ความคิดเห็นที่ 1 มีลาบราดอร์เช่นกันครับ กินมาหลายยี่ห้อ ตกลงปลงใจที่คานิแด ลองอ่านส่วนผสมแล้วเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น ที่ราคาใกล้เคียงกันสิครับ       ส่วนผสมดีมาก แม้กลิ่นอาหารอาจไม่หอมแรง แต่หมาก็กินเก่งครับ (ไม่ค่อยจะเชียร์เล้ยยย.....เจ้านาย) จากคุณ : ไข่ต้มกะนมอุ่น - [ 20 ส.ค. 51 15:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีเลือกอาหารให้เปรียบเทียบส่วนประกอบข้างถุงดูนะคะแล้วจะรู้ว่าแต่ละยี่ห้อต่างกันยังไง รายละเอียดมันเยอะแต่หลักส่วนประกอบ 2 อันดับแรกควรเป็นเนื้อสัตว์ ไม่มีพวกข้าวโพด สี ไขมันสัตว์ ไขมันไก่หรือไขมันวัวได้แต่ไขมันสัตว์ไม่ดี ลองศึกษาดู ส่วนตัวชอบ Chicken soup ค่ะ ยูคาแพง จากคุณ : RightHere - [ 20 ส.ค. 51 15:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่บ้านจะซื้อเนื้อมาต้มให้กินค่ะ เนื้อล้วนๆ นะคะไม่ติดมัน กลัวอ้วนค่ะ อาหารว่างคือกระดูกเทียม  เขาไม่กินอาหารเม็ดค่ะ จะให้อาหารเปียก(กระป๋อง) เสริมเป็นบางครั้ง   ปล. ลาบราดอร์ค่ะ อายุ 6 ปี แล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 51 16:23:36 จากคุณ : ป้าเเอ๊ด (addsiripun) - [ 20 ส.ค. 51 16:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราก็เพิ่งเลี้ยงหมาจริงจังได้ 5-6 เดือน ยืนพื้นเลยคือ Smart Heart สำหรับลูกสุนัข (สลับกันระหว่างรสไก่อบ กับเนื้ออบ) .. เท่าที่ดู Labrador ที่บ้านก็ชอบกินนะ . . . เราก็มองหายี่ห้ออื่นเหมือนกัน แล้วก็ได้ลอง V Care U โดยให้สลับกัน (เช้า-เย็น) หรือบางครั้งก็ผสมทั้ง 2 ยี่ห้อ .. เท่าที่ดู คือ หมาชอบ Smart Heart มากกว่า . . บางครั้งให้อาหาร V Care ถ้าอยากให้หมาทานได้เยอะ ก็ต้องราดหน้าด้วยอาหารซองของ Pedigree (ช่วยเพิ่มกลิ่นนิดหน่อย) . . . อีกอย่างคือ V Care U เป็นอาหารที่มีขนาดเดียว (ให้ได้ทั้งลูกสุนัข หรือสุนัขโต) แตกต่างกันที่ปริมาณการให้ต่อมื้อ .. ซึ่งเท่าที่รู้มาคือ ไม่ได้ใส่สารกันบูด .. ดังนั้นเมื่อเปิดใช้แล้ว ควรจะให้หมากินหมดภายใน 1-2 เดือน (เคยเก็บไว้นานกว่านั้น .. จะมีคราบขาวๆ ที่เม็ดอาหารค่ะ . . จากคุณ : กระทงทอง (กระทงทอง) - [ 20 ส.ค. 51 16:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในกลุ่มพรีเมียมไทย ชอบทิฟฟานีมากกว่าอีก 2 ยี่ห้อที่ให้โหวตอ่ะ แต่ไม่ยักมีให้โหวตแฮะ  เคยลองให้ v care u แล้วเป็นเหมือนของคุณคห. 4 คือต้องให้มีอย่างอื่นผสมด้วยถึงจะกินได้หมด แต่พอเปลี่ยนมาให้ทิฟฟานีก็จะกินได้ดีกว่า ของอย่างนี้ก็ลางเนื้อชอบลางยา ขึ้นอยู่กับหมาว่าจะชอบกินยังไง  แต่ที่แน่ ๆ ราคาไม่แพงคุณภาพดีเป็นใช้ได้  ทิฟฟานีราคาจะถูกกว่า vcareu เกือบสองร้อยบาทต่อถุง 15 กก. แล้วหาซื้อตามร้านค้าอย่างร้านมนูญเพ็ทช็อป เมล็ดข้าว ฯลฯ ได้ แต่ของ vcareu ต้องโทรสั่งเอาโดยตรงอย่างเดียว เราว่าความน่าเชื่อถือในสินค้าน่าจะดีกว่า เพราะผ่านการกลั่นกรองจากร้านค้ามาแล้วระดับหนึ่ง ในแง่ที่ว่าถ้าสินค้าขายไม่ดีตลาดไม่ยอมรับร้านค้าก็จะไม่รับเข้าร้าน อันนี้คิดเอาเองนะ จากคุณ : พริกหวานมะนาวเผ็ด - [ 20 ส.ค. 51 18:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ก่อนบ้านเราเลี้ยงหมาให้แต่อาหารสดตลอด         มีตัวล่าสุดเนี่ยแหละที่ให้กินอาหารเม็ด    เพราะสะดวกดี            มีคนแนะนำ  รอยัลคานินค่ะ           ยี่ห้ออื่นบอกตรงๆว่าไม่รู้จัก                     ปกติจะเอาผสมกับซีซ่าส็ค่ะ          แต่หลังๆนี่เค้าไม่กินแล้วอ่ะ อาหารเม็ด       จะกินแต่ซีซ่าส็     เลยปล่อยเลยตามเลย            ทุกวันนี้กินแต่ซีซ่าส็มื้อละกล่อง จากคุณ : บัวบุษบา (บัวบุษบา) - [ 20 ส.ค. 51 19:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่มีให้โหวตค่ะ  ที่บ้านตอนนี้ใช้ ANF ส่วนผสมดี  แต่ลูกๆ ไม่ค่อยโปรด  ที่ใช้เพราะสังเกตว่าเวลาถ่ายอึ๊เค้าเป็นก้อนสวย  ไม่เหลว และกลิ่นไม่แรง ก่อนหน้าให้มาหลายยี่ห้อ  ล่าสุดใช้ Chicken soup ถ่ายออกมานิ่มๆ และกลิ่นเหม็นมาก  ใช้อยู่ประมาณ 2-3 เดือนเปลี่ยนอาหารแล้วหายเลยกลิ่น จากคุณ : SnOw BunnY - [ 20 ส.ค. 51 19:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่บ้านเลี้ยงปักกิ่งค่ะ ตอนไปงานที่เมืองทองไปเจอ Canidae เข้าเลยซื้อมาให้เค้าลองทานเพราะได้ยินมานานแล้วแต่หาซื้อไม่ได้ ตอนแรกก็กังวลเพราะคิดว่าเม็ดค่อนข้างใหญ่สำหรับหมาพันธุ์เล็กค่ะ แต่ก็ซื้อขนาดเล็กมาลองดู ปรากฎว่าเด็กๆเค้าก็ทานกันได้นะคะ เราลองเอามากัดดูก็ไม่แข็งอย่างที่คิด ดูส่วนผสมแล้วโอเคเลยค่ะ เป็นเกรด holistic ที่สำคัญราคาก็ไม่แพงมากถ้าเทียบกับอาหารเกรดเดียวกัน นู๋บี้กับนู๋แบมกินแล้วขนแน่นขึ้นมากกกก แล้วที่ชอบมากคือหน้าเค้าไม่เหม็นค่ะ คราบน้ำตาก็ลดลง ก็เลยคิดจะให้เค้ากินต่อค่ะ อันนี้ลองแล้วชอบก็เลยเข้ามาบอกเล่าประสบการณ์ค่ะ ^ - ^   ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมลองโทรเบอร์นี้นะคะ 086-335-0126 เป็นเบอร์ของตัวแทนขายของบริษัทเลยค่ะ จะได้สอบถามรายละเอียดต่างๆได้ค่ะ  มิได้เป็นหน้าม้านะเจ้าคะ แต่ลองใช้แล้วดีเลยเชียร์ค่ะ ^ - ^ จากคุณ : Bebam - [ 20 ส.