.....................กลุ่มทุน"เบลเยี่ยม-ญี่ปุ่น" รุกพืชพลังงานทดแทนหนุนคนนไทยพื้นปลูกสบู่ดำ ประกันราคา 4-5 บาท/กก.ให้กับสมาชิก หวังผลิตเป็นไบโอดีเซล ตั้งเป้าทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านไร่ เล็งตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่โคราช เร็วๆนี้
นายเด่นชัย กระต่ายเผือก เกษตรกรผู้นำการปลูกต้นสบู่ดำมาเผยแพร่ใน จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากเกษตรกรผู้ปลูกสบู่ดำในจ.เพชรบูรณ์ กว่า 1,000 ราย ประสบปัญหาปลูกสบู่ดำแต่ไม่มีคนมารับซื้อ ทำให้ต้องไถต้นสบู่ดำทิ้งรางหมื่นไร่เมื่อปลายปี49 ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดหจก.พลังไทยฯ จากจ.กาญจนบุรี เข้ามาได้ติดต่อโดยระบุว่าทุนต่างชาติให้ความสนใจสบู่ดำ โดยการรับซื้อเมล็ดสบู่ดำทั้งหมด
" ขณะนี้มีบริษัทจากประเทศเบลเยี่ยมและมูลนิธิของนายฮิโตชิ ชาวประเทศญี่ปุ่น สนใจและได้ส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกต้นสบู่ดำ และจะส่งเสริมชาวเกษตรกรผู้ปลูกอย่างจริงจัง พร้อมกับให้การสนับสนุนทั้งทุนและต้นพันธุ์ที่กลุ่มเกษตรกรที่จะพากันลงมือปลูกสบู่ดำอีกรอบ "นายเด่นชัยกล่าวและว่า
ขณะนี้ได้ทำสัญญาการซื้อขายเมล็ด และต้นพันธุ์สบู่ดำอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมผลิตต้นพันธุ์สบู่ดำและขายเมล็ดที่มีการประกันราคาให้กับกลุ่มผู้ปลูกสบู่ดำ ในราคากิโลกรัมละ 4-5 บาท
" เมื่อกระทรวงพลังงานของไทย ไม่สนใจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนปลูกสบู่ดำ ส่งขายให้กับชาวต่างชาติทั้งญี่ปุ่นและเบลเยี่ยม ต่อไป โดยขณะนี้กลุ่มเกษตรกรที่เคยปลูกสบู่ดำที่มีอยู่ราว1,000 คน รวมพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ เริ่มตื่นตัวและเริ่มกลับมาปลูกสบู่ดำอีกครั้ง " นายเด่นชัย กล่าวและว่า
สำหรับวิธีการปลูกดูแลสบู่ดำ นั้นง่าย และไม่ต้องลงทุนซ้ำซาก ปุ๋ยยาฆ่าแมลงนั้นไม่ต้องใช้ เพราะพืชตระกูลสบู่ดำมีสารป้องกันแมลงในตัวของมัน เอง การปลูกสบู่ดำที่จะได้ผลผลิตมาก ควรปรับดินในแปลง การปลูกระยะห่างไม่เกิน 1 -1.5 เมตร ระหว่างต้น 60 ซม. 1 ไร่ 1,600-1,800 ต้น ปลูกครั้ง 1 ต้นสบู่ดำ จะอยู่ได้ถึง 20-30 ปี
ส่วนปุ๋ยใส่ควรเป็นปุ๋ยหมัก ที่สามารถผลิตขึ้นได้เอง อายุการเก็บเกี่ยว ต้นสบู่ดำจะออกผลผลิตเมื่ออายุได้ 6 เดือนและเมื่อครบ 10 เดือน สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ทันทีและหากครอบครัวใดปลูก สบู่ดำเกินกว่า10 ไร่ สามารถอยู่ได้เพราะราคาประกันที่ทำไว้ในราคา 4 -5 บาท / กิโลกรัม โดยผลผลิตต่อไร่อยู่ที่ประมาณ 2-8 ตัน/ไร่ เฉลี่ยรายได้ต่อไร่ตกประมาณ 32,000 บาทต่อไร่
ด้านนายอำพูน สังข์พระกร ผู้จัดการ หจก. พลังไทยกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ต.วังไผ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯมีคู่สัญญากับต่างประเทศ คือ บริษัทเบลเยี่ยม ของประเทศเบลเยี่ยม โดยมีโควต้ากว่า1 ล้านไร่ และ ประเทศญี่ปุ่น 1 แสนไร่ โดยแยกกลุ่มไปแล้ว 5 จังหวัด ทุกภาคของประเทศ รวมพื้นที่ปลูกกว่า 3 ล้านไร่
ทั้งนี้เป้าหมายต่อไปจะสร้างโรงงานผลิตไบดีโอเซล ในจังหวัดนครราชสีมา เร็วๆนี้ ส่วนพื้นที่หลักในจ. กาญจนบุรี จะเป็นแหล่งที่ปลูกใหญ่ที่สุดในประเทศ ส่วนสมาชิกที่ร่วมโครงการทางบริษัทจะส่งเสริม และออกทุนการริเริ่มให้ พร้อมทั้งแจกต้นพันธุ์ให้กับสมาชิกทุกคนที่ร่วมโครงการด้วย
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/04/WW53_5301_news.php?newsid=235187
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
5 มี.ค. 51 04:03:26
]