ความคิดเห็นที่ 1 รดได้ค่ะ แต่ต้องผสมน้ำเพื่อเจือจางปุ๋ยในครั้งแรกก่อน เพราะว่าให้ต้นไม้ได้ปรับตัวกับปุ๋ยชนิดนี้ก่อนน่ะค่ะ เอ แต่สูตรหมักปุ๋ยชีวภาพของเราต้องหมักนาน 3 เดือนนะคะ กว่าจะเอามาใช้ได้ พอปุ๋ยได้ผล เราก็เอามาไว้รดต้นไม้ กับเอาไว้มาเป็นส่วนประกอบทำน้ำยาล้างอเนกประสงค์ด้วยค่ะ สูตรสำหรับรดน้ำในครั้งแรก  ปุ๋ย 1 ส่วน: น้ำ 4 ส่วนค่ะ ของเรารดน้ำปุ๋ยแบบเจือจาง 2 อาทิตย์ครั้ง เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ต้นไม้งามมากค่ะ ออกดอกเยอะไม่ขาดเลย แถมผลไม้ที่บ้านก็ดกกว่าปกติค่ะ แถมช่วยปรับสภาพดินที่แข็งให้ร่วนขึ้นด้วยค่ะ ทำให้ระบบรากของต้นไม้ดีขึ้นอีกต่างหาก จากคุณ : leslie - [ 20 มี.ค. 51 10:45:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 /\ /\ /\ /\   เอ.....น่าสนใจ  สงสัยต้องขอสูตรซะแล้ว...(อิอิ  คุ้น ๆ เน้อ) จากคุณ : GROSSI - [ 20 มี.ค. 51 11:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปุ๋ยน้ำมีความเป็นกรดสูงครับ ถ้ารดต้นไม้ตรงๆ ถึงตายครับ ต้องผสมน้ำแยะๆ ปกติหมักกันเป็นเดือน ก็จนของที่หมักเปลี่ยนเป็นของเหลวเป็นส่วนใหญ่ แล้วปุ๋ยน้ำนี่เหมือนปุ๋ยเคมีอย่างหนึ่ง คือถ้าใส่มากเกิน ต้นไม้จะออกอาการแกรน ใบเล็ก ใบเหลือง นะครับ แล้วหากต้องการให้ได้ผลดี น้ำที่ผสมรด ถ้าเป็นน้ำ ไม่มีครอรีนจะดีครับ EM จะไำด้ไปเจริญต่อในดินได้อีก จากคุณ : มิน (kaminkp) - [ 20 มี.ค. 51 11:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบพระคุณมาก ๆ เลยค่ะเพื่อน ๆ สงสัยอีกนานเลยกว่าที่เราจะได้ใช้ปุ๋ยที่เราหมักเอง  แล้วระหว่างนี้เราเอาผักหย่อนไปเรื่อย ๆ ได้ไหมคะ จากคุณ : biebie999 - [ 20 มี.ค. 51 13:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ของผมก็ หมักไป ใช้ไป เติมผักผลไม้ไป ถ้าน้ำ EM กลิ่นไม่ค่อยหอมแล้ว ก็ซื้อกากน้ำตาลโมราจ มาเติมเพิ่ม ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 20 มี.ค. 51 13:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อยากได้สูตรครับ อยากลองทำเองบ้างครับ จากคุณ : jetsakee - [ 20 มี.ค. 51 14:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บ้านไม่ได้ซื้อหัวเชื้อเลยค่ะ เอาเศษหญ้า เศษอาหารหมักเลย ปิดฝาให้สนิทแล้วติดก๊อกตรงก้นถังไว้เปิดเอาน้ำหมักออกมาใช้ ใช้ไปก็เติมเศษหญ้าเศษอาหารไปเรื่อยๆ หมักเป็นเดือนเหมือนกันค่ะ แล้วเอาน้ำหมักผสมน้ำรดดินแข็งๆที่ถมตอนปลูกบ้าน เดี๋ยวนี้ทั้งไม้ดอกไม้ผลที่ปลูกในบ้านดกมาก รสชาติก็ดีค่ะ ^^ จากคุณ : Orange Jasmin - [ 20 มี.ค. 51 15:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เยเยเยเยเย  เศษผักบ้านเราเยอะเลยได้โอกาสเพิ่มสารอาหารให้จุลินทรีย์แล้ว  อ๋อออออ......