ความคิดเห็นที่ 1 ตามธรรมดาถ้าทำสบู่แบชไหนออกมาพอดูได้ ก็จะโยนไปแถวๆบ้านคุณปรารถนาให้เธอลองใช้ดู เพราะใช้ดีไม่ดีเธอก็บอกดิฉันตามตรง อย่างนี้ชอบ จะได้เอามาปรับปรุงให้มันดีขึ้น สบู่ลอดช่องไทยนี้ ทำด้วยน้ำมันมะพร้าว 100 เปอเซ็นต์ ตามธรรมดาแล้วคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวคือให้ฟองถล่มทลาย แต่ข้อเสียคือ ทำให้ผิวแห้งกระด้าง คนทำสบู่จะไม่ใส่มะพร้าวเกิน 30 เปอเซ็นต์ นี่ในประเทศเขตร้อนชื้นนะคะ ฝรั่งจะไม่เกิน 15 เปอเซ็นต์ด้วยซ้ำไป และจะใส่ละหุ่งหรือน้ำมันแก่นปาล์มเพิ่ม เมื่อเร็วๆนี้ใฟอร์รัมทำสบู่ของฝรั่ง มีการทำสบู่มะพร้าว 100 เปอเซ็นต์ แต่มีการซุปเปอร์แฟตสบู่ถึง 20 เปอเซนต์ ผลปรากฏว่า ทำให้สบู่มะพร้าวกลายเป็นสบู่ที่นุ่มนวลต่อผิว ไม่แห้งกร้าน และฟองถล่มทลายเช่นเดิม ประหลาดมาก สบู่ลอดช่องอีกด้านหนึ่ง จากคุณ : flymom - [ 29 ก.พ. 51 23:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดิฉันลองทำไปแล้วหนนึง ให้คุณปรารถนาไปใช้ เห็นพ้องต้องกันว่า ดีมาก ผิวไม่แห้งเลย นี่คือสบู่ลอดช่องคือแบชที่สอง ใส่เตาอบจน full gel 10ชั่วโมงก็เอาออกมาตัดได้แล้ว โปรดสังเกตว่าเนื้อสบู่ค่อนข้างขาวใส วันรุ่งขึ้น ดิฉันลองทำอีกหนึ่งแบช แบชนี้ใส่มะพร้าว 80 เปอเซ็นต์ เชย์บัตเตอร์อีก 20 เปอเซ็นต์ (ทุ่มทุนค่ะทุ่มทุน) 20เปอเซ็นต์ซุปเปอร์แฟตเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันคือ แบชที่สองดิฉันไม่ได้ใส่เตาอบ แต่เอาออกไปไว้ข้างนอกบ้านซึ่งหนาวมาก ประมาณ-5องศาเซลเซียส ทิ้งไว้ 10 ชั่วโมง จึงเอามาตัด สังเกตได้ว่า เนื้อสบู่จะขาวมาก แต่เป็นสีขาวทึบเมื่อเทียบกับก้อนข้างบน เพราะสบู่ไม่เจลเลย ตั้งชื่อว่า สบู่สองดวงใจอยู่ใกล้กัน แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 51 23:36:01 จากคุณ : flymom - [ 29 ก.พ. 51 23:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สองก้อนเทียบกัน จากคุณ : flymom - [ 29 ก.พ. 51 23:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เทียบกันอีกหน สังเกตว่าเนื้อสบู่ไม่เหมือนกัน ไปล่ะค่ะ บ้านช่องรกมากต้องไปเก็บบ้านหน่อยค่ะ จากคุณ : flymom - [ 29 ก.พ. 51 23:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โหพี่ขา ยังติดใจเซทสบู่ก่อนๆของพี่ ตอนนี้มีงานใหม่อีกแล้ว ว่าแล้วอยากกินลอดช่องนิ   สบู่เก๋จริงๆ นี่ถ้าวางบนใบตอง นี่นึกว่าวุ้นกะทินะพี่นะ เก๋ค่ะ ไม่ export มาทางไทยบ้างหรือคะ จากคุณ : แอมจ้า (SweetYorkie) - [ 29 ก.พ. 51 23:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หิวลอดช่อง  กับ ลูกอมฮาร์ทบีท เจ้าค่ะ... หิวๆๆๆ จากคุณ : ploy_happy - [ 1 มี.