ความคิดเห็นที่ 1 ป้าก็ลองนำเมล็ดสำรองจำนวนหนึ่งกำมือ จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แช่น้ำในชามกระเบื้อง เพื่อจะลอกเอาเมล็ดออกจากเนื้อหุ้มเมล็ด จะได้นำเมล็ดไปเพาะในถุงดำงัยคะ จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยได้ชิมน้ำสำรองบรรจุกระป๋อง  ก็ติดใจมาก แต่ยิ่งติดใจมากไปกว่านั้น เมื่อคราวที่ได้ไปเที่ยวเมืองจันทบุรี เมื่อหลายปีก่อน ได้ชิมน้ำสำรองบรรจุถ้วยพลาสติกใส รสชาติดีกว่าชนิดใส่กระป๋อง ขนกลับมาเก็บและแจกญาติพี่น้องอีกหลายโหล จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในที่สุด ก็พยายามหาซื้อเมล็ดสำรองจนได้ แล้วลองแช่น้ำดู เฝ้าดูเมล็ดพอง เปลือกค่อยๆแยกแตก สมชื่อ พุงทะลาย จริงๆค่ะ ได้เนื้อหุ้มเมล็ดเป็นวุ้นขยุกขยุย สีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอมนิดๆ จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เสียเวลาแยกเปลือกบางๆ แต่แข็งกระด้าง ออกจากเนื้อวุ้นนุ่มๆ อยู่นาน เสียเวลา เสียอารมณ์​  จนเลิกทำกินเอง หันกลับไปซื้อน้ำสำรองสำเร็จรูปกินต่อไป กินจนคิดจะปลูกสำรองเองแหละค่ะ ครูใหญ่ขา จะได้ไม่เปลืองเงิน จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ถ้ามีคนชอบน้ำสำรองเหมือนป้า ก็น่าห่วงว่า ต้นสำรองจะผลิดผลสำรองให้เราไม่ทัน อย่ากระนั้นเลย เรามาช่วยกันปลูกต้นสำรองดีกว่า เริ่มต้นที่ป้าเองแหละ  เพาะเมล็ดสำรองเสียก่อน แต่ป้าเสียดายเนืื้อวุ้นแสนอร่อย ก็เลยพยายามเอาเนื้อติดเมล็ดนี้  ออกให้มากที่สุด ดู ดู  อืดกะทืด เต็มชามเลย จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 22:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ต้องหาทาง แยกเมล็ดออกจากเนื้อวุ้นก่อน อ้าวววววว มุ้งอะไร วางข้างชามกระเบื้อง ตาถึ่เชียว จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 23:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก็มุ้งลวดติดบานประตู หน้าต่าง ธรรมดา ธรรมดา แต่ขอสีขาวสะอาดนะคะ อย่างสีฟ้าไม่เอาาาาาาา ป้าก็เลยยืมมุ้งลวดมาจากหน้าต่างห้องทำงาน เอามาวางกลางปากชามอีกใบ เพื่อจัดการรีดเอาเนื้่อวุ้นออกจากเปลือกกับเมล็ด จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 23:06:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ทัพพีขยี้เนื้อวุ้นจากมุ้งลวด ทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ต้องบอกว่า วิธีนี้ แม่ค้าน้ำสำรองที่ป้าเคยซื้อเมล็ดจากงานพฤกษานนท์เมื่อสองปีที่แล้ว เป็นคนแนะนำเทกกะนิกอันนี้ให้ ถึงว่าดิ  ตอนที่ป้าพยายามทำการแยกเปลือกออกจากเนื้อ มันถึงเสียเวลามากกว่ากัน แต่แม่ค้าเขาให้มุ้งลวดสีฟ้าเป็นถุงเย็บข้างอย่างดี  เอาไว้คั้นแยกวุ้นออกมา ป้าทนสีฟ้าของมุ้งลวดไม่ได้  ก็เลยขอใช้มุ้งสีขาวสะอาดดีกว่าค่ะ จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 23:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในที่สุด  ผลสำรองจำนวนกำมือหนึ่ง ก็สามารถนำมาผลิดเป็นน้ำสำรองได้ถึง 4 ลิตร ด้วยการผสมกับน้ำเชื่อมเจือจาง ต้มกับใบเตย เพิ่มความหอม ป้าก็เลยหาเครื่องเคียงน้ำสำรองอีกอย่าง แล้วนำไปแจกเพื่อนๆที่ตลาดนัดศิลปะ ส่วนกากเปลือกและเมล็ดสำรอง ก็แช่น้ำไว้ วันรุ่งขึ้น พบว่า เมล็ดสำรองบวมน้ำ และมีอาการเกิดฟองบุด ส่อว่า น่าจะเน่า  ลองบีบดู ก็เห็นเมล็ดเป็นสองชิ้นประกบกัน บวมน้ำจนอืดน่วมไปหมด สงสัยจะฟลาวนะคะ ครูใหญ่ขา ป้าเลยร้องเรียนมายังท่าน  กรุณาแนะนำสั่งสอนอบรมคนสวนมือใหม่อย่างป้า ถึงวิธีการเพาะต้นสำรองด้วยค่ะ เพื่อให้อนุบาลลูกไม้ของท่าน จะได้อบอุ่นไปด้วยต้นสำรองจำนวนหลายร้อยต้น เพราะป้ามีผลสำรองแห้งอีกมาก มากขนาดทำน้ำสำรองบรรจุขวดขาย ได้กำไรเหลือเฟือแหละค่ะ เราจะได้มีทุนสร้างโรงเรือนให้ลูกๆต้นไม้ของเราต่อไปงัยคะ จากคุณ : -.- - [ 21 ก.ค. 51 23:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบทานน้ำสำรองเหมือนกันครับ ชื่นใจมากมาย...แถมมีไฟเบอร์สูงอีกด้วยนะ แบ่งเม็ดบ้างดิ  อิๆๆๆๆ จากคุณ : scubaman - [ 22 ก.ค. 51 01:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีตอนเช้าครับป้าจาย :-) เช้าๆ แบบนี้ โอ...เห็นแล้วน่าทานมากๆ ครับ :-) จากคุณ : ชิดขวา_>>> - [ 22 ก.ค. 51 05:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นวุ้น ๆ อร่อย ชอบจังค่ะ แต่เวลาแยกเปลือกนี่.... เฮ้ออออ จากคุณ : ต้นชบากับคนตาบอด - [ 22 ก.ค. 51 06:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลูกสำรองกับน้ำตาลทรายแดง... ลูกสำรองต้มใบเตย... ลูกสำรองกับน้ำแดง... อูย..เอาไปแช่เย็นเอาหลอดที่ใช้ดูดชาไข่มุกดูดนะ ปรื๊ดๆ ลื่นคอ ปล.อยากได้เล็ดลูกสำรอง  เอามาปลูกแบ่งกันปรื๊ด ฮ่าๆๆ.. จากคุณ : scubaman - [ 22 ก.ค. 51 07:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ...ต้องขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆ....กับการแยกเนื้อสำรองออกจากเมล็ดครับ...มุ้งลวดที่บ้านผมอาจจะแห่วงหายไปอีกแล้ว..อิอิ... ......เห็นแล้ว..อยากซด..น้ำสำรอง..ซักแก้ว....ผมเคยเอาเมล็ดมาเพาะครับก็ขึ้นง่ายดีครับ....พอแกะเนื้อออกหมดก็เอาเมล็ดไปเพาะในถุงเพาะชำเลยครับ....แต่ตอนนี้เค้ามีการเสียบยอดต้นสำรองแล้วมีจำหน่ายทั่วไปนะครับ..เพราะต้นที่เสียบยอดนี่จะให้ลูกได้เร็ว..และต้นไม่สูงใหญ่เหมือนที่จันท์ครับ..ร้านขายต้นไม้ที่ใกล้ๆกับสวนผมยังมีขายเลย..ต้นสำรองแบบเสียบยอดอะ..ต้นละ 30 เองสูงประมาณ 80 เซ็นต์แล้ว...สวนจตุจักรน่าจะมีขายนะครับ.... ...... จากคุณ : lungwan - [ 22 ก.ค. 51 07:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น้ำสำรองน่าดื่มมากๆ เลย คงจะชื่นใจจริงๆ นะครับป้าจาย จากคุณ : กะได - [ 22 ก.