ความคิดเห็นที่ 3
อันนี้แล้วแต่ประเภทของพืช เพราะเมล็ดพืชแต่ละชนิดมีปัจจัยการงอกแตกต่างกัน อย่างเช่น
- ธัญพืช เช่นข้าว, ข้าวโพด ถั่ว เป็นต้น เมล็ดเหล่านี้จะต้องปล่อยให้เมล็ดแห้งจนถึงระดับหนึ่งก่อน แล้วจึงจะสามารถงอกได้ใหม่ การจัดเก็บก็เก็บไว้ในสถานที่แห้ง ไม่อับชื้น อากาศถ่ายเทสะดวก สามารถเก็บข้ามปีได้โดยอัตราการงอกไม่ลดลงนัก แต่ถ้ายิ่งนานก็ยิ่งงอกน้อยลง
- เมล็ดดอกไม้ โดยมากการเก็บรักษาก็จะตากเมล็ดแก่ให้แห้งก่อน จากนั้นเก็บใส่ถุงพลาสติก ไล่อากาศออกให้หมด แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้ แต่หากเอาใส่ในตู้เย็นก็จะช่วยยืดอายุออกไปได้อีก และเนื่องจากเมล็ดดอกไม้มักมีปริมาณไม่มาก จึงใส่ตู้เย็นได้สะดวก
- ผลไม้ที่เป็นไม้ยืนต้น จะมีแบบที่งอกหลังจากผลร่วง กับแบบที่สามารถงอกได้ตั้งแต่อยู่ในผล แบบแรกเช่น มะม่วง, น้อยหน่า มะขาม เป็นต้น การเก็บเมล็ดมักไม่ปล่อยให้แห้งมาก มักตากเพียงให้เปลือกแห้งก็สามารถนำไปเก็บ หรือนำไปเพาะได้เลย การจัดเก็บในสภาพอากาศปกติมักเก็บไว้ได้ไม่นานเพราะจะสูญเสียความชื้นไปย่างรวดเร็ว ทำให้อัตราการงอกลดลงอย่างมาก การจัดเก็บก็รอให้เปลือกแห้ง(ไม่อย่างนั้นจะเกิดราขึ้น ทำให้เมล็ดเสีย) แล้วจึงใส่ถุงพลาสติก ไล่ลม มัดให้สนิท แล้วใส่ตู้เย็นในช่องกลางๆ เมล็ดที่สามารถงอกในผลได้ เช่นขนุน, ลำไย, แก้วมังกร เป็นต้น เมล็ดพวกนี้สามารถนำไปเพาะได้ทันทีที่เก็บเมล็ดได้ แต่หากจะเก็บไว้นานๆก็ให้เลือกเมล็ดที่ยังไม่งอก แล้วทำเหมือนข้างบน และเก็บใส่ตู้เย็นไว้
สรุปได้ว่า การเก็บเมล็ดใส่ตู้เย็นจะช่วยยืดอายุของเมล็ดพันธุ์ออกไปได้มากกว่าปกติ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป โดยเฉพาะกับพืชเมืองร้อน อาจมีบางชนิดก็ได้ที่เมื่อเจอความเย็นแล้วยิ่งทำให้อัตราการงอกลดลง
จากคุณ :
Pit2519
- [
10 พ.ค. 51 01:22:10
]
|
|
|