วันนี้เราพาด่างสุนัขที่เรากับคนอีกหลายคนช่วยชีวิตเขาไว้ไปส่งให้กับเจ้าของ ..พี่วาสนา..ความรักและความผูกพันที่เราประทับใจ แม้เหตุการณ์จะจบแบบยิ้มปนเศร้า ๆก็ตาม
เจ้าวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เราเสร็จธุระที่วัด เรารีบกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน รีบจนไม่ได้มองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ข้างทาง ถึงบ้านก็บ่นกับตัวเองว่าน้ำมันรถจะพอถึงที่ทำงานหรือเปล่าเนี่ยะ พี่เรารับอาสาไปเติมให้ช่วงที่เราเตรียมตัว ตอนนั้นเรายังแปลกใจ ทำไมวันนี้พี่เราใจดีจัง
ไม่ถึง 10 นาที เมื่อพี่เรากลับมาบ้าน มาบอกเราว่าไปช่วยยกหมาขึ้นรถหน่อย หมาถูกรถชนที่ข้างถนน พี่เรายกคนเดียวไม่ไหว ครั้งแรกที่ขับผ่านไป พี่เรานึกว่าเขาตายแล้ว พอขากลับบ้านถึงเห็นว่าเขายังไม่ตาย เมื่อเราไปถึง หมาตัวใหญ่นอนนิ่ง ๆที่ข้างถนนลาดยาง ข้างหน้ามีหมูดิบ ชิ้นเล็ก ๆวางอยู่ ...เรารู้ในภายหลังว่าชื่อด่าง
พี่เราเอาถุงอาหารเม็ดมาทำเป็นเปล เพื่อว่าเวลาเคลื่อนย้าย เขาจะได้ไม่เจ็บมาก เรายังคิดในใจว่าพี่เราความคิดดีเนอะ แต่ตอนที่จะอุ้มขึ้นรถ เรากับพี่ถึงเห็นว่าที่ขาหน้าเขามีแผลที่ใหญ่และลึกมาก ที่ก้นก็มี ตอนนั้นก็เริ่มมีพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชายเดินมาถามว่าพี่เราเป็นเจ้าของหมาเหรอ เราบอกว่าเปล่า บังเอิญพี่เรามาเจอ ทีนี้แหละคุณพี่ทั้งหลายก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ว่าเขาเห็นกับตาว่าหมาถูกรถชน เสียงดังเลย ตอนนั้นมีคำถามในใจ แล้วพี่ไม่คิดจะช่วยมันเลยเหรอ แต่ไม่ได้พูด ไม่ได้ฟังด้วยว่าเขาพูดอะไรต่อ บอกพี่เราให้พาไปคลินิกที่เรารักษาประจำ ...P.E.T. คลินิก ไกลจากบ้านเราเกือบ 20 กิโล ส่วนเราก็รีบไปทำงาน
หลังเลิกงาน เราไปเยี่ยมที่คลินิก หมอบอกว่าแผลที่ขาหน้ายาวถึงคอลึกถึงกระดูก มือหมอใส่ลงไปได้เลยอ่ะ ส่วนที่สาหัสคือที่ก้น ถูกแทงลึกและกว้างมาก ตอนที่เห็นเขายังสลบอยู่ แผลที่ก้นไม่ได้ถ่ายมา เพราะต้องจับเขาพลิก สงสารกลัวเจ็บ เพราะขนาดสลบเขายังร้องคราง หมอบอกว่าให้ยาแก้ปวด.......(ฟังม่ายออก รู้แต่ว่า จะทำให้เขาหลับ และคลายกล้ามเนื้อ ) สภาพตอนนั้นน่าสงสารขนาดที่พี่ท่านหนึ่งที่พาสุนัขมารักษาเหมือนกัน เห็นแผลได้ยินเขาร้องครางพี่เขายังทำตาแดง ๆ บอกว่าสงสารจัง
