Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    10 คำถามที่ใครๆมักอยากรู้ เกี่ยวกับการเป็นสัด(ขออนุญาต เอาความรู้ดีๆที่ได้อ่านเจอมาฝาก)

    1.การเป็นสัดคืออะไร

        คำตอบคือ: การที่น้องหมาเข้าสู่การเจริญพันธ์พร้อมที่จะทำการผสมพันธ์และตั้งท้อง คล้ายกับการที่เด็กผู้หญิงโตเป็นสาวและเริ่มมีประจำเดือนนั้นเอง

    2.น้องหมาจะเริ่มเป็นสัดครั้งแรกเมื่อไหร่

        คำตอบคือ: ส่วนใหญ่การเป็นสัดเริ่มต้นที่อายุประมาณ 7-12 เดือน เร็วที่สุดคือ 6 เดือนและช้าที่สุดคืประมาณ 24 เดือน โดยการเป็นสัดครั้งแรกในชีวิตจะช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของน้องหมาว่าเ
    ป็นไปตามเกณฑ์ในช่วงอายุที่เหมาะสมกับกับสายพันธ์หรือไม่ เป็นต้น

    3.อาการเป็นสัดเป็นอย่างไรบ้าง

        คำตอบคือ: อวัยวะเพศของเค้าจะมีขนาดใหญ่และบวมขึ้น จากนั้นจะมีเลือดออกจากช่องคลอด ( เลือดที่ออกมานี้จะมีกลไกต่างจากของคนนะค่ะ เพราะของคนจะเกิดจากการสลายตัวของผนังมดลูกเมื่อไข่ไม่ได้รับการผสมและฝังตัว แต่ของน้องหมาเกิดจากการที่มีเส้นเลือดมาเลี้ยงบริเวณอวัยวัเพศมากชึ้น ) ช่วงนี้น้องหมาอาจมีพฤติกรรมซุกซน กินน้ำเก่งและปัสสาวะบ่อยขึ้น เริ่มมีน้องหมาหนุ่มๆ มาวนเวียนเข้าใกล้ แต่ะจะยังไม่ยอมให้หนุ่มๆ เข้ามาผสมพันธ์ได้ โดยระยะที่มีเลือดออกจากช่องคลอดนี้จะกินเวลาเฉลี่ยประมาณ 9 วัน

    4.แล้วเมื่อไหร่จะถึงช่วงยอมรับการผสมพันธ์

        คำตอบคือ: เมื่อเลือดจากช่องคลอดเริ่มน้อยลงกลายเป็นเมือกใสๆ หรือสีแดงจางๆ ออกมาแทน ช่วงนี้เค้าเริ่มจะให้ความสนใจกับหนุ่มๆที่เข้ามา พยายามหันส่วนท้ายตัวให้ และแสดงอาการยืนนิ่งยอมรับการผสม โดยทั่วไปการตกไข่จะเกิดขึ้นประมาณ 1-3 วัน ภายหลังจากที่ยอมรับการผสมครั้งแรก หรือโดยเฉลี่ยคือประมาณวันที่ 12 ของการเป็นสัด ( นับวันแรกที่มีเลือดออกจากช่องคลอดเป็นวันที่ 1 ) ฉะนั้นวันที่เหมาะสมในการผสมอย่างคร่าวๆก็จะประมาณวันที่ 14 ของการเป็นวัดนั้นเอง ( ถ้าหากอยากอุ้มหลานนะค่ะ)

