ความคิดเห็นที่ 1 มีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเลี้ยงกระต่ายกันมากมาย แต่ถ้าสนใจจริงๆแล้ว เราอยากบอกว่า การเลี้ยงกระต่ายค่อนข้างแตกต่างจากหมาแมวนะคะ มีการรณรงค์กันอยู่เสมอว่าจะไม่ซื้อขายกระต่ายเด็ก เพราะกระต่ายยังต้องการแม่ ยังต้องการอาหารที่เหมาะสมเพื่อที่จะแข็งแรงเมื่อเติบโตขึ้น ปัจจุบันนี้คนขายกระต่ายเด็กมักหลอกคนซื้อไปต่างๆนานา เพื่อเงินเท่านั้น แต่คุณอยากได้เค้าไปด้วยใจ ความรู้สึกมันจึงสวนทางกันเสมอ เมื่อกระต่ายที่ถูกหลอกมาว่าโตแล้ว หย่านมแล้ว มาอยู่กับเราได้ไม่นานก็มักจะเสียชีวิตได้ง่ายๆ คนเราจึงมักคิดว่ากระต่ายอายุสั้น ไม่จริงเลยค่ะ นอกจากเรื่องยังไม่หย่านมแล้ว การเปลี่ยนที่อยู่ของกระต่ายก็มีความสำคัญ กระต่ายเมื่อถูกโยกย้ายหลายที่ จะเกิดความเครียด ซึ่งความเครียดก็สามารถทำให้กระต่ายเสียชีวิตได้  เพราะฉะนั้น การรับกระต่ายเข้ามาเลี้ยงในบ้านเราช่วงวันแรกๆจะมีความสำคัญมากๆ การเปลี่ยนอาหารของกระต่ายก็สำคัญอีกด้วย รับเค้ามาแล้วเปลี่ยนอาหารปุบปับ กระต่ายบางตัวถึงกับเครียดไม่ยอมกิน ก็เสียชีวิต หรือบางตัวที่กินไปก็จะทำให้ท้องเสีย พอท้องเสียแล้วเนี้ยะ เรื่องใหญ่มากๆ เพราะทำให้น้องเค้าจากไปได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน ---การย้ายที่ การให้อาหาร ถ้าจะเปลี่ยนต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปสำหรับกระต่าย สภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ก็ทำให้กระต่ายเป็นฮีตสโตรค เสียชีวิตได้เหมือนกัน หรืออากาศที่ร้อนชื้น การย้ายเข้าห้องแอร์ --ออกไปข้างนอก เปลี่ยนอุณหภูมิฉับพลันก็ทำให้กระต่ายเป็นไข้ก็เสียชีวิตได้ ผักบางชนิดที่คนเราคิดว่ากระต่ายทานได้ เช่นผักบุ้ง แตงกวา กะหล่ำปลี กระถิน ฯลฯ จริงๆแล้วมันคือผักที่อันตรายสำหรับกระต่าย ด้วยเหตุที่กระต่ายจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่รับเข้าไปได้ง่ายเหลือเกินเช่นนี้แล เค้าจึงนำกระต่ายมาเป็นสัตว์ทดลอง เพราะเห็นผลเร็ว กระต่ายเป็นสัตว์ที่ถูกล่าโดยธรรมชาติ ดังนั้นเค้าจะมีความอดทนสูงมาก ไม่ยอมเปล่งเสียง ขี้ตกใจ ขี้ระแวง เนื่องจากต้องป้องกันตัวเองจากสัตว์ที่จะมากินเค้าอยู่เสมอ โดยสัญชาติญาณแล้วเค้าจึงจะไม่บอกสีหน้า เปล่งเสียง หรือมีพิรุธอะไรเลย กว่าจะบอกว่าเค้าเป็นอะไรนั้น ก็มักจะสายเกินไปเสียแล้ว การเลี้ยงกระต่ายจึงต้องมีความพร้อม และเข้าใจในธรรมชาติของกระต่ายให้มากๆเพื่อที่เราทั้งสองฝ่ายจะได้ปรับตัวเข้าหากัน อยู่ร่วมกันได้ค่ะ เมื่อเค้าสนิทกับเรา ก็นอนกอดกันได้ด้วยนะ เค้าจะมีวิธีสื่อสารกับเราด้วยว่าเค้าต้องการอะไร ต้องการจะพูดอะไรกับเรา