สมัยที่ท่านสมัคร สุนทรเวชได้รับเลือกเป็นผู้ว่ากทม เมื่อหลายปีที่แล้วมาก็ได้
น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รับพระราชดำรัดพระบาทพระเจ้าอยู่ทรงให้เลิกกำจัด(ฆ่าตาย)
สุนัขจรจัดที่ กทม จับไปไว้ที่เขต โดยให้มีการ จัดการทำหมัน และนำมาปล่อยที่เดิม
ก็มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเกิดขึ้น ภายในเขต กทม ก็ได้ปรับปรุงจนไม่มลักษณะที่น่ากลัว เหมือนเมื่อก่อน
ได้ทุบสถานที่กักกัน ที่เป็นห้องปูนทึบทิ้ง(พอปิดประตูแล้วจะไม่ได้ยินเสียหมาร้อง
เมื่อครบ3-7วัน เขาก็จะเอายาพิษที่มีฤทธิ์ตายทันที่ป้ายที่ปากสุนัข พวกนี้ก็จะร้องอย่างทรมานจนตาย
ระหว่างนั้นเขาก็จะปิดประตูเสียเพื่อไม่ให้มีเสียงรอดออกมา)
แล้วทำเป็นกรงเปิดแทน ทำให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี และไม่มีการกำจัดหมาจรจัดอีก เป็นการสิ้นสุดยุคโหดร้าย ณ บัดนั้น และเริ่มยุค เมตตาต่อสัตว์ร่วมโลก ทำให้พวกเราที่รักสัตว์มีความสุขขึ้น และสบายใจอย่างมาก
นอกจากนี้ ทางกทม ยังได้เตรียมสถานที่ที่จะรองรับ หมาจรจัดที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งแสดงถึงสภาวะ ความมีศิวิลัยและความเจริญกล้าวหน้า ของกทม อย่างมาก สมกับความเป็นเมืองพุทธของเมืองไทย
ศิลห้าข้อนั้น เราจะเห็ผนว่า ข้อการห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั้นเป็นศิลข้อแรกที่ห้าม แสดงว่าเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นบาป ระดับต้นๆ ที่มีผลแรงต่อกรรมของเรา
การฆ่าสัตว์นั้น ไม่จำเป็นว่าเราต้องลงมือฆ่าด้วยตัวเอง แค่เราสั่ง ให้คนอื่นทำ จิตมันก็ถึงกันเสมอกัน ก็ได้ผลกรรมเท่ากับคนที่ลงมือฆ่าที่เดียว
ในเมื่อกทมมีนโยบายที่จะไม่กำจัด(ฆ่า) สุนัขจรจัดแล้ว ก็ได้มีการปฏิบัติที่ดีกับสุนัขและแมวจรจัด อย่างมีความเมตตาและ ให้ความรักกับพวกเขาเหล่านี้ พอสมควร
จำได้ว่าเมื่อข้าพเจ้าได้ไปช่วยหมาที่ central world ที่ ถูกกทมจับไปร่วม 30ตัว เมื่อไปถึงเขตประเวศ ก็ได้พบคุณหมอสองท่านที่ดูแลอยู่ ที่จำได้นั้น ก็มีคุณหมอ ศิวะ ท่านหนึ่ง ท่านก็อธิบายถึงความเป็นอยู่ของหมาที่จับไป และยังได้อนุญาต ให้เดินเยี่ยมชม ตามกรงต่างๆ
http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/05/J5408182/J5408182.html
ตอนนั้น สิ่งที่ได้เห็นคือ กรงที่สะอาด สุนัข ก็มีความเป็นอยู่ที่ดีพอสมควร จนทำให้เราวางใจ และสบายใจ ที่พวกเขาถึงแม้ว่าจะถูกจับ แต่ก็มีความเป็นอยู่ที่สบาย กว่าอยู่ข้างนอก
