ความคิดเห็นที่ 1
ลุงแกก็ดีครับ... มีโคนาขายของแกด้วย "em เขาใหญ่" แต่แกบอกไม่หมดอ่ะครับ... คือจุลินทรีย์ ที่ใช้กันในปัจจุบันมี2รูปแบบครับ คือ 1.em[จุลินทรีย์ที่ถูกคัด] EM-Effective Microorganisms ค้นพบโดยชาวญี่ปุ่น 2. imo [จุลินทรีย์ท้องถิ่น] IMO-Indigenous Micro Organism ค้นพบโดยชาวเกาหลี
ที่มันต่างกันก็คือ การได้มาของเชื้อจุลินทรีย์ทั้ง2แบบ ได้มาแตกต่างกัน โดยในรูปแบบของemนั้น จะเป็นการคัดเลือกเฉพาะ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อย่างเดียวมารวมไว้แล้วนำไปใช้ โดยมีข้อดีคือให้ผลผลิตมากกว่าimo หรือปุ๋ยคอกแต่ก็มีข้อเสียก็คือ มันมีจุลินทรีย์ที่ดีมากเกินไป หรือพูดง่ายๆคือเกินความจำเป็นในแต่ลักษณะแวดล้อมในท้องถิ่นนั้นๆ เหมือนเราซื้อwindowsแล้วมันแถมexplorer มาให้ว่างั้นเหอะ
แต่รูปแบบการได้มาของimoจะเป็นการนำมาจากจุลินทรีย์ในท้องถิ่น ข้อดีก็คือ จุลินทรีย์ท้องถิ่นนั้น จะเด่นกว่าตรงที่ สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งก็มีข้อเสียตรงที่ว่า จะมีทั้งจำนวนจุลินทรีย์ที่ดีและไม่ดีปะปนกัน แต่ก็ไม่เกิดผลเสียอะไรมากนัก
การได้มาของem หรือการขยายem ผมจะไม่พูดถึงแต่อยากจะบอกวิธีการได้มาของimo วัสดุในการทำ IMO 1. ข้าวเจ้า 2 ลิตร 2. กากน้ำตาล 3. ขันพลาสติกใส 4. กระดาษขาวหรือผ้าขาวบาง 5. เชือกรัด
วิธีการทำ IMO
1. เริ่มจากหุงข้าวจ้าว 2 ลิตร โดยใช้น้ำน้อยๆพอท่วมข้าวเพื่อทำให้ข้าวสวยมีลักษณะค่อนข้างแข็งเล็กน้อย พอหุงข้าวเสร็จแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
2. นำข้าวสวยมาใส่วัสดุที่มีความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว เช่น ขันพลาสติกใส หรือกล่องข้าวพลาสติก โดยใส่ข้าวสวยลงไปในกล่องพลาสติกให้มีความสูงประมาณ 1-2 นิ้ว นำกระดาษสีขาวที่ปราศจากสารเคมี (ปราศจากหมึกพิมพ์) หรือผ้าขาวบาง ที่มีขนาดใหญ่กว่าขันพลาสติก มาปิดทับแล้วใช้เชือกมัดพอหลวมๆ
3. นำขันพลาสติกไปฝังใต้พื้นดิน ตรงบริเวณใต้ต้นไม้ หรือถ้าเป็นกอไผ่ได้ยิ่งดี เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการแพร่กระจายของเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ (เชื้อรา) ได้ดีและมีจำนวนมาก และควรทำในช่วงตอนเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี อุณหภูมิไม่สูง ทำให้เชื้อสามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นโดยขุดหลุมให้มีขนาดพอดีกับขันพลา สติก ส่วนความลึกนั้นให้ขันพลาสติกอยู่ลึกลงไปในพื้นดิน โดยให้ปากขันพลาสติกอยู่ห่างจากผิวหน้าดินประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นให้นำเศษใบไม้หรือกิ่งไม้มาวางปิดทับไว้ให้มิดชิดเพื่อป้องกันสัตว์ต ่างๆมาคุ้ยเขี่ย ในกรณีถ้าทำ IMO ในช่วงฤดูฝน ให้นำผ้าหรือถุงพลาสติกปกคลุมขันพลาสติกเพื่อป้องกันการเปียกชื้น โดยฝังไว้ประมาณ 3-5 วัน เมื่อเปิดดูจะพบเชื้อราสีต่างๆ เช่น สีขาว, สีดำ, สีเหลือง- เขียว เป็นต้น ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะพบเชื้อราทั้งชนิดและสีที่แตกต่างกันไป
4. ให้เขี่ยเชื้อราที่ไม่พึงประสงค์ทิ้งไป นั่นคือ สีดำ, สีเหลือง-เขียว ซึ่งจัดว่าเป็นเชื้อราที่ไม่มีประโยชน์ ส่วนเชื้อราสีขาวนั้น ถือเป็นเชื้อราที่มีประโยชน์ ให้ขยำรวมกับข้าว แล้วเติมกากน้ำตาลในอัตราส่วน 1:1 ปิดฝาพอหลวมๆ จากนั้นหมักไว้ประมาณ 5-7 วัน จะพบว่าจุลินทรีย์เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นอันว่าสามารถนำไปใช้ได้
ผมแค่อยากจะให้เข้าใจให้ถูกว่า 2 ตัวเนี้ยะ มันไม่เหมือนกันตรงไหน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ระยะแรกให้ไปซื้อหัวเชื้อemใช้ไปก่อนแล้วพอพื้นที่okค่อยเปลี่ยนมาทำimoใช้เอง จะช่วยประหยัดได้มากกว่าเดิม
ปล. พูดง่ายๆ เท่าที่ฟีงวิธีได้จุลินทรีย์ของลุงแก มันได้มาจากวิธีimo แต่ทำไมแกถึงตั้งชื่อว่าem ก็เลยงง เท่านั้นเอง
ปล.อีกที ดูรายการย้อนหลังได้ที่ http://www.me.in.th/live/ [ดูได้เฉพาะในinternet explorer เท่านั้นนะครับ]
ปล.สุดท้าย ถ้าข้อมูลอันไหนผิดพลาดก็ช่วยอธิบายต่อด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ :
clown
- [
30 มิ.ย. 51 16:35:50
A:125.24.158.244 X:
]
|
|
|