ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังด้วยค่ะ   5555 ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ขอเก็บรู้ด้วยคนนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ อ้อ  แต่รู้จักที่ซื้อกากน้ำตาล แถวบ้านเราเค้าซื้อกันที่ร้านขายพวกปุ๋ยค่ะ จากคุณ : LILY_PINK - [ 28 ส.ค. 51 15:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พอดีเมื่อวันอาทิตย์ก่อน ขับรถไปกาญจนบุรี กากน้ำตาล  1 แกลลอน น่าจะประมาณ 30 กิโล ราคา 180 บาท ที่กรุงเทพไม่รู้ขายเท่าไหร่ค่ะ จากคุณ : i am kookai - [ 28 ส.ค. 51 15:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แกลลอน 30 โล ใหญ่มากเลยนะคะ  ที่เคยซื้อประมาณ  5  ลิตรค่ะ แต่จำราคาไม่ได้ค่ะ จากคุณ : LILY_PINK - [ 28 ส.ค. 51 15:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นตัวย่อจากหัวข้อแล้วงง เลยต้องเข้ามาดู อ๋อ จากคุณ : เอ้ (PALIN_OMSIN) - [ 28 ส.ค. 51 15:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็ได้เหมือนกันเลย ทิ้งไว้ยังไม่ได้อ่าน กรรมวิธีทำเลย คุณหอมเจ้าเอย ลองไปถามเจ้าหน้าที่ เกษตรอำเภอ หรือ เกษตรจังหวัด ใกล้ที่ไหนค่ะ ลองไปถามดูเลย ได้คำตอบแน่นอน จากคุณ : ยูมิมาไกล - [ 28 ส.ค. 51 15:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ทราบครับ รู้จักแต่ น้ำยาเร่งเร้า(ราก)ครับ จากคุณ : แม่ริม - [ 28 ส.ค. 51 16:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่จริงวิธีใช้ พด. 2 หรือจุลินทรีย์ตัวอื่น ๆ ทางกรมพัฒนาที่ดินจะมีเอกสารเป็นแผ่นพับแจกให้ครับ สำหรับวิธีใช้คร่าว ๆ จะมีเขียนไว้ที่ด้านหลังซองครับ แต่ถ้าอยากทราบรายละเอียดมากกว่านั้นให้อ่านดูที่เวปของกรมพัฒนาที่ดิน http://www.ldd.go.th/menu_5wonder/wonder2p1.html จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 28 ส.ค. 51 16:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยว่าตกลง พด. กับ EM เนี่ยคืออย่างเดียวกันรึเปล่าครับ จากคุณ : zeabeeze (zeabeeze) - [ 28 ส.ค. 51 17:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ถามว่าตกลง พด. กับ EM เนี่ยคืออย่างเดียวกันรึเปล่า ผมคิดว่าไม่ใช่ครับ EM เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ทราบชื่อและสายพันธุ์เพราะจำหน่ายเป็นการค้าไม่มีการบอกสายพันธุ์ให้ทราบ ต้นกำเนิดของ EM มาจากชาวญี่ปุ่นแต่ไม่ทราบว่าที่ขายในไทยมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ จุลินทรีย์ที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพในการทำงานควรเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่น ถ้าใช้ในไทยก็ควรเป็นจุลินทรีย์ที่พัฒนามาจากการพบจุลินทรีย์ของไทย เพราะจะแข็งแรงและเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมของไทย สำหรับ พด. ทุกชนิดนั้นพัฒนาโดยนักวิชาการของกรมพัฒนาที่ดิน มีสายพันธุ์ระบุชัดเจนและทราบหน้าที่ของจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ อย่างละเอียด ทางกรมพัฒนาที่ดินได้ผลิตและแยกจุลินทรีย์ตามสภาพการใช้งานอย่างเหมาะสมเป็น