ใส่กากน้ำตาลเพิ่มนี่เอง  เราเคยปล่อยให้เหม็นเลยค่ะ  ถึงตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ สูตรที่เราทำมีผลส้มประมาณ 3 กิโลกรัม + กล้วยน้ำว้า + ชมพู่มะเหมี่ยว + ลูกพลับ + แอปเปิ้ล + ผักบุ้ง + ใบกะเพรา + ผักคะน้า + สับปะรด อย่างละนิดละหน่อย ใช้เชื้อ EM 3 ช้อนโต๊ะ + กากน้ำตาล  (กะ ๆ เอาจ้า) + น้ำพอท่วม ฝาปิดให้สนิท  อยู่ในที่แดดส่องไม่ถึง  (มุมสงบ ๆ)  หมักไว้ซัก 3 เดือนค่า ลองแง้ม ๆ ดู  กลิ่นหอมมาก ๆ อาจจะเผลอรับประทานได้  ฮ่า ๆๆๆ ส่วนสูตรอื่น ๆ เช่น สูตรเศษอาหารครัวเรือน ข้าว ฯลฯ กลิ่นเหมือนอึเลยค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 20 มี.ค. 51 15:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคุณjetsakee และเพื่อนๆที่อยากทำ ครับ ของผมทำใช้ เพื่อรถผักสวนครัว พริก กระเพรา  ข่า ตะไคร้ และกล้วยไม้นิดหน่อย หลังบ้าน ผมใช้หัวเชื้อ EM ที่มีวางขายทั่วๆไป ที่แผนกเครื่องสวน ห้างสรรพสินค้า ขนาด หนึ่งลิตร  ซื้อครั้งเดียว ใช้ได้ไปเรื่อยๆ  เพราะว่าเราจะหมักเกิดเป็น EM ไปเรื่อยๆ ครับ กากน้ำตาล ซื้อมาหนึ่งลิตร เท่าๆกันกับหัวเชื้อ EM หรือซื้อมาเผื่อ สองสามลิตรก็ได้ บางที่มีขายเป็นแกนลอน ประมาณสี่ลิตร ก็ซื้อมาเถอะ เพราะ  ต้องเติมเรื่อยๆ     มีขายที่เดียวกับ EM นั่นแหละ ทำที่หมัก ผมใช้กระป๋องแฟ๊บใหญ่มีฝาปิด มิดชิด เอามาเจาะรูใส่ก๊อกด้านข้างถัง ด้านล่าง ข้างในใส้ตะกร้าขนาดย่อมๆ เล็กและเตี้ยกว่าปากถังแฟ๊บนิดหน่อย เอาผักผลไม้ที่เหลือจากกิน ใส่ในตะกร้าให้พอเต็ม เอาหินหรืออิฐบล๊อกทับกันลอย แล้ว เท EM กับกากน้ำตาล อย่างละลิตร ลงไป ใส่น้ำตุ่ม (น้ำปะปาแช่ในตุ่มให้ไม่มีคลอรีน) ลงไปประมาณสิบลิตร   หมักไว้ ประมาณสองอาทิตย์ เมือครบแล้วเปิดถังดูจะมีฝ้าขาวๆ และมีกลิ่นหอมเฉพาะกลิ่น EM ไม่มีกลิ่นเหม็นเนา ครับ ก็เปิดก๊อก รินเอาน้ำที่หมักมาผสมน้ำตุ่ม 1:4 เอามารดต้นไม้ครับ ระหว่างนี้เราก็ใส่ผัก ผลไม้ หมักไปเรื่อยๆ    เติมน้ำ  และ เปิดก๊อก ริน EM ใช้ไปเรื่อยๆ     แล้ว คอยสังเกตุว่า ถังเรายังมีกลิ่น เป็นปกติ หอม EM อยู่หรือเปล่า ถ้ากลิ่นเริ่มเปลี่ยนไป หรือเหม็น แสดงว่า EMในถังเริ่มน้อยลง ไปย่อยกากอาหารไม่ทัน  ก็ให้เราเติมกากน้ำตาล ลงไปอีกครึ่งลิตร ทิ้งไว้คืนหนึ่งก็จะได้กลิ่นหอม EM เหมือนเดิม ครับ EM ไม่ย่อยเศษข้าว เศษอาหาร หรือไขมัน ไม่ต้องใส่ลงไปนะ ครับ ประมาณครึ่งปีหรือเจ็ด แปด เดือน มันจะเต็ม คือใส่ผักผลไม้ ลงไปไม่ได้แล้วอัดลงไปก็ไม่ยุบตัวแล้ว ก็ค่อยๆรื้อ กากหรือเศษผักผลไม้ ด้านล่าง ที่ EM ย่อยสลายแล้วเอาออกมาตากแดด ทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ ได้ ครับ แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 51 15:22:02 จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 20 มี.