ค. 51 00:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สุดยอดเลยค่าพี่แอนนนนนน เค้าว่าน่าจะกินได้ทั้งสองอันเลยนะ ก้อนแรกจะหอมน้ำกะทิป่าวนิ  รูปหัวใจเหมือนเยลลี่หนึบๆเลยค่ะ คำว่า "ไม่เจล" ในการทำสบู่นี่หมายถึงอะไรหรอคะ จากคุณ : monkey_bone - [ 1 มี.ค. 51 00:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่ากินอีกแล้ว ทั้งสวยและคุณภาพล้นก้อน จากคุณ : thienkam - [ 1 มี.ค. 51 02:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืมมมมมมมมมมม ได้กลิ่นกะทิเลยค่ะ แนนนี่ชอบกลิ่นของน้ำมันมะพร้าวมาก ๆ แนนนี่มีแบบ cold press ( เค้าเรียกแบบนี้ใช่ไหมคะ ) เอาไว้หมักผม อยากทำเป็นบ้างจัง พี่แอนเอามายั่วบ่อยเหลือเกิน .... จากคุณ : madam_ozzy - [ 1 มี.ค. 51 02:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณปรารถนาตั้งชื่อสบู่ลอดช่องได้เหมาะจังค่ะพี่แอน   สบู่สีสวยนุ่มนวล...ท่าทางหอมหวานน่าใช้นะคะ เปรียบเทียบกะสบู่ก้อนที่สอง  ที่ไม่เจล   ก้อนแรกเนื้อสบู่ดูสวยกว่าค่ะ แต่ก้อนที่สองก็สวย  ดูคล้ายสบู่นมนะคะ สรุปชอบทั้งสองก้อนเลยค่ะพี่แอน.... แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 05:24:19 จากคุณ : dreamon - [ 1 มี.ค. 51 05:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหมือนลอดช่องน้ำกระทิจริงด้วย จากคุณ : Rinsei - [ 1 มี.ค. 51 07:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้พี่แอนขา สองแบบใหม่นี่ออกแนวน่ากินจริงๆ ด้วย ถ้าคิดจะทำสบู่ คงต้องเรียนรู้กันอีกเยอะเลยนะคะ เท่าที่อ่านที่พี่แอนโพสต์มา มันมีหลายอย่างให้ต้องคิดเนาะ จากคุณ : Pattylala - [ 1 มี.ค. 51 07:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหนื่อยมากเลยวันนี้ สังคายนาครัวทั้งหมด ทั้งเช็ด ถู เก็บของในตู้ทิ้งไปบ้าง ใครไม่อยู่เมืองนอกนี่ไม่รู้หรอกว่า ต้องทำอะไรด้วยตัวเองหมดทุกอย่างนี่ "นรก" แค่ไหน แต้วคะ การที่สบู่ไม่เจล มันเป็นการ"ตัดตอน" ของนักทำสบู่บางคนค่ะ เพราะความสวยงามส่วนตัวเป็นหลัก การที่สบู่เจล คือปฏิกริยาทางเคมีที่เปลี่ยนน้ำ-น้ำมัน-โซดาไฟ ให้เป็นสบู่ (saponification process) เมื่อสามอย่างนี้มาเจอกันนะ โดยที่เราใช้ความร้อน(อ่อนๆ)เร่งมัน  ส่วนผสมของสามอย่างนี้จะมีอุหภูมิเพิ่มขึ้น สบู่จะเกิดอาการเจลขึ้นมา คือเปลี่ยนสีเข้มขึ้นโดยเริ่มที่ตรงกลางโมลก่อนแล้วแผ่ขยายไปเรื่อยๆจนเต็มโมล ถึงตอนนี้นักทำสบู่ถึงต้องห่มผ้าให้สบู่ไง เพราะต้องการรักษาความร้อนนี้ไว้ให้คงที่ สบู่จะได้เจลหมดทั้งโมล ทำให้saponifation process เสร็จเรียบร้อยครบกระบวนความ พี่ชอบสบู่ที่เจลแล้ว เพราะมันใส(ดูที่รูป) และแข็งกว่า ตัดได้ในเวลาที่เร็วกว่า ใช้แล้วฟองมากกว่า(อันนี้เดี๊ยนว่าเองค่ะ) แต่บางคนชอบสบู่แบบสีทึบ(ดูรูปสบู่หัวใจ) ก็จะเอาโมลไปแช่ช่องแข็งไม่ให้มันเจล จากคุณ : flymom - [ 1 มี.