ความคิดเห็นที่ 1 จากที่พักเดินไปแค่สองร้อยเมตร ก็ถึงชายทะเลแล้ว จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาหารอร่อยมากกกกกกก  ราคาถูก จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ที่นี่ ................... หมาเยอะมากกกกกกกก ทุกที่ที่เราเดินไป เจอจะเจอ น้องหมา จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:40:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หมา ........... จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ....... หมา ........ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 .... ต้องบอกว่า หมา เหล่านี้ ทำให้การเที่ยวของเรา กร่อย ... ลงไปถนัดใจ เวลากินข้าว  น้องหมา ก็มานั่งอยู่ข้าง ๆ ส่งสายตาอ้อนวอน เวลาเดินไปชายหาด ก็เจอน้องหมาผอม ๆ วิ่งอยู่ .... สิ่งที่เราสะท้อนใจ .. คือ ทุกอย่างที่นี่ ได้รับการพัฒนา  ดูแลอย่างดี  ด้วยงบประมาณที่มากโข เพื่อให้สวยงาม ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว มีร้านอาหาร มีที่พัก แต่หมาเหล่านี้ส่วนมาก   ผอม ... เป็นโรคผิวหนัง และมีหมารุ่นเล็กเยอะมาก จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเรามีงบประมาณสำหรับทำเสาไฟ ถ้าเรามีงบประมาณสำหรับสวนหย่อม ถ้าเรามีงบประมาณรักษาความสะอาด และถ้าเรามีงบประมาณสำหรับพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้ดูดีในด้านอื่น ๆ ของบประมาณมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของหมาที่นี่ให้ดีขึ้น ได้ไหม และถ้าวันหนึ่ง หมาเหล่านี้ จำนวนทวีคูณขึ้น จะดำเนินการอย่างไรกับหมาเหล่านี้ ..... ไล่ตี .........วางยา ...........ปล่อยวัด ..............หรือจับรวมกันไปไว้พลูตาหลวง แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 51 12:08:31 จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 11:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คนไทยยังรู้จักแต่การพัฒนาสิ่งไร้ชีวิตรอบตัว เพื่ออวดต่างชาติเป็นครั้งคราว แต่ไม่รู้จักพัฒนาจิตใจและคุณภาพชีวิตของคนและสัตว์ที่มีชีวิตในสังคม แย่ๆๆๆๆ จากคุณ : Poisonlip (poisonlip) - [ 19 ก.ค. 51 12:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้า  หมา เหล่านี้คือสมาชิกหนึ่งในชุมชน เขาก็ควรได้รับการพัฒนา ดูแล ปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เฉกเช่นเดียวกับทุกๆ สิ่งรอบ ๆ ตัวเขามิใช่หรือ ?? เว้นแต่พวกเขาไม่ใช่ ........ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 12:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ประเด็นนี้น่าคิด น่าตอบมากครับ คุณ ลิงน้อยฯ คุณเขียนดีจริงๆ แต่เด๊ยวเย็นผมมาตอบนะ ผมนักหมาไปดูหนังเรื่องว้อบ่าย 2 ครับ มาตอบแน่นอน ชอบ จากคุณ : phuket dog - [ 19 ก.ค. 51 13:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงสารเขา  เพียงแค่ เขาไม่มีบ้าน มีหัวใจ จากคุณ : อ๋องสิบสี่ - [ 19 ก.ค. 51 18:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น่าสงสารจังเลยนะคะ เศร้าจัง จากคุณ : gibgabgoogee - [ 19 ก.