ค. 51 15:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เด๋วขอไปลากพี่ต้น มาตอบด้วยคนน๊ะค๊ะ จากคุณ : ช้อนชา - [ 20 มี.ค. 51 16:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้นี่ดี....มีสาระ ช่วยกันกดเข้าคลัง....โย่วๆ.. จากคุณ : Mai_ZaZa_ZuZu - [ 20 มี.ค. 51 19:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขออวด ผลิตผลจาก โมกาชิ่ หรือจุลลินซีชืวภาพ Effective Microorganisms (EM) ด้านหลังเลยราวกล้วยไม้ ออกไปติดกำแพงเป็นสวนผักสวนครัว ปลอดสารพิษ ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 21 มี.ค. 51 09:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นี่แหละครับ ถังแฟ็บ ยี่ห้อบรีส 555 ที่หมัก EM ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 21 มี.ค. 51 09:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แอ่น แอ้น แอน  เปิด ฝา ดู ฝ้า ตัวจุลลินซี EM ข้างใน ไม่เหม็น นะ ครับ หอมแปลกๆดี ครับ จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 21 มี.ค. 51 09:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สูตรของเราจะเน้นใส่พวกผลไม้มากกว่าผักค่ะ ก็จะมีเปลือกส้ม เปลือกมะนาว มะเฟือง สับปะรด ประมาณนี้ค่ะ ถ้ามีผักก็ใส่พวกเศษเปลือกแครอท ใบผักที่ทิ้งแล้วแต่เป็นส่วนน้อยค่ะ ขนาดของภาชนะที่ใช้หมักก็คล้ายๆ กับคุณกา...คาบพริก ค่ะ กากน้ำตาลเราใส่ประมาณ 1.5 โลค่ะ .................................................. ที่สำคัญ ต้องเปิดฝากวนให้ได้ทุกวัน หรือ 2-3 วันครั้งก็พอได้ค่ะ แต่ต้องปิดฝาให้สนิททุกครั้งเพื่อกันแมลงวันลงไปไข่ แล้วจะทำให้ปุ๋ยเกิดหนอนขึ้น เป็นอันแทบต้องเททิ้งนะคะ  เพราะฉะนั้นต้องระวังด้วยค่ะ อ้อ  กลิ่นที่ดีของปุ๋ย จะต้องเป็นกลิ่นหอมแบบเปรี้ยวๆ นะคะ และสีที่ได้จะค่อนข้างเหลืองหรือสีส้มค่ะ ป.ล. เนื่องจากเราต้องใช้ปุ๋ยตัวนี้เป็นส่วนประกอบของการทำน้ำยาล้างอเนกประสงค์ชีวภาพด้วย ดังนั้นเราเลยจะเน้นเรื่องผลไม้หรือผักที่ใส่ลงไปหมักในปุ๋ยด้วยค่ะ เพราะถ้าเราใส่ผักหรือผลไม้นอกเหนือจากนี้ สีของปุ๋ยจะออกไปทางเข้มเกินไป ทำให้สีน้ำยาของเราไม่สวยค่ะ  แต่ถ้าคุณจะใช้เพื่อเป็นปุ๋ยรดน้ำต้นไม้อย่างเดียวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 51 10:13:49 จากคุณ : leslie - [ 21 มี.