ค. 51 19:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้ใช้ Performance ครับ ก็ไม่มีให้โวทเหมือนกัน จากคุณ : อ้วนนิ่ม (อ้วนนิ่ม) - [ 20 ส.ค. 51 22:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านรีวิวอาหารแต่ละยี่ห้อได้จากที่นี่เลยครับ http://www.dogfoodanalysis.com/dog-food-index-a.html จากคุณ : Covent Garden - [ 21 ส.ค. 51 01:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ที่บ้านกินยูคาทั้ง3พี่น้องคับ จากคุณ : พ่อไอ้ลูกม๋าบุ้ง (พ่อไอ้ลูกม๋าบุ้ง) - [ 21 ส.ค. 51 07:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไก่สับคลุกข้าว + กับข้าวเหลือๆ จากคุณ : กินเกลี้ยง (แม่ลูกหมู) - [ 21 ส.ค. 51 08:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตัวใหญ่ = doggin แต่ตอนนี้ผสม active1 ไปด้วย อึแข็งขึ้นเยอะเลย ตัวเล็ก = pinnacle+techni cal กินได้กินดี ไม่มีปัญหา ขนสวย ไม่มีคราบน้ำตา ปล.ผสมอาหารเปียก pinnacle, cesar, tresor เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากคุณ : ++แขวน++ - [ 21 ส.ค. 51 10:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราเลี้ยงโกลเด้น 7 เดือนกับลาบาดอร์ 5 เดือน ตอนนี้ให้ทิฟฟานีอยู่ค่ะ แต่สั่งจากบริษัทโดยตรง ลูกๆก็กินกันปกติแต่ถ่ายออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ไม่เหม็นมาก เมื่อก่อนเคยให้ ANF ถ่ายสวย แต่หาซื้อยาก บางครั้งของหมดแล้วต้องรอนานมาก, ด๊อกกิ้น ถ่ายมาเหม็นมาก เลยเลิกใช้ไป, ยูคา กับรอยัล เคยให้ตอนเขา 2 เดือน เขาไม่กินกันค่ะ แต่ตอนนี้เขาโตขึ้น เขาทานง่ายขึ้นว่าจะซื้อให้เขาดู จากคุณ : ต้าถุง - [ 21 ส.ค. 51 11:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เราว่าความน่าเชื่อถือในสินค้าน่าจะดีกว่า เพราะผ่านการกลั่นกรองจากร้านค้ามาแล้วระดับหนึ่ง ในแง่ที่ว่าถ้าสินค้าขายไม่ดีตลาดไม่ยอมรับร้านค้าก็จะไม่รับเข้าร้าน อันนี้คิดเอาเองนะ ผมขอแสดงความเห็นแตกต่างครับ... การที่ร้านค้าไม่รับเข้าร้าน มีปัจจัยมากกว่าคุณภาพอาหาร   เพราะผมเห็นบางร้าน มีอาหารขายหลายเกรด แบบที่ดีสุดๆ ราคากิโลละร้อยกว่า จนถึงเกรดตลาด ราคากิโลละไม่กี่สิบบาท งั้น...คงไม่ใช่เรื่องคุณภาพอาหารอย่างเดียวครับ เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็ก มีเงินหมุนเวียนไม่มากนัก     แถมยังมีคู่แข่งในธุรกิจจำนวนมาก หากคุณเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าอาหารสุนัข... คุณจะดันสินค้าคุณอย่างไร? ให้ได้ขึ้นชั้นวางขายเป็นที่สะดุดตา ได้ความยอมรับจากลูกค้ารายใหม่ และได้ขายในที่สุด ...       แน่นอน เป็นผม ผมก็ต้องมุ่งไปที่ปัจจัยสำคัญ คือ คนขายหรือร้านค้าอาหารสุนัข     ทำไม??? เพราะลูกค้ามักถามคนขายว่า สินค้าตัวไหนดี ตัวไหนน่าใช้... ผู้ขายหรือพนักงานประจำร้านค้า จึงมีบทบาทในการแนะนำ การเสนอ หรือเชียร์สินค้า    รวมไปถึงการจัดวางสินค้า ฉะนั้น ถ้าผมอยากให้คนขายเชียร์อาหารที่ผมจัดจำหน่าย ผมก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อจะให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันกับคนขายมากที่สุด..เป็นแบบ win-win       ดังนั้น นอกเหนือจากคุณภาพของอาหารแล้ว ผมจึงเสนอผลประโยชน์ทุกอย่างที่จะทำได้แก่ร้านค้าและคนขาย       ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขเครดิต การจัดส่ง ส่วนต่างราคาส่ง(กับราคาขายหน้าร้าน)โปสเตอร์ ของแถมสำหรับลูกค้า...ฯลฯ ซึ่งล้วนจำเป็นหรือมีส่วนส่งเสริมการประกอบธุรกิจทั้งสิ้น   ทำอย่างไรก็ได้ให้คนขายอยากวางขายสินค้าของเรามากที่สุด...   อย่างไรก็ดี ในตลาดอาหารสุนัข ผู้ขายมีหลายประเภท   ผมคุยมา เจอทั้งคนที่"ขายอย่างมีหลักการ" กับเจอคนที่ "ขายอย่างเดียว"       มีทั้งที่กล้าพูดเท็จ ไม่กล้าพูดเท็จแต่ไม่บอกความจริง บอกบ้างไม่บอกบ้าง จนถึงบอกความจริงทุกอย่าง...       ซึ่งประเภทหลังมีอยู่ แต่หายาก       ฉะนั้น ส่วนร้านค้าจะรับลูก จะเล่นด้วยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาเป็นร้านๆไป แล้วแต่เจ้าของร้าน   นอกจาก มีผู้ขายมีหลายประเภทแล้ว ลูกค้าก็มีหลายประเภทด้วย ผมเคยเจอมา เจอทั้งคนที่"ซื้ออย่างมีหลักการ" กับเจอคนที่ "จะซื้ออย่างเดียว"     ผู้ขายก็ต้องเลือกเสนอสินค้าและบริการให้ถูกจริตลูกค้าแต่ละประเภท คนไหนไม่รู้เรื่องอะไร มาถามจะเอาชื่อยี่ห้ออย่างเดียว เขาก็แนะนำอย่างหนึ่ง       ลูกค้าแบบทำการบ้านมา มีความรู้มาบ้าง เขาก็ต้องคุยแบบนึง  ให้เหตุผล ให้ข้อมูล ให้ลูกค้าเลือกเอาเอง     ถ้าร้านของผมมีแต่ลูกค้าประเภทซื้อของถูก ชอบของถม มาซื้อเป็นส่วนใหญ่ บางทีผมก็อาจจะพิจารณาการจัดแสดงสินค้าใหม่ ให้ถูกกลุ่มลูกค้าประจำของร้านผม ทีนี้ พอจะเข้าใจไหมครับว่า อาหารที่คนขายแนะนำ อาจไม่ใช่สินค้าที่ดีที่สุดในตลาด ไม่ใช่สินค้าที่ดีที่สุดในร้าน     แต่เป็นสินค้าที่ลูกค้าคนนั้นคนนี้พอใจจะซื้อมากที่สุด และเป็นสินค้าที่คนขายแฮปปี้ที่จะขายมากที่สุดก็ได้.... จากคุณ : อย่าเชื่อ ต้องคิดตาม (ไข่ต้มกะนมอุ่น) - [ 22 ส.ค. 51 11:52:58 ]