหาร ก็นำกลอยแห้งนั้นใส่ภาชนะแช่ใน น้ำไหลเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน แล้วนำมานวดให้นุ่ม จากนั้นนำไปผึ่งแดดพอหมาดๆ นำกลอยไปใส่ ภาชนะแช่น้ำเช่นเดิมทำซ้ำๆ กัน 2-3 ครั้ง จนกลอยนุ่มดีแล้ว จึงนำไปประกอบอาหาร แต่ถ้าเก็บ กลอยในฤดูฝนจะมีพิษมาก ภายหลังจากลอกผิวและฝานเป็นชิ้นแล้ว ต้องนำไปแช่ในรางน้ำ หมักไว้ 3 คืนโดยใช้ใบชุม เห็ดเทศคลุมข้างบน และใช้ท่อนหินหรือท่อนไม้ทับไว้จนเนื้อกลอยนุ่ม จากนั้น นำมานวดให้นุ่มมากขั้น (ส่วนใหญ่ใช้วิธีเหยียบ) แล้วหมักไว้เป็นก้อนเช่นนั้น รุ่งขึ้นนำไปแช่น้ำไหล อีก 1 วัน 1 คืน แล้วนำมานวดผึ่งแดดพอหมาด นำกลับไปหมักไว้ใหม่ทำซ้ำเช่นนี้ 2-3 ครั้ง ก็นำไป ประกอบอาหารได้ หรือตากแห้งเก็บไว้รับประทาน (ก่อนนำไปรับประทานต้องนำมาแช่น้ำให้นุ่ม แล้วจึงนำไปนึ่งให้สุก เพื่อประกอบอาหารต่อไป) ชุมชนบริเวณจังหวัดชายทะเล นิยมนำกลอยที่หั่นบางๆ แล้วไปแช่น้ำทะเล เพื่อให้เกลือช่วยทำลายพิษ แต่ต้องหมั่น เปลี่ยนน้ำ ส่วนใหญ่ใช้เวลาแช่และทับประมาณ 7 วัน นำไปตากแห้งจะเก็บไว้ได้นาน เมื่อ จะนำมาประกอบอาหารก็แช่น้ำอีก 1 หรือ 2 คืน แล้วคั้นน้ำทิ้งก่อนที่จะทำการหุงต้ม บางคนนำมาแช่ ในน้ำเกลือ แล้วถ่ายน้ำทิ้งหลายๆ ครั้ง หรือแช่น้ำไหล 7 วัน หรือมากกว่านี้ก่อนนำมาทำอาหาร ภาพจาก http://www.doa.go.th/botany/gloy.html แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 05:42:49 จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประโยชน์ทางยา แพทย์ตามชนบทใช้ปรุงยาแก้เถาดานที่กลิ้งเป็นก้อนในท้อง ใช้หุงเป็นน้ำมันใส่แผลกัดฝ้าหนองได้ดี ในต่างประเทศใช้สารสะกัดจากกลอยทำเป็นยาคุมกำเนิด   ทางด้านการเกษตร ใช้เป็นสารพิษฆ่าแมลงเพราะมีtatacorinอยู่ในหัวกลอย โดยนำน้ำที่แช่หัวกลอยมาฉีดฆ่าแมลงเพลี้ยอ่อน แมลงสิง และแมลงทั่วไปส่วนชาวป่าใช้เป็นยาพิษอาบลูกธนู ในอินเดียใช้หัวกลอยเป็นสบู่ฟอกศรีษะเพื่อ กำจัดเหา นอกจากนี้ยังใช้เบื่อปลาได้อีกด้วย นอกจากกลอยข้าวเหนียวกลอยข้าวเจ้าแล้วยังมีกลอยอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่ากลอยจืดลักษณะของใบและดอกคล้ายกับกลอยธรรมดาแต่เถาไม่มีหนามและในหัวไม่มีสารพิษจึง หาได้ยาก และคาดว่าจะสูญพันธุ์หมดแล้ว ภาพจาก http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/toxic_42.htm จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:41:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่มา กลอย - พืชพื้นบ้าน http://www.doa.go.th/botany/gloy.html พืชมีพิษต่อระบบประสาทและทำให้เสพติด http://www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/toxic_42.htm ต้องการรู้เกี่ยวกับสารพิษในกลอย อันตราย การออกฤทธิ์ การสกัดสารพิษออกมา การนำสารพิษมาใช้ประโยชน์ การวิจัยในเรื่องนี้ http://drug.pharmacy.psu.ac.th/Question.asp?ID=1695&gid=3 ฐานข้อมูลพืชพิษ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร http://admin.pha.nu.ac.th/toxic_plant/dioscorea_hispida.html หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงมีประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้างนะครับ ครั้งหน้าหากจะรับประทานกลอย โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าทางผู้ผลิตได้กำจัดพิษในหัวกลอยออกหมดรึยัง ผมไม่กล้าบอกว่า ถั่วทอดใส่กลอยที่ผมกินจะมีสารพืษทั้งหมด เพราะแม่ผมและพี่สะไภ้ก็ทานเข้าไป (แต่ไม่เยอะ เท่าผม) คาดว่าน่าจะมีกลอยบางส่วนที่นำมาทำยังไม่หมดพิษ และผมก็เป็นคนโชคร้ายที่เจอกับ กลอยชิ้นนั้นเข้าพอดี ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ สวัสดีครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 05:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขอบคุณบทความดีดีครับ จากคุณ : LTI Systems - [ 8 ก.พ. 51 08:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในความโชคร้าย  ก็มีเรื่องดีๆ  นะเออ เรื่องดี  คือ  มีชีวิตรอดมาได้ไงล่ะ.....อิอิ. แล้วยังหาข้อมูลเรื่อง กลอย มาให้เราได้รับรู้ ถึงประโยชน์และโทษของมันอีก จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ  เคยกินเจ้ากลอยนี่ด้วยล่ะ  ตอนนี้หากินยากแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ  ค่ะ จากคุณ : ดอกหญ้าสีน้ำตาล - [ 8 ก.พ. 51 08:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระซิก-  กระซี้  จุ๊บๆ  เป็นห่วงจัง เยย ฮ่าๆๆ หายดี แล้วใช่ ม๊ายยยย   ฮ่าๆๆ ..ถึงว่า ซิ เมื่อวาน หนังตา กระตุก ๆ ทำไม ไม่ยอม  รอ เรา ..555 ต้มยำ กุ้งนะ คาว หลัง ส่งมาให้ เราก็ ได้ 555 อย่าไปแซว มาก คนเค้าไม่ สบายอยู่ 55 หายเร็วๆ นะจ๊ะ ..เดี๋ยว จะพา ไปวิ่ง ควบแพะ 5555 จากคุณ : honeybfit - [ 8 ก.พ. 51 08:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาดอกไม้  มา ฝาก  จ๊ะ .. พักผ่อนเยอะๆ แล้วกัน จากคุณ : honeybfit - [ 8 ก.พ. 51 08:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฮิๆๆ ป่วย วิชาการขึ้นสมอง จากคุณ : น้ำค้างรุ่งอรุณ - [ 8 ก.พ. 51 08:59:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อก่อนที่บ้านขายขนม นึ่งกลอย ทุกวัน แม่จะแช่น้ำค้างคืนไว้ก่อนนำมานึ่ง หรือ ต้ม บางครั้ง แช่น้ำไว้สองสามวัน ให้พิษออกไปจากกลอย โดยปกติ เวลาชาวบ้านหาหัวกลอยจากป่า เขาจะนำมาแช่ ในลำธาร ให้น้ำไหลผ่าน เอาพิษออกจากหัวกลอย ที่รับประทานเข้าไปแล้วเมา หรือเกิดอาการ คงเพราะคนขาย ล้างกลอยไม่สะอาด หรือไม่ก้อคงแพ้กลอย ทางที่ดี ถ้าไม่แน่ใจก้ออย่าไปรับประทานจะดีกว่า จากคุณ : ช้อนชา - [ 8 ก.