ค. 51 08:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เอื๊อก ป้าจายจะปลูกต้นสำรอง..... ต้นเบ้อเริ่ม...... กว่าจะได้กินลูกสำรองก็อีกตั้ง5-6ปี รอกินสำเร็จรูปจากป้าจายดีก่า..... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 51 08:49:05 จากคุณ : สเลเต - [ 22 ก.ค. 51 08:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณป้าจายอยากปลูกจริงๆ หรือ ต้นมันสูงมาก ๆ เลย ชาวบ้านที่ไปเก็บในป่าใช้วิธีโค่นต้นกันเลย แต่นึกได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้มีโอท้อป ที่ไหนสักแห่งเอามาขาย เขาบอกว่าทำให้เป็นพันธ์ต้นเตี้ยแล้ว แต่อันนี้ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเตี้ยจริงหรือเปล่า จากคุณ : NaT_F100 - [ 22 ก.ค. 51 08:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โห..เก็บลูกสำรองแล้วใช้วิธีโค่นต้น ใจร้ายจังเลย.... โดยส่วนตัวแล้ว ชอบปลูกต้นไม้ที่เป็นเมล็ด เพราะรู้สึกมันแข็งแรงกว่า แต่... ป้าจาย..ครับ  มีเมล็ดลูกสำรองเยอะอะเปล่า อิๆๆ ปล.อ้อนสุดฤทธิ์ สรุป ป้าจายหมั่นไส้..แจกตบ อิๆๆๆ จากคุณ : scubaman - [ 22 ก.ค. 51 08:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาขอน้ำสำรองทานแก้นึงค่ะ.. น้ำสำรองเค้าว่า มีสรรพคุณ ลดความดันโลหิต แต่ที่สำคัญ อร่อย และชื่นใจค่ะ... จากคุณ : ดอกคูนเสียงขิม - [ 22 ก.ค. 51 09:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รสชาติจริงๆ มันจะเป็นยังงัยน้า จากคุณ : agg_xir - [ 22 ก.ค. 51 10:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเห็นกระชอนที่เป็นมุ้งลวดแบบนี้ มีขายนะป้า น่าจะยีถนัดมือดี จากคุณ : wind-up toy - [ 22 ก.ค. 51 10:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบชื่อพุงทะลายอ่ะป้าจาย ^__________^ เห็นภาพมากกว่า สำรอง ไปติดใจน้ำสำรองที่เมืองจันท์เหมือนกันเลย แต่สูตรที่เคยกินเขาใส่น้ำดอกคำฝอยด้วยล่ะ ^^ จากคุณ : ป้ากิม (Meliot Baggins) - [ 22 ก.ค. 51 11:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อุ อุ  น้ำสำรองของป้าจาย ขายดีหนิ มีคนเข้ามาชิม มาชวนกันปลูกหลายคน คืองี้ค่ะ ขออธิบายแบบไม่มีมุขสักหน่อย ป้าไปเมืองจันท์ แล้วเพื่อนเป็นเจ้าของสวนทึี่จันทบุรี เล่าให้ฟัง เหมือนที่คุณNaT_F100 เล่ามาเลยค่ะ คือต้นสำรองจะเป็นไม้ป่าพื้นถิ่น ต้นสูงใหญ่ ปีนเก็บผลสำรองไม่ไหว เขาเก็บไปทำรังนกเทียมกันค่ะ  ได้ยินว่า ผลแห้งมีปีก ทำให้ผลหล่นไกลต้น เขาเก็บลำบาก ก็ใช้วิธีโค่นต้นกันเลย   แต่คนจันท์หลายคนก็ร่วมกันต่อต้านเรื่องโค่นต้นสำรองกัน  ปีหลังๆ ก็ค่อยซาไปค่ะ และหาทางออกด้วยการเสียบยอดอย่างที่คุณลุงแว่น(lungwan)บอกมา จริงๆแล้ว ป้าไม่ได้คิดปลูกสำรองหรอกค่ะ ที่บ้านป้าจายไม่มีพื้นที่เลย แค่จำปีกับมะม่วงก็แออัดแล้วค่ะ  อยากฝากเลเต