ค. 51 10:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แถมสำหรับเพื่อนๆที่ชอบเลี้ยงกล้วยไม้แบบผม คือว่าเวลาเดินตลาดนัดใกล้บ้าน  จะมีพ่อค้าแม่ค้าเอากล้วยไม้ ออกดอกสวยๆหลายๆชนิด มาแขวน ล่อตาล่อใจ ขาย ก็อดไม่ได้ จะซื้อติดมือกลับมาบ้านด้วย แรกๆ มันก็โชวดอก ให้เราเห็นสวยดีอยู่หรอก แต่ พอดอกมันเหี่ยวโรยร่วงไป ใส่ปุ๋ยรดน้ำยังไง ดอกมันก็ไม่ยอมงอกโผล่ขึ้นมาอีก แขวนโชวใบ ไร้ดอก โตงเตงอยู่อย่างงั้น เพราะเราเลี้ยงไม่เป็น จะทิ้งไปก็เสียดาย กะตังค์ ครับ จนมาเมื่อสองปีที่แล้ว ไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลี้ยงกล้วยไม้สไตย์เรา ประเภทซื้อมาทีละต้นสองต้น เหมือนกัน แต่กล้วยไม้เค้างามมาก สอบถามว่าเค้าทำยังไง เพื่อนก็เล่าให้ฟัง พร้อมโชวถัง EM กลับมา ก็ได้ได้เรื่องเลย ครับ ลองทำตามเค้าบ้างซิ ไม่ยากนี่นา ก็เลยรูจักกับ EM ตั้งแต่นั้นมา ครับ เลี้ยงกล้วยไม้ประเภท นาๆ พันธุ์ หรือหลายๆพันธุ์ แบบนี้ มีทริ๊กอยู่นิดเดียว ถ้าเป็นกล้วยไม้ประเภทต้องใช้เครื่องปลูก (มีกากมะพร้าว มีถ่าน มี ฯลฯ) ทุกๆเสาว์และอาทิตย์ เรา เอา EM กับน้ำ  สัดส่วนประมาณ 1:4 ใส่กระป๋อง แล้วเอากล้วยไม้ลงจุ่มแช่ ทีละกระถาง ในตอนเย็น ตอนเช้ารดฝักบัวน้ำ EM ส่วนวันธรรมดาก็รดฝักบัวน้ำตุ่ม  ตามปกติ ไม่นาน รากจะงอก หน่อช่อดอกจะแตก เร็วมาก ครับ และถ้าเป็นกล้วยไม้ประเภท ไม่ต้องใช้เครื่องปลูก สังเกตุได้จากจะมีรากห้อยยาวๆ มีแต่ต้นเกาะกับกระถางปล่าวๆ เท่าทีผมทดลองทำคือเอา EM ล้วนๆ สดๆ ไม่ต้องผสม ใส่ใน กระป๋องฟ๊อกกี้ แล้วฉีด ให้มันฟุ้งๆ ไปรอบๆ รากและใบ ตอนเย็น ทุกวัน รดน้ำ EMเจือจางตอนเช้า ประมาณสองถึงสามอาทิตย์ จะเห็นรากอ่อนขาวๆ แตกออกมาจำนวนมาก เลย ครับ และไม่นานก็จะมีช่อดอกแตกออกมา เช่นเดียวกัน ครับ ความรู้ทั้งหมดนี้ผมได้มาฟรีๆ ผมก็อยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ไปฟรีๆ เช่นเดียวกัน ครับ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 05:52:48 แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 05:51:05 จากคุณ : กา...คาบพริก - [ 21 มี.ค. 51 11:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณ กา..คาบพริก กับ คุณ leslie มากนะครับ เป็นประโยชน์มากๆ ครับ จากคุณ : jetsakee - [ 21 มี.ค. 51 11:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบพระคุณคุณ leslie และคุณกา...คาบพริกด้วยนะคะ  ได้ความรู้ไปเป็นกอบเป็นกำเลยค่ะ  ขอบพระคุณมาก ๆๆ จากใจจริงเลยค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 21 มี.ค. 51 20:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนที่ไปซื้อกากน้ำตาล หยิบโบรชัวร์มาด้วย สูตรคือ เอาน้ำซาวข้าว + กากน้ำตาล + EM ทิ้งไว้สาม-สี่คืน ผลก็เท่ากันครับ  ใช้ได้ดีด้วย ผมเอาให้แฟนผสมน้ำถูบ้านแทนสารเคมี ฉีดห้องน้ำ รดต้นไม้ ก็ดีครับ เอารดต้นดอกแก้ว ผลที่ได้ก็คือดอกใหญ่เป็น ๒ เท่า เท่าเหรียญบาทแน่ะ แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 51 21:18:20 จากคุณ : WhoDaresWin! - [ 23 มี.ค. 51 21:10:10 ]