พอดีเขียนบันทึกให้น้องแพนเค้ก สุนัขของพ่อที่กำลังป่วยเป็นอัมพาตเพราะถูกรถชน เพื่อนๆ อ่านแล้วบอกว่าพอใช้ได้ที่จะนำมาเป็นความหวังและบ่งบอกความรู้สึกของเจ้าของสุนัขที่กำลังตกอยู่ในความรู้สึก เศร้าเสียใจและการรอคอยโอกาส ความหวังและศรัทธา ก็เลยเอามาให้ลองอ่านดูค่ะ
ตอน 1
พ่อแม่แอนอยู่ที่ต่างจังหวัดค่ะ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้น้องหมาร๊อตไวเลอร์เสีย พ่อเศร้าใจมาก ที่บ้านเลยบอกว่าซื้อตัวใหม่ไปเลี้ยงเหอะ จะได้เป็นเพื่อนแก้ไขเหงาและคอยปลอบใจด้วย ด้วยความที่พ่อเคยดูหนังเรื่องเลสซี่ ติดใจในความฉลาดของหมาพันธุ์คอลลี่ เห็นบอกว่าฉลาดเป็นอันดับ 1 เลย ก็เลยฝังใจว่า ตัวนี้จะต้องซื้อคอลลี่ไปเลี้ยงให้ได้ แต่แอนซึ่งรู้มาว่าพันธุ์คอลลี่เค้าแพ้ยาบางตัวที่ฉีดป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ แถมยังมีขนฟูยาวมาก ต้องอาบน้ำแล้วเป่าขนให้ดีไม่งั้นขนจะพันเป็นสังกะตัง อีกอย่างพ่อกับแม่ก็อายุมากแล้ว ที่บ้านก็ไม่มีคนใช้ ไม่อยากให้เลี้ยงหมาที่เป็นภาระมากเกินไปก็เลยพยายามคัดค้าน ไม่อยากให้พ่อซื้อพันธุ์นี้ แนะนำทั้งลาบราดอร์ และบีเกิ้ลให้ พ่อก็ไม่เอา ให้พี่สาวติดต่อหาฟาร์มและยอมควักกระเป๋าจ่ายไปถึง 35000 บาท ให้กับฟาร์มที่ดีพอสมควร ซึ่งสำหรับคนต่างจังหวัดที่ไม่ได้เลี้ยงเพื่อประกวดอะไร ดูจะราคาแพงน่าตกใจอยู่เหมือนกัน
แล้ววันนึงพ่อก็นั่งเครื่องบินมารับ "แพนเค้ก" คอลลี่วัย 6 เดือนกว่า สาวน้อยแสนสวยในกรงที่แอนเห็น ทำเอาใจอ่อนยวบ อดรักไม่ได้ เพราะแพนเค้กทั้งสวย สมาร์ท ขนฟูนุ่ม น่ารักและฉลาดเรียบร้อย ไม่เหมือนเจ้าตัวป่วนแสนซนที่บ้านอีก 4 ตัวของแอนเลย แพนเค้กนั่งนิ่งในกรงก่อนขึ้นเครื่อง หันมาส่งสายตาน่ารัก ไม่มีตื่นตระหนกเพราะกลัวหรือแปลกที่แม้แต่น้อย แต่หากดูเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ดูมีสกุลรุนชาติซะจนใครๆที่สนามบินต่างพากันอดมองด้วยความชื่นชมตอนที่เอาไปเช็คอินไม่ได้ ทำเอาคนไปส่งอย่างเราอดปลื้มและทึ่งอยู่ไม่น้อยกับความฉลาดของหมาพันธุ์นี้
จากคุณ :
แฟนวิคเตอร์
- [
15 ก.ค. 51 23:09:31
A:124.120.75.37 X: TicketID:181688
]