ฝากครูใหญ่สกูบาแมน ไปปลูกตามที่ต่างๆ ป้าเอาเมล็ดที่แยกวุ้นออกแล้ว ทิ้งค้างในน้ำนานข้ามคืน เมล็ดพองเน่าหมดค่ะ ต้องขอบคุณลุงแว่นอีกครั้งค่ะ จะพยายามเพาะใหม่ พรุ่งนี้  ลองทำน้ำสำรองอีกครั้ง แล้วรีบนำเมล็ดใส่ถุงดำเลย ส่วนน้ำสำรอง จะลองทำแบบใส่กะทิกับน้ำตาลปี๊บนะคะ มีเพื่อนรุ่นน้องบอกมาอย่างนี้ค่ะ คุณลุงของเล่นไขลานคะ  จริงๆแล้ว การยีเนื้อสำรองกับกระชอนก็ไม่ค่อยได้ผลนักหรอกค่ะ สู้แบบเอาใส่ในถุงมุ้งลวด แล้วบีบคั้น เหมือนคั้นกะทิด้วยผ้าขาวจะดีกว่า เนื้อวุ้นจะหลุดออกมาก่อน ส่วนเปลือกจะค้างอยู่ แต่ป้าไม่อาจแสดงภาพให้ชมได้ เพราะ หนึ่ง มือไม่ว่าง สอง ภาพไม่ค่อยน่ากินค่ะ เชื่อขนมหรือน้ำสำรองกินได้ว่า โอท็อปทั้งหลายเขาใช้ถุงที่เย็บจากมุ้งลวดสีฟ้า แล้วใช้วิธีบีบคั้น เพื่อให้ได้จำนวนมาก อย่างรวดเร็ว มือคนทำควรใส่ถุงมือยางหรือถุงมือพลาสติกค่ะ น้ำสำรองแช่เย็น ใส่ลำไยแห้งต้มกับน้ำตาล พร้อมใบเตย สุดยอดความชื่นใจเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่แวะมาดื่มด้วยกัน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 51 11:24:49 จากคุณ : -.- - [ 22 ก.ค. 51 11:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบน้ำลูกสำรองเหมือนกันค่ะ เพราะตอนเด็ก ๆ แม่ชอบทำให้ทาน พอโตแล้วแม่ก้อให้เม็ดมาแช่น้ำทำเอง แต่ของพรทำทานง่าย ๆ ให้น้ำตาลอ้อยอย่างเดียวค่ะ แช่เย็น ๆ ชื่นจายยยยยยยยค่ะ จากคุณ : porn.pet - [ 22 ก.ค. 51 11:24:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อยากได้เมล็ดสำรอง..ไปเพาะเป็นสำรองต้นใหญ่ๆ แต่... ไม่ชอบเป็นตัวสำรองใคร  อิๆๆๆๆ ปล.แวะมาแซวครับ ไปล่ะอิๆๆ จากคุณ : scubaman - [ 22 ก.ค. 51 12:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ป้าจายขยันจังเลยครับ จากคุณ : kengDD - [ 22 ก.ค. 51 12:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แม่ผมก็ทำกินเอง แต่ไม่เคยดูว่ายียังไงครับ จากคุณ : พ่อ@LLถุง - [ 22 ก.ค. 51 12:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เชย อย่างแรงๆ ตกข่าว เพิ่งเคยเห็นหน้าตา ต้นสำรอง  ก็ วันนี้ 555 จากคุณ : honeybfit - [ 22 ก.ค. 51 15:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่บ้านแม่เพาะเม็ดไว้เพียบเลยค่ะ ช่วงที่เค้าฮิตดื่มน้ำสำรองกัน แบบเม็ดโต แบ่งให้เค้าปลูกไปทั่วเลย จากคุณ : auanP - [ 22 ก.ค. 51 16:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ข้อความซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 51 16:49:15 จากคุณ : ตาเชย - [ 22 ก.