อยู่ที่เขต มีอาหารให้กิน ไม่ต้องอดยาก เจ็บป่วยก็มีหมอรักษา จนเราขอถ่ายรูป เพราะเราสบายใจและหมดห่วงไปสวนหนึ่ง เพราะเห็นแล้วว่าพวกเขาได้อยู่ในที่ปลอดภัย และถ้าย้ายไป ที่อ่างทอง ซึ่งก็เป็น สวรรณ ดีๆ นี้เอง สำหรับพวกเขา พวกเขาจะมีรพ จะมีสถานที่ กว้างขวาง สำหรับวิ่งเล่น
ดูจากที่คุณหมอ ศิวะ กรุณาเปิด ให้ดูจาก คอมพิวเตอร์ มันอยู่ใหหุบเขา เขียวขจีไปด้วยต้นไม้ มีน้ำลำทานอยู่ในผืนที่ ดูๆไปก็เหมือน รีสอทหรู ของพวกเขาเหล่าหมาและแมวจรจัดที่เดียว
ดีกว่าอยู่ข้างนอกตามท้องถนน ซึ่งต้องอดยาก และมีอัตรายจากรถ และคนใจร้ายที่จะมาทำร้ายพวกเขา จนเรานึกเป็นห่วงว่าถ้ามีคนรู้ว่าที่เขตุเลี้ยงดี อย่างนี้อาจจะมีคนเอาหมามาปล่อยที่เขตุประเวศ มากขึ้น
เราสำผัสได้ว่าคุณหมอทุกท่าน คือ คุณหมอ เอ และคุณหมอ ศิวะ และผู้ที่ดูแลทุกท่าน มีความรัก ความเมตตา และเอาใจใส่กับหมาจรจัดและแมวจรจักเหล่านี้มาก
ถึงอย่างไรก็ตามเราก็เอาหมากลับมา6ตัวเพราะสามารถหาบ้านให้เขาอยู่ได้
แต่....ตอนนี้ เขตประเวศเป็นอะไรไปแล้วคะ......ได้เปลี่ยน จาก สวรรณ เป็น ขุมนรก สำหรับหมาจรจัด และ แมวจรจัดไปเสียแล้ว
ขอความกรุณาท่านผู้มีอำนาจ..ได้โปรดเมตตาพวกเขาด้วยคะ ..ชีวิตของใครไม่ว่าคนหรือสัตว์ต่างก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น
พวกเราอยากจะขอร้องและวิงวอน ท่านผู้ที่มีอำนาจ ว่าถึงแม้ว่าพวกเราคนรักสัตว์ จะมีไม่มากนักในสังคมนี้ แต่ พวกเราก็มีจิตใจ และ ความรู้สึกเหมือนๆกับท่าน
ท่านอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่อาจทำให้จิตใจท่านอ่อนไหว และอ่อนโยน ที่พวกเราไม่ทราบ
ก็อยากจะให้ท่านได้รับรู้ว่า สิ่งที่มีอิธิพล และทำให้พวกเราพวกคนรักสัตว์อ่อนไหว ได้มากถึงมากที่สุดจนต้องร้องให้ เป็นทุกข์แสนสาหัส คือการที่ได้รู้ได้เห็นว่าพวกเขา (หมาและแมว และสัตว์อื่นๆ) ไม่ได้รับการเหลีบวแล ถูกทารุณ
ถูกทอดทิ้ง จนเจ็บป่วย ตายอย่างทรมาณ
อยากให้ท่านเอาใจเขามาใสใจเรา ว่าสิ่งใดที่สามารถทำให้ท่านรู้สึกทุกข์แสนสาหัส สภาวะนั้นที่ท่านรู้สึกก็ไม่แตกต่างกับความทุกข์ทรมานของพวกเราเลยคะ
ขอกราบขอความกรุณา เมตตาต่อสัตว์โลกที่อาภัพพวกนี้ด้วดคะ....
แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 20:44:57
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 51 22:49:00
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 51 22:44:25
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 51 22:38:45
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 51 22:36:06