ความคิดเห็นที่ 1 pic # 2 จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 pic # 3... My cut soaps before aging process. จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 the soaps before cutting. จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 CP Shell Soaps... จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 shell soaps too. จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 My CP stone soaps จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 08:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 I have more... จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 09:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำยายไหล ง่า.............. จากคุณ : แอบมาดู (ordinaryfriday) - [ 3 พ.ค. 51 09:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สีสวยน่าใช้มากเลยค่ะ จากคุณ : เต้าเจี้ยว - [ 3 พ.ค. 51 09:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห. 8 ไม่ต้องแอบครับ ดูได้ฟรีเสมอ ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ อิอิ นี่มันสบู่นะครับ มาทำน้ำยายไหล จะล้างท้องหรือไงคร้าบ...... จากคุณ : sakchai splash - [ 3 พ.ค. 51 09:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อยากได้ง่ะ ... ตามมาซักพักแระ เห็นคุณเข้ามาให้ความรู้เพื่อนเพื่อนบ่อยบ่อย จนป้าแอ๊ดรวมตัวกัน บลา....ได้ที่แล้วเชียว แต่ต้องย้ายกะทันหันไปเป๋นสาวเคิ้นบนดอย ... อดเรียนเลย แง้ววววว ถ้าล้างท้องแล้วดูดเทคนิคกะความรู้ทั้งหมดได้ก้อจะทำค่ะ [หุหุ ลงทุนน่าดู :P ] จากคุณ : ordinaryfriday (ordinaryfriday) - [ 3 พ.ค. 51 10:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณศักดิ์ชายคะ ถ้ายังพอมีเหลือๆ วันที่ 18 พกไปให้ชื่นชมบ้างนะคะ จากคุณ : เต้าเจี้ยว - [ 3 พ.ค. 51 10:30:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณเป้..เตรียมทรัพย์ไปเยอะๆ ก็แล้วกัน ดิวจ๋า เดี๋ยวป้าซื้อเผื่อนะ  ตามนั้นเลย จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 3 พ.ค. 51 11:05:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดูแล้วนึกตอนเอามาฟอกคงเสียดาย เอามาตั้งโชว์ดีกว่าสวยๆหอมๆ อยากได้ไว้เอามาแจกคริสมาสจัง จะได้เจอไหมหนอ วันก่อนไปเจอไอ้ที่ตัดคุกกี้ชุดละ6อันเป็นสเตนเลส เค้าเอามาลด 75%เหลือชุดละ 1 เหรียญกว่ารีบๆซื้อ แต่ยังไม่รู้เอาไปทำไรได้ ไว้จะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ เป็นพวกรูปวันอิสเตอร์เป็นรูปกระต่ายไข่ จากคุณ : จิงโจ้/ออสซี่ - [ 3 พ.ค. 51 12:24:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวยมากกก... มาน้ำลายไหลด้วยคน ไว้ทำกลิ่นวานิลลาด้วยนะคะ มีโลชั่นกลิ่นนี้ ชอบค่ะ จากคุณ : cultureclub - [ 3 พ.ค. 51 13:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปกติไม่ใช้สบู่ก้อนนะเนี่ย แต่เห็นแล้วอดใจไม่ไหวเลย...... อยากใช้จัง อยากทำเป็นด้วยอ่ะค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ - [ 3 พ.ค. 51 14:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวยๆทั้งนั้นเลย เสียดายจังอดไปเรียนด้วย งิงิ T___T จากคุณ : piipparonii n_n - [ 3 พ.ค. 51 16:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น่ากินอะไรเช่นนี้หนอ จากคุณ : soulfighter - [ 3 พ.ค. 51 21:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวยเชียววว  ปกติก็ไม่ชอบใช้สบู่ก้อนเหมือนกัน  แต่พอมาติดใจสบู่ประเภททำมือนี่  ก็ต้องชอบไปโดยปริยาย เอ...แล้วคุณศักดิ์ชัยมีแบบสบู่เหลวป่าวคะ ฮี่ๆๆ จากคุณ : SaGitt@riuS GiRL - [ 3 พ.ค. 51 21:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอแจม คห 16 สบู่เหลวคือ แชมพูนะคะ จะมาบอกว่าเข้าใจผิดจากการที่เขาตั้งชื่อคะ อันที่จริงแล้ว สบู่เหลวคือแฟ๊บนั่นเองคะ ถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้คะ เข้าใจคิดว่าเป็นกลีเซอรีนเหลวคะ คือ การกระทำของโรงงานแบบฉาบฉวยแล้วก็ใช้ชื่อผิดเรียกๆ กม มีสิ่งทำให้เบี่ยงเบนได้คะ อ่านมาคะ ถึงได้นำมาบอกกล่าวกันคะ มีแต่พวกดีเทอร์เจ้น สารผสมพวกเคมีการผลิดให้มีฟอง nothing to do with การทำสบู่ให้มีกลีเซอรีนคะ ถ้าเปลี่ยนได้ขอให้ใช้สบู่ธรรมชาติคะ การที่ฟอง หรือ ไม่มีฟอง หรือ ฟองน้อย ไม่ได้ทำให้ตัวเราไม่สอาดนะคะ ทำความสะอาดและผิวเนียนตามคุณภาพน้ำมันที่ใช้คะ โปรดเข้าใจว่า สบุ่เหลว คือ ครอบครัวเดียวกะแชมพูคะ คือ ดีเทอร์เจ้น ปอกรอกผิวหนังคุณถ้าอาบบ่อยๆๆ แต่ถ้าอาบทีเดียว เร็วๆๆ น้ำไม่ร้อน ก็โอเคล่ะ เพราะเป็นดีเทอร์เจ้น แต่ถ้าคิดว่า บำรุงผิว ไม่ใช่นะคะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 3 พ.ค. 51 21:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถามคุณมิสพิกกี้หน่อยนะคะ คือไม่คิดว่าสบู่ใดๆในโลกนี้ ไม่ว่าจะเหลวหรือก้อนบำรุงผิวหรอกนะคะ อยากทราบว่าที่อันตรายน่ะ  มากแค่ไหนคะ อย่างของBody Shop, Baby Mind, Bath&Body Work อะไรพวกนี้ ก็อันตรายหรอคะ  ส่วนตัวใช่แต่ RoYal Jelly Honey ของ L'Ocitaine น่ะค่ะ ใช้มาหลายปีแล้ว  ไม่เคยใช้ยี่ห้ออื่นเลย แถมชอบอาบน้ำร้อนมากๆอีกตะหาก ......นี่จะอันตรายมากไหมเอ่ย เราว่าสบู่ก้อนทำให้ผิวตึงๆค่ะ  ไม่ชอบเลย อ้อ แล้วสบู่เหลวล้างหน้าจากคุณหมอล่ะค่ะ ก็อันตรายด้วยหรือเปล่า สบู่เหลวสำหรับเด็กทารกด้วยค่ะ(พอดีซื้อเตรียมไว้ให้ลูกน่ะค่ะ) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ - [ 3 พ.ค. 51 22:22:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ป้าแอ๊ดขา นู๋หลังแมวไปหาค่ะ เป็นโจรกลับใจอีกแระ แต่ถ้าไม่ได้ก้อไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจว่าเพื่อนเพื่อนรอกันหลายคน...ถ้ายังไงตามนั้นก้อได้ค่ะ นู๋ผิดเอง แง้..... จากคุณ : ดิว (ordinaryfriday) - [ 3 พ.ค. 51 23:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไปลงให้แล้วนะคุณ คุณดิว จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 3 พ.ค. 51 23:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องสบู่ค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ - [ 4 พ.