นอกจากแผลถูกฟัน หมอ x-ray พบว่ากระดูกข้อที่ถูกรถชนหลุดจากเบ้า หมอต้องวางยาสลบก่อนถึงกระดูกให้เข้าที่ ตอนนั้นแหละที่เราทนดูไม่ได้ เดินออกมารอที่ข้างนอก วันนั้น เรากับหมอตั้งข้อสังเกตกันว่า ด่างน่าจะมีเจ้าของ เพราะอ้วน และทำหมันแล้ว ซึ่งในต่างจังหวัดจะไม่ค่อยทำหมันเพศผู้ เราถ่ายรูปด่าง ขี่รถไปตามซอยในหมู่บ้าน เอารูปให้เขาดูถามว่าสุนัขใครหายบ้าง เราอยากให้เขาได้กลับมาอยู่กับเจ้าของ
วิบากกรมด่างไม่หมดแค่นั้น หมอบอกว่าขาหลังเขาไม่ยอมยืน หมอ x-ray อีกครั้ง พบว่ากระดูกสันหลังเขาหัก แบบที่หมอบอกว่าอยู่คนละแนวกันเลย ด่างเป็นอัมพาตแน่นอน ขาข้างที่นอนทับ บวม ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ด่างจะถูกตัดขา ข้างที่นอนทับ ตอนนั้นเราบอกกับหมอ รักษาเขาให้ดีที่สุด ส่วนค่ารักษาเราจะหามาจ่ายให้ ตอนนั้นคิดในใจ อย่างมากก็ติดไว้ก่อน เงินเดือนออกค่อยจ่ายก็ได้ เพราะรักษากันประจำอยู่แล้ว
ช่วงนั้นที่เราได้ข่าวว่ามีคนมาถามหาหมาหาย พอมีเวลาเราไปหาพี่เขาที่บ้าน ได้คุยกัน แล้วเราก็ได้ทราบเรื่องของด่าง ด่างถูกคนมาทิ้งที่วัด บ้านพี่วาสนาอยู่ไม่ไกลจากวัดนัก พอมาอยู่ที่บ้าน ประกอบกับที่บ้านพี่เขาก็รักสัตว์ พี่เขาก็เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ยังมีแมวที่ถูกทิ้งมาอยู่ด้วยอีก 5-6 ตัว ทุกตัวอ้วนดี ที่ประทับใจ แม้พี่เขาจะไม่ค่อยมีเงิน แต่พี่เขาไม่เคยปล่อยให้หมาแมวอดเลย ส่วนด่างทุกวันที่ลูกพี่วาสนาไปทำงาน ด่างจะไปรอรับที่ปากทาง รอจนกว่าเจ้าของจะกลับ รายละเอียดเราก็ไม่ได้ถาม รู้แต่ว่าวันนั้นลูกพี่วาสนากลับผิดเวลา ด่างคงรอจนเช้า ถึงเดินไปที่ถนนใหญ่ ส่วนสาเหตุที่ถูกฟัน ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คนแถวนั้นบอกว่าด่างเป็นหมานิสัยดี (หมอที่รักษาก็บอกแบบนั้นว่า ด่างเรียบร้อยมาก จนหมอยังนึกแช่งคนที่มันฟันเลย) ด่างคงคิดถึงเจ้าของ เวลาที่เราไปเยี่ยมหลังเลิกงาน จะเห็นด่างซึมลง เราบอกหมอ ถ้าเขาหาย เราจะพาด่างไปส่งบ้าน
วันนี้หลังทำงานเสร็จ ลงทุนลาครึ่งวันบ่าย ไปรับด่างกลับบ้าน ระหว่างทางก็เกิดเหตุระทึก แมวกลิ้งออกมาจากใต้ท้องรถคันหน้า เข้ามาใต้ท้องรถเรา ใจหายเลย มองกระจกหลัง อ้าวไม่ตายวิ่งไปแอบอยู่ใต้ท้องรถข้างทาง ตัดสินใจถอยรถไปดู ถ้าบาดเจ็บจะได้พาไปหาหมอพร้อมกับแมวเราที่เป็นหวัด แมวสีขาวลายน้ำตาลอ่อน ตอนที่เราไปอุ้ม ยังยืนงง งง เชื่องขนาดที่เราขับรถ แมวน้อยนอนบนตักเราไปตลอดทาง ก็เลยให้หมอทำหมันให้ด้วย ส่วนด่าง ตอนที่พากลับบ้าน เขาพยายามยืดตัว มองข้างทาง และเป็นครั้งแรกตั้งแต่เราเจอ ที่เราเห็นด่างส่งเสียงเห่า ด่างคงดีใจที่ได้กลับบ้าน