ค. 51 16:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตาเชยไปที่ศูนย์เพาะชำที่จันท์ เห็นเพาะไว้แยะเลยจิ๊กมาปลูกไว้ที่บ้าน ปลูกมาหลายปีต้นสูงใหญ่มาก มาปลายปีที่แล้วเค้าออกดอกเต็มต้น ย้ำเต็มต้นจริงๆ คือเค้าทิ้งใบหมดแล้วออกดอกเต็มจนมองไม่เห็นกิ่ง ต่อมาก็กลายเป็นเมล็ดมีปีกด้วย พอแก่ก็ร่วงมาเป็นพันเป็นหมื่น  แต่.. อนิจจาเม็ดเค้าจิ๊ดเดียวและไม่มีเนื้อ มีแต่เปลือกหุ้มเมล็ด(สัณนิฐานว่าเป็นตัวผู้) เป็นธรรมชาติของไม้หลายขนิด ถ้าเพาะเมล็ดเค้าจะเป็นตัวผู้เสียส่วนใหญ่ ต้องฟลุ้คจริงๆ จึงจะได้ต้นตัวเมีย ก็แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ สำหรับคนที่อยากจะลองเพาะเมล็ดดูมั่ง เผื่อให้ทำใจไว้ด้วยสำหรับเวลานับสิบปีที่สูญเปล่า จะได้ไม่ต้องมานั่งผิดหวังในภายหลัง จากคุณ : ตาเชย - [ 22 ก.ค. 51 16:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Scaphium scaphigerum (G.Don) Guib.& Planoh. ชื่อ  สามัญว่า Malva Nut ภาษาถิ่นทางภาคอีสานเรียกว่า บักจอง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ มีขนาดลำต้นใหญ่สูงประมาณ 30- 40 เมตร ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปไข่แกมขอบขนานหรือรูปไข่แกมใบหอก กว้าง 10–12 ซม. ยาว 15–25 ซม. ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง แยกเพศ กลีบดอกสีเขียวอ่อน มีขนสีแดงที่กลีบเลี้ยง ผลเป็นผลแห้ง แผ่เป็นแผ่นขนาดใหญ่ แตกขณะยังอ่อนทำให้มีลักษณะเหมือนเรือ เมล็ดสำรองมีรูปกลมรีหัว  ท้ายมน มีสีน้ำตาล ผิวขรุขระ เปลือกหุ้มเม็ดชั้นนอกมีสารเมือกจำนวนมาก ซึ่งจะพองตัวในน้ำ มีลักษณะคล้ายวุ้นโดยขยายใหญ่กว่าขนาดเดิมเกือบ 10 เท่า เมื่อแก่จัดจะหล่นลงดิน เป็นไม้ชอบขึ้นตามป่าดงดิบ มีความชื้นสูง ไม่นิยมปลูกกัน มักขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามภูเขาใหญ่น้อยทั่วไป ชาวจันทบุรีนิยมเรียก สำรองมากกว่าพุงทะลาย ปัจจุบันพบมากที่เชิงเขาในอำเภอคิชกูฏ จังหวัดจันทบุรี ต้นสำรองเป็นพืชท้องถิ่นดั้งเดิมของภาคตะวันออก และสามารถพบได้ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี   เมื่อมีผลที่เก็บเกี่ยวได้ ชาวบ้านมักโค่นต้นเพื่อสะดวกในการเก็บลูก ไม่นิยมให้ผลหล่นตามธรรมชาติ ขอบคุณภาพสำรอง และอ่านข้อมูลเพิ่มที่ http://www.it-gateways.com/charoenvej/Herb/somrong.htm ขอบคุณตาเชยสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : -.- - [ 22 ก.ค. 51 17:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้ได้ความรู้มากมาย หลังจากที่กินน้ำและเนื้อสำรองมานานมากๆ ไว้ได้เมล็ดมา จะรีบนำมาเพาะ เป็นนักเรียนคนใหม่ของ"โรงเรียนอนุบาลต้นไม้"เลยครับ แต่ผมคงไม้เน้นกินเนื้อหรอก  แต่เน้นเอาไปปลูกในธรรมชาติจ้า จากคุณ : scubaman - [ 22 ก.ค. 51 17:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มารับความรู้ด้วยค่ะ จากคุณ : The mother of 4 - [ 22 ก.ค. 51 19:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อไหร่จะได้เป็นตัวจริงซักทีครับ จากคุณ : ดอกต้อยติ่ง - [ 23 ก.ค. 51 00:51:47 ]