.....................ตอนเด็ก ๆ ด้วยความที่บ้านอยู่ในสวน (ของคนอื่น) แต่เป็นสวนที่อยู่ในเมือง ในเมืองจริง ๆ เพราะแค่เดินออกมาจากสวนมาถนนก็จะเป็นถนนที่เต็มไปด้วยไนต์คลับ บาร์ สวนอาหาร จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้คุ้นชินกับสิ่งเหล่านี้ แฮ่ ๆ...สวนที่บ้านนั้นเป็นสวนที่มีพืชพรรณหลากชนิดตั้งแต่มะพร้าว หมาก มะม่วง มะปราง ข่า ตะไคร้ และอื่น ๆ อีกมากมายรวมทั้ง “เตย” ด้วย ที่บ้านไม่ได้เรียกว่าเตยหอม แต่เรียกว่า เตยเฉย ๆ ไม่มีคำว่าหอมต่อท้าย แต่ก่อนไม่เห็นคนที่บ้านจะนำเอาต้นเตยมาทำอะไร นอกจากจะปล่อยทิ้งไว้ให้รกเล่นเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วเตยสามารถนำมาทำอะไรได้มากกว่านั้นมากมายนัก อย่างง่าย ๆ ก็ใช้แต่งสีและกลิ่นเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารหลายชนิด ใบเตยสด มีน้ำมันหอมระเหย รสหวาน หอม มัน และมีสีเขียวที่นิยมใช้แต่งสีอาหาร เป็นสารคลอโรฟิลล์ นอกจากนี้หากนำใบสดมาต้มกับน้ำดื่ม สามารถลดอาการกระหายน้ำได้

                    สำหรับข้อมูลอื่น ๆ จากงานเรือนปลูกพืชทดลอง ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูก    พืชทดลอง ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ระบุว่า ใบเตยสดมีน้ำมันหอมระเหย และ  มีสีเขียวของคลอโรฟิลล์ ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารหลายชนิด เช่น ไลนาลิลอะซีเตท (Linalyl acetate) เบนซิลอะซีเตท (Benzyl acetate) ไลนาโลออล (Linalool) เจอรานิออล (geraniol) และ เอทิลวานิลลิน (Ethylvanillin) ยาขับปัสสาวะ ใบสด น้ำใบเตย บำรุงหัวใจ สำหรับโรคหัด โรคผิวหนัง ใช้ใบสดตำพอก    เป็นต้น...

           เห็นไหม...มันมีอะไรมากกว่าที่คิดไว้

                    นอกจากมีคุณค่าอย่างที่คิดไม่ถึงแล้ว ใบเตยยังมีความงามอีกด้วย เรียกได้ว่า งามอย่างมีคุณค่า...ใบเตยน่ะมันมีความเรียวสวย ทุกวันนี้ในวงการไม้ดอก เขานำเอาใบเตยนี่แหละไปประดับดอกไม้ที่จัดเป็นช่อไว้ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับดอกไม้ไง ถ้าไม่มีใบเตยดอกไม้คงไม่สวยมั้ง

                    ฉะนั้น จึงมีคนปลูกเตยเพื่อส่งไปที่ร้านดอกไม้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำแถมเป็นรายได้ประจำเสียด้วยเพราะสามารถตัดไปขายได้ทู้ก... วัน...

                    คนที่ว่านั้นก็คือ นายสมพงษ์ ยิ้มโฉม อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ที่ 5 บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองฯ จ.ระนอง ปกติทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น ยาง พารา ทุเรียน มังคุด ลองกอง กระท้อน หมาก มะพร้าว เงาะ มะลิ กุหลาบ ดาวเรือง บัว เตยหอม มีบ่อเลี้ยงปลา นอกจากนี้มีการเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ไว้กินไข่อีกด้วย
 
                    คุณวสันต์ สุขสุวรรณ แห่งสำนักงานเกษตรจังหวัดระนองเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2520 นายสมพงษ์ได้ย้ายจาก ระโนด จ.สงขลา บ้านเกิดเมืองนอน มาอยู่ระนองพร้อมกับภรรยาซึ่งเป็นชาวพัทลุง มาเริ่มต้นด้วยการปลูกผักขายพร้อมกับทำการเกษตรอื่น ๆ จนมีรายได้เพิ่มพูนจึงแปลงทุนเป็นสินทรัพย์มาเรื่อย ๆ ทุกวันนี้จึงมีที่อยู่ 50 ไร่ ปลูกพืชหลายชนิดเต็มพื้นที่

                    ด้วยความที่เป็นคนที่อยู่ในวงการไม้ดอก  ไม้ประดับ โดยปลูกมะลิขายดอกสดและร้อยพวงมาลัยขายมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี และมีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับอื่น ๆ เสริมบ้าง เช่น ดาวเรือง กุหลาบ บัวฯ ทำให้ทราบว่า ในวงการนี้เขาต้องการ เตยหอม เพื่อใช้ประดับตกแต่งช่อดอกไม้แต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก โดยสั่งซื้อมาจากต่างจังหวัดต้นละเกือบ 1 บาท จึงคิดว่า น่าจะปลูกเองได้แล้วส่งให้ร้านดอกไม้ในราคาที่ถูกกว่าเพียง 30 สตางค์ต่อต้น รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนร้านค้าก็จะลดต้นทุนลง

                    จากวันนั้นถึงวันนี้ 5 ปีแล้วที่ปลูกเตยหอมขาย ขยายพื้นที่ปลูกจนไม่มีที่ว่างแล้วใน  สวนยางพารา สวนมังคุด และอื่น ๆ รวมกว่า    7 ไร่

                    ส่วนการดูแลนั้นไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด แค่รดน้ำกับใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ระยะเวลา 4 เดือนต่อครั้ง แค่เนี้ย เตยหอมก็เจริญเติบโตดีมียอดอ่อนสวยงาม

                    ด้วยความที่ปลูกมาหลายปีทำให้เตยหอมขึ้นปกคลุมพื้นที่ ทำให้สามารถตัดยอดอ่อน ขายได้ทุกวันพระ ครั้งละ 20,000 ยอด ทำให้มีรายได้ 6,000 บาทต่อวันพระ...อันว่าวันพระนั้นมีเดือนละ 4 หน สรุปแล้วมีรายได้เดือนละ 24,000 บาทต่อเดือน นี่ไม่รวมพืชชนิดอื่น ๆ นะนี่

                    เตยหอมนอกจากจะเป็นที่ต้องการของตลาดไม้ดอกแล้วยังเป็นพืชที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับดินอีกด้วย สนใจอยากไปดูว่าเขาทำอย่างไร โทรฯ ไปได้ที่ 0-7783-1300.

ที่มา  http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=52797&NewsType=2&Template=1