พด. 1, พด. 2 , พด. 3 และอื่น ๆอีกหลายตัว แต่ละตัวเหมาะแก่การใช้งานแตกต่างกัน พด. บางชนิดเป็นจุลินทรีย์ที่ต้องการอากาศ  บางชนิดเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ บางชนิดใช้ป้องกันโรคพืช ผู้ใช้จึงต้องใช้งานตามคำแนะนำที่แนบมาเพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย สำหรับผมถ้าจะใช้งานจะเลือกจุลินทรีย์ที่เป็น พด. มากกว่า EM ที่เป็นจุลินทรีย์ในกล่องดำ(เพราะไม่ทราบชนิด) ที่สำคัญ พด. นั้นแจกฟรี แต่ EM ต้องเสียเงินซื้อ  ในบางครั้งจะพบว่าบางท่านจะไม่ใช้ทั้ง EM และ พด. เลยแต่ก็ทำน้ำหมักและปุ๋ยหมักได้เพราะในธรรมชาติมีจุลินทรีย์อยู่แล้วเมื่อทำการหมักจะเกิดการคัดเลือกและขยายพันธุ์โดยธรรมชาติเอง  แต่ถ้าท่านมีทางเลือกที่ดีกว่าคือสามารถขอจุลินทรีย์ที่มีหน้าที่เฉพาะทางได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อหาหรือคัดเลือกทำไมท่านไม่เลือกใช้งานเขาให้เป็นประโยชน์ล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 51 18:11:02 จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 28 ส.ค. 51 18:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สูตรการทำอีเอ็มชนิดต่างๆ ลองเข้าไปดูที่นี่นะคะ.... http://209.85.175.104/search?q=cache:R3ZHWKUgoPEJ:kamphaengphet.doae.go.th/lankrabue/pui3.doc+%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1&hl=th&ct=clnk&cd=15&gl=th ลืมไปค่ะ พด.ต่างๆนั้น ใช้ทำปุ๋ยหมักชนิดแห้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 51 21:36:15 จากคุณ : สเลเต - [ 28 ส.ค. 51 21:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณสเลเตเข้าใจเรื่อง พด. ผิดแล้วครับ ตัวเชื้อจุลินทรีย์ของ พด. นั้นถูกเก็บในสภาพของจุลินทรีย์แห้งเป็นซอง  แต่การใช้งานนั้นมีหลากหลายชนิดครับ เช่น พด.1 ทำปุ๋ยหมัก  พด.2 ใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ พด.3  เป็นจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืช(ใช้จุลินทรีย์ควบคุมจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรค)  พด.5 เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพ การหมักและย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จากสัตว์ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนเพื่อผลิตสารสำหรับกำจัดวัชพืช  เป็นต้น ถ้าต้องการทราบรายละเอียดทั้งหมดดูได้จาก http://www.ldd.go.th/menu_5wonder/index.html จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 28 ส.ค. 51 22:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ คุณ LILY_PINK ---- ขอบคุณค่ะ จะคอยมองหาตามร้านขายปุ๋ยดูค่ะ คุณ i am kookai ---- หุหุ ถูกจังค่ะ แล้วซื้อมาด้วยป่าวค้า ไม่รู้แถวนี้ จะมีขายหรือเปล่า ถ้ามีก็ดีใจเลย ประหยัดได้ตั้งเยอะแน่ะ คุณ LILY_PINK ---- ขอให้มีอย่างเดียวค่ะ อิอิ ขนาดไม่เกี่ยง คุณ เอ้ ---- อยากแบ่งไปทานซักถุงมั้ยคะ อิอิ คุณ ยูมิมาไกล ---- ก็อยากทำอยู่ค่ะ อยากไปที่หน่วยงานเลย แต่ก็ไม่สันทัดเรื่องเส้นทาง ง่ายๆคือไปไม่ถูกค่ะ เกษตรจังหวัดอยู่ตรงส่วนใหนของเมืองตรังกันหนอ คงต้องงมกันอีกซักพัก เดี๋ยวขอจับต้นชนปลายอีกหน่อย จะได้มีข้อมูลไปถกกับเขาได้น่ะค่ะ เดี๋ยวเขาหาว่าเราไม่ตั้งใจจริงน้อ คุณ ถุงแป้งร่ำ ---- โหแม่ถุงแป้งร่ำเล่นง่ายน้อ อิอิ เดี๋ยวไว้เล่นมั่ง ลอกคำตอบสบายไปเรยยย ช้อบชอบ คุณ แม่ริม ---- กราซิบคุณแม่ริม มีคนแอบลอกคำตอบค่ะ อิอิ น้ำยาเร่งเร้าที่บ้านไม่มีขายค่ะ หย่อนลงมาให้หน่อยได้ป่ะคะ (ไม่ต้องโยนก็ได้ค่ะ สว.ไม่ค่อยมีแรงมั้ง อิอิ) หย่อนลงมาจากเหนือลงใต้ ไม่ฝืนกฎแรงโน้มถ่วงเน้อ หุหุหุ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 28 ส.ค. 51 23:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ ม่อนแสงดาว ---- ขอบคุณมากค่ะ ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์มากค่ะ มัวแต่ไปค้นหาคำว่า ปุ๋ยน้ำชีวภาพ เจอหลายๆกระทู้เข้าเริ่มมึน จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยค่ะ ของที่เรามีอยู่ก็ดันไม่มีใครพูดถึงเลย งงหนัก ตกลงเขาไม่ใช้กันหรือไร ได้ยินแต่พูดถึง EM ก็งงอีก เฮ้อ... ขอตั้งสติแบบว่าค่อยเป็นค่อยไปหน่อยนะคะ ได้รับคำแนะนำเหมือนได้เห็นแสงสว่างเลยค่ะ คุณ zeabeeze ---- เจอปัญหาเดียวกันค่ะ ได้รับคำตอบจากคุณม่อนแสงดาวแล้ว ยินดีด้วยค่ะ คุณ สเลเต ---- เข้าไปอ่านมาแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 28 ส.ค. 51 23:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รบกวนถาม คุณม่อนแสงดาว หน่อยค่ะ พด.ที่ได้มามีวันหมดอายุข้างซอง และที่สำคัญซองที่หอมเจ้าเอยมีอยู่นี่ หมดอายุแล้วทุกซองเลย ยังสามารถใช้ได้อีกหรือเปล่าคะ เสียดายค่ะ ถ้าใช้ไม่ได้แล้ว ไปขออีกได้หรือเปล่าคะ เห็นว่าแจกฟรีน่ะค่ะ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 28 ส.ค. 51 23:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอถามอีกหน่อยค่ะ ตัวพด.1 สำหรับทำปุ๋ยหมัก 1 ตัน ตรงนี้เป็นปัญหาค่ะ ไม่มีเศษพืชเยอะขนาดนั้นน่ะค่ะ และที่สำคัญเค้าบอกว่า เปิดซองแล้วใช้ให้หมดในครั้งเดียวด้วย ความโลภบังเกิด กลัวเสียของอีกเช่นกัน ถ้าเอามาใช้น้อยๆตามอัตราส่วนของเขา ที่เหลือก็ต้องทิ้ง อันนี้เข้าใจถูกมั้ยคะ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 28 ส.ค. 51 23:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การที่คนรู้จักชื่อ EM มากกว่าเพราะ EM เป็นธุรกิจการค้า มีการโฆษณาและจัดรายการทางสื่อมวลชนเป็นระบบ รวมถึงทำหนังสือวารสารขายอีกด้วย ขาย EM รวยขนาดไหนก็ขนาดซื้อสื่อทางโทรทัศน์ได้ ส่วนของกรมพัฒนาที่ดินมีเวลาออกทีวีนิดเดียวงบประชาสัมพันธ์สู้เอกชนไม่ได้อยู่แล้ว กรณี พด. ที่หมดอายุแล้วจะมีปริมาณจุลินทรีย์น้อยกว่ามาตรฐานครับ(มันตายไปครับเพราะจุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต) ปกติแล้วอายุการเก็บจะกำหนดเพียง 1 ปี ซึ่งจากการวิจัยของกรมพัฒนาที่ดินเชื้อจุลินทรีย์จะลดลงในปีที่ 2 และลดลงอย่างชัดเจนมากในปีที่ 3 ดังนั้นหากหมดอายุแล้วให้ขอมาใหม่จะได้ผลดีกว่าครับหรือถ้าเลยกำหนดมาเล็กน้อยไม่อยากขอใหม่ก็ใช้ได้ครับ  