ค. 51 07:45:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ห็นแล้วก้อให้อยากทำสบู่เป็นค่ะ แต่เท่าที่ติดตามอ่านมาคงต้องศึกษาอีกเยอะเลยนะคะ สบู่น่ากิน เอ้ย น่าทานมากๆค่า จากคุณ : GadZook! - [ 1 มี.ค. 51 09:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่แอนขา มิตติ้งคราวนี้พกลอดช่องมาด้วยอะป่าว (เผื่อฟลุ๊คนะ) *-* จากคุณ : มีแต่ลูกสาว - [ 1 มี.ค. 51 12:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พี่แอนเราเพิ่งหัดทำสบู่อ่ะ  ทำเสร็จก้อเทลงแม่พิมพ์พลาสติกอ่ะ  มันเป็นแม่พิมพ์พวกวุ้นกะเยลลี่อ่ะค่ะ      มันเจลแล้วอ่ะ  แตสบู่มันแกะไม่ออก    แง......  ทีนี้เราใช้มีดแซะแล้วเรามาหลอมใหม่ได้มั๊ยค่ะ แล้วถ้าเราจะเทลงพิมพ์  เห็นกระทู้เก่าของพี่เต่าอ่ะค่ะ  เค้าใช้กระดาษไขวางบนพิมพ์ก่อนเทสบู่  แล้วนอกเหนือจากนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : ก้าวก้าว - [ 1 มี.ค. 51 15:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่า เห็นแล้วนึกอยากกินลอดช่องจริงๆด้วยค่ะพี่แอน อันหัวใจใกล้กันเนี่ย พี่เทสบู่ลงแบช แล้วก็เอาสบู่ก้อนรูปหัวใจไปวางไว้ข้างบนอีกทีใช่ป่าวคะ เห็นแล้วนึกถึงเวลาที่เค้าทำเทียนหอมแฟนซีเลย สองอย่างนี้คล้ายกันจัง คล้ายกันตรงที่น่ากินค่ะ 555+ จากคุณ : PatoyaoW - [ 1 มี.ค. 51 16:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจ๊คะ  สบู่ 100% coconut น่ะ  หลังจากเอาไปใช้แล้ว(หมายถึงพอโดนน้ำแล้วผึ่งไว้จนแห้งน่ะค่ะ) ผิวสบู่มันเป็นปุ่มๆ ป่ำๆ ไม่เรียบมั่งหรือป่าวคะ  คราวที่แล้วที่ลองทำดู  พอเอามาใช้แล้วมันเป็นแบบนั้น  เหมือนเนื้อมันหดๆ แปลกๆ น่ะค่ะ เอ  หรือจะเป็นเพราะน้ำมันมะพร้าวของหนูมันไม่ดีก็ไม่รู้แฮะ   ป.ล.1 หัวใจสวยอ่ะ  เหมือนสบู่ใสเลย ^_^ ป.ล.2 มาคราวนี้เอาสบู่ 100% coconut มาโยนให้ลองมั่งนะค๊า แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 51 17:20:21 จากคุณ : Kidnapper - [ 1 มี.