ค. 51 00:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่าร์ อย่าคิดมากไป คุณรักแม่จ้ะ ก็บอกแล้วไงว่า เป็นสิ่งทำความสอาด ไม่ได้บอกว่าอันตรายอิอิ คือ ประเด็นที่พูดคือ สบู่ธรรมชาติมีกลีเซอรีน คะ บำรุงผิวคะ จริงๆๆ ไม่ทำผิวแห้งหรอก แต่ประเด็นผิวแห้ง มันกว้างนะ อย่าโทษสบู่อย่างเดียวหรือการอาบน้ำอย่างเดียว เยอะมาก ของเด็กเขาปรับสภาพ พีเฮชแล้ว ไม่ต้องกลัว ของล้างหน้าเช่นกัน คือ มันทำหน้าที่ล้างจริงๆๆ ยังงง หรือปล่าว แต่ที่บอกว่า ใช้สบู่ (คุณศช) อิอิ ดีกว่า หรือ กวนเอง คะ เพราะมีกลีเซอรีนในนั้น แหง๋มๆๆคะ นะ นะ อย่าว่าของเขาไม่ดี ของเขาขายให้มาล้างสอาดคะ แต่อย่าไปเชื่อที่ว่า นุ่มเนียนอะไรทำนองนั้นหน่ะ เทคนิคการขาย อิอิ แต่บางคนจะว่าไป ชอบกลิ่นเขามั่ง ชอบยี่ห่อมั้ง อะไรเนีย ถ้ามีเงินซื้อ ใครจะไปว่ากันหล่ะ นะคะ ส่วนตัวทำสบู่ใช้เอง นานแล้ว ทำเซรั่มบำรุงผิว ทำครีมบำรุงผิวเอง ไม่เคยซื้อเขานานแล้วคะ เราทำเครื่องสำอางค์ใช้เองคะ พวกแป้งๆๆ แต่งหน้านี่แหล่ะ ใช้เอง นี่ก็ปันให้คุณแอ๊ดใช้อยู่นี่ หน้าตาคุณแอ๊ดจะว่า แจ่มบางวัน คงใช้ของเรานะ แหะๆๆๆ ยกตัวเองซะหน่อย แค่นี้หอมปากหอมคอ เอ ที่ว่าใช้สบู่ตึงๆๆ นั่น คือ ชื่อสบู่อะไรคะ เพราะตอนนี้ใช้สบู่นมแพะตนเองไม่เคยตึงเลยคะ เพราะฉนั้น ไปงานสาธิต แล้วทำสบุ่ได้เลยคะ จะไม่ตึงนะคะ อย่าใส่น้ำมันมะพร้าวมากไป เท่านั้น เอาพอดีๆๆ ละหุ่ง พอสมควรคะ เอ จขกท ไปไหนวันนี้ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 51 03:05:00 จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 4 พ.ค. 51 03:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 26 555  จขกท. เหนื่อยครับ วันนี้ทำสบู่ 19 แบชท์ เลยไม่ว่างครับ เห็นคำถามคุณรักแม่นะคะแล้วคันตะหงิด ๆ แต่มันดึกมากแล้ว เลยไปนอนดีกว่า เก็บแรงไว้ทำงานครับ  นี่ก็เพิ่งตื่นครับ อิอิ มันเหนื่อย เลยดูทีวีไปถึงเช้า โอ้เอ้ซะบ้าง สร้างคุณภาพชีวิต อิอิ สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เกิดขึ้นมานับพัน ๆ ปีแล้ว แม้จะมีวิวัฒนาการการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวใหม่ ๆ ขึ้นมาในโลก แต่ก็ยังไม่สามารถมาเทียบชั้น "สบู่ธรรมชาติ" ได้เลยนะครับ  ดังนั้นสบู่ธรรมชาติที่ผลิตด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้องและคำนึงถึงสรรพคุณที่ได้ จะมีคุณภาพดีอย่างที่ผู้ใช้ใด ๆ จะปฏิเสธมิได้ครับ อย่างไรก็ตาม ในโลกของธุรกิจ การโฆษณาชวนเชื่อ การแสวงหาผลกำไร ก็ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลืตภัณฑ์สบู่ไปอย่างมากมาย โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ไม่มีความรู้ และไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง แต่เสพข้อมูลจากการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วฝังเข้าไปในหัวอย่างผิด ๆ ผมไม่แปลกใจที่มักจะมีคำถามว่า สบู่ของผมใช้ได้จริง ๆ ปลอดภัยจริงหรือ เป็นธรรมชาติ 100% ไหม  มีส่วนผสมของเคมีหรือเปล่า ทำไมไม่มี อย. รับรอง  ?????????????   คำถามพวกนี้ ผมเจอมามากจนกลายเป็นเรื่องน่าขำ แต่ก็มิได้นำพา อิอิ สบู่ที่ดีนั้นมันต้องเริ่มตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัตถุดิบนะครับ  อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า สบู่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับน้ำด่าง ซึ่งจะก่อให้เกิดเนื้อสบู่กับ กลีเซอรัล หรือสารกลึเซอรีนอันเป็นตัวให้ความชุ่มชื้นต่อผิวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการผลิตสบู่เท่านั้น !!!!!  ดังนั้นสบู่ธรรมชาติจึงให้ความชุ่มชื้นที่ดีอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องแต่งเพิ่มเติมแต่งอะไรให้วุ่นวาย แต่ก็ใช่ว่าจะเติมไม่ได้ ถ้าต้องการปรับคุณสมบัติของสบู่ให้แปลกแตกต่างออกไป ถ้าวัตถุดิบดี มีคุณภาพ สบู่ที่ผลิตก็น่าจะดีไปด้วย แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องทั้งหมด เพราะคุณภาพของสบู่นั้นมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง และสามารถปรับแต่งได้ในหลายขั้นตอน เหมือนการทำอาหารนั่นแหละครับ ถ้าคุณรู้จักวิธีการทำอาหารที่ดี แม้จะใช้เพียงวัตถุดิบพื้น ๆ อาหารก็อร่อยได้ อาหารที่แพง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ๆ ทั้งหมด เพียงแต่รู้จักหยิบรู้จักหามาใช้ให้เหมาะสม ก็น่าจะดีกว่า... ตอนที่เรียนทำสบู่กลีเซอรีนจากท่านอาจารย์ที่สอนน้น อาจารย์จะแบ่งวัตถุดิบออกเป็นกลุ่ม ๆ ให้ดูตามคุณสมบัติที่ดีของสบู่ แล้วให้เลือกปรุงแต่งสูตรเฉพาะของตัวเอง โดยการเลือกใช้วัตถุดิบตามความเหมาะสม ซึ่งต้องคำนวณเรื่องต้นทุนด้วย โดยอาจารย์บอกว่า การเลือกใช้วัตถุดิบนั้น อาจจะใช้ได้หลายตัวในคุณสมบัติเดียว เพราะเป็นการเสริมจุดเด่น ลบจุดด้อย.... สูตรที่ดี ต้องให้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีต้นทุนเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบแพง ๆ เท่านั้น เพียงแต่เราต้องเรียนรู้เทคนิคที่จะปรุงแต่งวัตถุดิบที่ใช้ให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมออกมาให้ได้และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผมพูดเสมอว่า การผลิตสบู่ไม่ใช่เรื่องยาก ใคร ๆ ก็ทำได้ เพราะมีการเปิดสอนทำสบู่กันมากมาย แต่จะผลิตสบู่ให้ได้คุณภาพที่ดีจริง ๆ นั้น มันเป็นเรื่องยากมาก เพราะคุณต้องเข้าใจทุกเรื่องราวของสบู่ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบแต่ละตัว ไปจนถึงการแพ็คการเก็บรักษาจนสบู่ถูกนำออกมาใช้  กรรมวิธีการผลิตสบู่ไม่ได้จบที่การตัดสบู่ออกมาเป็นก้อน ๆ แล้วนำมาอวดกัน แต่มันมีกรรมวิธีอะไรมากไปกว่านั้นอีกหลายขั้น ซึ่งกระบวนการเอจจิ้งสบู่ (การเก็บสบู่อีก 2-3 สัปดาห์หลังการผลิต) จึงมีความสำคัญมาก ๆ ด้วยเช่นกัน จะมีผู้ผลิตสบู่สักที่รายในเมืองไทย ที่เข้าใจกระบวนการผลิตสบู่ทั้งหมด ผมกล้าพูดว่า มีน้อยรายมาก เพราะการผลิตสบู่ในเมืองไทยนั้นมีการสอนกันมาอย่างไม่สมบูรณ์ เพราะเราแปลตำรามาจากต่างประเทศ แล้วนำมาถ่ายทอดโดยขาดความเข้าใจ หรือเข้าใจผิด ๆ แต่ผมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปแก้ไข หรือให้ความกระจ่างแต่อย่างใด เพราะผมถือว่านี่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผม ที่จะผลิตสบู่ให้ได้คุณภาพที่ดี ให้เนื้อแข็งแกร่ง ให้ฟองดีมีฟองตลอดก้อน ใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น กลิ่นหอมตลอดก้อน เก็บไว้ได้นานหลายปีโดยคุณภาพไม่เสียหาย โดยไม่ต้องใส่สารกันเสียใด ๆ แม้จะใช้วัตถุดิบสด ๆ เช่นผัก ผลไม้สด ๆ มาผลิตก็ตาม ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่า เราอยู่ในโลกของการแข่งขันในทุกด้าน เวลาจึงมีน้อยลง เราจึงเสพข้อมูลจากสิ่งที่เค้าเลือกป้อนให้โดยเราไม่รู้ตัว ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงมักหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อโดยขาดความยั้งคิด แล้วไม่คิดศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ แม้แต่ผู้ผลิตสบู่บางราย จะโฆษณาว่า สบู่ธรรมชาติ 100% บ้าง สบู่โคล์ดโปรเซสบ้าง สบู่สมุนไพรบ้าง โดยสบุ่เหล่านั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าบอก แต่ผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไร เพราะเข้าใจแต่เพียงว่า สบู่ก็คือสบู่ แค่เพียงคำว่า "สบู่" มันแยกออกมาได้เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะแบ่งด้วยกรรมวิธีการผลิต แบ่งด้วยลักษณะรูปแบบ แบ่งด้วยสรรพคุณ อะไรอีกเยอะแยะนะครับ  มันจึงเป็นเรื่องยากที่ดูเหมือนง่าย แต่มันธรรมดาเกินไป จนคนมักไม่ติดใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม... เฮ้อ บ่นไปบ่นมา เข้าไปคลองไหนกันแล้วนี่ อิอิ.... พอก่อนดีกว่า ไว้จะมาบ่นให้ฟังต่อ มีเรื่องให้ความรู้เรื่องสบู่เยอะนะ อยากให้เข้าใจเรื่องสบู่กันมาก ๆ แต่วันนี้พอก่อน ต้องทำงานครับ ก่อนจากไป ขอให้ความกระจ่างเรื่องสบู่อีกสักนิด - - ตาม กฏหมายเก่า สบู่จัดเป็นเครื่องสำอางทั่วไปประเภทที่ 3 อันเป็นเครื่องสำอางทั่วไปที่ใช้ภายนอก ถ้าไม่มีส่วนผสมของวัตถุดิบควบคุม หรือวัตถุดิบอันตราย ก็ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมาย อย.  อย. จะเข้ามายุ่งกับสบู่ก็ต่อเมื่อผุ้ผลิตมีการใช้วัตถุดิบที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เช่น หากจะทำสบู่แก้โรคผิวหนังที่มีส่วนผสมของ "กำมะถัน" ก็สามารถทำได้เลย ไม่ต้องขอ อย.ให้วุ่นวาย เว้นแต่ผุ้ผลิตจะใส่กำมะถันเกินกว่า 3.0% เพราะถ้าใส่กำมะถันมากเกิดกว่าที่กำหนด ผู้บริโภคอาจจะได้รับอันตรายจากการสูดดมกำมะถันจนถึงสลบได้ อย.จึงต้องเข้ามาควบคุมว่าใส่ในปริมาณเท่าไหร่ จะก่อให้เกิดอันตรายได้ในระดับใด แล้วมีคำเตือนให้ผุ้ใช้ได้ระมัดระวังหรือไม่เป็นต้น ดังนั้น หากซื้อสบู่ที่มีเครื่องหมาย อย. มาใช้ ก็พึงสังวรณ์ไว้นะครับว่า สบู่นั้นอาจจะใช้วัตถุดิบที่มีการควบคุม หรือวัตถุดิบที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ก็ระมัดระวังกันหน่อย  อย่าเข้าใจผิดว่า มี อย. แล้วยิ่งปลอดภัยนะครับ เราเตือนคุณแล้ว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 11:50:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณเต่า เพราะฉะนั้นที่ป้าแอ๊ดบอกว่าสบู่คุณศักดิ์ชัยดี  น่าใช้ คงไม่ผิดนะคะ ที่ป้าแอ๊ดจะไม่ทำใช้เอง  5 5 5 จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 4 พ.ค. 51 13:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หลังจากได้ข้อความส่วนตัว เป็นความรู้มากมาย เลยต้องแวะเข้ามาอีกที ทีนี้เซียนสบู่มาตอบเองเลยนะเนี่ย ตอนดูโฆษณาในผลิตภัณฑ์หลายตัวก็ยังงงๆเลยค่ะ ว่ามันจะบำรุงกะชำระล้างในเวลาเดียวกันได้ไงเนี่ย ว่าแต่ว่า.....ตกลงเราใช้อะไรดีล่ะค่ะ ถึงจะปลอดภัยจริง คุณศักดิ์ชัยขายรึเปล่าเอ่ย  เราชอบกลิ่นหอมๆ หวาน แบบน้ำผึ้ง ช็อกโกแล็ต สตรอเบอรี่ อะไรแบบเนี้ย ที่นี่มีอยู่ร้านนึงค่ะ  สบู่มาแบบยังไม่ตัด จะซื้อเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ เป็นร้านแบบธรรมชาติหน่อยๆ แต่ของแพงมากๆ ชื่อ Fruit&Passion ค่ะ แพคเกจก็สวย พอดีสามีชอบใช้สบู่ค่ะ  ก้อนนึงประมาณห้าร้อยบาท....แต่ก็ก้อนใหญ่เหมือนกันค่ะ แล้วคลาสทำสบู่ที่สอนกันนี่ ที่เมืองไทยเหรอคะ   อ่านไปอ่านมา  เลยอยากทำเองเลย....แต่คงไม่มีปัญญา...เฮ้อ มิสพิกกี้  ขอบคุณมากมายค่ะ ว่าแต่ว่าตอนนี้เราเครียดเจ้าเจลอาบน้ำที่เรียงรายในตู้อีกหกขวด (ซื้อมาตุนไว้ค่ะ  เพราะเจ้าของเค้าจะเลิกผลิตรุ่นนี้แล้ว) ด้วยความที่ชอบมันมากๆ ทำไงดีๆ ขอบคุณคุณจขกทมากมายเช่นกันค่ะ  กระจ่างมากๆเลย จากคุณ : รักแม่นะคะ - [ 4 พ.ค. 51 13:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อาบสบู่แล้วทำให้ผิวตึง ?????? อย่างที่บอกนะครับว่าสบู่มีหลายประเภท  การผลิตสบู่ในระดับอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ นั้นเค้าจะใช้วัตถุดิบเพวก Soap Chip หรือ Soap Noodle ซึ่งผลิตจากกระบวนการผลิตสบู่ในระดับอุตสาหกรรม เพื่อต้องการนำ "กลีเซอรัล" ไปขายหรือไปใช้ในการผลิตเครื่องสำอางที่ต้องการความชุ่มชื้น เช่น ใฃ้ผสมในลิปสติกเพื่อให้ริมฝีปากช่มชื้นน่าสัมผัส (อิอิ..  ล้อเล่น) ดังนั้นการผลิตสบู่ในระดับอุตสาหกรรมนั้นเค้าจะแยกเอากลีเซอรัลออกไปขาย แล้วเอาเนื้อสบู่ที่เหลือขายเป็น By Product เพื่อนำไปใช้ผลิตสบู่อัดเครื่อง (Extruded Soap) ซึ่งสบู่พวกนี้จะเติมสารให้ความชุ่มชื้นกลับเข้าไปอีก ซึ่งอาจจะเป็น กลีเซอรีน ปิโตรเลี่ยมเหลว น้ำมันพืช ไขสัตว์ หรือวัตถุดิบอื่นใดอีกก็ได้ โดยเฉพาะ "ลาโนลิน" หรือไขแกะ ที่มีราคาถูกมาก ๆ เป็นต้น ดังนั้นสบู่อัคเครื่องและสบู่ธรรมชาติทำมือจึงมีความแตกต่างกันหลายประการ ทั้งในแง่สูตรการผลิต วัตถุดิบ และกระบวนการผลิต  แต่สบู่อัดเครื่องดี ๆ มีคุณภาพก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ อย่าไปเหมาว่า สบู่ธรรมชาติทำมือต้องดีกว่าสบู่อัดเครื่องเสมอไป  ทุกอย่างปรับแต่งได้เสมอ อยู่ที่ความต้องการของผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม สบุ่อัดเครื่องส่วนใหญ่ ผลิตเป็นแมส ต้องการขายราคาถูก โดยปรับคุณภาพให้เพียงแค่เหมาะสมกับราคา จะให้ใส่กลีเซอรีนกลับเข้าไปเยอะ ๆ ก็คงยาก ต้นทุนจะสูงไป ก็เลยมักจะใช้วัตถุดิบตัวอื่น ๆ ที่มีราคาถูกกว่า แต่กลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีมาก เพราะไม่ทำให้ผิวมัน เพียงแต่ให้ความชุ่มชื้น สบู่อัดเครื่องส่วนใหญ่ จึงไม่สามารถเทียบชั้นกับสบู่ทำมือได้ ถ้าใช้สบู่ธรรมชาติทำมือที่มีคุณภาพดี ๆ ผมกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่า ผิวจะไม่ตึง ไม่แห้ง แต่คุณจะเลือกซื้อสบู่ธรรมชาติทำมือที่ดีได้อย่างไร อันนี้เป็นเรื่องยากครับ เพราะผุ้ผลิตทุกรายก็ต้องบอกว่าของตัวเองดีเลิศ แม้แต่ผม ผมก็ต้องบอกว่าของผมดี แต่คุณจะเชือถือข้อมูลเหล่านี้ได้แค่ไหน เพียงไร... ง่ายมากครับ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็น ไม่เท่าได้ลองใช้ ดังนั้น ผมแนะนำให้ซื้อสบู่มาลองใช้ครับ แล้วดูว่าสบู่น้นให้คุณภาพจริงตามท่คุยไว้หรือเปล่า หน้าที่ของสบู่นั้นมีหลัก ๆ แค่ อาบสะอาด แล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แค่นี้เป็นพอครับ อย่าไปดูอย่างอื่นมากมาย พวกนั้นมันแค่เปลือก เพราะอาบน้ำเพียงไม่กี่นาที จะใส่สมุนไพรอะไรเข้าไปมากมาย มันก็คงช่วยได้แค่นิดหน่อย แต่ถ้าอาบแล้วสะอาด ผิวไม่แห้ง ไม่มัน ผิวก็จะดีไปเองแหละครับ ขอให้ยึดหลักอาบสะอาดกันไว้ก่อนเป็นพอ อย่างไรถึงเรียกว่าสะอาดครับ...  สบู่ที่อาบสะอาดเกินไป มักจะเป็นสบู่ที่มีด่างมาก อาบแล้วผิวจะแห้งจนรู้สึกได้  ดังนั้นถ้าใช้สบู่พวกนี้ ผิวจะถูกทำลายให้บางลงไปเรื่อย ๆ ผิวก็จะเกิดฝ้า เกิดจุด่ด่างดำได้ง่าย แต่ถ้าอาบน้ำผิวมัน ๆ แบบน้ำไม่เกาะล่ะ... อันนี้ก็ไม่ใช่จุดที่บ่งบอกได้ว่าสบู่นี้จะไม่มีด่างมากนะครับ เพราะบางครั้งเราสามารถเติมความขุ่มชื้นให้สบู่ด้วยในกระบวนการหลัง ๆ ดังนั้นสบู่แบบนี้ก็ใช่จะบอกได้จริง ๆ นะว่า เป็นสูตรที่ทำให้มีน้ำมันเหลือ น่าจะดีต่อผิว อิอิ...  ใช้แล้วผิวมัน ๆ เหนอะ ๆ ไม่สบายตัว ก็อย่าใช้ดีกว่าคัรบ อาบไม่สะอาด การที่คุณเต่าบอกว่า ทำสบู่อย่าใช้น้ำมันมะพร้าวมากไป เพราะสบู่ที่ทำจากน้ำมันมะพร้าวนั้น จะมีอำนาจการชำระล้างที่รุนแรงกว่าการใช้น้ำมันอื่น ๆ แต่ถ้าเรารู้และเข้าใจคุณสมบัติของเค้า แล้วเรานำเทคนิคบางอย่างมาปรับแต่งเค้าได้ สบู่น้ำมันมะพร้าวก็จะไม่ทำลายผิวเราได้เช่นกัน สบู่ที่มีกลึเซอรีนเคลือบผิวหลังอาบน้ำนั้น ให้สังเกตุว่า อาบน้ำแล้ว ต้องรู้สึกสะอาดหมดจดจริง ๆ ลูบผิวแล้วดังเอี๊ยด ๆ แบบล้างจานสะอาด ๆ อย่างไรอย่างนั้น แต่เมื่อเช็ดตัวให้แห้งแล้ว จะรู้สึกว่าผิวลื่น ๆ นุ่ม ๆ เหมือนมีฟิล์มบาง ๆ มาเคลือบที่ผิว  แม้ไม่ได้ใช้โลชั่นทาผิวหลังอาบน้ำ ผิวก้ไม่แห้ง ผุ้ผลิตบางรายจะเติมกลีเซอรีนเข้าไปในสบู่ด้วย เพื่อให้อาบแล้วผิวนุ่ม สบู่ที่มีการเติมกลีเซอรีนเข้าไป จะมีลักษณะมันวาว เมื่อทิ้งสบู่ไว้นานวัน โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตก ๆ ติดต่อกันหลายวัน สบู่จะเหนียวเยิ้ม เพราะกลีเซอรีนจะดูดความชื้นมาที่ตัวสบู่ สบู่พวกนี้จะเสียง่าย หืนง่าย  ถ้าผลิตสบู่ที่ดี จะมีกลีเซอรีนเกิดขึ้นในอัตราที่เหมาะสม ไม่ต้องแต่งเติมเพิ่มอะไรเข้าไปอีก อัตราที่เหมาะสม จะทำให้สบู่ไม่มีสิ่งแปลกปลอม ก็จะอยู่ดี ๆ แบบของเค้าได้นานวัน ถ้าฝนตก ๆ อากาศชื้น ๆ เค้าอาจจะชุ่มขึ้นนิด แต่พออากาศแห้งลง ตัวสบู่ก็จะแห้งลงตามไปด้วย โดยสบู่ไม่เสียหายครับ การผลิตสบู่ธรรมชาติทำมือนั้น เราจะไม่ผลิตทีละมาก ๆ เพราะเราต้องการควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอนครับ  อันนี้เป็นจุดเด่นของการผลิตสบู่ ดังนั้นการควบคุมรายละเอียดได้ทุกขั้นตอน เราจึงสามารถกำหนดคุณสมบัติของเค้าได้อย่างเต็มทีในทุก ๆ ครั้ง แม้ค่าแรงต่อหน่วยจะแพง แต่ก็คุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับนะครับ สบู่ก้อนทำเป็นสบู่เหลวได้เช่นกันนะครับ  สบู่เหลวประเภทนี้จะแตกต่างจากสบู่เหลวที่ผลิตด้วยเคมี  แต่การผลิตจะยุ่งยากกว่า เสียเวลา เลยไม่ค่อยมีคนนิยม ผมเองก็ผลิตได้ แต่ไม่ชอบ เพราะทำแล้วขายยาก ต้นทุนจะสูงขึ้นไปอีก แล้วกระบวนการผลิตนี้ ก็สามารถปรับมาทำแชมพูธรรมชาติได้อีกด้วยเช่นกันครับ ถ้าใครเคยใช้แชมพูก้อนธรรมชาติสระผม จะรู้ว่าไม่ต้องใช้ครีมนวดผม  แต่ถ้าใช้แชมพูพวกเคมีที่ใช้กัน สารชำระล้างสวนใหญ่จะเป็นประจุลบ ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ ผมจึงชี้ ๆ โดยเฉพาะหน้าหนาว จึงต้องใช้ครีมนวดผมที่มีประจะบวก ไปปรับให้เส้นผมไม่มีประจุไฟฟ้า ผมจะได้ไม่ชี้ แค่ฟังแค่นี้ ก็รู้ว่าเคมีทั้งนั้น ใช้ไปนาน ๆ รากผมก็จะอ่อนแอ ผมบาง ผมแห้ง ผมร่วง หัวล้าน ก็เพราะปัญหาเคมีสะสมซะส่วนใหญ่ คนไทยส่วนมากยังขาดความเข้าใจในเรื่องง่าย ๆ เหล่านี้ เพราะเป็นว่าง่าย ๆ ใกล้ตัว เลยมักมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปครับ... เห็นทีคุณรักแม่นะคะ จะต้องกลับไปศึกษาหาข้อมูลสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจังซะแล้ว  ยิ่งจะเป็นคุณแม่ด้วยแล้ว ลูกคือดวงใจนะครับ แม่ทุกคนอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกเสมอ... ก่อนจาก ฝากเตือนเรื่องง่าย ๆ ที่คนมักมองข้ามอีกเรื่อง น้ำยาบ้วนปากนั้น อย่าใช้พร่ำเพรื่อกันนะครับ เพราะมันจะทำลายสมดุลย์ในชอ่งปาก ในช่องปากนั้นมีทั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียครับ  การแปรงฟันให้สะอาด ขจัดเศษอาหารให้หมด ก็พอเพียงแล้วครับ ถ้าจะบ้วนน้ำยาบ้วนปาก ก็ทำอย่างมาก วันเว้นวันครับ อย่าบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากทุกวัน จะก่อให้เกิดปัญหาในช่องปากได้ครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ว่าแล้วเอาสบู่มาอวดอีกซะเลย เพิ่งทำเสร็จ เมื่อคืนว่าง ๆ เลยนั่งตอกสบู่เล่นด้วย อิอิ มือคันครับ กลัวคนไม่รู้ว่าเป็นสบู่แฮนด์เมด เลยตอกซะหน่อย จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบตัวนี้ครับ สบู่ธรรมชาติกลิ่นลาเวนเดอร์ผสมสมุนไพรสารพัด อิอิ กะทำให้แก้ฝ้า แก้สิวไปในตัว ไม่ได้ใส่สีเลยครับ สีจากสมุนไพร กลิ่นอาจจะทะ:-) ๆ ไปนิด แต่ก็ได้ความรุ้สึกของสมุนไพรดี  พอตอกตราแฮนด์เมดไป ดูดีมีตระกูลขึ้นอีกเยอะเลยครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อันนี้ทำให้ลูกค้าตามออเดอร์ แต่ทำสีสลับกับของเดิม เอาส้มอยู่ล้าง เหลืองอยุ่บน ให้อารมณ์อีกแบบ พอปั๋มแล้วก็สวยเหมือนกัน อิอิ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณรักแม่นะคะ สบู่ตัดขายแบบนี้หรือเปล่าครับ พอดีถ่ายเมื่อคืน ภาพเลยไม่ชัด ถ่ายส่งให้ลูกค้าดูน่ะครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตัดแล้วได้ก้อนนี้ครับ สีธรรมชาติจากสมุนไพร ไม่ใส่สี ไม่ใส่สารกันเสีย กันหืน กันเชื้อรา ธรรมชาติ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ตัวนี้ทำสีเข้มไปหน่อย กะสียาก แต่พอตอกตราแล้ว สวยดี จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 14:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ใช่เลยค่ะ คุณศักดิ์ชาย ว่าแต่ว่า  คุณขายที่ไหนเหรอคะ...(จะโดนมั๊ยนี่) เนี่ยหน้าตามันเหมือนของที่ช็อปเมืองนอกเลย.....ดูดีมากๆ ชอบที่หอมๆกะสีหวานๆค่ะ ส่วนอันสุดท้ายนี่คิดว่าเหมาะกะสามีมากๆเลย ขอบคุณนะคะ จากคุณ : รักแม่นะคะ - [ 4 พ.ค. 51 15:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมไม่ได้มีเจตนามาขายสินค้าครับ  เพราะมันเน้นที่จะค้าปลีก ผมเน้นผลิตเพื่อส่งออกครับ  ตลาดก็จะเป็นแถบยุโรป ในอเมริกานี่ ต้องให้คุณเต่าเค้าครองไปครับ มีร้านขายเคมีเยอะแยะ ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน  แต่ผลิตสบู่ในแถบบ้านเราให้คุณภาพดีกว่านะครับ เพราะสภาพภูมิอากาศในบ้านเราเอื้อให้ผลิตสบุ่ได้ดีครับ วัตถุดิบก็มีหลากหลายให้เลือกมากกว่า ที่มีปัญหาก็จะเป็นพวกสีซะส่วนใหญ่ กับพวกอุปกรณ์ในการผลิต จะมีคนขายน้อยกว่าเยอะครับ ไว้จะสอนทำสบู่ซักผ้าด้วยดีกว่า อิอิ นี่ก็ซื้อเอานะครับ แต่จะเริ่มทำใช้เองแล้ว เบื่อพวกเคมีครับ ถูกฝรั่งหลอกมาเยอะแล้ว ขอฉลาดขึ้นบ้างสักหน่อย กลับไปใช้ของโบราณ ๆ ดีกว่ากันเยอะครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:30:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ถ่ายกลางคืน ภาพไม่สวย แต่ช่างมัน ขี้เกียจถ่ายแล้ว จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สารสกัดเปลือกมังคุด สีสวยดีครับ ชอบแบบนี้ แต่สีแจ๋น ๆ กลับขายได้ดีกว่า จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตัวนี้ทำผิดคอนเซ็ปต์ไปนิด แต่ช่างมัน ยังไงก็ยังใช้ได้ดีครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คล้าย ๆ กัน แต่คนละกลิ่น คนล่ะสูตรครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ทำดีไซน์นี่ ถนัดครับ แต่ชอบทำสเวิร์ล เพราะมันตื่นเต้นดี ไม่รู้ว่าจะออกมายังไง ได้รอลุ้นทุกครั้งที่ทำ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เอามาจัดเรียงกันก็สวยดีครับ เอาไปจัดโชว์ในงานอุตสาหกรรมพบประชาชน ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พระราม 6 ครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ลืมแปะภาพ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แท่นตัดสบู่ครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 4 พ.ค. 51 15:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อยากได้แชมพูก้อนจังเลยค่ะ คุณศักดิ์ชัยจะเปิดสอนบ้างไม๊คะ จากคุณ : crossroads of life (balleryna) - [ 4 พ.ค. 51 19:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาดูตอนเช้า มึนตา เอิ๊กๆๆ ต้องรับ cafe' Late ซะก่อน สบู่จ๋วยๆๆทั้งนั้นเนอะ นี่เธอพูดถึงน้ำมันมะพร้าว ใส่พอดีๆๆและกันเด้อ กลัวฟองเยอะมันจะทำให้มันอาบ ผิวแห้งแน่ๆ (เราหาหมอผิวเลยหน่ะคะ) ผิวแห้งนานสะสม เกิดเรื่องหาแพทย์นะคะ ไม่ใช่เรื่องเล่นนา เราหามาแย้ว โดน สเตียรอยด์ จะแย่คะ เอ็กซี่ม่า ถามถึงนะคะ (ผู้หญิง และคนสังขารร่วงโรยเข้าเขตโปรดระวัง) ขอให้คิดว่า ทำไมต้องไปแก้ หลังใส่เยอะๆๆ ก็ใส่ให้มันพอดี ก็สิ้นเรื่องเด้อ อจ คะ บางคนผิวแห้งเพราะปัจจัยหลายอย่าง ยิ่งมาให้ฟองท่วมตัวอีก แล้วยังจะไปใส่เติมสารบำรุงตาม เดี้ยนฟังแล้วมันตะหงิดๆๆ(ใช้คำพูดคุณ) คะ ไปล่ะ ~~~ ก่อนไป ฝากถึง คห บนนี้น่ะคะ ส่วนตัวลองเอาสบู่ทำเพือสระผมคะ ไม่ได้เลยคะ คันยิบเลย ดูตัวเองเป็นหลัก การใช้ตามคนอื่นมิใช่จะได้ผลเหมือนกันคะ คันมากกกกกก ลองหลายครั้งแล้ว เข็จๆๆๆๆ น้องหมายังไม่สามารถให้อาบได้คะ สามารถทำสบู่แบบหมาๆๆได้ แต่ไม่อยากลองคะ สงสารเข้า ปกติ หมามันก็ชอบเกามันอยู่แล้ว กลัวทำให้เขาเป็นมาก อาบน้ำเขาปกติ ยังต้องผสมน้ำกะน้ำส้ม โชลกเขาคะ เพราะต้องปรับกรดด่างให้เขา เพราะหมาคนยิ่งไม่เหมือนกันคะ   เอ้า ไปนู่นแหน่ะ ไปล่ะ ~ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 51 21:53:54 จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 4 พ.ค. 51 21:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อิอิ.. อจ. เต่าที่นับถือครับ.. ก็เวลาฟองเยอะแล้วมันอาบสนุกนี่ครับ ในฟอรั่มเข้าก็ฮิตกันจะตายไป ทำกันอยู่นั่นแหละ ถ้าผมไม่ทำบ้างก็จะไม่ทันสมัย เวลาเมืองนอกเค้าฮิตกัน เราไม่ทำบ้าง เค้าจะหาว่าผมเชยน่ะซิครับ เสียชื่อเมืองไทยหมด ผมเข้าใจดีว่าเมื่อนำน้ำมันมะพร้าวมาทำสบู่ จะให้สบู่เนื้อแข็ง ฟองมาก แต่อาบแล้วผิวจะแห้ง ซึ่งผมก็ได้ปรับสูตรให้เค้าไปในหลาย ๆ จุดครับ ไม่ใช่แค่เพียงทำให้มันเป็น Superfat แบบที่คนทำสบู่เมืองนอกเค้าทำกัน เพราะผมรู้เทคนิคการทำสบู่มากกว่าพวกเค้าครับ  ดังนั้นอาบยังไงผิวก็ไม่แห้งครับ ซึ่งจะสังเกตุได้จากหลังการใช้ เพราะจะยังคงมีฟิล์มบาง ๆ จากกลีเซอรีนธรรมชาติมาเคลือบผิวอยู่ การที่ผมใช้สบู่ตัวนี้สระผม ผมก็เพิ่งได้ลองใช้หลังจากทำสบู่สูตรนี้ เพราะแต่เดิมผมทำแชมพูก้อนจากน้ำมันมะกอกมาใช้ แต่เนื่องจากน้ำมันมะกอกเป็นซอฟท์ออย เนื้อสบู่จึงเละมาก ๆ ทำให้คนไม่ชอบ ตัวผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจเรื่องเนื้อสบู่นี้นัก แต่ตามตำราที่ร่ำเรียนมา เราจะรู้ว่าน้ำมันมะกอกทำสบู่ได้ดีนักแล แต่ราคามันมหาโหดมาก ๆ เลยนะครับ ทำแล้วต้นทุนสูง ใครจะซื้อล่ะครับ  อย่างไรก็ตาม ผมสระผมวันละ 2 ครั้ง 3 ครั้งตลอด ใช้มา 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่พบปัญหาเรื่องผมใด ๆ ผมนิ่ม ไม่แห้ง จับดูเงางามตลอด ซึ่งผมได้คุยกับทาง ผอ. ของ ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งอาจารย์ท่านเรียนจบมาทางด้านนี้ มีความรู้ และประสบการณ์ดี หน่วยงานนี้อยู่ที่ อย. กระทรวงสาธารณสุข  อาจารย์บอกว่าที่ผมมันนิ่มและไม่แห้ง เพราะมีกลีเซอรีนมาช่วยเคลือบเส้นผมครับ อย่างไรก็ตาม สบู่ หรือแชมพูทุกอย่างในโลก จะเหมาะกับคนทุกคนนั้นเป็นไปไม่ได้ คำพูดนี้ผมจะพูดกับลูกค้าของผมเสมอ ๆ ครับ เพราะสภาพภูมิอากาศในโลกแต่ละแถบแตกต่างกัน คนแต่ละสภาพก็มีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการออกแบบสูตรของสบู่และตัว จึงต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ของผู้ใช้ด้วยว่าเป็นอย่างไร จึงจะสามารถผลิตสบู่ได้อย่างเหมาะสมครับ ที่คุณเต่บอกว่า "ขอให้คิดว่า ทำไมต้องไปแก้ หลังใส่เยอะๆๆ ก็ใส่ให้มันพอดี ก็สิ้นเรื่องเด้อ...." มันก็ถูกครับ แต่ในที่นี้เราต้องการสบู่ที่มีฟองมากไงครับ เราจึงใส่ให้พอดี ๆ ไม่ได้ จึงต้องแก้ให้เค้า แต่การแก้นี่ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปใส่อะไร ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งนะครับ  ผมเพียงแต่ปรับกระบวนการผลิตนิดหน่อย เพื่อให้ได้สบู่เนื้อที่ผมต้องการ ฟองโฟมที่ผมต้องการ และสรพพคุณที่ผมต้องการ ยิ่งตอนนี้ผมก็เพิ่งพบเทคนิคใหม่ ๆ อีกตัว ที่ทำให้สบู่น้ำมันมะพร้าวของผมเนื้อไม่แข็งโป๊กเป็นหิน ซึ่งมันเป็นเรื่องบังเอิญแท้ ๆ แต่ก็ได้ผล.... ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ประทานความซน ความอยู่ไม่สุกมาให้ผม ทำให้ผมเป็นคนมือบอน ชอบลองโน่น ลองนี่ไปเรื่อย... ไว้ลองให้เหล่าสมาชิกเค้าได้ลองใช้ดูก่อนล่ะกันว่า สบู่น้ำมันมะพร้าว 100% ของผมนี่ อาบแล้วผิวจะไม่แห้งตามที่ผมบอกไว้หรือไม่ ไม่ลองก็ไม่รู้ครับ จากคุณ : sakchai splash - [ วันฉัตรมงคล 10:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราตีความของตนเอง แต่มิได้หมายความว่าเราเห็นด้วย แหะๆๆนะ เอาแค่นี้คะ เรามาแจงเรื่องรักษาผิวดีกว่า สบู่มันจิ๊บจ๋อยมากๆๆ เรื่องการรักษาผิว เราทำพวกแป้งมิเนอรัล และ พวกครีมๆ เซรั่มใช้แรมปีแล้ว ก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะมีผิวเทียบกะพวกของ ด๊อกเตอร์เพอร์ริโคน แพงมากอีตาหมอคนนี้ ขายที่นี่ ซื้อได้คะ แต่ไม่อยากเสียสตังค์เอาไปใช้อย่างอื่น กับเข้ามารักษาผิว ปัจจัยมีหลายแบบ ไอ้สบู่หน่ะทำไว้ล้างดีแล้ว ถ้าคิดจะได้ผลตามมารักษาด้วย โอเคนะ แต่ไม่ซีเรียส น้องๆๆ อย่าคิดถึงสบู่จุดเดียว ปัจจัยในการรักษาผิว อันแรกคือ ครีมกันแดด ไม่ทาก็เสร็จหนึ่งข้อ สอง อาหารการกิน กินแต่ปลาร้า ปลาแจ่ว หรือ อะไรไปทางหมักหมมก็เสร็จอีกหนึ่งข้อ สาม บริหารร่างกาย นี่ท่าไม่ทำ เลือดฝาดไม่วิ่ง นี่อีกหนึ่งข้อ (ได้สุขภาพกายและจิตที่ดีด้วย) สี่ การ เอ็กซ์โฟรริเอท การขัดผิวหน้า พวกเมล็ดธรรมชาติ หรือ ลูฟฟ่าร์ลูกบวบ หรือ ผ้าขนหนู ขัดตัว นี่อีกหนึ่งข้อ อะไรอีกล่ะไวตามินๆต่างๆ โดยฉเพราะ โอเมก้าสาม ต้องกินถึง ห้าพันมิลลิกรั้ม (ดิฉันรับทานพวกเมล็ดแฟรก เมล็ดเชียร์ ทั้งครอบครัวทั่งไทยด้วย แม่ทานด้วย ขาดไม่ได้ อาหารพืชแบบมิราเคิลจริงๆๆ) ตอนนี้จำหน่ายให้คนไข้ที่รักษาที่ รพ นอนการนอน ของคนเรา คือ นอนอย่าให้ผ่านตีหนึ่ง และ ตีสามเพราะร่างกายหลั่งโกรล์ฮอร์โมน ในการรักษาความเสียหายและบกพร่องของสุขภาพร่างกาย  คนเราถ้าทับถม เช่นผู้ใหญ่นอนไม่หลับ อันนี้ทำให้สุขภาพเสื่อม โรคร้ายแรงถามถึง และจะหมักหมม ทำให้เซลล์ร่างกาย เปลี่ยนแปลง มะเร็งอาจกินในที่สุด อันนี้ระยะยาวนาน พอรู้ ก็สายไปแล้ว ยังมีอีกเยอะ เช่นการกินน้ำ การกินยาเสพติด หรือ ยารักษาโรค ที่จะมีผลในผิวพรรณ ดังนั้นข้อที่กล่าวมาด้านบนนี้ ถ้าปฎิบัตได้ขอให้ทำคะ ไม่ต้องสบู่หรอก ผิวพรรณคุณจะสวย และเนียน นานที่สุด ถึงแม้ความเหี่ยวของสังขารเข้ามา แต่ผิวของคุณยังดู อ่อนวัย ละมุน ไอ้เหี่ยวก็ไม่โชว์แบบเข้ม จะออกไปทางเนี่ยนไปหมดคะ อย่าลืม เมืองไทยอากาศในห้องแอร์แห้งมา ทำลายน้ำมันในเนื้อผิวได้อย่างดี ก่อนนอน อาบน้ำโชลมโลชั่นเลยนะคะ ทั้งใบหน้า และร่างกาย แถวเท้าหรือลำแข้ง ฮ่าๆๆ นั่นแหล่ะ นวดเลยคะ ฝ่าเท้าพราดไม่ได้ มีการขัดฝนและพอกครีมแข็งแรงหน่อยจะเข้มข้น จะได้เซ็กซี่ๆๆไงล่ะ แหะๆๆเวลาใส่รองเท้าแต่ะ หันไปดู ส้นเท้าคุณซิคะ ว่าแตกระแหงไหม ถ้าใช่ ถึงเวลาแล้ว ต้องทำอะไรซะอย่างหนึ่ง เอ ยังมีอีกเยอะนะ สิ่งนี้ออกมาจากหัวสมองที่เรากระทำอยู่ เพราะฉนั้นไม่ต้องห่วง พิมพ์แป๊ปเดียวเสร็จคะ ขอฝากไว้ เอวัง ฉะนี้แล ฯ ขอบคุณคุณอจ ศช ทำให้เรานำสิ่งนี้ขึ้นมาพูดนะคะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ วันฉัตรมงคล 20:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เอาอีก :D อ่านแล้วฉลาดขึ้น มะแต่อยู่หลังเขา คุณsakchai มีสบู่แก้แพ้แก้คันด้วยมั้ยคะ ? เวลาตัดหญ้า หรือทำงานปูน แพ้ค่ะ คันมากกกกกกกก ยิ่งหลังอาบน้ำด้วยสบู่ธรรมดา อุปทานรึเปล่าไม่ทราบ แต่เหมือนมันไปทำให้คันมากขึ้น เกาจนเป็นตุ๊กแกแล้วเนี่ย จากคุณ : ordinaryfriday (ordinaryfriday) - [ วันฉัตรมงคล 21:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 วันที่ 18 นี้ ป้าแอ๊ดคงได้เห็นตุ๊กแก แน่ๆ เอิ๊กๆ ขอบคุณคุณเต่าสำหรับบทความดีๆ นะคะ ป้าแอ๊ดคงไม่สามารถมีผิวดีเท่าไหร่ เพราะชอบนอนดึกเกือบทุกวัน 5 5 5 จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ วันฉัตรมงคล 23:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คห. 50 คุณ ordinaryfriday (ชื่อยาวจัง ขอเรียกภาษาไทยดีกว่านะครับ ว่าคุณวันศุกร์ธรรมดา ๆ... อิอิ มันก็ยาวอยู่ดีแหละวะ..)  สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นฐานนะครับ  ไม่ใช่ยา แม้จะมีการใส่สมุนไพรหรือสารสกัดบางตัวที่มีสรรพคุณทางบรรเทาอาการได้ แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องครับ  แต่มันเพียงแต่ทำให้ผิวสะอาด ปราศจากเชื้อโรค อาการแพ้บงอย่างจึงหายไปได้ แต่ไม่ใช่การรักษาครับ มันแค่บรรเทาเท่านั้น สบู่บางประเภทที่เป็นสบู่ยานั้น ก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษา แต่มีสรรพคุณทางบรรเทาเช่นเดียวกัน แต่อาจจะเพิ่มสมุนไพร สารสกัด หรือตัวยาที่มากขึ้นในทางรักษา แต่เวลาอาบน้ำ เราก็ต้องล้างออกอยู่ดี มันคงไม่ได้ช่วยอะไรมาก  เพียงแต่ทำให้ผิวสะอาด ปราศจากเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย พอผิวสะอาด อาการผื่นคันอะไรบางอย่างมันก็หายได้ ก็เท่านั้นเครับ  อย่าไดไปคาดหวังอะไรกับสบู่มาก โดยเฉพาะสบู่ cold process ที่บอกอย่างนี้ เพราะสบู่ Cold Process เป็นกระบวนการผลิตที่มีส่วนผสมของน้ำมันและโซดาไฟ  กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์เชียวนะครับ สบู่จึงจะเกิดปฏิกิริยาสมบูรณ์ ขนาดทำเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่สามารถจับด้วยมือเปล่าได้ เพราะจะแสบ ๆ ครับ ทั้งนี้เพราะยังมีโซดาไฟหลงเหลืออยู่ จนกว่าปฏิกิริยา saponification จะหมดไปอย่างสมบูรณ์ ก็ 2-3 สัปดาห์อย่างที่บอก ลองคิดดูนะครับว่า เวลาท่อน้ำตัน ๆ เอาโซดาไฟเทใส่ลงไปแป๊บ มันทะลุทะลวงจนหมด พื้นมัน ๆ มันก็กัดเสียขาวจั๊ว พวกน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำนั่นแหละเห็นได้ชัด ดังนั้นพวกยา สารสกัด สมุนไพรอะไรจะเหลือหรือครับ  ยิ่งถ้าทำไม่เป็น ทำไม่ถูกวิธี  ยิ่งต้องมานั่งร้องเพลง... มันไม่เหลืออะไรเลย.. อิอิ แต่สิ่งที่สบู่ cold process มีให้แน่ ๆ ก็คือสารกลีเซอรีนที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว เสมือนเกราะบาง ๆ ที่หุ้มผิวพรรณเราให้ผุดผ่อง เนียนนุ่ม แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ  ซึ่งผมก็บอกเสมอว่า หน้าที่หลัก ๆ ของสบู่ก็คือ อาบสะอาด และให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้ง อย่างอื่นมันเป็นแค่จุดโฆษณาขายของ ดังนั้นหากสบุ่ตัวใดที่อาบได้สะอาด แล้วผิวไม่แห้ง ไม่มัน ก็รีบ ๆ ซื้อมาใช้ซะครับ อย่างสบู่ที่โฆษณาว่าใส่โน่นใส่นี่ แก้แพ้แก้คัน ก็ล้วนแต่เกิดจากความสะอาด แล้วผิวไม่แห้ง ไม่มันเท่านั้น อย่างสบู่เปลือกมังคุด เป็นต้น แม้ในทางยาจะทำสารสกัดมาใส่ แต่เราจะใส่สารสกัดกันสักกี่เปอร์เซ็นต์ครับ มันจึงจะเห็นผลทันตาขนาดนั้น... น่าคิดเนอะ..????? อย่างไรก็ตาม พวกน้ำม้นหอมระเหยบางอย่าง สมุนไพรบางตัว เค้าก็สรรพคุณแก้แพ้แก้คันได้ เราก็ใส่ ๆ กันไป แต่จะหวังผล 100% นั้นผมคงไม่กล้าครับ มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วยเช่นกัน  อย่างถ้ามีอาการแพ้ ผิวคัน แล้วอาบด้วยสบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง ผิวก็จะยิ่งคัน เราก็จะยิ่งเกา ผิวถลอกติดเชื้อ ก็จะยิ่งคัน มันก็ไปกันใหญ่   ในทางตรงข้าม ถ้าอาบแล้วผิวมัน ๆ มันก็เหนอะหนะ ผิวเหนอะหนะก็จะเกิดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ถ้ามีแผล มันก็ยิ่งอักเสบ มันก็ยิ่งค้น ยิ่งแพ้... พอเข้าใจไหมครับ เฮ้อ... อีกหน่อยเก่ง ๆ กันหมดแล้ว ผมจะยังขายสบู่ได้ไหมนี่... คงจะทำสบู่ใช้เองกันหมด ผมคงจะตกงานในไม่ช้านี้แล้วซิ... จากคุณ : sakchai splash - [ วันฉัตรมงคล 23:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่มเติมนิดนะครับ โฆษณาแข่งกะ อจ.เต่าซะหน่อย ผมไม่ได้ทำเป็นแค่สบู่นะครัย ทำผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก้เป็นด้วยนะครับ เพียงแต่ผมเน้นผลิตภัณฑ์สบู่ เพราะมันทำยากกว่าผลิตภัณฑ์พวกนั้น  ไม่รู้ซินะครับ ผมว่าสบู่มันมีลูกเล่นมากมายหลายอย่างในกระบวนการผลิต ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มันค่อนข้างจะไม่ซับซ้อนเหมือนกับการทำสบู่  ผมจึงชอบทำสบู่มากกว่าผลิตภัณฑ์อย่างอื่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์สปา แต่ไม่อยากจะบอก ไอ้ที่ชำนาญมาก ๆ กับเป็นเรื่องอาหารครับ ไม่ใช่สบู่ซะอีก เพราะมันทั้งทำ ทั้งอ่าน ทั้งศึกษามาเยอะ จนทำได้ทั้งงานด้าน food science และ cooking มันก็เลยผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมากกว่าคนที่เรียนมาทางด้านใดด้านหนึ่ง เฮ้อ แต่ก็อีกนั่นแหละ ไป ๆ มามา ก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดครับ กลับต้องมาทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน แต่ด้วยพรแสวง มันก็แสวงหาจนทำได้อย่างที่เห็นครับ แต่คนอย่างผมนี่ มันเข้าตำรา.......    ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดครับ  อิอิ จากคุณ : sakchai splash - [ วันฉัตรมงคล 23:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มีเรื่องที่คาใจอยากจะเขียนนานแล้ว ยังไม่ได้เขียนสักที ว่าจะเขียนแต่ก็ง่วงนอนแล้ว มันคือเรื่อง "สบู่กลีเซอรีน" ครับ มีคนเข้าใจผิดเรื่องนี้กันมากมาย อยากจะเข้ามาเคลียร์ให้กระจ่างแจ้งสักที จะได้เลิกเข้าใจผิด ๆ กันเสียที เบื่อที่จะตอบคำถาม และรับโทรศัพท์เรื่องพวกนี้  แต่ขอแค่บ่น ๆ ไว้กันลืมก่อน แล้วจะมาเขียนให้กระจ่างเสียทีนะครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 6 พ.ค. 51 00:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ ทั้งคุณ มิสพิกกี้ และ คุณ sakchai splash   อ้อ เรื่อง สบู่กลีเซอรีน ก็เคยคิดเหมือนกันว่า ฉลากว่า เป็น สบู่กลีเซอรีน 100% แต่พอใช้ ทำไมไม่เหมือนกัน จะรอติดตามจาก คุณ sakchai splash  นะคะ จากคุณ : Craft Collector - [ 6 พ.ค. 51 09:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แวะเข้ามาครับ  แต่ต้องไปข้างนอกแล้ว เมื่อไหร่ คุณ craft collector จะนึกสนุกสะสมสบู่ของผมบ้างล่ะครับ มีหลากหลายให้เก็บสะสมเลยนะครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 6 พ.ค. 51 11:13:04 ]

ความคิดเห็นที่ 57 วันที่ 18 จะปั่นจักรยานไปนะคะ หวังว่าตะกร้าจักรยานจะพอใส่สบู่กลับบ้านนะคะ จากคุณ : เต้าเจี้ยว - [ 6 พ.ค. 51 15:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากมากค่ะที่มาอธิบายให้ฟัง [อ่าน] เรียกดิวก็ได้ค่ะสั้นไปตั้งแยอะ ผิวดิวคงเป็นแบบผสมค่อนไปทางแห้ง เพราะตอนอยู่อังกฤษมันลอกเป็นเกล็ดเหมือนงู ต้องโบ๊ะโลชั่นสำหรับผิวแห้งมากช่วย [เพื่อให้กลายเป็นแค่เมียงู หุหุ] ปป้าแอ๊ดได้เจอตุ๊กแก ตัวทั้งหนา-ใหญ่ ลายได้ใจปแหงเลย อายจิงจิง เนี่ยผลของการอยากได้สบู่ :p จากคุณ : ดิว (ordinaryfriday) - [ 6 พ.ค. 51 17:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 กำลังสนใจอยู่นี่แหละค่ะ  แต่ยัง ไม่กล้าลงมือทำ กลัวเสียแล้วไม่รู้จะเอาไปทิ้งไหนดี จากคุณ : Craft Collector - [ 6 พ.ค. 51 17:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ใครมาอ่านรักษาผิว เริ่มตรงนี้นะคะ กินโอเมก้าสาม วันล่ะ อย่างน้อย  2000 mllligram นะคะ ด็อกเตอร์ Perricone นักศัลย์กรรมของฮอล์ลีวูด และขายของที่  QVC แพงมากกกก ไปที่ QVC.com คลิก beauty  คลิกชุดแกคะ ถ้าเห็นขายแยกจากที่นี่ ราคาละฟ้าคะ แกเขียนหนังสือเรื่องความงามขายไม่นานนี้ เราไปร้านหนังสือแล้วแอบอ่าน ตอนจ่ายกับข้าว อิอิ เซพสตังค์ น่าสนใจมากกก ท่านสอนเราให้รักษาผิวด้วยการกิน การอยู่ และถ้าไม่ช่วยเลย มาหาแก ฮ่าๆๆ แกจะฟันให้ดู อิอิ พูดเล่นๆๆสนุกๆๆ เข้าเรื่อง คือ ท่านแนะนำให้กิน EFA   คือ essential fatty acid ซึ่งเป็นน้ำมันที่ร่างกายเราต้องการอย่างมหรรค์ และมีประโยชน์ล้นฟ้า สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรากิน นอกเหนือไปจากรักษาเรื่อง ทิชชู่ร่างกาย เนื้อเยื่อในสมอง และการลดการเสี่ยงในเรื่องหัวใจ รักษาโรคท้อง รักษาการปรับดุลสภาพของน้ำตาลในคนเป็นโรคเบาหวาน ในเรื่องโรคไขข้อรูมาติซั่ม รูมาตอยด์  ดีแสนประการ ตอนนี้ดิฉันได้สั่งเมล็ดนี้เป็น กุรุท มาจำหน่ายได้กำไรพอประมาณ สนุกๆๆๆคะ และทำประโยชน์ให้กับคนไทยท้องถิ่นคะ ไม่มีการ อินเตอร์นะ อย่าเข้าใจผิด สามารถสั่งบริษัทโดยตรงส่งเมล์ได้คะ ใครสนใจจะบอกลิ้งค์ติดต่อเองคะ ไม่เกียวกะเดี้ยนนะจ้ะ โนว์ คอมเมอร์เชียล์ที่นี่คะ ต้องการให้ความรู้อย่างแท้จริงคะ (พอมีสุตังค์เลี้ยงตัวเองแล้ว) กลับมาที่หนังสือ ท่านด๊อกเตอร์ บอกว่า ให้กินโอเมก้าสาม จะอยู่ในรูป น้ำมันตับปลา หรือ เมล็ดพืช (แฟรกซีด หรือ เชียร์ซีด) ปลูกแถวนี้ น้ำมันตับปลา อาจไม่ปลอดภัย เพราะ เหม็นมากตอนเรอ แหะๆๆๆ และต้องกินหลายเม็ด กลับพะอืดพอม อ๊วกตาย ฮ่าฮ่า และอีกอย่างมาจากน่านน้ำไหนก็ไม่รู้ เอาสารปรอท พิษจากมลภาวะหรือ ปล่าวไม่รู้ แล้วจะไปกินมันทำมาย ถ้ามีความกังวลต่อ เนอะ การกินน้ำมันพวกนี้มีคุณเยอะมาก และผลทำให้ ผมดกดำ เยอะขึ้น ทำให้เล็บยาวแข็งแรงขึ้น คือ ช่วย nail , hair and skin นี่แหล่ะ ผิว คือ กินไปเพื่อรักษาออกมา ผิวจะสวยงาม เนียน คะ เรากินมาแบบมากๆๆนี้ปีที่สามแล้วคะ เมือวานผลเลือดจากคุณหมอตรวจประจำปีคือ ไตรกลีเซอร์ไรด์ ร้อยเดียว เขาตังไว้ไม่ให้เกิน สองร้อย แอลดีแอล low lipoprotien แค่ 90 เขาไม่ให้เกิน 140 HDL , high lipoprotien (spelled)  55  ให้เกิน 40 เป็นส่วนที่เกิดจากการบริหารอันนี้ จะโชว์ว่า เรากระทำคะ การกินโอเมก้าสามจากปลา เรากินน้ำมันนี้จากปลาได้น้อย จึงต้องใช้สิ่ง ช่วย supplement ให้กะร่างกายคะ แม่ที่เมืองไทย ทานมาแล้วหนึ่งปีเต็ม ชอบมาก ท่านบอกว่า รู้สีก จิตใจสมองดีขึ้นสายตาดีขึ้น เพราะ โอเมก้าสาม บำรุงเรื่องตาอย่างเห็นได้ชัดคะ หมอตาดิฉัน(เป็นเพื่อนซี้กะฝรั่งคนนี้) บอกว่า แกกินโอเมก้าสามคะเพราะตา ดิฉันยิ่งกินใหญ่เลยตอนนี้ เพราะรักสายตามาก ต้องการสุขภาพดี ตาหวาน อุ้ยไม่ใช่ มันหวานอยู่แล้ว เอิ๊กๆๆๆ ไม่งั้นแฟนไม่หลงหรอก อ้าว ~~ ซีเรียสหน่อยกลับเข้าเรื่อง จำเป็นที่สุดในการรักษาสุขภาพของเรา main priority คะ ส่วนที่ได้รับมาอีกคือ รักษาผิวพรรรณไม่ให้แก่ก่อนวัย โดยฉเพราะภัยธรรมชาติรอบตัวเรา แสงแดด สังขาร เครียดๆๆๆ นี่แหล่ะ ที่ ขโมยผิวของเราอย่างสิ้นเชิงคะ โปรดอ่านแล้วกระทำ ผลได้รับ มีมากจนไม่สามารถกล่าวในทีนี่ได้ เสิช ที่กูเกิล ได้คะ omega 3 หรือ EFA essential fatty acid พวกกรดอมิโนแอซิด อะไรนี่คะ ไม่ต้องสบู่หรอกคะ ถ้าคุณใช้สบู่โรงงานผิวคุณได้รับพวก EFA คุณก็จะสวยคะ ปัจจัยสบู่ไม่ใช่รักษาผิวคะ แต่เรื่อง อะโรมาธีราพี่คะ ด้วยการสัมผัส กลิ่น ทำให้คุณ ผ่อนคลาย และเมื่อไหร่คุณทำเองมีกลีเซอรีนผลค้างเคียงในการทำปฏิกริยา ใส่กลิ่นลาเวนเดอร์ สีสวย มันก็ทำให้คุณผ่อนคลาย จริงไหม ประเด็นนั้นมากกว่า นะคะ เริ่มจริงๆๆคือ EFA คะ และต้องฝึกโยคะ เพื่อให้เลือดฝาดวิ่งดี ไปรักษาใบหน้าคุณ ผ่อนเครียดถ้าคุณมีเครียดมากๆๆกะร่างกาย มันจะโชว์ที่ผิวคุณและใบหน้า อิอิ นั่งสมาธิตามท่านปู่ธรรมะอิสระดีมะ เราทำประจำคะ เราฟังท่านจากทีวีไทยที่นี่ (บ้านมีดาวเทียม ดูทีวีรอบโลก) จะฟังท่าน ว วชิรปราณีบ่อยเหมือนกัน คะ เพลินไหมคะ จากคุณ : มิสพิกกี้ - [ 6 พ.