ค. 51 18:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เศร้าใจ คนไทยใจดี จิงหรือ? จากคุณ : กุลสตรีไทย - [ 19 ก.ค. 51 18:41:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อนาถใจกับคนเห็นแก่ตัว ขาดเมตตาธรรม สำหรับรัฐ.... มันก็แค่หมา เผ่าพันธุ์เดียวกัน เค้ายังไม่แล สำหรับเรา... หนึ่งชีวิตเท่ากัน เรื่องงบประมาณเนี่ย เคยเจอมากับตัว ไปขอความ ช่วยเหลือเรื่องวัคซีนสถานที่รัฐที่หนึ่ง ก็ไปรู้เรื่อง กินนอกกินในเรื่องงบวัคซีนหมาแมวเข้า ไปถาม ก็โดนขู่เอา ก็เลยต้องกลับมาพึ่งงบตัวเอง บางที ก็ต้องเงียบ กลัวว่าเค้าจะส่งคนมาเบือหมด ยิ่งคิดยิ่งเศร้า ..... จากคุณ : ตาแก่ยายแก่ไม่กลัวแผ่นดินไหว - [ 19 ก.ค. 51 19:15:57 A:125.24.101.235 X: TicketID:159984 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่านะ รัฐต้องเอาจริง ที่ภูเก็ตทำได้ครึ่งหนึ่ง คือสร้างบ้านพักพิงสุนัขจรจัดแล้ว ข้างในทำหมัน จำกัดไม่ให้มีลูกอีกแล้ว เสี้ยงกันไป จนกว่ามันจะตาย ไอเดียนี้เกิดตอนผู้ว่าฯ CEO ที่ต้องการให้แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำแบบ "ภูเก็ต" ไร้สุนัขจร ที่ทำลายทัศนียภาพ และอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว เพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่นำรายได้สูงอันดับต้นๆของประเทศ เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการทำบ้านสุนัขจรจึงถูกตอบสนองโดยภาครัฐเร็วมาก ฟังดูเหมือนดี แต่ที่ผมว่าเค้าทำได้ครึ่งหนึ่งเพราะว่า... ภาครัฐเองไม่มีกำลังพอที่จะจับหมาจรไปไว้ในบ้านให้หมด เพราะปศุสัตว์จังหวัดที่เป็นเจ้าของ ได้แต่ขอความร่วมมือไปยังท้องถิ่น ซึ่งคือ เทศบาล อบจ. อบต. เพื่อช่วยจับสุนัขจรไปไว้ที่นั่น แต่อย่างที่คุณลิงน้อยฯเขียน เรามีงบทำโน่นนี่นั่น แต่นโยบายเรื่องหมาจรในท้องถิ่นเป็นลำดับท้ายๆ ต้องดูแลเรื่องทุกข์สุข ปากท้อง "คน" ก่อน (เหรอ??) การรณรงค์เรื่องการทำหมันหมาจรของรัฐยังอ่อนด้อย หมาจรเกิดขึ้นทุกวัน จับก็ไม่ทัน (เพราะเหตุผลของท้องถิ่นที่บอกข้างบน) หมาจรที่เกิดเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง เกิดจากคนเลี้ยง "หมาบ้าน" ที่ 1. ไม่รู้สายพันธุ์ ก่อนนำมาเลี้ยง ตอนเล็กๆน่ารัก พอโตขึ้น ไม่น่ารัก ไม่สวย ขนพันกันเป็นสังกะตัง สกปรก ดูแลยาก ค่าวัคซีนแพง ค่ารักษาสูง ฯลฯ ... สุดท้าย ทิ้งให้เป็นหมาจร 2. ไม่ทำหมัน (ทั้งผู้และเมีย) เพื่อป้องกันการเกิดลูกอันไม่พึงประสงค์ ทั้งของตัวเองในบ้าน (ตัวเมีย) และไปทำชาวบ้านท้องข้างนอก (ตัวผู้) พอออกมาครอกหนึ่งก็ไล่แจก (เจอคนรักจริงก็ดีไป เจอไม่จริง ก็กลับไปข้อ 1.) หรือบางทีก็เลี้ยงเองทิ้งๆขว้างๆ วิธีของผม 1.รัฐต้องเป็นตัวนำในการสร้างบ้านพักพิง จับทำหมัน (ภูเก็ตทำแล้ว) 2.รัฐต้องเอาจริงเรื่องจับสุนัขจรเข้าบ้านพักพิง 3.รัฐต้องร่วมกับเอกชนในการรณรงค์ทำหมัน ฟรี เพราะหลายคนมาก ที่ไม่มีตังค์ทำหมันหมาบ้านตัวเอง เลี้ยงแบบบ้านๆ อันนี้เห็นใจ แต่รัฐต้องช่วย 4.รัฐต้องร่วมกับเอกชน รณรงค์เรื่องการเลี้ยง สายพันธุ์ การผสมพันธุ์ ฯลฯ มุ่งเป้าไปสู่การทำให้ไม่มีหมาจรจากการเลี้ยงและรอบบ้านตัวเอง 5.