พ. 51 09:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โห เพิ่งเห็นคุณปุ้ม วิชาการก็ทู้นี้แหละ หายดีแล้วนะครับ แต่ข้าวเหนียวกลอยนี้ซิ ของชอบผมเลยครับ จากคุณ : แม่ริม - [ 8 ก.พ. 51 09:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ กว่าจะได้ทานนี่หลายขั้นตอนเลยนะครับ จากคุณ : kmml - [ 8 ก.พ. 51 09:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โห... ถั่วทอดผสมกลอยนี่ ของโปรดเลยล่ะ ขอบคุณค่ะ ที่นำประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟัง ต่อไป จะรับทานอะไร จะได้ระมัดระวังมากกว่านี้....... จากคุณ : ดอกคูนเสียงขิม - [ 8 ก.พ. 51 09:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แถวบ้านทำเหมือนคุณช้อนชาค่ะ บางทีพิษมันอาจอยู่ที่ยางของมันเหมือนกับมันสำปะหลังก็ได้นะ ขอให้หายดีไวๆค่ะ (แล้วมากินถั่วทอดกลอยต่อ อิอิอิ) จากคุณ : Orange Jasmin - [ 8 ก.พ. 51 09:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Great! จากคุณ : rabbit_bp - [ 8 ก.พ. 51 10:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เง้อ น่ากลัวค๊า เราเป็นพวกกินดะอยู่ เอิ๊กๆ ขอบคุณสำหรับข้อมุลค่ะ จากคุณ : radiergummi - [ 8 ก.พ. 51 10:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณST ใจดีมีน้ำใจ ในความโชคร้ายของตัวเองยังเอาความห่วงใยมาบอกกล่าวผู้อื่น ขอบคุณในน้ำใจท่านครับ ส่วนผมตั้งคติว่า กลอย...ไม่แน่ใจ อย่ากินคร้าบ จากคุณ : bite25 - [ 8 ก.พ. 51 10:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดี ๆ จากคุณ : porn.pet - [ 8 ก.พ. 51 10:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พืชและสัตว์มีพิษหลายอย่างถูกนำมาปรุงเป็นอาหาร พวกเราก็กินกันเอร็ดอร่อย กินโดยให้ความไว้วางใจมนุษย์ด้วยกันว่าได้ทำถูกต้องตามภูมิปัญญาที่สั่งสมมา ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟัง พักผ่อนเยอะ ๆ ฟื้นตัวเร็ว ๆ นะครับ จากคุณ : พ่อ@LLถุง - [ 8 ก.พ. 51 10:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถั่วผสมกลอยนี่ของโปรดเหมือนคุณดอกคูณฯ เลย เจอเจ้าอร่อยที่ไหน ซื้อดะ ต่อไปนี้คงต้องเบรกเอี๊ยด..แล้วค่ะ หายไว ๆแข็งแรงเหมือนเดิมค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 10:34:52 จากคุณ : พี่เหมียว (parawarm) - [ 8 ก.พ. 51 10:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของทุกๆท่านครับ เมื่อคืนนอนไปเยอะวันนี้ เลยตื่นตั้งแต่ตี 5 ยังคงมีอาการมึนๆอยู่ครับ แต่ลดน้อยลงไปเยอะแล้ว ยังไง ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ดีขึ้น คิดว่าคงจะไปหาหมอครับ เมื่อก่อนผมก็เคยทานกลอย นะครับ เลยไม่คิดว่าจะแพ้ น่าจะเป็นเพราะมีบางลูกยังล้างเอาพิษออกไม่หมด มากกว่านะครับ คุณ LTI Systems - หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ ^^ คุณดอกหญ้าสีน้ำตาล - พี่ยังเห็นมีขายอยู่เรื่อยๆนะ ยังไงถ้าจะซื้อกินก็ถามให้แน่ใจก่อนนะ คุณ honeybfit - ตื่นเช้ามารีบไปตักต้มยำกุ้งมากินก่อนเลยละ 5555 คุณน้ำค้างรุ่งอรุณ - ซะงั้น นานๆจะมีสาระกับเค้าทีครับ = =' คุณช้อนชา - เคยทานแล้วไม่มีอาการแบบนี้ครับ เลยไม่คิดว่าจะเป็นอะไร แม่บอกว่าคนสมัยก่อน จะล้างกลอยในลำธาร แบบที่คุณปุ้มว่าครับ แต่ผมยังงงๆว่า ถ้าคนที่อยู่ถัดจากที่เค้าล้างกลอยเอา น้ำไปดื่มหรือทำอาหารจะเป็นยังไง หุ หุ คุณแม่ริม - ผมก็ชอบเหมือนกันนะ แต่ครั้งหน้าคงต้องสอบถามให้ดีก่อนกิน หุ หุ คุณ kmml - ใช่ครับ นับถือคนโบราณเลยครับ คุณดอกคูนเสียงขิม - ครับ คงต้องดูแลตัวเองให้ดี เชื่อใจคนขายมากก็ไม่ได้ คุณ Orange Jasmin - คงกินอีกแน่ครับ แต่ไม่กินร้านนี้แน่ๆ หุ หุ คุณ rabbit_bp - ^^ คุณ radiergummi - ผมก็กินดะเหมือนกันครับ แต่ต่อไปนี้คงต้องระมัดระวังมากขึ้นแล้ว คุณ bite25 - ใช่แล้วครับ ไม่แน่ใจ อย่ากิน ^^ คุณ porn.pet - ด้วยความยินดีครับ คุณพ่อ@LLถุง - ขอบคุณครับ ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะล้วครับ คุณพี่เหมียว (parawarm) - ยังไงสอบถามก่อนซื้อก็ดีครับ ขอบคุณมากนะครับ ^^ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 8 ก.พ. 51 12:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เจอกับตัวเองมาแล้วค่ะถั่วทอดผสมกลอยทานไปไม่ถึงชั่วโมง หน้ามืดเวียนหัว คลื่นไส้แล้วก็อาเจียนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้เห็นกลอยแล้วเดินหนีค่ะจะไม่หยิบเข้าปากเด็ดขาด  ขอให้เจ้าของกระทู้หายไว ๆนะคะ จากคุณ : tkanun - [ 8 ก.พ. 51 12:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อย่า ไปลองกิน  คาง คก น่ะ  วันก่อนดู ข่าว ตายไป 2-3 ราย    อิอิ จากคุณ : honeybfit - [ 8 ก.พ. 51 13:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ จากคุณ : แตรชมพู - [ 8 ก.พ. 51 13:37:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 น่ากลัวจัง ดีที่ไม่เป็นอะไรมากนะคะ จากคุณ : อุมาวดี - [ 8 ก.พ. 51 13:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ต้องขอขอบคุณ จ.ข.ก.ท  ที่มีเรื่องดีๆมาบอกกล่าวกัน...          ป.ล   ขอให้หายไวๆนะครับ         จากคุณ : Chu 91 (Chu 91) - [ 8 ก.พ. 51 13:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคร้าบที่เอามาฝาก รักษาสุขภาพด้วยนะครับ จากคุณ : kengDD - [ 8 ก.พ. 51 14:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หายไวๆเน้อพี่ จากคุณ : d_regen - [ 8 ก.