PANTIP.COM : J6865916 ถ้าจะเอาหมาเดินทางมาต่างประเทศ เสี่ยงต่อการตายระหว่างทางมากน้อยแค่ไหนคะ ขอคำแนะนำคะ [สุนัข]

ความคิดเห็นที่ 5

เคยมีประสบการณ์พาน้องหมาเข้าอเมริกาค่ะ แต่เป็นแบบให้พี่ที่เมืองไทยส่งมา ซึ่งก็คือโหลดมาใต้เครื่องค่ะ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันนิดนึงว่า การโหลดน้องหมาไม่ได้โหลดเข้าไปพร้อมกับกระเป๋าปกตินะคะ แต่เค้าจะมีที่จัดให้แล้วก็ปรับความดันอากาศให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้ค่ะ กรงน้องหมาที่ไหลออกมาจากสายพานแล้วน้องหมาตายเนี่ยไม่แปลกค่ะ เพราะไปอยู่ใต้เครื่องกับกระเป๋าซึ่งไม่มีอากาศหายใจอะไรเลย อย่างน้องหมาของเรา และพี่อีกคนก็โหลดมาใต้เครื่องแล้วก็ปลอดภัยดีค่ะ

เรื่องของเรื่องคือ เราต้องแจ้งทางสายการบินคุยกันให้รู้เรื่องว่า เราจะมีน้องหมาเดินทางด้วย ต้องโหลดเข้าใต้ครื่องค่ะ สายการบินแต่ละสายจะรับน้องหมาแค่ 1 ตัว ต่อเครื่องบินหนึ่งลำ ซึ่งเราต้องโทรไปจองก่อน แล้วยังงัยก็ต้องโหลดค่ะ น้องหมาที่ขึ้นเครื่องได้ต้องไซด์เล้กอย่าง ยอร์คเชีย ชิสุ แล้วขึ้นไปก็ต้องอยู่ในกระเป๋าตลอดเวลาค่ะ

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ก่อนนะคะ อ้อ แล้วก็เรื่องนี้เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว กฎและการดำเนินการณ์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วต้องลองเช็คดูนะคะ

คือ น้องหมาโหลดมาใต้ท้องเครื่องสายการบิน Japan Airline ค่ะ พี่คนที่พาน้องมามาส่งกจัดการทางด้านเมือไทยให้เรียบร้อย น้องหมามาพร้อมกับเคสพลาสติกมาตรฐาน หาซื้อได้ตามร้าน petshop ทั่วไปบอกเค้าว่า เอาเคสน้องหมาขึ้นเครื่องบินเค้ารู้ค่ะ

เอกสารที่แนบมาด้วยก็จะมี ใบวัคซีน ใบเพ็ดดีกรี และใบไมโครชิพ ซึ่งจะเขียนว่าเราเป็นเจ้าของน้องหมาตัวนี้ค่ะ พร้อมกับอาหาร และ น้ำหนึ่งขวด กับ Nutrical อยู่ข้างลัง

ตอนมาถึงเราไปรับน้องหมาที่ Cargo ค่ะ ไปถึงยังไม่เจอน้องหมาค่ะ แต่จะต้องเข้าไปจ่ายค่า Fee ก่อน เสร็จแล้วก็ต้องไปที่ Custom ซึ่งเค้าก็จะสัมภาษณ์ว่าเอาน้องหมามาทำไม เอามาแล้วจะเอากลับมั้ย น้อหมาชื่ออะร อายุเท่าไหร แล้วเค้าก็จะดูเอกสาร ของเราไม่โดนกักอะไรค่ะ

หลังจากเสร็จจาก Custom ก็กลับไปที่ Cargo แล้วก็เอาเอกสารยื่นให้เค้า แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาน้องหมาออกมาเจอเรา เท่านี้ก็เสร็จสิ้นค่ะ จากที่สังเกตุดู JAL ดูแลน้องหมาใช้ได้ค่ะ ขวดน้ำตั้งอยู่ไม่ล้มน้ำไม่หก แล้วอาหารที่แนบมาเค้าก็เทให้น้องหมาค่ะ ส่วน Nutrical เค้าก้ให้ซะครึ่งหลอด เจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้องหมาใน Cargo ก็ดูแลดีค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่า JAL จะไม่รับน้องหมาแล้วอ่ะค่ะ แต่ถ้าเจ้าของมาด้วยไม่แน่ค่ะ ลองโทรถามดู