แต่น้องเค้าไม่ใช่หมาหรือแมว ดังนั้นจึงต้องเข้าใจธรรมชาติของเค้าให้มากเสียก่อน ใช้เวลาอีกหน่อย ไม่บุ่มบ่ามเข้าไปจับเค้า เค้าจะตกใจ เราเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วค่ะ คุณจะรักเค้ามากๆเหมือนพวกเราเลยล่ะ มีอยู่หลายช่วงแรกๆที่คิดจะถอดใจเลิกเลี้ยง เพราะว่าดูเหมือนจะเลี้ยงยากเย็นลำบาก ต้องระวังทุกสิ่งทุกอย่าง มากมายเหลือเกิน แต่เมื่อคิดว่าเรารับเค้ามาอยู่ด้วยแล้ว เราต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ก็ทำไป จนถึงในวันนี้ การเลี้ยงพวกเค้าทำให้เราพาลไปหลงรักกระต่ายทุกตัวในโลก พวกเค้าสอนให้เราอดทนเหมือนเค้าเลยค่ะ ไม่บ่นๆๆๆ ไม่ใจร้อน ไม่ขี้โมโห ทำให้เป็นคนมีระเบียบ บ้านช่องสะอาดกวาดถูมันทั้งปี ที่สำคัญคือทำให้เราเป็นคนช่างสังเกต คิดพิจารณา ได้ดีกว่าเดิมด้วย เราเองก็เลี้ยงเป็นคอกแรก เสียลูกสาวแสนรักไปตัวนึงแล้ว เหลืออีกตัวนึง เรารักเค้ามากๆเลย เรามักจะมาหาข้อมูลหรือให้เพื่อนๆช่วยเหลือเรื่องกระต่ายในห้องนี้ อ่านมันทุกกระทู้เลยค่ะ และเว็บ http://rabbit.thaipetlover.com/ และ http://www.epofclinic.com/ แทบจะทุกหน้าถือเป็นเรื่องที่น่าอ่านและมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เลี้ยงกระต่ายมากๆ ลอกข้อความมาจาก http://rabbit.thaipetlover.com/ ค่ะ "คิดก่อนเลี้ยง"........... หลงรักกระต่ายเข้าแล้วใช่ไหมคะ แต่ว่าก่อนที่เพื่อนๆ จะหยิบตังก์ออกไปเลือกหาเพื่อนตัวน้อยที่แสนจะน่ารักนี้ มาครอบครอง เรามาศึกษากันดูก่อนดีไหมคะ ว่ากระต่าย เหมาะกับเพื่อนๆ จริงๆหรือเปล่า ข้อดี ข้อเสีย 1. กระต่ายเป็นสัตว์ที่อายุยืน ก่อนเลี้ยงท่านต้องคิดก่อนว่า ท่านสามารถจะดูแลกระต่ายได้ จนถึงวันสิ้นอายุขัยหรือไม่ หลายๆครั้งที่พบว่า กระต่ายได้ถูกทอดทิ้ง เพียงเพราะเจ้าของเบื่อหน่าย หรือ เพราะต้องย้ายที่อยู่ เช่น ใครที่อยู่อพาร์ตเมนท์ช่วงสั้นๆ แล้วรู้ว่า ในอนาคตต้องย้ายไปอยู่บ้าน ไม่สามารถจะเลี้ยงกระต่ายได้ ก็ควรจะคิดให้ดีก่อน 2. กระต่ายเป็นสัตว์ที่ออกลูกดก สามารถจะออกลูกได้ปีละ 5 ครอกเลยทีเดียว แต่ละครอกอาจจะมีมากถึง 8 ตัวเป็นต้น ดังนั้นหากท่านคิดจะเลี้ยง ควรจะคิดให้ดี ว่าจะทำอย่างไรกับลูกกระต่าย หากท่านไม่อยากรับภาระเรื่องลูกกระต่าย ท่านควรจะเลือกเลี้ยงกระต่ายเป็นเพศเมียทั้งหมด 3. กระต่ายเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร และกินอาหารเม็ดด้วยเช่นกัน แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ท่านต้องให้อาหารจพวกผัก และ ผลไม้แก่กระต่ายด้วย 4. กระต่ายเป็นสัตว์ที่ขับถ่ายเยอะ ปัสสาวะ และอุจจาระ หากไม่ได้รับการดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีพอ จะมีกลิ่นค่อนข้างมาก 5. กระต่ายเป้นสัตว์ที่สุภาพ น่ารัก สะอาด ตัวของกระต่ายจะไม่มีกลิ่นเหม็น 6. กระต่ายไม่ส่งเสียงร้องพร่ำเพรื่อ ท่านสามารถจะเลี้ยงในบ้านหรืออพาร์ตเมนท์ได้ 7. กระต่ายก็เหมือนกับคนค่ะ เจ็บป่วยได้ แต่ว่าหมอที่รักษากระต่ายได้นั้น ควรจะเป็นคุณหมอที่รู้จักกระต่าย ดีพอ ไม่ใช่คลินิคสัตวแพทย์ทั่วไป ดังนั้นค่าใช่จ่ายในการรักษาก็มีเช่นกัน หากเค้าป่วย เพื่อนๆ สามารถจะรับผิดชอบ พาเค้าไปหาหมอได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ อย่าเลี้ยงเลยค่ะ สงสารเค้า มีอะไรก็มาคุยกันนะคะ ยินดีต้อนรับเสมอ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 5 มี.ค. 51 22:15:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้เป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่แต่ละคนในบ้านโพรงฯใช้ไปกับเจ้าตัวน้อยค่ะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/10/J5879965/J5879965.html ถ้าอยากหาข้อมูลก็ดูได้ที่กล่องสีชมพูด้านบนห้องกระต่ายได้เลยค่ะ ค่อยๆศึกษาไป อย่าใจร้อน ^^ จากคุณ : เจ้าหญิงของเฟิร์ส - [ 5 มี.ค. 51 22:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในการเลือกซื้อลูกกระต่าย จะต้องดูหลายๆอย่างค่ะ แต่ก่อนที่เพื่อนๆ จะตัดสินใจซื้อกระต่าย เพื่อนๆ ควรจะดูก่อนว่า กระต่ายนั้น เหมาะกับเราหรือไม่ (อ่านหน้านี้ก่อนค่ะ :กระต่ายเหมาะกับเราหรือไม่) หากเพื่อนๆ มั่นใจแล้วว่าจะซื้อกระต่ายมาเลี้ยง 1. อันแรกเลย ต้องดูโดยรวมของที่เลี้ยงก่อน ว่ากระต่ายได้รับการดูแลจากร้านดีพอไหม เช่น ที่อยู่สกปรก หมักหมม มีกลิ่นเหม็น ขนเป็นสังกะตังหรือไม่ หากสภาพแวดล้อมไม่สะอาด เราไม่ควรจะซื้อค่ะ 2. ตรวจดูตัวกระต่าย ว่ามีบาดแผล สะเก็ด ขนร่วงหรือไม่ 3. กระต่ายโดยเฉพาะพันธุ์ขนยาว ควรจะต้องสะอาด ได้รับการแปรงขนอย่างดี ไม่มีปรสิตตามขน 4. ตรวจดูบริเวณก้น ว่ามีท้องเสียหรือไม่ 5. ตรวจดูบริเวณหูค่ะ ควรจะมีสีชมพู สะอาด ไม่มีคราบขี้หู หรือเชื้อรา 6. ตาจะต้องสดใส ไม่เป็นฝ้าขุ่น และขนแถวตาต้องไม่มีร่องรอยของน้ำตาเป็นคราบอยู่ 7. ตรวจจมูก จะต้องไม่มีน้ำมูก หรือมีอาการหายใจลำบาก 8. ตรวจฟัน จะต้องไม่ยาว ต้องขบกันได้ไม่มีปัญหา ฟันยื่นฟันเอียง และต้องไม่มีน้ำลายเปียกแถวใต้คาง 9. สังเกตการเคลื่อนไหว ต้องไม่ติดขัด ขาไม่กระเผลก และต้องไม่มีอาการขาแป 10 สังเกตอาการตอบสนองของกระต่ายต่อคน หากกระต่ายที่ได้รับการเลี้ยงอย่างดี ดูแล เอาใจใส่มาอย่างดี จะไม่มีอาการหวาดกลัวคนมาก 11. หากกระต่ายตัวไหน มีพ่อแม่ที่ฟันเอียงเก ฟันยาว หรือขาแป อย่าซื้อมาเลี้ยงเพราะอาการเหล่านั้น สามารถถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมได้ 12. พยายามซื้อลูกกระต่ายที่หย่านมแล้วค่ะ ผู้ขายบางคน จะชอบเอากระต่ายที่ยังเล็ก ยังไม่หย่านมดี เอามาขาย เพื่อหลอกว่าเป็นกระต่ายแคระค่ะ ซึ่งต้องระวังด้วย ถ้าจะให้ดี เราควรจะเลือกกระต่ายที่อายุ 2 เดือนขึ้นไปค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ ในการเลือกซื้อกระต่ายมาเลี้ยงนะคะ อ้อ ที่สำคัญมากๆคือ กระต่ายก็คือ 1 ชีวิตนะคะ ที่เราจะต้องดูแลเค้าจนถึงนาทีสุดท้ายของเค้า หากเลี้ยงแล้วล่ะก็ ต้องรับผิดชอบชีวิตเค้าด้วยนะคะ โชคดีค่ะ :) Credit : http://rabbit.thaipetlover.com จากคุณ : อาจจะแก่ - [ 5 มี.ค. 51 22:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กระทู้เกี่ยวกับอุปกรณ์การเลี้ยงน้องกระต่ายค่ะ ^^ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/04/J5355983/J5355983.html ถ้าได้น้องมาแล้ว พามาให้ชมกันบ้างนะค้า ^^ จากคุณ : piekrobe - [ 5 มี.ค. 51 23:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แวะมาเก็บความรู้ก่อนนอนไปแว้ว จากคุณ : yokubpum - [ 6 มี.ค. 51 00:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เค้าแนะนำกันไปหมดแล้ว ระวังดูแลเรื่องอาหารให้ดีนะคะ กระต่ายเซนซีทีฟกับเรื่องอาหารมาก ตอนที่ซื้อควรจะถามว่าเค้ากินอาหารอะไรอยู่ ถ้าเป็นอาหารเม็ด ยังไม่ควรเปลี่ยนยี่ห้อทันที ให้เอายี่ห้อที่เค้าทานอยู่ให้ทานต่อไปก่อน แล้วค่อยๆ ผสมอาหารยี่ห้อใหม่ โดยผสมครั้งแรก ของเก่า 90% ของใหม่ 10% และค่อยๆ เพิ่มทีละ 10% ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกระต่าย และได้กระต่ายคู่ใจเร็วๆ นะคะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 6 มี.ค. 51 08:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ ค่อยๆศึกษานะคะ..อย่าเพิ่งใจร้อนนะ อ่านที่พี่ๆเค้าแนะนำมาเยอะๆนะคะ(ออกแนวขี้เกียจนั่นเอง อิอิ) กว่าพีชจะตกลงปลงใจเลี้ยงกระต่าย พีชเก็บข้อมูลอยู่เกือบๆปีแน่ะค่ะ...กลัวนู้น กลัวนี่ไปหมด กว่าจะตัดสินใจเลี้ยงได้ก็นานเลยค่ะ ขอให้พร้อมเลี้ยงและเจอกระต่ายที่ถูกใจเร็วๆนะคะ ^-^ จากคุณ : เด็กหญิง_ลูกท้อ - [ 6 มี.ค. 51 08:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอรบกวนถามด้วยค่ะ ว่าจะซึ้อมาให้ลูกสาวเลี้ยง เลยอยากได้แบบที่เลี้ยงง่าย และ friendly นะคะ คือเข้าใจว่า แต่ละพันธ์ก็ควรจะมีนิสัยแตกต่างกันหรือเปล่าค่ะ อยากได้แบบพันธ์แคระนะคะ ไม่ทราบว่าแนะนำพันธ์อะไรดีค่ะ แล้วควรไปซึ้อที่ไหน ราคาประมาณเท่าไรค่ะ จากคุณ : Roorooh (RooRooh) - [ 9 มี.ค. 51 17:14:34 ]