พ. 51 14:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กินกลอยมาตั้งแต่เด็ก และชอบมากๆ แต่แถวๆบ้านทำเอง และไม่เคยรู้สึกว่าเป็นอะไร มาอยู่กรุงเทพเคยกินกลอยทอดกับพวกล้วยทอด กินแล้วมันจะมึน เวียนหัว กะว่ากินกลอยเข้าไปแน่ๆ ก็เลยล้วงคออ้วกออก อาการดีขึ้น เราว่าถ้าไม่แน่ใจร้าน หรือไม่เคยกินของเค้ามาก่อน อย่าทานดีกว่าค่ะ เราก็เข็ด ถ้าจะกินกะว่าไปกินแถวๆบ้าน ชัวร์กว่า ของแบบนี้ไม่แน่ใจก็อย่าลองดีกว่าค่ะ จากคุณ : auanP - [ 8 ก.พ. 51 15:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แก้อาการเบื่อเมาจากพิษกลอยก็หา   ว่านรางจึดชนิดดอกสีม่วง    เอาเฉพาะใบที่แก่จัด  มาซัก  7-9  ใบ   ตำคั้นน้ำ   กินน่ะ จากคุณ : เล็กชาย - [ 8 ก.พ. 51 15:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รีบไปหาหมอเถอะ หายไวไวนะ จากคุณ : วนิส (วนิส) - [ 8 ก.พ. 51 16:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 .....พืชและสัตว์มีพิษหลายอย่างถูกนำมาปรุงเป็นอาหาร พวกเราก็กินกันเอร็ดอร่อย กินโดยให้ความไว้วางใจมนุษย์ด้วยกันว่าได้ทำถูกต้องตามภูมิปัญญาที่สั่งสมมา .....   พ่อถุงพูดได้ถูกต้อง ทำอย่างไรให้พวกเรารู้กัน แล้วใช้ข้อมูลในทางปฎิบัติ์ อย่างปลาปักเป้า ปู่ย่า ตายาย เดิมๆๆ บอกกินไม่ได้ ให้ทิ้งไป แต่สมัยนี้ คนจับได้ ไม่รู้ หรือโลภมาก ใส่ทำปลาร้าเลย ปลาปักเป้าน้ำเค็ม ก็เอามาแล่ขายเพราะวันหนึ่งได้ เป็น ร้อยๆๆตัน เอามาแอบขายเพื่ซื้อเนื้อปลาถูกๆๆ อ้างว่าทำไมญี่ปุ่นจึงขายได้ ที่ญี่ปุ่นขายได้เพราะคนแร่เขามีการเรียน ขึ้นทะเบียน ขนาดนั้นก็ยังเหมือนหมอ มี เก่งและไม่เก่ง ที่สำคัญ เขาไม่หลอกคนซื้อ บอกให้คนซื้อ หรือกินรู้ และ เสี่ยงภัยเอง ว่าจะเสี่ยงอยากตายหรือไม่ จากคุณ : jasmin rice - [ 8 ก.พ. 51 16:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เก่งมากครับ หาข้อมูลได้เกือบทั้งหมดเลย มีหลายคนที่ไม่รู้จักกลอย กินอย่างเดียว (ผมเอง) จากคุณ : ลุงมน - [ 8 ก.พ. 51 17:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมก็ชอบกินนะครับ ข้าวเหนียวกลอย  มันมันเมือกเมือก อร่อยดีครับ  มีคำหนี่งครับ  คือคำว่า "สาวน้อย กลอย ใจ"  นี่มันเกี่ยวกับกลอยด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ จากคุณ : p_warat - [ 8 ก.พ. 51 17:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ เคยรู้ว่ากลอยมีพิษแต่ไม่รู้ว่าถึงตายเชียวนะ จากคุณ : สุขเดือนห้า (TWANG) - [ 8 ก.พ. 51 19:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เคยแต่ได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นหน้าตา และไม่เคยกิน ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยให้ความรู้ ทีหลังจะได้ระวังและหนีห่าง จากคุณ : แม่ นู๋ทิ้ง (touch me) - [ 8 ก.พ. 51 19:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ข้าวเหนียวกลอยกินอร่อย แต่ต้องกินหน้าฝน ส่วนกลอยจืดบ้านผมมียังไม่สูญพันธ์ ปลูกไว้นานแล้ว ต้องไปดูก่อนว่าขึ้นสวรรค์แล้วยัง ไม่ได้สนใจนานแล้ว สมัยเล่นว่านต่างๆ จากคุณ : โคกเคียน - [ 8 ก.