ถ้าเปิดซองแล้วให้ใช้ให้หมดไม่ควรเก็บไว้โดยความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่าเพราะหลังจากเปิดซองแล้วอาจเกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ภายนอกทำให้เชื้อไม่บริสุทธิ์ อีกทั้งความชื้นภายนอกจะเข้าไปทำให้เชื้อจุลินทรีย์เสื่อมสภาพ เวลาผมใช้ก็จะใส่เชื้อ พด. หมดซองเลยครับ ส่วนผสมอื่น ๆ ก็จะใช้ตามสัดส่วนของเศษพืช หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะครับคุณหอมเจ้าเอย แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 51 00:50:24 จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 29 ส.ค. 51 00:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ คุณม่อนแสงดาว EM กับ พด.เป็นอย่างนี้นี่เอง ได้รับความกระจ่างขึ้นมากค่ะ อย่างนี้มีข้อมูลไปคุยกับทางเจ้าหน้าที่ได้บ้าง คิดว่าอาจจะไปรับมาใหม่ หมดอายุไปตั้งแต่ เดือน 12 ปี 50 โน่น ว่าแต่ที่ตรังนี่ เกษตรจังหวัด อยู่ไหนกันเนี่ย ไปหาข้อมูลก่อนค่ะ ถ้ามีเวปไหนบอกจะเอามาลงไว้ด้วยเลย จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 29 ส.ค. 51 09:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ที่ตรังติดต่อได้ที่นี่ครับ http://lddtrang.hatyaiit.com/main/home.php สถานีพัฒนาที่ดินตรัง :: Trang Land Development Station เลขที่ 98/1 หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งไทรงาม ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000  โทรศัพท์ 0 7522 4674 โทรสาร 0 7550 1059 จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 29 ส.ค. 51 10:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นพระคุณมากค่ะ คุณม่อนแสงดาว ข้อมูลครบถ้วน ชัดเจนมากค่ะ ตรงประเด็นที่สุด ขอบคุณเป็นร้อยล้านครั้งค่ะ เข้าไปดูข้อมูลจากเวปไซต์ที่ให้มาแล้วค่ะ มีบริการออนไลน์ สะดวกมาก หาข้อมูลเองไม่ได้อย่างนี้เลย ไปออกทะเลไหนก็ไม่รู้เลยค่ะ อิอิ ขออนุญาตเก็บเข้าคลังนะคะ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 29 ส.ค. 51 14:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ...พด..ต่างๆที่จะไปขอรับบริการ         อย่าลืม...อย่าลืม นำบัตรประชาชนของผู้รับบริการไปด้วยนะครับ..         กากน้ำตาล  ขนาด 5 ลิตร ถ้าใกล้ๆ ธนาคารเพื่อการเกษตร มีจำหน่าย  อาจเป็นบางสาขา แถบต่างจังหวัดส่วนมากจะมี และ ราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป         ทำน้ำหมักชีวภาพใช้เอง ราคาถูกกว่ามาก ถังขนาด 200 ลิตร         ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ( แล้วแต่สูตรตามส่วนประกอบ )         แต่ต้องใจเย็น เพราะหมักไว้หลายเดือน แต่ให้ผลดี ต่อ ต้นไม้         และดินมากมาย จากคุณ : ต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) - [ 29 ส.ค. 51 16:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาหาความรู้ค่ะ จากคุณ : Susisiri - [ 29 ส.ค. 51 18:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่พัฒนาที่ดินจังหวัดตรัง อยู่ในซอยตรงข้ามสนามบินตรังคับ เข้ามาทางกองร้อย ตชด.