    5.ระยะการเป็นสัดแต่ละวงรอบนานเท่าไหร่

        คำตอบคือ: ประมาณ 3 สับดาห์หรือ 21 วัน

    6.น้องหมาเป็นสัดปีละกี่ครั้ง

        คำตอบคือ: ประมาณปีละ 2 ครั้ง ยกเว้นในบางสายพันธ์อาจจะเป็นเพียงปีละ 1 ครั้งค่ะ

    7.น้องหมาใช้เวลาตั้งท้องกี่วัน

        คำตอบคือ: ประมาณ 63 - 70 วัน ก็ราวๆ 2 เดือนนั่นเอง

    8.ถ้าไม่อยากให้น้องหมามีลูกต้องทำอย่างไร

    คำตอบคือ: ถ้ายังไม่อยากทำหมันเค้าก็ต้องกักบริเวณหรือขังกรงเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปพบกับน้องหมาห
    นุ่มๆ ค่ะ แต่ถ้าไม่คิดจะให้เค้าเป็นแม่พันธ์เลยคุณหมอแนะนำให้ไปทำหมัน โดยการทำหมันนั้นไม่จำเป็นจะต้องรอน้องหมาเป็นสัดครั้งแรกก่อนหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้สามารถทำได้ตั้งแต่อายุประมาณ 6 - 7 เดือนขึ้นไป โดยการทำหมันตั้งแต่น้องหมายังไม่เป็นสัดนั้นจะช่วยลดโอกาสของการเป็นเนื้องอกหรือมะ
    เร็งที่เต้านมเมื่อเค้าแก่ตัวลงด้วย สำหรับการฉีดยาคุมกำเนิดนั้นคุณหมอไม่แนะนำนะคะเพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมดลูกอั
    กเสบได้ภายหลัง หรือถ้าหากเค้าเกิดไปผสมพันธ์ขึ้นมาก็จะทำให้เกิดภาวะคลอดไม่ออกหรือลูกตายในท้องเป็
    นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

    9.น้องหมามีโรคติอต่อเนื่องจากการผสมพันธ์หรือไม่
        คำตอบคือ: มีค่ะ ยกตัวอย่างเช่น โรคแท้งติดต่อ ซึ่งถ้าได้รับเชื้อมาแล้วจะทำให้น้องหมามีอาการแท้งลูกและมีอาการผสมไม่ติดอยู่เรื่อ
    ยๆค่ะ แถมยังเป็นโรคติดต่อสู่คนอีกด้วย ถือว่าอันตรายทีเดียว ส่วนอีกโรคคือ เนื้องอกที่ติดจากการผสมพันธ์ หรือ Canine Transmissible Venereal Tumor ( CTVT ) เกิดจากการที่น้องหมาถูกน้องหมาตัวผู้ที่เป็นโรคขึ้นผสมพันธ์ โดยจะทำให้มีก้อนเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำที่มีลักษณะคล้ายดอกกระกล่ำและมีเลือดไหลซึมเกิ
    ดขึ้นที่บริเวณปากช้องคลอด ถ้าไม่ทำการรักษาตั้งแต่แรกจะทำให้ก้อนเนื้อโตขึ้นเรื่อยๆ และมีรายงานว่าสามารถเกิดขึ้นแบบกระจายทั่วทั้งตัวได้อีกด้วยนะค่ะ

    10.น้องหมาที่เป็นสัดยาวนานกว่าปกติจะมีความผิดปกติหรือไม่

        คำตอบคือ: ถือว่าผิดปกติค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากน้องหมาเพิ่งเป็นสัดครั้งแรกแล้วเป็นสาวนานกว่าปกติ อวัยวะเพศยังคงบวมไม่ยอมกลับเป็นปกติ อาจเกิดจากภาวะช่องคลอดอักเสบ ( Puppy vaginitis ) ได้ค่ะ ซึ่งภาวะนี้มักเกิดกับน้องหมาที่ไม่ค่อยสมบรูณ์หรืออ้วนเกินไป ทำให้ระบบกลไลการป้องกันเชิ้อโรคของช่องคลอดอ่อนแอจึงเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งโดยปกติแล้วไม่จำเป็นต้องทำการรักษาเพราะจะหายไปเอง แต่ถ้าตัวใหนที่มีการติดเชื้อมากๆ ก็จะต้องให้เค้าทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วยค่ะ และถ้าไม่หายจริงๆก็อาจรักษาด้วยการฉีดฮอร์โมน นอกจากนี้ภาวะการเป็นสัดยาวนานกว่าปกติอาจเกิดจากการที่น้องหมามีซีสต์ที่รังไข่ทำให
    ้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนผิดปกติไปก็ได้นะค่ะ สรุปแล้วก็ควรรีบพาเค้าไปหาคุณหมอจะเป็นการดีที่สุด








    อ้างอิงมาจาก หนังสือ Dogazine no.50 February 2008 ผู้เขียนคือ สพ.ญ. ปิยกาญ โรหิตาคนี

    จากคุณ : mu_ka_puk - [ 1 มี.ค. 51 17:10:42 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom