ความคิดเห็นที่ 1 มาค่ะ  มาเตรียมเอกสารที่ต้องใช้กัน 1. แบบคำขออนุญาตนำสัตว์เข้าราชอาณาจักรไทย  แบบ ร.1/1 (ดาวท์โหลดได้ที่เวปกรมปศุสัตว์) 2. Health Certificate  เป็นภาษาอังกฤษ (ของอ้อมเป็น 2 ภาษาค่ะ อังกฤษกับสแปนิช) 3. Proof of Vaccination เป็นภาษาอังกฤษ 4. สำเนาพาสสปอร์ตของผู้นำเข้า เซ็นต์รับรองสำเนาด้วย ตอนแรกอ้อมส่ง Fax เอกสารทั้งหมดพร้อมทั้งจดหมายแนบระบุว่าต้องการรับ "ใบอนุมัตินำสัตว์เข้าราชอาณาจักร แบบ ร.6" ผ่านทางอีเมล  แต่เอกสารไปไม่ถึงในส่วนของผู้ที่จะออกเอกสารให้ อ้อมก็เลย...ลุยโลด หิ้วเจ้าชิไปทำเอาหน้าด่านเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยเลยแล้วกัน  (ทำได้เหมือนกันค่ะ  ไม่ต้องหวั่นจิตหวั่นใจไป) วิธีการนำเข้าทำได้ 2 วิธีค่ะ  คือ ดำเนินการขออนุมัติเพื่อที่จะได้เอกสาร แบบ ร.6 ก่อน กับแบบนำสุนัขติดตัวไประหว่างเดินทางเข้า เพื่อไปทำแบบ ร.6 เอาที่หน้าด่านเลยก็ได้  สะดวกทั้งคู่ค่ะ *** ในรูปคือ แบบ ร.1 ค่ะ จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Health Certificate  และ Proof of Vaccination เป็นภาษาอังกฤษ หรือว่าจะใช้แบบ 2 ภาษาแบบของอ้อมก็ได้ อย่างของอ้อมเป็น อังกฤษ + สแปนิช  คุณเจ้าหน้าที่ก็ไม่ว่าอะไร จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในระหว่างที่เตรียมเอกสารที่ทางเมืองไทยต้องการ  อ้อมก็เริ่มติดต่อกับสายการบินที่จะใช้เดินทางไว้เลย คราวนี้อ้อมใช้สายการบินไทย เพราะว่าเป็นไฟล์บินตรงจากมาดริดถึงกรุงเทพเลย ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง เพราะรู้สึกว่า...ถ้าต้องเปลี่ยนเครื่องนี้  สงสารเจ้าชิมัน  ตอนที่ติดต่อการบินไทยก็พอทราบอยู่แล้วว่า   ทางการบินไทยจะอนุญาตให้เราสามารถหิ้วน้องหมาขึ้นเครื่องไปกับเราได้ โดยที่ไม่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่องไป แต่ว่า...ในส่วนนี้ก็มีกฏควบคุมอยู่  โดยระบุว่าน้ำหนักของน้องหมา เมื่อรวมกับน้ำหนักของกรงแล้วต้องไม่เกิน 10 กิโล ขนาดของกรงต้องไม่ใหญ่เกินไปอย่างกรงของเจ้าชินี่มีขนาด 50 x 32 x 32 จริงๆ แล้วขนาดกรงที่ทางการบินไทยกำหนด จะเล็กกว่านิดหนึ่งค่ะ แต่หาซื้อไม่ได้ ได้ไซส์นี้มา ซึ่งก็พอดีกับตัวเจ้าชิจะอยู่ได้สบายๆ ก็แจ้งกับทางการบินไทยไปว่า เรามีกรงขนาดนี้ แต่น้ำหนักของหมารวมกรงแล้วไม่เกิน 10 กิโล  ทางการบินไทยก็ใจดีอนุญาตให้สามารถหิ้วขึ้นได้ค่ะ (เย้ๆๆ) ส่วนเรื่องเอกสารที่ทางการบินไทยต้องการนั้น  คือ  Pet Passport ค่ะ   Pet Passport ของเจ้าชิได้มาตอนที่พาเจ้าชิไปฝั่งไมโครชิพ แล้วคุณหมอก็แนะนำว่าให้ทำเผื่อไว้ดีกว่า เพราะถ้าหากพวกเราจะเดินทางไปเที่ยวแล้วอยากพาโฮชิไปด้วยจะได้สะดวกดี   ก็เลยทำไว้ *** Pet Passport ของโฮชิค่ะ จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วันเดินทาง  อ้อมเตรียมเอกสารทุกอย่างใส่เป้หลังไว้  เพื่อที่จะได้สะดวกในการหยิบเมื่อคุณเจ้าหน้าที่เรียกขอดู เอกสารทุกอย่าง ถ่ายเอกสารกันน๊อคไว้ 2 ชุด  พร้อมด้วยรูปถ่ายของเจ้าชิ (เผื่อไว้ค่ะเขาไม่ได้ระบุไว้หรอก) ซึ่งก็จริงๆ ด้วย  ตอนที่ไปเช็คอินนั้นทางเจ้าหน้าที่ของการบินไทยของพาสสปอร์ตของเจ้าโฮชิไป พร้อมด้วย Health Certificate  และ Proof of Vaccination  ตัวจริง  แต่คุณเจ้าหน้าที่ขอไปดูเฉยๆ แล้วจะคืนให้กับเราค่ะ  พอไปถึงก็ไปเช็คอินกระเป๋า แล้วก็เอากรงซึ่งบรรจุเจ้าชิไว้ขึ้นชั่งน้ำหนัก ทางการบินไทยคิดค่าบริการเป็นน้ำหนักกระเป๋าที่เกินมา  อย่างเจ้าชิหนักรวมกรงแล้ว 7 กิโล ก็เสียค่าน้ำหนักเกินไป 7 กิโลค่ะ   (1 กิโล = 50 ยูโร)   *** Pet Passport ด้านในค่ะ จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กรงของโฮชิที่อ้อมเลือกใช้เป็นกรงที่ผ่านมาตรฐานของ IATA แบบว่า กันน๊อคไว้ก่อนเลย  กลัวทางสารการบินไม่ให้หิ้วขึ้น ทางการบินไทยบอกมาค่ะ ว่าต้องเป็นกรงแบบนี้เท่านั้น พวกตระกร้า หรือกระเป๋าใส่น้องหมานี่...ไม่ได้ค่ะ ทางสายการบินไม่อนุญาต จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ติดสติกเกอร์ Live Animals  ตรงช่องใส่ที่อยู่ ก็เขียนที่อยู่ของเราที่เมืองไทยไว้ให้ชัดเจน *** ปล. ตุ๊กตาที่ห้อยอยู่เป็นอุปกรณ์เสริมค่ะ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 51 21:51:02 จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เช็คอินเสร็จแล้วก็รอเวลาขึ้นเครื่องค่ะ  ตอนนี้อ้อมเอายาซึมให้โฮชิกิน   คุณหมอบอกว่าให้แค่ครึ่งเม็ดพอ แล้วให้ก่อนจะขึ้นเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมงยาถึงจะค่อยๆ ออกฤทธิ์  แต่ที่ไหนได้...ให้ไปเผื่อเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าโฮชิหมาจอมพลังมันยังไม่ซึม  แถมออกฤทธิ์ออกเดชดิ้นกรงแทบแตก  มันไม่ยอมอยู่ในกรงท่าเดียว สภาพตอนนั้นของอ้อมนี่เรียกว่าบ้าหอบฟางของแท้เลยค่ะ  เป้ 1 ใบ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ กรงหมาพร้อมหมา 1 กรง ตอนนั้นก็ได้แต่ด่าตัวเองในใจ ว่ารู้งี้ให้มันกินยาไปก่อนสัก 3 ชั่วโมงจะดีกว่า เผื่อมันจะซึมไม่ซ่าส์ขนาดนี้ ตอนขึ้นเครื่อง  อ้อมดันได้ที่นั่งไม่ดีค่ะ  เป็นที่นั่งริมหน้าต่าง แถมยังมีผู้โดยอีก 2 ท่านนั่งไปด้วย อ้อมเลยแจ้งต่อคุณแอร์และคุณสจ๊วตว่า  อยากได้ที่นั่งที่กว้างๆ หน่อยเพราะอ้อมไม่สามารถวางกรงได้เลย ทั้งคุณแอร์และคุณสจ๊วตก็วิ่งกันวุ่นเลยค่ะ  หาที่นั่งให้อ้อมจนได้  ไปโน้นเลยค่ะ แถวหลังสุดของเครื่อง อ้อมโอเคนะ เพราะถึงเบาะจะปรับเอนไม่ได้  แต่การอยู่ตรงนั้นมีที่พอที่จะวางกรงตรงที่วางเท้า และแถวนั้นทั้งแถว ก็มีอ้อมและพี่อาร์ต ศุภวัฒน์ (พระเอกขวัญใจชาวไทย) แบ่งกันครอบครองเก้าอี้คนล่ะ 2 ตัว ความที่เจ้าชิออกฤทธิ์ออกเดชอย่างหนัก  มันดิ้นและไม่ยอมจะอยู่ในกรง แหกปากส่งเสียร้องโหยหวน อ้อมเกรงใจผู้โดยสารทุกท่านมากๆ  เลย...แอบเอาเจ้าชิออกจากกรงมากอดไว้ค่ะ  เท่านั้นแหละ  มันเงียบ งานนี้ก็ต้องขอบคุณทั้งคุณสจ๊วตและคุณแอร์ที่ใจดีทุกท่านของเที่ยวบินนี้  ที่เข้าใจ   อ้อมเอาผ้าห่มที่สายการบินแจกมาคลุมเจ้าชิไว้ค่ะ  เพื่อป้องกันไม่ให้ขนมันกระจาย เพราะเราไม่รู้ว่า... ในไฟล์นั้นมีใครแพ้ขนสัตว์หรือเปล่า  แต่เพื่อความปลอดภัยคลุมไว้ค่ะ สักพักหมาแสบก็สิ้นฤทธิ์   นั่งตาปรือเป็นหมาซึมไปอีก 7 ชั่วโมง   ทำเอาแม่มันไม่ได้นอนเลยค่ะ เพราะว่า  มันซึมอย่างเดียว  แต่มันไม่หลับ!!!!!! หลัง 7 ชั่วโมงเจ้าชิเริ่มตาใสอีกครั้ง  เฮ้อ... อ้อมก็เลยต้องให้ยาเจ้าชิอีกครึ่งเม็ด หลังจากนั้นก็ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้ถึงไทยก่อนที่ยาจะหมดฤทธิ์ด้วยเถิด ***เอากรงอันว่างเปล่าวางไว้ตรงที่วางเท้า จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่างนั้นบนเครื่อง  อ้อมแทบจะทิ้งเจ้าชิไปไหนไม่ได้  จะลุกไปห้องน้ำยังต้องอุ้มกันไปด้วย แต่ความที่เจ้าชิไม่ต้องอยู่ในกรง  มันขอแค่ได้นอนบนตักหรืออยู่ข้างๆ อ้อมเท่านั้น มันจึงไม่ส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นเลย ขนาดที่ว่า...มีผู้โดยสารเดินมาทักทายลูบหัวมันเป็นระยะๆ  มีคุณป้าชาวสเปนท่าหนึ่งพูดกับอ้อมว่า... "เอาเจ้าหมาน้อยนี่ขึ้นมา ดีกว่าเอาเด็กขึ้นมาอีกนะ เพราะมันไม่ร้องรบกวนใครเลย"  งานนี้แอบขำค่ะ *** หมาตาปรือแต่ไม่ยอมหลับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 51 21:44:57 จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเครื่องถึงประเทศไทย  เอาอีกแล้วค่ะ  เวลาหายนะมาอีกแล้ว เพราะอ้อมต้องเอาเจ้าชิใส่เข้ากรง แล้วเดินลงเครื่องมา   ผลคือ  มันดิ้นกรงแกว่งไกวอีกครั้ง แล้วทางเดินจาก Gate กว่าจะถึง ตม. ก็ไกลมาก  ผ่านด่าน ตม. ก็ไปตรงส่วนรับกระเป๋า  ไปถึงตรงนี้เหมือนมีเทวดามาโปรด เพราะมีน้องเจ้าหน้าที่ของการท่าเดินเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้วยการไปรอเอากระเป๋าที่สายพานให้ แล้วน้องอีกท่านหนึ่งก็พาอ้อมไปที่ "ส่วนควบคุมฯ ด่านสุวรรณภูมิ" เพื่อทำเอกสารนำเจ้าโฮชิเข้าประเทศ ไปถึงก็ยื่นเอกสารทั้ง 4 อย่างที่อ้อมบอกไว้ตั้งแต่ข้างต้น พร้อมเงินอีก 100 บาท ไปให้คุณเจ้าหน้าที่   แล้วคุณเจ้าหน้าที่ก็จะออกเอกสารที่เรียกว่า "ใบแจ้งอนุมัตินำสัตว์เข้าราชอาณาจักร แบบ ร.6" อันนี้ได้มา 2 ใบ และ "ใบอนุญาตนำสัตว์เข้าในราชอาณาจักร แบบ ร.7"  พร้อมกับใบเสร็จรับเงินให้กับเรา เป็นอันเสร็จขั่นตอนนี้ค่ะ หลังจากนั้นเราต้องเดินไปเข้าช่องสำหรับผู้มีของต้องสำแดง น้องเจ้าหน้าที่การท่าคนที่เอากระเป๋ามาให้ เป็นคนเข็นรถพาอ้อมไป  เรียกว่า บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ  ทางเจ้าหน้าที่ที่ด่านนั้นจะเก็บ "ใบแจ้งอนุมัตินำสัตว์เข้าราชอาณาจักร แบบ ร.6" ไป 1 ใบ  เท่านี้เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ   น้องเจ้าหน้าที่การท่าเข็นรถพาอ้อมเดินเฉิดฉายออกมาด้านนอก มองหาท่านพี่สาวที่มารอรับ แล้วกลับบ้านมานอนตีพุงได้เลย *** แบบ ร.6 และ แบบ ร.7 จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การเดินทางกลับไทยพร้อมเจ้าโฮชิครั้งนี้เรียกว่าประทับใจจริงๆ  ประทับใจตั้งแต่ตอนติดต่อกับทางการบินไทยสเปน มาจนถึงวันเดินทาง ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณสจ๊วตและคุณแอร์ทุกท่าน จนมาถึงสุวรรณภูมิซึ่งเป็นการใช้บริการสนามบินใหม่ของเราเป็นครั้งแรก  ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านมากมายจากใจค่ะ ปล. มีทริกเล็กๆ สำหรับการเตรียมตัวน้องหมาก่อนวันเดินทางมาฝากด้วย 1. คืนก่อนเดินทาง งดอาหารเม็ดค่ะ ให้น้องหมาทานอาหารเปียก เพราะน้องหมาจะไม่หิวน้ำมาก 2. ตอนเช้าก่อนวันเดินทางให้อาหารเปียกนิดหน่อย  และให้เขาดื่มน้ำได้เท่าที่เขาอยากดื่ม 3. ก่อนขึ้นเครื่อง พาน้องหมาเดินเล่นค่ะ เพื่อเขาจะได้อุนจิและฉี่ 4. เตรียมน้ำใส่ขวดพร้อมถ้วยน้ำเล็กๆ ติดตัวไปด้วยค่ะ  (ในกรณีที่หิ้วน้องหมาขึ้นเครื่องเอง) ที่อ้อมใช้น้ำใส่ถ้วยแทนจุกเลียน้ำเพราะเจ้าชิมันใช้จุกเลียน้ำไม่เป็น =_=;; 5. แผ่นรองซับ pee pad พกไปด้วยสัก 2 แผ่นค่ะ  เผื่อเขาฉี่   6. ทิชชูเปียกสำหรับเช็ดก้นหมา  เผื่อว่าเขาอุนจิแล้วอุนจิติดก้นค่ะ  อันนี้จำเป็นจริงๆ   ไม่งั้นกลิ่นโชยระหว่างอยู่บนเครื่อง  จะเป็นการสังหารหมู่ไปโดยไม่เจตนา หวังว่าประสบการณ์เล็กๆ ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ห้องสุนัขบ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ *** ตอนนี้เป็นหมาไทยแล้วคร๊าบ  พึ่งไปเที่ยวอยุธยามาโด้ยยยยยย จากคุณ : soulfighter - [ วันฉัตรมงคล 21:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยินดีต้อนรับครับ จากคุณ : ความสุขเล็กๆ - [ วันฉัตรมงคล 22:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหๆๆๆ เห็นตอนผ่านเครื่องตรวจแล้วเหนื่อยแทนเลยค่ะ แต่ในที่สุดก็ถึงโดยสวัสดิภาพ ดีจัง โฮชิกลายเป็นหมาไทยไปแย้ว หุหุ จากคุณ : แจ๋วมาดริด (ANGEL IN THE BLUE) - [ วันฉัตรมงคล 22:41:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ โฮชิ จากคุณ : Nice ^0^ ชิสุห์หน้าบานน (Oohopank13) - [ วันฉัตรมงคล 22:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีต้อนรับโฮชิสู่สยามประเทศ จากคุณ : กิ๊กกะเฮิร์ท - [ 6 พ.ค. 51 00:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โฮชิน่ารักจัง จากคุณ : quilt - [ 6 พ.ค. 51 01:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Welcome To Thailand ค่ะ ฮิ้วววววววววววว!!!! ขอบคุณค่ะพี่มาเล่าประสบการณ์ตรงเลย อิอิ ว่าแต่ถามหน่อยอ่ะค่ะ ว่า เค้ายอมให้เอาเด็กๆออกมาจากกรงได้ด้วยหรอค๊ะ แฮะๆๆๆ พี่สาวเคยเอา ปอมออกจากกรงเพราะเค้าร้อง แหม ป้าแอร์ฯแกด่ากระจายเลยค่ะ  - -" จากคุณ : มอมแมมมอธ - [ 6 พ.ค. 51 02:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่มารับขวัญเจ้าชิสู่เมืองไทยนะค่ะ ตอบคุณ มอมแมมมอธ - จริงๆ แล้วตามกฏนี่ไม่ได้เลยนะค่ะ  เขาห้ามสุดๆๆ  เพราะมันเป็นกฏเลยค่ะ แต่โชคดี  เจ้าชิมันดวงดีที่คุณหัวหน้าสจ๊วตไฟล์นี้เข้าใจ  และที่สำคัญอ้อมสัญญากับเขาว่าจะไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากอื่นใด   ดังนั้น...ตลอดไฟล์อ้อมเลยไม่ได้นอน กลัวว่าถ้าเผลอหลับแล้วเจ้าชิวิ่งควบขึ้นมานี่...จะยุ่งกันทั้งไฟล์  กลัวเขาไล่ลงกลางอากาศ  อิอิ แถวที่นั่งที่ย้ายไปก็เป็นแถวหลังสุดท้ายเครื่องเลยค่ะ  (น่าจะเป็นแถวที่ 71 ของเครื่องโบอิ่ง 747) เป็นแถวเก้าอี้ 4 แถว มีอ้อมกับพี่อาร์ตนั่งกันสองคน  ที่สำคัญโชคดี พี่อาร์ตก็ชอบหมา เลยไม่มีปัญหา สำหรับผู้โดยสารท่านอื่น  พอเจ้าชิไม่ส่งเสียงรบกวนอะไร  ก็เลยกลายเป็นว่าทุกคนเอ็นดูมันกันหมด เวลาเขาเดินมาเข้าห้องน้ำกันที ก็แวะลูบหัว แวะคุยกับเจ้าชิกัน  มีแต่คนชมว่ามันเป็นเด็กดีค่ะ แต่การที่เจ้าชิมันไม่หลับนี่  เจ้าของเหนื่อยนะค่ะ  คือ กับตัวเองถ้าเลือกได้อยากให้เขาหลับเหมือนกัน แต่คุยกับน้องแอร์ที่ดูแลส่วนที่อ้อมนั่ง น้องเขาบอกเองเลยว่า "หิ้วขึ้นปลอดภัยกว่าโหลดใต้ท้องเครื่องเยอะ" ตอนเครื่องลงจอดแล้ว ได้มีโอกาสคุยกับคุณหัวหน้าสจ๊วตเลยได้ทราบว่า  คุณเขาเองก็มีน้องหมาในความดูแลอยู่ถึง 16 ตัว    โฮะๆๆๆๆ จากคุณ : soulfighter - [ 6 พ.ค. 51 07:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 welcome  to Thailand  จ้า โฮชิ มาเป็นหนุ่มไทยซะแล้ว  มี๊อ้อมพามาเที่ยวนานไม๊จ๊ะ จากคุณ : แม่สามซ่า - [ 6 พ.ค. 51 08:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มารับขวัญหลาน จากคุณ : nongthee - [ 6 พ.ค. 51 09:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยินดีต้อนรับจ้า....นู๋โฮชิ.... จากคุณ : ดุ๊กกะดุ๋ย - [ 6 พ.ค. 51 10:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โอ้โหว บรรยายละเอียดสุดๆๆจริงคะ    ในที่สุดก้อได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนซักทีนะคะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 51 10:31:26 จากคุณ : ^^ng (ningnoi) - [ 6 พ.ค. 51 10:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยินดีต้อนรับคับพี่โฮชิคับผม จากคุณ : ม่ามี้ เบคเบค (Piggi_Ham) - [ 6 พ.