หากเป็นไปได้จริงๆ รัฐต้องเอาจริงเรื่องการเกิดลูกของหมาบ้าน หรือหมาจรที่คุณให้ข้าวมันกิน (ถือว่าเป็นหมาคุณ) ว่าหากคุณไม่ดูแลลูกๆของพวกเค้าได้ คุณผิดกฏหมาย ซึ่งทำให้คุณต้องวางแผนในการมีหรือไม่มีลูกของหมาในการดูแลของคุณ (อันนี้เวอร์ไปไหม) เอาเท่านี้ก่อน ในใจมีเยอะ ค่อยๆแชร์กัน อยากฟังคนอื่นนะครับ เห็นด้วย แตกต่าง ยินดีรับฟัง แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 51 19:24:46 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 51 19:22:24 จากคุณ : phuket dog - [ 19 ก.ค. 51 19:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกๆท่าน  ที่กรุณาแวะมาช่วยรับทราบในสิ่งที่อยากจะบอก ขอบคุณ คุณ phuket dog ที่กรุณาเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเห็น และเห็นด้วยกับการโครงการ แหล่งท่องเที่ยว ไร้หมาจร (แน่นอนไม่ได้หมายถึงการจับหมาทั้งหมดที่นั่นไปฆ่าทิ้ง) ปัญหาที่โพสต์มานี้  ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ ยังมีอีกเช่น  แถวนั้นเป็นวัด และโรงเรียน มองเข้าไปที่วัด ..................... หมาเพียบเลยค่ะ  ........... ปัญหาเรื่องของ หมา ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ  แต่ถ้าเราย่อยให้เล็กลงไป ปัญหาใหญ่ ก็จะแก้ไขง่ายขึ้น เพียงแต่คงต้องเริ่มทำ (คงไม่เฉพาะที่นี่) คงต้องมีหน่วยงานย่อย ๆ แบ่งความรับผิดชอบ เฉพาะในเขตชุมชนของตน (ตั้งหน่วยงานเดียวแล้วดูแลทั้งจังหวัดคงไม่ไหว) ย่อย ความรับผิดชอบ ดูแลลงให้เล็กที่สุด น่าจะแก้ไขได้ ลองนึกภาพ  หากเราไปเที่ยวที่ไหนซักแห่ง   แม้ว่าจะมีหมาบ้าง แต่หมาเหล่านั้น สุขภาพดี ตามอัตภาพ มีอาหารกิน มีที่วิ่งเล่น อย่างน้อยที่สุดคนที่รักสัตว์ย่อมประทับใจ ........ มากกว่าที่  เราจะไปเห็นที่ ที่มีแต่หมาผอมเกร็ง  อดอยาก เป็นขี้เรื้อน  หรือเป็นโรค หมาบาดเจ็บ  ........ เราย่อมไม่ประทับใจ และไม่อยากไปเที่ยวที่นั่นอีกแล้ว จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 19 ก.ค. 51 23:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคุณ phuket dog เรื่องการจัดการกับหมาจรจัดโดยรัฐ(หรือแม้แต่กฏหมาย)ต้องเข้ามามีบทบาท (แค่ผมขี่ชอปเป้อร์เล่นแล้วถูกหมาเลี้ยงแบบปล่อยไล่เห่ายังแค้นเลยครับว่าเลี้ยงประสาอะไร เกิดกัด/ทำให้ชนแล้วรถล้มก็ซวยกันไปหมด)...แล้วทำหมันหมาจรจัด"ต้อง"ทำแบบ"ยกยวง"ครับ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการก้าวร้าว(ให้มันเป็น"กงกง-ซังกุง"กันให้หมด)หรือตัวเมียยังเป็นสัดได้(เพราะหากผูกแต่ท่อรังไข่ยังมีมดลูก/รังไข่)ก็ล่อให้ตัวผู้ฟัดกันวุ่นวายอยู่อีก จากคุณ : ไม่อยากเป็น"ขันที" (j_adz_z) - [ 20 ก.ค. 51 08:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้จัง เวลานักการเมืองหาเสียงก้บอกจะสร้างโน้นนี่ แต่สุดท้าย เวลาใก้ลหมดวาระถึงสร้าง เพื่อเอาหน้าเอาตาให้คนมาเลือก แต่ไม่มีนักการเมืองคนไหนเห็นแกหมาแมวตาดำๆ เพราะเวลาพวกเขาไปกินข้าวหรือไปท่องเที่ยวก็จะไปแต่ที่หรูหรา เขาไม่ได้เห็นสภาพที่เราเห็นเลยสักนิด มันมีความเป็นไปได้ยากที่เขาจะมีงบมาช่วยในส่วนนี้ น่าสงสารหมาแมวตาดำๆจัง จากคุณ : ตัวตรง (ตัวตรง) - [ 20 ก.ค. 51 21:42:45 ]