ที่ 435 ถ้าเข้าซอยไม่ถูกถามคิวมอไซค์ปากซอยได้คับ จากคุณ : คนสวนปาล์ม - [ 30 ส.ค. 51 09:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) ---- ขอบคุณมากค่ะ คิดว่ากากน้ำตาลที่นี่ ต้องมีขายแน่ๆค่ะ เมื่อวานคุยกับน้าที่ทำงาน อบต.เค้าจะหามาให้ เห็นว่าทางอบต.กำลังผลักดันเรื่องนี้ปุ๋ยน้ำชีวภาพอยู่เหมือนกันค่ะ จะขอเข้าไปดู คุยรายละเอียดอีกที ขอบคุณอีกครั้งค่ะ เป็นกำลังใจอย่างมากค่ะ ไม่ชอบปุ๋ยเคมีอย่างมาก เมื่อปลายเดือยมิถุนายน ต้องซื้อปุ๋ยเคมีมาใส่สวนยาง ราคาสูงมาก และที่สำคัญ กลิ่นสุดๆ แสบจมูก แสบตา คันยิบๆไปหมดเลยค่ะ โหยย เข็ดเลย ไม่อยากยุ่งด้วยอีกเลยค่ะ คุณSusisiri ---- สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ คุณคนสวนปาล์ม ---- ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ เห็นที่อยู่ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าอยู่ตรงส่วนไหน พอคุณบอกว่าอยู่ซอยตรงข้ามสนามบินตรัง ร้อง อ๋อเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 13:55:27 จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 30 ส.ค. 51 13:52:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นทุกวัน น่ายินดีจริงๆค่ะ คาดว่าคงจะได้ทุกอย่างครบเร็วๆนี้ ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ เป็นกำลังใจที่ดีมาก ขอบคุณๆๆๆ ขอบคุณมากค่ะ และแล้ว สิ่งที่คิดว่าอยู่ไกลตัว ทำคนเดียวไม่ไหวแน่ คิดผิดถนัด อยู่ใกล้แค่จมูก แต่เราไม่ใส่ใจมันเท่านั้น ตอนนี้หาแนวร่วมสำเร็จค่ะ มีแม่เป็นธุระเรื่องพืชผักสดที่จะเอามาใช้  พี่ชายจะช่วยเรื่องอุปกรณ์และที่ทางสำหรับวางถัง คงไม่ใช่แค่ใบเดียว น้องชายเป็นพนักงานขับรถค่ะ ส่วนหอมเจ้าเอยเป็นผู้จัดการ ทุกอย่างต้องสำเร็จด้วยความตั้งใจจริงค่ะ จากที่ไม่รู้อะไรเลย มึน และงงอยู่พักใหญ่ ตอนนี้สติเริ่มมา ปัญญาเริ่มมีแล้วค่ะ ทำอะไรก็ต้องใจเย็นๆไว้ก่อน ค่อยเป็นค่อยไป เห็นแสงสว่างอยู่รำไรแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ (ขอบคุณซ้ำซาก อิอิ) จากใจจริง จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 30 ส.ค. 51 13:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอแถม... ที่พัฒนาที่ดินจังหวัดตรัง มีกากน้ำตาลขาย กก.ละ 10 บาท แต่ต้องเอาแกลอนไปเองนะคับ ผมไม่รู้ว่าถูกหรือแพง เพราะเพิ่งไปซื้อใช้แค่ครั้งเดียว (ครั้งก่อนๆมีคนเอามาให้ใช้) แต่คุณหอมเจ้าเอยคิดแตกต่างจากเจ้าของสวนยางรายอื่นๆนะคับที่จะใช้ พด. แทนปุ๋ยเคมีในสวนยาง(เท่าที่อ่านโดยสรุปๆจาก คห.ที่23)  ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องต้นยางเลยไม่อยากแสดงความคิดเห็น ลองแอบดูกระทู้ล่างๆ ว่าจะแนะนำอย่างไรดีก่า ^^ จากคุณ : คนสวนปาล์ม - [ 30 ส.