ค. 51 17:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนหนึ่งของความเห็นที่ 13........... การที่สบู่เจล คือปฏิกริยาทางเคมีที่เปลี่ยนน้ำ-น้ำมัน-โซดาไฟ ให้เป็นสบู่ (saponification process) เมื่อสามอย่างนี้มาเจอกันนะ โดยที่เราใช้ความร้อน(อ่อนๆ)เร่งมัน  ส่วนผสมของสามอย่างนี้จะมีอุหภูมิเพิ่มขึ้น สบู่จะเกิดอาการเจลขึ้นมา คือเปลี่ยนสีเข้มขึ้นโดยเริ่มที่ตรงกลางโมลก่อนแล้วแผ่ขยายไปเรื่อยๆจนเต็มโมล ถึงตอนนี้นักทำสบู่ถึงต้องห่มผ้าให้สบู่ไง เพราะต้องการรักษาความร้อนนี้ไว้ให้คงที่ สบู่จะได้เจลหมดทั้งโมล ทำให้saponifation process เสร็จเรียบร้อยครบกระบวนความ ................................................................................................. ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะ....ถ้าจำไม่ผิดเพราะหลายปีมาแล้ว เราเคยคิดที่จะทำสบู่ขาย ในส่วนผสมถ้าจำไม่ผิดจะมีโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH)หรือเรียกโซดาไฟ ด้วย ทำให้เราศึกษาปฏิกิริยาเคมีว่า(จบมาทางนี้อ่ะ เลยใช้วิชาหน่อย)...ในขั้นตอนการผลิตมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ผลคือ...จะมีไอเกิดขึ้น และไอตัวนี้จะไปกัดกร่อนเหล็กได้ด้วย ทำให้เราเลิกล้มที่จะทำ เพราะเพิ่งซ่อมบ้านหมดไปเป็นล้านๆ อีกอย่าง...เมื่อทำเสร็จต้องเก็บสบู่ไว้ 1 เดือนก่อนจะนำไปใช้ เพื่ออะไรสักอย่างจำไม่ได้แล้ว จากคุณ : organ 04 - [ 1 มี.ค. 51 18:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อิอิ ได้มาเชยชมแล้วทั้งสองก้อน หอมถล่มทลายในเบสเม้นท์อยู่นี่ งามแท้งามว่า ใครตั้งชื่อ ฮาร์ทบีท เข้าท่ามากเลยนะ ขอแสดงความคิดเห็นด้วย เรื่องไอโซดาไฟ ดิฉันไม่ทราบเรื่องไอโซดาไฟเรื่องที่จะไปกัดกร่อนเหล็ก ดีนะที่ดิฉันเทโซดาไฟลงในถ้วยน้ำ ขณะที่เปิดพัดลมดูด อากาศจ่อหน้าไอเลย มันดูดปื๊ดออกนอกบ้านหมด ถ้าหน้าร้อนก็ไปเล่นกันข้างนอกบ้านเลย เพราะงั้นใครจะทำ สบู่ก็ลองๆคิดเรื่องนี้ดูด้วย จากคุณ : ปรารถนา - [ 1 มี.ค. 51 20:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณOrgan 04คะ ขอออกตัวนะว่าดิฉันมิได้เรียนมาทางเควีชีวะ เพราะปัญญาไม่ถึง รู้แต่ว่า เวลาเอาโซดาไฟเทลงน้ำ มันจะมีไอพิษพลุ่งขึ้นมาประมาณ 10 วินาทีแรก ถ้าเป็นหน้าร้อน ดิฉันจะเอาออกไปคนข้างนอกแล้วทิ้งไว้ ตอนนี้หน้าหนาว ดิฉันวางไว้ใต้พัดลมดูดอากาศแล้วเปิดพัดลมแรงๆ มันก็ดูดออกไปข้างนอกเหมือนที่คุณปรารถนาว่าเลยค่ะ ทำสบู่มาสิบปีแล้วมั้ง บ้านก็ยังไม่พังค่ะ Kidnapper: สบู่มะพร้าวพี่แบชแรกไม่เป็นอะไรเลยนะ ใช้ดีด้วยล่ะ และแน่นอน ปลายเดือนเจอกันจะเอาไปให้จ้ะ คุณก้าวก้าวคะ เพิ่งหัดทำสบู่ ทำในพิมพ์ใหญ่ๆเช่นกล่องทัปเปอร์แวร์ก่อนดีกว่า ใส่ในพิพม์เล็กนะคะ มันเอาออกยาก เพราะแล้วแต่สูตร น้ำมันอ่อนหรือละหุ่งเยอะไปมันเอาไม่ออกนะ เอางี้ เอาสบู่ในพิมพ์เจลลี่นั่นไปใส่ตู้เย็นทิ้งไว่สองสามวันนะคะ แล้วเอาออกมาวางข้างนอกสิบนาที แล้วค่อยๆบีบออกมาค่ะ จากคุณ : flymom - [ 1 มี.