ความคิดเห็นที่ 15
แม่ส้มจุ๋นขา
ยายจาย ทดลองของใหม่ ตามแรงยุของเพื่อนเจ้าของร้านอ๊ะ พอดีว่า ถุงมันซ้วยยยยย สวย ถูกใจมั่กๆ
ยายลองใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ถึงวันนี้ ก็ห้าวันเข้าแล้ว
ผลคือ 1. ฝุ่นน้อยลง ทั้งๆที่ไม่ต้องใช้กล่องรองกระบะอีกชั้น กันทรายกระเด็นอย่างที่เคย กวาดบ้านน้อยลง เพราะว่า วิธีการใช้ เราต้องเขย่าถาดเช้าเย็น เชค เชค เชค shake shake shake ฉี่แมวจะทำให้แท่งสนแตกตัว กลายเป็นผงสน เขย่าให้หล่นลงถาดชั้นล่าง เอาไปเทใส่ต้นไม้ วันละครั้ง ฉี่แมวมีไนโตรเจนสูง ต้นไม้ชอบ
2. กลิ่นน้อยลง แต่ต้องตักก้อนแข็งออก เช้า เย็น ทั้งนี้ เพราะแท่งสน ไม่ค่อยจับกับก้อนแข็งเหมือนทราย เวลาแมวกลบ ก็ไม่ค่อยมิดค่ะ เพราะว่า ที่เมืองนอก เขามองก้อนเหม็นๆเหล่านี้ เหมือนของเสียของคน คือเอาใส่ส้วมเลย ส้วมไม่ตัน
3. ประหยัดขึ้น ใช้ไม่ค่อยมากค่ะ เติมไม่บ่อยแบบทรายแมวทั่วไป ข้อสำคัญ ผงสนมีน้ำหนักเบากว่า หอบหิ้วง่ายเลย
ป้าไม่ได้เข้ามาเชียร์นะคะ เพียงแต่มาเล่าให้ฟัง จากการทดลองใช้ ตอนนี้ แม็วๆเขารับได้แล้ว วันแรกๆ ไม่ค่อยใช้ส้วม ใช้เป็นห้องนั่งเล่นไปเลย พอใส่กลิ่นเก่าลงไป ก็เริ่มใช้แล้วค่ะ
ชอบนะ ไม่มีผงทรายกระเด็นหรือติดเท้าแมวเลย สงสัยว่า หลานdocsis เขย่าถาดหรือเปล่า เขย่าสองครั้งเป็นอย่างน้อยนะคะ ผงสนที่บวมเมื่อโดนฉี่แมว จะได้หล่นลงถาดชั้นล่าง เหลือแต่แท่งสนที่ชั้นบน
ป้าเป็นสมาชิกตลาดนัดสีเขียวในกรุงเทพฯนี้ ป้าก็เลยต้องทำตามคอนเซ็พท์ด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อมค่ะ นอกเหนือไปจากที่ป้าทำการหมักปุ๋ยจากเศษอาหารในครัวเรือนด้วยตัวเอง
จริงๆแล้ว ป้าอยากทำถังหมักอึแมวมากเลยค่ะ หมักด้วยอีเอ็ม ให้เราใช้กันทุกบ้านที่มีหมาแมว เพราะอึของสัตว์เลี้ยงหรืออึของคน ก็มีธาตุอาหารที่เหมาะกับต้นไม้มาก เหมือนสมัยก่อน ตอนป้าเป็นเด็กๆ อยู่ที่หาดใหญ่ ยังใช้ส้วมถังเท มีซิ้มแป๊ะออกเทถังให้ทุกเช้า เขาเอาไปใส่บ่อหมัก ไว้รดต้นผัก คนกินผักนั้นกันทั้งเมืองหาดใหญ่ เขาไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลยค่ะ
จากคุณ :
-.-
- [
25 ส.ค. 51 21:18:47
]
|
|
|