ค. 51 16:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมขอเตือนคุณหอมเจ้าเอยว่า อย่าได้คิดว่าจะยกเลิกใช้ปุ๋ยเคมีแล้วใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกอย่างเดียวนะครับ ถ้าคุณคิดอย่างนี้อนาคตสวนยางของคุณจะเสียหายอย่างมาก เนื่องจากปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกมีปริมาณธาตุอาหารหลักไม่เพียงพอแก่ความต้องการของพืชครับ การใช้ที่ถูกต้องคุณต้องใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยเคมีควบคู่กันไปเพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกัน ปุ๋ยเคมี  ให้ธาตุ N P K ปุ๋ยคอก ให้ธาตุอาหารรองและเสริม รวมถึงปรับโครงสร้างของดิน แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 51 21:57:13 จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 30 ส.ค. 51 21:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณคนสวนปาล์ม ---- ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์มากค่ะ เพราะลองไปถามน้ามาแล้ว เรื่องกากน้ำตาลเค้าบอกว่า มีคนเอามาให้ใช้เหมือนกันค่ะ ไม่รู้แหล่งที่มา ก็ต้องไปถามจากคนที่ให้น้ามาอีกที โอย ซับซ้อนจริง หุหุหุ ส่วนเรื่องจะใช้ปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมี คงไม่ขนาดนั้นค่ะ คงจะใช้ควบคู่กันไป วัถุประสงค์หลัก คือจะลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงในส่วนของพืชผักผลไม้มากกว่าค่ะ คุณม่อนแสงดาว ---- รับทราบค่ะ ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นค่ะ ที่บอกว่าไม่อยากยุ่งกับปุ๋ยเคมีคือ ให้คนอื่นทำไปน่ะดีแล้วค่ะ หุหุหุ ส่วนตัวไม่ถนัดเรื่องทำสวน มีแม่ พี่ชายคอยควบคุม ดูแลอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ เป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 31 ส.ค. 51 00:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ...อุปกรณ์พร้อม ...คนทำพร้อม ...มีสูตรส่วนประกอบหรือยังครับ??? ======================   ที่คุณม่อนฯ บอกมานั้น ถูกต้องนะครับบบบ   อย่างไรก็ต้องใช้ปุ๋ยเคมีบ้าง  จำพวกเร่งสี เร่งความหวาน ในพืชผักผลไม้   ==========================================  แต่รับรองว่าราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมีมากมาย  ดินดีขึ้นมาก ตอนนี้ที่สวนผม  ไส้เดือนตัวใหญ่เกือบเท่ากับดินสอดำแล้ว.... จากคุณ : ต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) - [ 1 ก.ย. 51 09:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ ต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) ---- ช่วยบอกสูตรเป็นวิทยาทานหน่อยค่ะ ตอนนี้ก็พอจะมีอยู่ในใจบ้างแล้ว แต่ก็สะเปะสะปะน่าดูเลย อยากทำไปทุกสูตรนั่นเลยค่ะ อิอิ โลภจริงๆ ช่วยไม่ได้ค่ะ วัยรุ่นไฟแรง ฮ่าๆๆ ถ้าพอจะสละเวลาได้ รบกวนลงสูตร ส่วนประกอบ ปัญหา เอาทุกอย่างเลยค่ะ ว่าแต่คุณต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา)ทำสวนอะไรคะ อยู่ทางเหนือขอเดาว่า สวนลำใย อิอิ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 1 ก.ย. 51 12:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ....มาแล้วจ้า...ช่างทำนายเก่งจัง...แม่นด้วยซิ    สูตรก็อาจจะคล้ายๆกัน กับเกษตรกรท่านอื่น    ท่านใดมีสูตรที่แตกต่างไป ก็นำมาเผยแพร่แบ่งปันความรู้กัน...ครับ ===========================================    แผนปฏิบัติการ....จากใจอิสานเหนือ                           เพื่อเพื่อนแดนใต้...