ค. 51 10:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ อิอิ โฮชิ ผจญภัยเหนือ(พื้น)โลก >w< จากคุณ : ipod_nenaz - [ 6 พ.ค. 51 10:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เก่งทั้งแม่ ทั้งลูกเลยค่ะ.... จากคุณ : คากิ~คากิ - [ 6 พ.ค. 51 11:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขำเจ้าชิในคห 8 เหมือนมันสะใจที่ได้แกล้งแม่มัน ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน น้องอ้อมโชคดีมากที่ทุกๆคนในไฟล์ทนั้นรักหมา เกิดเจอคนที่ทำมึนกับหมาแค่เคสเดียวก็แย่แล้ว   เวลคัมโฮม (หม่ามี๊)จ้า ชิ จากคุณ : แม่การบูร การพลู (@Baan TUK) - [ 6 พ.ค. 51 12:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยินดีต้อนรับจ้าโฮชิ แหมๆ ดีใจแทนพี่อ้อมที่ได้นั่งใกล้หนุ่มหล่อ แถมได้ไฟล์ดี มีแต่คนน่ารักๆ  ^ ^ จากคุณ : k_puiky - [ 6 พ.ค. 51 12:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาต้อนรับกลับบ้านจ้ะ โฮชิ ว่าแต่ว่า ไม่อยากมาเป็นหมาทะเลมั่งเหรอจ้ะ.. จากคุณ : travell doc - [ 6 พ.ค. 51 12:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณนะคะ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ อยากจะถามว่าใช้เวลาในการเตรียมเอกสารนานหรือเปล่าคะ แล้วพาเค้าขึ้นเครื่องไปด้วยต้องแจ้งล่วงหน้านานมั้ยคะ เผื่อในอนาคตอยากจะพาลูกชายไปเที่ยวเมืองไทยบ้าง แล้วตอนขากลับประเทศทำยังไงคะ จากคุณ : ฝน - [ 6 พ.ค. 51 14:27:51 A:60.230.37.178 X: TicketID:175603 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ยินดีต้อนรับโฮชิคร้าบบบบบ โชคดีที่การบินไทยรับ pet in cabin ด้วย บางสายการบินรับแต่ cargo โหลดใต้ท้องเครื่องอย่างเดียวเลย จากคุณ : i am kookai - [ 6 พ.ค. 51 15:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วไม่เจอด่านกักกันสัตว์เหรอคะ (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) พนักงานบริษัทฯเดิมของเราพาน้องหมามาด้วย เพราะต้องมาอยู่ไทย 5 ปี น้องหมาของเขาโดนกักตัวไว้เป็นเดือนเลยค่ะ จากคุณ : เมื่อไรจะมีฯ - [ 6 พ.ค. 51 17:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งแม่และลูกครับ จากคุณ : ลุง Tom - [ 6 พ.ค. 51 17:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านอีกครั้งค่ะ   อบอุ่นเจงๆ   *** ตอบคุณ ฝน ความคิดเห็นที่ 28 - สำหรับเอกสารต่างๆ  (Health Certificate  และ Proof of Vaccination) ใช้เวลาไม่มากเลยค่ะ   อ้อมเริ่มเตรียมล่วงหน้าประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนวันเดินทาง  แต่มันมีสาเหตุค่ะ  เพราะว่าวัคซีนทั้งหมด ที่ทางกรมปศุสัตว์บังคับให้ฉีดนั้น  เจ้าโฮชิพึ่งจะฉีดไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2007 ที่ผ่านมานี่เอง คุณหมอก็เลยบอกว่า  ไม่ต้องฉีดใหม่เพราะพึ่งฉีดไปไม่กี่เดือนเอง  และวัคซีนทุกตัวเจ้าชิฉีดครบหมดแล้ว ทีนี้...