ค. 51 21:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านดูแล้ว ศาสตร์และศิลป์ในการทำสบู่นี่ไม่ใช่ย่อยเลยนะคะ เพราะฉะนั้น... จงทำสิ่งที่เราถนัดต่อไปดีกว่า จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 1 มี.ค. 51 22:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากคุณ : FeLiNY - [ 1 มี.ค. 51 22:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้โห.. แจ่มอีกแล้วค่ะ ที่พี่แนะนำเรื่องการเสียของครีม และ สารที่จะควบน้ำกับน้ำมัน ตอนนี้เจอที่ขายแล้ว ได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ขายด้วย.. ขอบคุณค่ะ เจ้ากระปุกเดิมที่ทำไว้ .. ยัดเข้าตู้เย็นเรียบร้อย (จะใช้ค่อยตักแบ่งออกมา) จากคุณ : FeLiNY - [ 1 มี.ค. 51 22:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องไอระเหยที่คุณ organ 04 ให้ความคิดเห็นมา  เป็นสิ่งที่นักทำสบู่ส่วนใหญ่ไม่ได้มองข้ามไปหรอกค่ะ  แต่คนที่ไม่ได้ทำเป็นการค้า  ส่วนใหญ่ทำทีนึงไม่มาก  แบชใหญ่หน่อยก็อาจจะแค่สองสามกิโล  ใช้ด่างซักสามสี่ขีด(จริงๆ บางคนทำทีนึงแค่ห้าก้อนสิบก้อนเองค่ะ) ไม่ได้ทำทีนึงเป็นสิบๆ กิโลหรือเป็นตัน  ไอระเหยที่ออกมาจึงไม่ได้มากมาย    และส่วนใหญ่จะแนะนำกันว่าให้ละลายด่างในสถานที่เปิดโล่งหรือไม่ก็มีพัดลมดูดอากาศดูดออกไปนอกตัวบ้านไปเลย แต่ยังไงก็ขอขอบคุณมากๆ นะคะ  ที่ยกเอาจุดนี้มาบอกกล่าว  เพราะการใช้โซดาไฟมันก็เป็นจุดที่อันตรายมากๆ อย่างหนึ่งที่พึงระวังจริงๆ และก็อาจจะมีหลายๆ คนที่ยังไม่ทราบ ^_^ จากคุณ : Kidnapper - [ 1 มี.ค. 51 23:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ....น่ากินนะคะ ... อ้อ  เหมือนไอศครีมกะทิ ที่มีลอดช่องในเนื้อไอศครีมนี่เอง จากคุณ : SaGitt@riuS GiRL - [ 2 มี.ค. 51 00:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 โอโห สบู่ที่พี่แอนทำมาให้ดูคราวที่แล้วยังทำให้นู๋นั่งฝันอยู่เลยอะ (อยากทำได้สวยๆ แบบพี่แอนบ้างอะ) ไม่ช้าไม่นานมีแบชใหม่มาให้อยากอีกแล้วค่ะ หลังมิตติ้งถ้ามีนัดกันนอกรอบขอนู๋ไปนั่งดูด้วยคนนะค่ะ จากคุณ : มามี้น้องหงอย - [ 2 มี.ค. 51 00:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับป้าแอ๊ดค่ะ ทำสิ่งที่ถนัดต่อไปดีกว่า ............... แล้วก็เอาสิ่งที่ถนัดไปแลกกับสบู่พี่แอนเหมือนเคย ฮี่ฮี่ จากคุณ : madam_ozzy - [ 2 มี.ค. 51 06:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สบู่ลอดช่อง เห็นแล้ว น่าทานมากค่ะ พี่แอนขา เสียดายไม่ได้ไปมีตติ้งด้วย ไม่งั้น จะขอไปดูสบู่บ้าง จากคุณ : ดอกเล็บมือนาง - [ 2 มี.ค. 51 21:03:09 ]