น้องหมามาถึงก็มีอาการตื่นๆตกใจเล้กน้อย แต่อาจจะเป็นเพราะว่า เค้าไม่เคยเจอเรามาก่อนเลย แต่สักพักเค้าก็อาการดีขึ้นค่ะ มาถึงก็ให้เค้านอนก่อนเลย อย่าไปเล่นอะไรมากเพราะเค้ามาไกลจะเหนื่อยค่ะ เตรียมน้ำกับข้าวให้พร้อม แล้วสักพักเค้าก็จะปรับตัวได้ค่ะ

ก่อนจะพาน้องหมามาลองคิดดูก่อนนะคะว่าเราพร้อมแค่ไหน อพาร์ตเมนท์ที่อยู่ให้เลี้ยงนองหมาหรือเปล่า เห็นเพื่อนหลายๆคนแอบเลี้ยงน้องหมา สุดท้ายเค้าก็จับได้ต้องนั่งหาอพาร์ทเมนต์กันฉุกละหุกเลยค่ะ

ค่าใช้จ่ายพาไปหาหมอที่นี่แพงพอดูค่ะ อย่างน้องหมาเรา ยอร์คเชีย ไปหาหมอที่หมดไปต่ำๆก็ 175$ อันนี้ไปตรวจร่างกายกับวัคซีน 1 เข็ม เคยแพงกว่านี้ก็ 275$ แบบวัคซีนครบชุด แล้วยิ่งถ้าน้องหมาไม่สบาย เคยได้ยินว่า มีคนจ่ายกันเป็น พันๆเหรียญก็มีค่ะ

แล้วรัฐที่อยู่เค้ามีกฎเกี่ยวกับน้องหมาอย่างไรบ้าง เค้าบังคับให้ทำหมันหรือเปล่า

แล้วตัวเราเองมีเวลาให้น้องหมาแค่ไหน เพราะถ้าเค้ามาอยู่ในห้องเล็กๆอย่างเดียวเค้าก็จะเครียดค่ะ ต้องพาออกไปเดินเล่นบ้าง แล้วลองคิดดูว่าไหวแค่ไหน อย่างเจ้าตัวเล็กของเรา บางทีซนๆก็ทำห้องเลอะต้องนั่งเก็บกวาดกัน คุณจะมีเวลาตรงนี้หรือเปล่า เวลาอยากไปเที่ยวก็ต้องหาคนดูแล จะทิ้งเค้าไว้ในห้องคนเดียวหลายๆวันก็ไม่ได้ใช่มั้ยคะ

แล้วอย่างตัวน้องหมาเอง ถ้าขี้ตกใจอาจจะมีปัญหาเพราะใต้เครื่องก็ไม่มีใครอยู่กับเค้าแล้วก็แปลกที่ด้วย การให้ยาอย่างมากก็ 6 ชั่วโมง ยังไม่ถึงครึ่งทริปเลย ยังงัยลองคิดดูดีๆนะคะ

การมีน้องหมาจริงๆก็ช่วยเราเวลาเหงาได้ แต่ต้องนึกถึงภาระที่ตามมานะคะ ว่าเราสามารถรับไหวแค่ไหน ถ้าลองหาเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน หาอะไรอย่างอื่นทำให้คลายเหงาได้ลองดูนะคะ อยู่ที่เมกาสภาพแวดล้อมไม่เหมือนบ้านเรา ก็อาจจะทำให้เหงาได้ ลองคิดดูให้ดีๆถ้าคิดว่าพร้อมจริงๆ และคิดว่าน้องหมาจะรับการเดินทางหนักได้ ลองติดต่อเอเจนซี่ให้เค้าช่วยเดินเรื่องให้ก็ได้ค่ะ

โชคดีนะคะ

จากคุณ : My Angel's Tale - [ 6 ส.ค. 51 10:54:05 ]