สู้...สู้ ===========================================    เริ่มต้นแผน...ก็ต้องมาจากซอง พ.ด.2 นั่นแหละครับ ศึกษาทำความ    เข้าใจ  ส่วนประกอบก็เพิ่มเติมได้ครับ      สูตร ๑ ....ฮอร์โมนผลไม้    ส่วนประกอบ...ผลไม้ทุกชนิด ที่มีอยู่ เช่น มะละกอ กล้วย ฟักทอง ชมพู    อื่นๆ รวม ๔๐ กก.                        กากน้ำตาล  ๑๐  กก.                        น้ำเปล่า       ๑๐  ลิตร                        พด.๒          ๑    ซอง    นำทั้งหมดลงถัง ปิดฝาไม่ต้องสนิท หมั่นกวนส่วนประกอบต่างๆ อยู่เสมอ    เพื่อไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์ตาย  จนกระทั่ง ๖ เดือนผ่านไป  กรองน้ำหมัก    ออกมา นำไปผสมน้ำอัตราส่วน ๑ ต่อ ๒๐๐ ฉีดพ่นทางใบ หรือ รดทาง    โคนต้นไม้ ===========================================    สูตร ๒    เป็นสูตรฮอร์โมนไข่  เหมาะสำหรับสวนผลไม้ครับ    ส่วนประกอบ    น้ำมะพร้าว     ๑๕   ลิตร    ไข่ไก่             ๕   กก.     กากน้ำตาล     ๕   กก.    แป้งข้าวหมาก   ๑   ลูก    โยเกิต             ๑   ถ้วย     ยาคูล             ๑   ขวด     @@@นำส่วนประกอบทั้งหมดลงถัง@@@    เหมือนสูตรแรกครับ  ให้มีอากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากัน และต้องหมั่นกวน    ส่วนประกอบอยู่เสมอ  ผ่านไป ๑ เดือนหรือมากกว่า สามารถนำมาใช้ได้    อัตราส่วน  ๑ ต่อ ๒๐๐ ใช้ฉีดทางใบ    อัตราส่วน  ๒ ต่อ ๒๐๐ ใช้รดทางโคนต้นไม้    สูตรนี้สำเร็จแล้ว จะได้น้ำหมักชีวภาพเข้มข้นประมาณ  ๒๕ ลิตร    ต้นทุนส่วนประกอบประมาณ  ๕๐๐ บาท ===========================================    สูตรต่างๆ อาจมีส่วนประกอบ ที่ไม่เหมือนกัน แต่กรรมวิธีนั้นคล้ายกัน    ที่สำคัญต้อง  อย่าให้  เชื้อจุลินทรีย์ในสูตรของเราตายไป ต้องเติม    อากาศอยู่เสมอ    ทดลอง และ สังเกตุดูครับ    ใช้แล้ว  ต้นไม้ของเราชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร    ดิน..ร่วนมากขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับใบหญ้าแฝกตากแห้ง    ขอให้ประสพความสำเร็จ เพราะว่า ได้ทำในสิ่งที่รักครับ... จากคุณ : ต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) - [ 1 ก.ย. 51 21:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณต้นสนภูเรือ (ภูผาบูรพา) ---- ขอบคุณที่สละเวลามาบอกสูตรค่ะ เมื่อคืนก่อนดูรายการทีวี เค้าบอกว่าใช้ฮอร์โมนไข่ ใส่สวนปาล์ม เราก็งงซีคะ มีฮอร์โมนไข่ด้วยรึ แปลก...ต้นไม้กินไข่ อิอิ คิดอย่างนั้นจริงๆนะ ยังนั่งขำตัวเองเลยค่ะ ฮ่าๆๆ ชอบประโยคนี้จัง "แผนปฏิบัติการ....จากใจอิสานเหนือ                          เพื่อเพื่อนแดนใต้...สู้...สู้" ต้องใจเย็นจริงๆ รอตั้ง 6 เดือน เป็นแผนการที่ใหญ่ และยาวนานมากค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ได้ทำในสิ่งที่รัก สุขใจค่ะ ได้ความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ เผื่อว่าจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วย เคลียร์หลังไมค์ไว้ได้เลยค่ะ ทุกท่านเลย อิอิ จากคุณ : หอมเจ้าเอย - [ 1 ก.ย. 51 23:31:39 ]