ก็ออกใบรับรองสุขภาพ และใบรับรองการฉีดวัคซีนได้เลย  ไม่ต้องฉีดใหม่ เพราะกฏกำหนดไว้ว่า ต้องฉีดวัคซีนต่างๆ ไม่น้อยกว่า  30 วัน ก่อนวันเดินทางค่ะ แต่ยังไงให้คุยกับคุณหมอประจำตัวของน้องหมาค่ะ  เขาจะให้คำแนะนำที่ดีกับเราได้ สำหรับสายการบิน  อ้อมจองตั๋วล่วงหน้าก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือนค่ะ ตอนที่โทรไปจองก็บอกกับทางเจ้าหน้าที่ของการบินไทยสเปนไว้เลย ว่าจะมีน้องหมาไปด้วย เจ้าหน้าที่จะถามค่ะว่า น้องหมาพันธุ์อะไรและน้ำหนักเท่าไหร่  ขั่นตอนนี้ก็จะเป็นการจองไว้เลยว่า ไฟล์นี้จะมีน้องหมาขึ้นไปด้วยหนึ่งตัวนะ  เพราะในหนึ่งเที่ยวบินจะสามารถหิ้วน้องหมาขึ้นไปได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ก่อนเดินทางก็โทรไปยื่นยันกับทางสายการบินอีกครั้งว่า  น้องหมาจะเดินทางไปด้วยจริงๆ ค่าใช้จ่ายของน้องหมาไปจ่ายที่สนามบินค่ะ  เพราะเขาคิดเป็นค่าน้ำหนักกระเป๋าที่เกินมา ตอนขากลับนี่  คงต้องดูว่า  ขาไปเราไปจากประเทศไหน  บอกตรงๆ ว่า ถ้าแค่กลับไทยมาเที่ยวอย่าพากลับมาเลยค่ะ เพราะประเทศในยุโรป พาออกง่าย แต่พาเข้ายากค่ะ (อ้อมรู้แต่ในยุโรป) แถมมีการกักสัตว์ดูอาการด้วย บางประเทศกัก 6 เดือนเลยทีเดียว ของอ้อมนี่  เจ้าชิกลับไทยถาวร  ส่วนแม่มัน  เด๋วคงกลับไป แต่คงไปๆ มาๆ  ค่ะ *** ตอบคุณ เมื่อไรจะมีฯ ความคิดเห็นที่ 30 - สำหรับการนำเข้าประเทศไทย  ถ้าหากมีเอกสารทุกอย่างครบตามที่อ้อมบอกไปแล้ว ไม่ต้องกักค่ะ สามารถนำกลับบ้านได้เลย แล้วไม่ต้องรายงานตัวอะไรอีกแล้วด้วยค่ะ  (อันนี้ถามคุณเจ้าหน้าที่มาเรียบร้อยแล้นนน) ปล1.  ป้าบีฮะ  เด๋วไปโจ้ส้มตำกันนะฮะ   5555555 ปล2. ป้าหมอต้อยฮะ  เอาไว้ชิจะบังคับแม่ให้โฉบไปแถวบ้านป้าหมอ ตอนนี้โฉบไปแค่แถวอยุธยาเองฮะ *** เมืองไทยร้อนโฮชิลิ้นบานเลยฮะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 51 22:53:18 จากคุณ : soulfighter - [ 6 พ.ค. 51 22:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยินดีต้อนรับโฮชิครับ แอบจิ้ม "เก็บเข้าคลังกระทู้เก่า" เพื่อเป็นข้อมูลกับเพื่อนสมาชิกต่อไปครับ จากคุณ : เฉินห้าวหนาน - [ 7 พ.ค. 51 15:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ความรู้ดีจังค่ะ  ขอเก็บเข้าคลังกระทู้นะค่ะ ^_^ ยินดีต้อนรับสู่เมืองไทยจ้า จากคุณ : DOGHALL - [ 7 พ.ค. 51 15:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณคุณ เฉินห้าวหนาน และคุณบี มามิ๊เจ๊ฮอลล์  สุขใจ และวู๊ดดี้นะค่ะ ที่มารับเจ้าชิกลับบ้าน จากคุณ : soulfighter - [ 7 พ.ค. 51 21:13:06 ]