พ. 51 20:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ  ไม่กล้ากินมานานแล้วค่ะ จากคุณ : The mother of 4 - [ 8 ก.พ. 51 21:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบทานข้าวเหนียวกลอน รสชาดโบราณดีค่ะ  ตอนนี้ต้องระวังซื้อแต่เจ้าที่ขายประจำอย่างเดียวแล้วค่ะ ยังไม่อยากตายค่ะ  เอาข้อมูลมาฝากด้วยค่ะ ได้จากอีเมล์ค่ะ ยังมีผู้ไม่รู้อีกเยอะในสังคมไทยครับ .. อันตรายจากแบตเตอรี่.....เพราะไฟแช็กอันเดียว สาเหตุมาจากน้องผมขับรถอยู่แล้วเครื่องดับ ก็เลยลงไปเปิดฝากระโปรงรถดู มืดครับแต่มันมองไม่เห็นก็เลยนำไฟแช็กมาจุดดู และแล้วน้องผมก็สงสัยว่าน้ำกลั่นหมดหรือเปล่า เลยเปิดฝาน้ำกลั่นดูเท่านั้นแหละครับ ตูมเลย แบตระเบิดออกทางด้านข้าง ปรากฏว่าน้องผมถูกน้ำกรดกระเด็นเข้าตาทั้ง 2 ข้าง ส่วนเพื่อนก็โดนเข้า 1 ข้าง ตอนนี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกรุงไทย แถวๆ ปากเกร็ด ซึ่งบาดแผลตอนนี้แพทย์ยังไม่สามารถบอกได้ว่าตาจะบอดหรือไม่จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่ามันเป็นอะไรที่คิดไม่ถึงจริงๆ ไม่น่าเลยครับ *** ส่งต่อเถอะครับ เพื่อคนที่เรารัก *** ข้อมูลทางเทคนิค : ขณะที่แบตเตอรี่กำลังชาร์จไฟ จะเกิด Hydrogen gas ซึ่งมีความไวไฟสูง เมื่อมีประกายไฟ ก็จะเกิดการติดไฟหรือระเบิดอย่างรุนแรงได้ จากคุณ : Susisiri - [ 8 ก.พ. 51 21:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอให้หายป่วยไวไวนะครับ  ป่วยแล้วยังมีน้ำใจมาเตือนเพื่อนๆอีก ขอบคุณนะครับ เพราะ ข้าวเหนียวกลอยนี่ก็ ของชอบ ถึงชอบมาก ของผมอยู่เหมือนกัน แต่พอรู้วิธีทำแล้ว  กลับนึกสงสารคนทำขนม มากกว่ากลัวเมาหนะ กว่าจะได้ตังค์..เน๊อะ จากคุณ : สารวัตรซัดโป้ง - [ 8 ก.พ. 51 22:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบทานข้าวเหนียวกลอยมาก...ตานี้ต้องระวังแล้วค่ะ... หายเร็วๆนะคะ พูดถึงคนเราก็ช่างสรรหาอะไรมารับประทานเหมือนกันนะคะ  รู้วิธีด้วยว่าต้องจัดการอย่างไรกับพิษของมัน จากคุณ : Ricola ร่าเริง - [ 8 ก.พ. 51 23:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถั่วทอดกลอย...ของชอบเลยอะค่ะ สงสัยจาโชคดี ที่ไม่เจอพิษ ขอบคุณ...ในความรู้ใหม่ๆจ้า จากคุณ : ttvp - [ 9 ก.พ. 51 00:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เพิ่งรู้ว่าที่กินมันคือถั่วทอดกลอย...อืม...ทีหลังจะได้ไม่กิน...ข้อมูลละเอียดดี...ขอบคุณนะที่ออกมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับเพื่อนมนุษย์...:) หายไวๆ นะ จะได้ทำการบ้านที่ติดไว้ 70 ข้อซะที จากคุณ : เพื่อนอีกคนนึง (uter) - [ 9 ก.