เราเอากรงไปให้พี่เขายืม กรงกว้าง ข้างบนเปิดโล่ง เวลาด่างฉี่จะได้ไม่แฉะ ก่อนกลับ เราบอกวิธีดูแล และปัญหาที่อาจเขึ้นกับด่างให้พี่เขารู้ ไม่ลืมที่จะทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ ถ้ามีปัญหาให้โทรตาม เราจะมาด่างไปหาหมอให้ หมอบอกว่ากระดูกสันหลังที่หักสูงขนาดนั้นจะมีผลต่อระบบขับถ่าย อาจต้องใช้การบีบช่วย พี่เขาบอกว่าเขาทำได้ทุกอย่าง เราเชื่อนะ เห็นพี่เขาทำตาแดง ๆ เรายังแซวพี่เขาเลยว่าไม่ต้องร้องไห้ พี่วาสนาบอกกับเราว่า ตอนสายวันที่ด่างถูกรถชนมีคนมาบอก พอพี่เขาไปดู ก็ไม่เจอ หาไปทั่วก็ไม่เจอ แถมยังมีผู้หวังดี บอกว่าหมาตายแล้ว มีคนเอาไปทิ้งข้างทาง พี่เขาก็ไปหาตามข้างทางแถวนั้น ก็ไม่มี 2 วันที่พี่เขานอนไม่หลับด้วยความเป็นห่วงหมา ความรู้สึกที่หมาหาย เป็นยังไง เราเข้าใจดี
สิ่งที่พี่เขาให้เรากลับบ้านเป็นการตอบแทน กล้วยน้ำว้าหวีงาม 2 หวี กับแกงส้ม 1 ถุงใหญ่ มันอาจจะไม่มีราคาในสายตาของคนบางคน แต่สำหรับเรา น้ำใจที่พี่เขาตั้งใจให้ มันมีค่ามาก ๆเลย
สุดท้าย ขอผลบุญที่เราได้ช่วยหมาและแมวจรทั้งหลาย ส่งให้ชิโร่ของแม่ นอนหลับให้สบาย อย่าได้เจ็บปวด และทรมานเหมือนครั้งที่หนูยังมีชีวิตอยู่นะคะ แม่ยังรักและคิดถึงหนูอยู่เสมอนะลูก
* ขอบคุณ เพื่อน ที่ไม่เคยทิ้งกัน และเป็นกำลังให้เสมอมา , คุณเจี๊ยบ devote to you ที่ส่งเงินมาช่วยค่ารักษา 500 บาท , คุณปุ๊ก hidrolite ที่ส่งเงินมาช่วย 500 บาท
** ขอบคุณพี่วาสนา ที่ไม่ทิ้งและจะดูแลด่างตลอดไป เพราะอย่างนั้น เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะทำอย่างไรต่อไปกับด่างดี
*** โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณหมอที่ P.E.T. คลินิก ที่อ่างทอง ที่กรุณาลดค่ารักษาให้ ถูกมากจนเราเกรงใจ จากการรักษาในคลินิก 9 วัน รวมทั้งค่า x-ray กระดูกสันหลังและข้อสะโพก ,ค่าเย็บแผล ค่าวางยาสลบ ทั้งหมด หมอคิด 1,000 บาท เราเลยออกเองไปอีก 500 บาท และทุกครั้งที่เราพาหมาจร แมวจรไปรักษา เราก็จะได้ลดราคาแบบนี้เสมอ
จากคุณ :
ชิโร่ kung
- [
18 มิ.ย. 51 15:43:28
]