ค. 51 22:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สาธู... เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ปวดหัวมากครับ วันนี้เหนื่อย แต่มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะมาก ผลัดไปก่อนเนอะ เหนื่อยจริงๆ  แต่ก็มีเรื่องดีใจ คุณสองสาย นักทำสบู่ท่านหนึ่ง ซื้อสบู่น้ำมันมะพร้าวไปใช้ เธอบอกว่าดีมาก... อิอิ ดีใจครับ "สวัสดีค่ะ สบู่มะพร้าวลายสีฟ้าใช้ได้ดีมากค่ะ จนอยากลองแบบอื่นๆอีก ไม่ทราบว่าจะซื้อได้ที่ไหนคะ ทำยังไง ก็คงไม่ได้อย่างที่คุณทำแน่ๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ" คนทำสบู่ทุกคน ก็คงเหมือนผม ผมอยากทำแต่สบู่ดี ๆ ให้คนได้ใช้ ถ้าเค้าใช้แล้วดี เราจะดีใจและภูมิใจมาก ๆ ครับ ยิ่งคุณสองสายเค้าทำสบู่เป็น เค้ารู้เรื่องสบู่ดี แล้วยังชมมานี่ ยิ่งดีใจหลายเท่าครับ มันเหมือนกับว่ามีคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทุ่มเทไป เงินทองจะมาทดแทนความภูมิใจในส่วนนี้ไม่ได้เลยครับ... จากคุณ : sakchai splash - [ 6 พ.ค. 51 22:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณศักดิ์ชัย เตรียมสบู่ไปเยอะๆ ก็แล้วกัน คุณเต้าเจี้ยวบอกว่าจะปั่นจักรยานไป แต่....ไม่แน่ใจว่าตะกร้าหน้ารถจะใส่สบู่พอหรือเปล่า...หุ หุ หุ คุณเป้ขา  ...ใจคอจะกวาดคนเดียวเชียวหรือคะ... ปอลิง..คุณเต่า อีกไม่เกิน 2 วัน กระเป๋าเสร็จแน่นอน แล้วจะถ่ายรูปมาอวด อิ อิ จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 6 พ.ค. 51 23:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จากประสบการณ์ของคนทำสบู่นะครับ... ผมว่าสบู่ที่ดีทีสุดนั้นจะเป็นสบู่ cold process ที่ทำอย่างถูกวิธี เพราะเราจะไม่ใช้ความร้อนใด ๆ ในกระบวนการผลิตเลยแม้แต่นิดเดียว  แต่กระบวนการผลิตสบู่จะให้ความร้อนแก่สบู่เองด้วยตัวของมันตามธรรมชาติ ยิ่งหากทำได้อย่างถูกหลัก สบู่ประเภทนี้จะเกิดกลีเซอรีนสูงมาก สบู่ cold process จึงให้ความชุ่มชื้นต่อผิวสูงมาก อย่างไรก็ตาม หากการคำนวณสัดส่วนของน้ำมันกับน้ำด่างมีข้อผิดพลาด สบู่ที่ได้ก็จะมีคุณภาพลดลงไปตามภาวะการณ์ของเค้า เช่น ถ้าทำให้น้ำมันเหลือมากเกินไป อาบแล้วผิวจะเหนอะหนะ เหมือนมีน้ำมันเกาะตอนยังเช็ดตัวไม่แห้ง ให้สังเกตุน้ำที่ผิวจะเป็นเม็ด ๆ เอามือลูบผิว จะรู้สึกเหนอะหนะ ในขณะที่ถ้าคำนวณแล้วด่างเหลือ อาบแล้วผิวจะแห้งตึง อาบสะอาดกว่า แต่ผิวก็แห้งกว่า โดยเฉพาะถ้าเอามาใช้กับหน้า จะทำให้ไม่มีสง่าราศี เพราะหน้าจะแห้ง ดูเหมือนไร้ทรัพย์ อิอิ นักทำสบู่ส่วนใหญ่จึงมักจะคำนวณให้สบู่มีน้ำมันเหลือในอัตรา 3-8% จากกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม บางรายกลัวจัด ก็จะมีการเติมสารให้ความชุ่มชื้นลงไปอีก สบู่ประเภทนี้จะมีลักษณะมันวาว เนื้อนิ่ม อาบไม่สะอาด (เหนอะ ๆ) เก็บไว้นานจะมีลักษณะเหนียว ๆ เหมือนมีความชื้นที่ผิว แล้วก็จะหืนง่าย ไม่น่าใช้  บางรายก็เลยเติม "วิตามินอี" เข้าไปเพื่อช่วยป้องกันความหืน ซึ่งวิตามินอีตัวนี้ เป็นคนละตัวกับวิตามินอีบำรุงผิวนะครับ  อย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณามาก มีผู้ขายสบู่เยอะมากในเวป ที่โฆษณาเกินเลย เข้าข่ายหลอกลวง ผู้บริโภคก็จะจดจำคำโฆษณาแบบที่ผิด ๆ นั้นมาใช้ บางทีผมบอก กลับหาว่าผมโกหกซะอีก เพราะเค้าเชื่อคำโฆษณาเหล่านั้นมากกว่า......  กรรม สบุ่อีกประเภทที่เรียกว่า Hot Process นั้น มันก็ทำกันได้หลายวิธีนะ  แต่ส่วนใหญ่นักทำสบู่มักจะทำ hot process เมื่อสบู่ cold process ทำแล้วไม่เป็นไปตามที่หวัง เกิดอุบ้ติเหตุในการทำ ก็เลยจับสบู่นั้นขึ้นกวนต่อในกระบวนการ hot process มันซะเลย จะได้ไม่ต้องทิ้งสบู่ที่ทำให้เสียตังค์  โดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ชอบสบู่ hot process นี้เหมือนกันนะคัรบ เพราะทำแล้วมันใช้ได้เลย ไม่ต้องรอเก็บไว้หลายสัปดาห์  สูตรของผมนั้นจะใช้ฟองเยอะมากขึ้น ให้ความชุ่มชื้นดี แต่ม้นหดตัวไม่หยุด ผมจึงไม่ชอบ เพราะค้าขายลำบากมาก ยิ่งเก็บนานสบู่ยิ่งหดลง ขาดทุนป่นปี้ครับ เลยไม่ทำดีกว่า นาน ๆ นึกสนุกก็ลุกขึ้นมาทำเล่นบ้าง  แต่ปัจจุบันแทบจะไม่จับอีก เพราะไม่ชอบครับ ทีนี้มาเข้าเรื่องสบู่กลีเซอรีนล่ะ สบู่กลีเซอรีนนั้นเป็นสบู่ hot process ประเภทหนึ่งที่ทำได้หลากหลายวิธีมาก  วิธีดั้งเดิมก็จะทำจากกระบวนแบบ cold process นั่นแหละ แต่เราจะไม่รอให้สบู่เซ็ทตัว เราจะให้ความร้อนด้วยการตั้งบนหม้อนึ่ง 2 ชั้น แล้วเติมวัตถุดิบบางตัวเข้าไปตามกระบวนการ สบู่กลีเซอรีนแบบนี้จะมีเนื้อที่ไม่ใสแจ๋ว และมีความเหลืองของน้ำมัน ไม่ดูดจับความชื้น แม้จะเปิดทิ้งไว้โดยไม่ห่อ ฟองก็จะมากเหมือนสบู่ cold process ให้ความชุ่มชื้นสูง แต่สบู่กลัเซอรีนสูตรนี้ของผม หดตัวเก่งเหมือนกับคุณสบู่ hot process นั่นเลย สบู่แบบนี้จับดูปุ๊บจะรู้ปั๊บว่าเป็นสูตรธรรมชาติด้วยตัวของเค้าเอง สบู่กลีเซอรีนสูตรนี้แหละที่เจ๋ง แต่ไม่ค่อยมีคนทำมากนักหรอกนะ เพราะทำยาก เสียเวลา สบู่กลีเซอรีนอีกประเภทนั้น จะผลิตด้วยกระบวนการเชิงอุตสาหกรรม โดยผลิตจากกรดไขมัน ไม่ใช่น้ำมัน เพื่อความรวดเร็วและคล่องตัว อีกทั้งยังทำให้ควบคุมคุณภาพได้ง่ายกว่า ผลิตเป็นแมสได้สบาย ๆ ที่เห็นสบู่ใส ๆ แจ๋ว ๆ ในท้องตลาดก็มักจะทำด้วยสูตรนี้แหละครับ สบู่กลีเซอรีนกลุ่มสุดท้าย จะทำจากสูตรทั้งสองดังกล่าว ผสมผสานกันเพื่อเสริมจุดเด่น ลดจุดด้อย แต่ด้วยคุณสมบัติที่ได้ สบู่นี้ก็จะยังมีคุณภาพห่างไกลจากสบู่กลีเซอรีนจากธรรมชาติครับ ที่นี้ก็ขอให้เข้าใจนะครับว่า สบู่กลีเซอรีน เป็นคนละตัวกันกับ สารกลีเซอรีน ที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ซึ่งคนมักเข้าใจผิด แล้วก้เอามาโฆษณาขายสบู่หลอกลวงประชาชนว่า สบู่กลีเซอรีนของเค้า ทำขึ้นจากกลีเซอรีนบริสุทธิ์ 100%  ผู้บริโภคที่ขาดความรู้ และไม่เคยศึกษาหาความรู้ให้ตัวเอง ก็จดจำและรับรู้ไปอย่างผิด ๆ หลงเชื่อคำโฆษณาไปอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผู้ผลิตบางรายอวดอ้างมากไปกว่านั้น โดยบอกว่าสบู่กลีเซอรีนของเค้าผลิตโดยการตักเอากลีเซอรีนที่ผลิตได้จากกระบวนการผลิตสบู่โคล์ดโปรเซสมาทำสบู่กลีเซอรีนของเค้า ดังนั้นสบู่กลีเซอรีนของเค้าจึงดีเลิศประเสริฐศรี  แล้วยังมีการตั้งคำถามในเวปของเค้าด้วยนะครับว่า "คุณรู้จักสบู่กลีเซอรีนหรือเปล่า" ยิ่งอ่านก็ยิ่งขำครับ ผมชอบอ่านคำโฆษณาของพวกทำสบู่ไม่เป็น แล้วมาเขียนเว่อร์ ๆ เพราะรู้สึกได้เลยว่าตัวเองฉลาดขึ้น.. อิอิ โปรดจำไว้นะครับว่า สบู cold process เป็นสบู่ที่น่าใช้ที่สุด ดีกว่าสบู่อื่นใด ในระดับการผลิตที่มีต้นทุนเท่ากัน...  ขอย้ำต้นทุนนะครับ ไม่ใช่ราคาขาย  ผมน่ะเห็นสบู่กลีเซอรีนขายกันให้เกลื่อน บางรายบอกว่าเคี่ยวเป็นวัน ๆ เพื่อให้ได้เนื้อสบู่ที่ดีเจ๋งเป้ง สบู่ของเค้าจึงมีสีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น "ฆษณา"มักจะมากับคำว่า "ชวนเชื่อ" เสมอครับ จากคุณ : sakchai splash - [ 7 พ.ค. 51 07:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ต่อที่นี่นะครับ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J6585911/J6585911.html จากคุณ : sakchai splash - [ 8 พ.ค. 51 00:43:49 ]