พ. 51 13:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ tkanun - แสดงว่าคุณ tkanun โดนหนักกว่าผมมากเลยนะ ของผมแค่นอนซมคืนเดียว แล้วก็วิงเวียนไปอีก 1 วัน หุ หุ ขอบคุณมากครับ ^^ คุณ honeybfit - ช่างสรรหาของกินจังเลยนะ เดี๋ยวเอาไว้คราวหน้าเราจะให้เธอชิมก่อน ถ้าเธอชิมแล้วไม่เป็นอะไรคนอื่นค่อยกิน อิ อิ คุณแตรชมพ - ด้วยความยินดีครับ ^^ คุณอุมาวดี - สงสัยคงยังไม่ถึงที่ครับ หุ หุ ขอบคุณครับ คุณ Chu 91 - ขอบคุณมากครับ ^^ คุณ kengDD - ขอบคุณเช่นกันครับ ^^ คุณ d_regen - จ๊ะ ^_' คุณ auanP - ไม่คาดคิดนะครับ กินมาตั้งนานไม่เคยเป็นเลย หุ หุ ขอบคุณนะครับ คุณเล็กชาย - ปัญหาก็คือแถวบ้านไม่มีรางจืดเลยครับ ตอนแรกผมก็นึกถึงรางจืดเหมือนกันนะ แต่จนปัญญาเพราะแถวบ้านไม่มีเลย สงสัยต้องซื้อมาปลูกไว้บ้างแล้ว ขอบคุณมากครับ คุณวนิส - หายแล้วละ ยังไม่ต้องถึงมือหมอ ขอบคุณนะ คุณ jasmin rice - ใช่เลยครับ ปลาปักเป้าก็เป็นอีกตัวอย่างนึง ของอร่อย แต่คนทำทำไม่เป็น ก็กลายเป็นยาพิษได้ คุณลุงมน - ไท่อยากให้ใครเจอแบบผมน่ะครับ ขอบคุณมากครับ คุณ p_warat - อาจจะมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน แต่ผมเองก็ไม่ทราบที่มาเหมือนกันครับ หุ หุ คุณสุขเดือนห้า (TWANG) - นั่นสิครับ กินมาตั้งนานไม่เคยคิดเลยว่าจะโดนดี คุณแม่ นู๋ทิ้ง (touch me) - คงไม่ถึงกับต้องหนีห่างหรอกครับ แค่ให้แน่ใจว่าเค้าทำได้สะอาดดี ก็พอครับ ขอบคุณครับ ^^ คุณโคกเคียน - ถ้ายังมีอยู่ก็ดีเลยครับคุณโคกเคียน จริงๆเค้าน่าจะขยายพันธุ์กลอยจืดเพื่อการบริโภคมากกว่านะครับ คุณ The mother of 4 - อย่าถึงขั้นไม่กล้าเลยครับ ของที่เค้าทำอย่างดีมีเยอะครับ ร้านที่ทำแบบลวกๆอย่างนี้คง มีไม่มากหรอกครับ ^^ คุณ Susisiri -  ใช่แล้วครับ อีกหน่อยต้องแน่ใจก่อนซื้อ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ^^ คุณสารวัตรซัดโป้ง - ขอบคุณมากครับ นั่นสินะครับ กว่าจะได้มานี่ต้องกำจัดสารพิษตั้งนาน แต่เพราะรสชาติดีนี่ละมัง ที่ทำให้คนเรายอมลำบากเพื่อจะได้กินกัน หุ หุ คุณ Ricola ร่าเริง - ขอบคุณมากครับ ภูมิปัญญาชาวบ้านล้วนๆเลยครับ คงผ่านการลองผิดลองถูกมาเยอะ กว่าจะมาเป็น อาหารให้พวกเราได้ทานกัน คุณ ttvp - เป็นผมที่โชคร้ายมากกว่าครับ หุ หุ ขอบคุณมากครับ ^^ คุณ uter - ขอบใจนะ ส่วนไอ้ 70 ข้อนั่น... อะไรเหรอ จำไม่ได้ :p จากคุณ : ST.Exsodus - [ 9 ก.พ. 51 19:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่งเข้ามาเจอกระทู้นี้ ทำให้นึกถึงตอนที่ย้ายที่ทำงานใหม่ๆ เพื่อนที่ทำงานเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันว่า ทุกคนมีอาการปวดหัว วิงเวียน  อาเจียน   บางคนเป็นหนักต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มีอยู่คนหนึ่ง รีบเขียนพินัยกรรมและสั่งเสีย ด้วยคิดว่า ..คงไม่รอดเป็นแน่แท้ เหตุจากของฝาก จากเพื่อนในที่ทำงานคนหนึ่งคือ ถั่วทอดกลอย นั่นแหละ อาการหนัก-เบา ตามปริมาณ ถั่วทอดกลอยที่แต่ละคนกินเข้าไป เราฟังแล้ว ยิ้มอยู่คนเดียว  ว่าโชคดีจริงหนอเรา ที่มารายงานตัวช้าไปไม่กี่วัน ไม่งั้นอาจจะมีคนที่จากไปโดยไม่ทันสั่งเสียก็ได้   ก็คือเรานั่นแหละ เพราะ ชอบมาก..