...................."ตรีรักษ์พงศ์ โฉมสันเทียะ หรือ ท็อป เกษตรกรรุ่นใหม่วัย 30 ปี อดีตพนักงานฝ่ายคลังสินค้าของสายการบินไชน่า เซ้าเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งได้ ผันชีวิตสู่เส้นทางเกษตรบน ผืนดินพระราชทาน ในพื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยปักหลักยึดอาชีพเพาะ เห็ดยานางิ หรือ เห็ดโคนญี่ปุ่น ป้อนตลาดทั้งภายในและต่างประเทศที่กำลังมีความต้องการสูง ถือเป็นอาชีพทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับการใช้พื้นที่ทำการเกษตรอื่น ๆ
จากการที่ได้คลุกคลีอยู่กับวงการส่งออกและนำเข้าสินค้า ท็อปมองเห็นว่า เห็ดยานางิเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่ไทยมีการส่งออกมาก ต่างประเทศต้องการสูง ทั้งตลาดฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ ท็อปจึงใช้ระยะเวลานานกว่า 6 เดือน ในการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดยานางิ และในที่สุดก็ตัดสินใจเลิกเป็นลูกจ้างเพื่อเป็นเจ้านายตัวเอง ซึ่งปัจจุบันท็อปได้รวมกลุ่มเกษตรกรที่อาศัยอยู่บนผืนดินพระราชทาน จัดตั้งวิสาหกิจชุมชนผู้เพาะเห็ดในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.คลองนครเนื่องเขต มีสมาชิก 8 ราย โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา
ท็อปบอกว่า การปลูกเห็ดยานางิไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก แต่มีปัจจัยสำคัญ คือ อุณหภูมิและความชื้น ในโรงเรือนเพาะเห็ดต้องควบคุมอย่างเหมาะสม ประมาณ 22-28 องศาเซลเซียส โดยใช้ระบบน้ำสปริงเกอร์เข้ามาช่วย ขณะนี้วิสาหกิจชุมชนผู้เพาะเห็ดในเขตปฏิรูปที่ดินฯ มีโรงเพาะเห็ดยานางิ ทั้งขนาด 5x8 เมตร และขนาด 5x16 เมตร (หลังคามุงจาก) รวม 6 โรงเรือน มีกำลังการผลิตก้อนเชื้อเห็ดรวมกว่า 50,000 ก้อน ต้นทุนเฉลี่ยก้อนละ 4-5 บาท
หลังจากนำก้อนเชื้อเห็ดเข้าบ่มในโรงเรือน ประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และจะเปิดเก็บดอกเห็ดจำหน่ายได้นาน 1-1 ปี/รอบการผลิต ขึ้นอยู่กับระบบบริหารจัดการและเทคนิคการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น หากอากาศเย็นเห็ดยานางิจะออกดอกดี ไม่ต่ำกว่า 95% โดยปกติจะให้ผลผลิตเฉลี่ย 300-400 กรัม/ก้อน/รอบ ปัจจุบันกลุ่มฯมีกำลังการผลิตเดือนละ 1.5-2 ตัน ประมาณ 50% ส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ และเวียดนาม ราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท ส่วนที่เหลือป้อนเข้าสู่ตลาดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะตลาดโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ราคากิโลกรัมละ 120-140 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วสมาชิกจะมีรายได้เหลือประมาณ 5,000-10,000 บาท/เดือน
ขณะนี้ตลาดมีความต้องการเห็ดยานางิค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มดี โดยต่างประเทศมีออร์เดอร์สินค้าจากกลุ่มฯ วันละกว่า 200 กิโลกรัม แต่ยังไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค ภายในปี 2552 กลุ่มฯ จึงมีแผนที่จะรับสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิต เป้าหมายกว่า 150,000-200,000 ก้อนเชื้อเห็ด ซึ่งคาดว่าน่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 400-500 กิโลกรัม/วัน นอกจากจะจำหน่ายเห็ดดอกสดแล้ว กลุ่มฯยังมีแผนดำเนินการแปรรูปเห็ดด้วย ตามออร์เดอร์ของตลาดฮ่องกง เช่น ผลิตภัณฑ์เห็ดดอง เห็ดในน้ำซีอิ๊ว และน้ำเห็ดสามอย่าง เป็นต้น เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
ท็อปยังบอกอีกว่า ทาง ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ได้ผลักดันให้กลุ่มฯเป็น ศูนย์การเรียนรู้การเพาะเห็ดชีวภาพครบวงจร เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะเห็ดครบวงจร ตั้งแต่การทำก้อนเชื้อ การเปิดดอก รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ดอีกด้วย ช่วงที่ผ่านมา มีเกษตรกรในเขตที่ดินพระราชทาน และเขตปฏิรูปที่ดินอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงสนใจเข้ามาศึกษาดูงานในศูนย์เรียนรู้ฯ แล้วกว่า 11 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก
นอกจากศูนย์ฯจะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้แล้ว ยังเป็นศูนย์รับซื้อเห็ดยานางิของเกษตรกรโดยทั่วไป โดยรับซื้อหน้าฟาร์มราคาขั้นต่ำกิโลกรัมละ 100 บาท เพื่อส่งสินค้าเห็ดดอกสดเข้าสู่ตลาดอีกทอดหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีการศึกษาตลาดเห็ดในอนาคตควบคู่ไปด้วย เพื่อผลิตเห็ดหายากจำหน่ายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจที่จะศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดยานางิ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เพาะเห็ดในเขตปฏิรูปที่ดิน 3/2 หมู่ 16 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 08-1353-0062, 08-9133-5332 อาจได้แนวทางสร้างอาชีพเสริมรายได้ภายในครัวเรือน น่าสนใจไม่น้อย
ที่มา http://www.phtnet.org/news51/view-news.asp?nID=136
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
28 ก.พ. 51 18:11:55
]