ความคิดเห็นที่ 12
กรณีที่ไม่ได้ใช้ยาหยดหลังป้องกันเห็บ สามารถใช้ยาฉีดป้องกันทุกเดือนได้เช่นกัน
ซึ่งจะเป็นยาตัวเดียวกับที่ใช้ฉีดป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ
กลายเป็นฉีดทุกเดือนป้องกันเห็บ+พยาธิหนอนหัวใจ
คอนเซ็ปการฉีดป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุก 3 ปี หลังจากฉีดเข็มแรกเมื่ออายุ 3 เดือน
ในทางปฏิบัติแล้วไม่น่าจะได้ เพราะกฏหมายบังคับให้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทุกปี
ส่วนวัคซีนอื่นไม่บังคับ ฉีดทุก 3 ปีก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของสัตว์ด้วย
( เลี้ยงปล่อยไปพบกับสัตว์นอกบ้านได้? , พื้นที่มีการระบาดของโรค? )
สรุปคอนเซ็ปใหม่ในการทำวัคซีนที่เพิ่งเรียนมาเร็วๆนี้เลย
สุนัข
วัคซีนหลักที่ต้องทำคือ ไข้หัด(Distemper) ลำไส้อักเสบ(Parvo) พิษสุนัขบ้า(Rabies)
ไข้หัดและลำไส้อักเสบทำ 3 ครั้งคือ อายุ 8,12,16 สัปดาห์ และทำต่อทุก 3 ปี พิษสุนัขบ้าทำทุกปี ครั้งแรกที่อายุ 12 สัปดาห์ แต่จะไปซ้ำกับไข้หัดลำไส้ ให้พิจารณาว่าโรคไหนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมากกว่ากัน เช่น เลี้ยงในบริเวณบ้านไม่เจอกับตัวอื่น ไข้หัดเสียงกว่า ทำที่ 12 สัปดาห์ ส่วนพิษสุนัขบ้าเว้นไปอีก 2 สัปดาห์ค่อยฉีด คือ ฉีดที่ 14 สัปดาห์ พิษสุนัขบ้าฉีดทุกปีตามกฎหมาย
วัคซีนที่ไม่ควรทำ คือ ฉี่หนู(Leptospirosis)เพราะสายพันธุ์ที่เอามาทำนั้น ไม่ตรงกับสายพันธุ์ในเมืองไทย จึงไม่ได้ผลป้องกันโรค และทำให้เกิดการแพ้วัคซีนได้บ่อย กรณีใช้วัคซีนรวม Lepto จะอยู่ในส่วนของน้ำยาละลาย ให้ทิ้งไปเลย ใช้น้ำกลั่นผสมวัคซีนแทน
แมว
วัคซีนที่ควรทำ คือ หวัดแมว(Herpes,Calci) หัดแมว(Parvo) พิษสุนัขบ้า(Rabies) หัดสุนัขกับหัดแมวเป็นเชื้อคนละตัวกันนะ ไม่ได้เขียนผิด หวัดหัดทำที่อายุ 8,12 สัปดาห์ หรือทำเข็มเดียวที่ 12 สัปดาห์ พิษสุนัขบ้า ทำเหมือนกับของสุนัข
ลูึคีเมีย(FeLv)ทำเฉพาะแมวที่เสี่ยง เอดส์แมว(FIV)ไม่ควรทำเพราะไม่สามารถป้องกันโรคได้ในแมวทุกตัว และมีปัญหาในการตรวจโรค เนื่องจากแมวที่ทำวัคซีนกับแมวที่เป็นโรค จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาซึ่งเมื่อตรวจเจอจะไม่รู้ว่าเป็นโรคมาหรือทำวัคซีนมา ที่เมืองนอกถ้าเค้าเจอแมวที่ไม่รู้ประวัติและเจอภูมิคุ้มกันจะทำลายแมวทิ้ง
ทั้งนี้วันที่แนะนำไม่ใช่้วันที่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม Life Style ของสัตว์ว่าเสี่ยงต่อโรคใด
จากคุณ :
Orgustus (Orgustus)
- [
8 มิ.ย. 51 01:12:56
]
|
|
|