กินทีหมดเป็นถุงๆ จากวันนั้น จนวันนี้ ไม่กล้ากินอาหารทุกชนิดที่มี กลอยเป็นองค์ประกอบค่ะ จากคุณ : ตัวกลมๆผมม้า - [ 9 ก.พ. 51 22:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณที่นำความรู้มาฝากกัน ทานกลอยไม่เป็นค่ะ เลยไม่ทาน แม้ว่าเพื่อนจะคะยั้นคะยอขนาดไหนว่าอร่อยมาก.... แต่ขำตัวเองจังที่เพิ่งจะรู้ว่าถั่วทอดที่กินแล้วมีชิ้นขาว ๆ นั้นคือเจ้ากลอยนี่เอง ถึงว่ากินทีไรถ้าเพื่อนเห็นจะอมยิ้มทุกทีแล้วถามว่าอร่อยไหม...     จากคุณ : aster_star - [ 10 ก.พ. 51 12:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณตัวกลมๆผมม้า - ที่ทำงานคุณตัวกลมๆผมม้านี่โชคร้ายมากเลยนะครับ คุณตัวกลมๆผมม้าเองก็โชคดีนะครับเนี่ย ^^ คุณ aster_star - ดีนะเนี่ยที่ไม่เจอแบบผม ไม่งั้นเพื่อนคุณ aster_star คงยิ้มไม่ออก หุ หุ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 11 ก.พ. 51 22:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เพิ่งเดินตามมาค่ะ ตรงเอามาทําสารพิษฆ่าแมลงนี่น่าสนใจนะ ถ้าสามารถผสมได้สัดส่วนที่เหมาะสม ไม่แรงจนเป็นอันตรายเกินไป จะเอามาใช้แทนสารเคมีได้ไม๊เนี่ย? จขกท.  ..หายดีแล้วก็คิดสูตรเลยจิคะ เพื่อมีโชคดีในโชคร้าย จากคุณ : เป๋อน้อย - [ 12 ก.พ. 51 16:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีค่ะคุณรัณห์ .. เพิ่งได้เข้ามาอ่าน .. เรื่องนี้ก็คงเป็นเพราะว่ากลอยเค้าเอามาทำไม่สะอาด ล้างพิษไม่หมดล่ะคะ  ก็เลยทำให้เกิดอาการแบบนี้ สำหรับคนที่กินเข้าไป ... ยังดีนะคะว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ว่าก็น่าตกใจ เหมือนกันล่ะคะ เพราะว่าอาการแบบนี้จู่ๆ มาเป็นเลย นี่มันก็น่าสงสัยเหมือนกัน ดีว่าเราพอนึกได้ว่ากิน อะไรมาบ้าง ... แบบนี้ก็ทางที่ดีก็คิดว่าเลี่ยงเอาไว้ หนหน้าไม่กินดีกว่า  ไปกินอย่างอื่นเอาเน๊าะ เพราะว่า เราก็ไม่รู้เหมือนกันน๊าว่า คนขายเค้าจัดการกับเจ้า กลอยดีหรือเปล่าน่ะค่ะ จากคุณ : JewNid - [ 13 ก.พ. 51 16:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 โอ๋ย..กินถั่วอยู่ดีดี ไหงมาเมากลอยซะได้ ดีนะเนี่ยไม่แพ้ มิเช่นนั้นแล้ว..อาจจะเซื่องซึมอีกหลายวันเลยล่ะ จากคุณ : na-mol - [ 13 ก.พ. 51 17:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณเป๋อน้อย - เดี๋ยวผมทำแล้วเอามาทดลองกับคุณเป๋อนะ อิ อิ คุณพู่ - คงไม่ถึงขั้นบอยคอตหรอกครับ แต่คงต้องดูให้มั่นใจและระมัดระวัง ให้มากขึ้นน่ะครับ ^^ คุณ na-mol - ถึงไม่เมากลอย ก็ซึมได้เหมือนกันอ่ะ หุ หุ ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงครับ ^^ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 15 ก.พ. 51 21:42:31 ]