ความคิดเห็นที่ 1 เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร    เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ      และแมวจรได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง   ตลอดจนเพื่อให้การใช้เงินของโครงการฯ  เกิดประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค  จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความช่วยเหลือแมวจร ดังนี้ คำนิยาม  “แมวจร”     แมวจร    หมายถึง   แมวที่ปัจจุบันเป็นแมวเร่ร่อนไร้บ้าน เช่นถูกนำมาปล่อยทิ้ง หรือ        มีแหล่งพักพิง  แต่แหล่งพักพิงนั้นไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิต เช่น  บ้านร้าง  วัด สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ  หรือเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะสมกับการเลี้ยงแมว   หรือปัจจุบันมีที่พักพิงแต่ ในอนาคตจะต้องกลายเป็นแมวเร่ร่อน  เช่นแมวในชุมชนที่จะโดนไล่ที่ อนึ่ง จะต้องมีบุคคลที่มี Log In ในเว็บไซด์ Pantip.com รับเข้าเป็นเคสอยู่ในความดูแลของตนเอง    รวมทั้งต้องนำเรื่องราวที่ไปพบแมวจรดังกล่าวนั้น นำมาตั้งกระทู้ให้ผู้อื่นได้รับทราบ  อีกทั้งแมวที่รับเข้าเป็นแมวจรนั้นจะต้องมีจุดประสงค์เพื่อนำแมวดังกล่าวออกหาบ้านในโอกาสอันสมควรต่อไป สรุป การที่จะพิจารณาว่าเป็นแมวจรนั้น  ต้องมีองค์ประกอบครบ 4 ข้อ   1.ปัจจุบัน หรือในอนาคตไม่มีแหล่งพักพิง หรือมี แต่ไม่ปลอดภัย 2. ต้องมีบุคคลที่มี Log In  รับเข้าเป็นเคสอยู่ในความดูแลของตน 3.นำเรื่องราวดังกล่าว  มาตั้งกระทู้ให้ผู้อื่นได้รับทราบและดำเนินการเองหลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว 4. ต้องมีจุดประสงค์เพื่อนำแมวดังกล่าวออกหาบ้านเมื่อถึงโอกาสอันสมควร       **** หากขาดข้อหนึ่งข้อใด จะยังไม่ถือว่าเป็นแมวจร ตามนิยามข้างต้น **** ยกเว้น   กรณีที่ไปพบแมวที่ปรากฏเจ้าของหรือผู้อุปการะ ซึ่งแมวนั้นได้รับทุกข์เวทนา จากความพิการ  หรือ  ความเจ็บป่วย  หรือ   จากอุบัติเหตุ   โดยมีเหตุอันสามารถคาดเดาได้ว่า  หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีจะส่งผลให้พิการหรือเสียชีวิตได้   เพื่อเป็นการป้องกันความสูญเสียดังกล่าว กรณีนี้จะได้รับการอนุโลมให้สามารถขอรับความอนุเคราะห์จากโครงการฯ ได้       การสิ้นสภาพการเป็นแมวจร -  มีผู้รับอุปการะ * -  ตาย   * กรณีที่รับแมวไปเลี้ยงแล้วแมวป่วย สมมุติว่า รับไปถึงไม่เดือน อย่างนี้ เราควรจะรับเข้าโครงการหรือเปล่า หรือ บางรายรับไปแล้ว หนึ่งปี  แมวป่วยร้ายแรง ควรรับหรือไม่ควร   ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ อ่านถึงตรงนี้แล้ว อยากเพิ่มเติม นิยามแมวจร หรือ มีคำถามอย่างไร  ก็แสดงความคิดเห็นได้เลยนะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 02:30:24 จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การขอความอนุเคราะห์เงินจากโครงการฯ ในระหว่างที่แมวจรได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของเจ้าของเคสนั้น   หากยังไม่สามารถนำแมวออกหาบ้านได้ เช่น แมวยังป่วย  หรือยังบาดเจ็บอยู่นั้น  หากเจ้าของเคสมีความจำเป็นจะขอความอนุเคราห์เงินจากโครงการเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยดังกล่าว  เจ้าของเคสจะต้องถ่ายรูปและนำเรื่องราวมาโพสเพื่อชี้แจงให้ผู้อื่นรับทราบอาการป่วยด้วย    แต่ทั้งนี้การให้ความอนุเคราะห์เงินช่วยเหลือจากโครงการฯนั้น   จะยึดถือลำดับความจำเป็นเร่งด่วนก่อน-หลังของปัญหาเป็นสำคัญ และ ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงเงินของโครงการที่มีในขณะนั้นประกอบด้วย   เนื่องจากเป็นเงินที่ผู้ใจบุญได้บริจาคเข้ามา  จึงไม่สามารถกำหนดจำนวนเงินในการช่วยเหลือได้แน่นอน อนี่ง  กรณีที่เจ้าของเคส มีความประสงค์จะรับแมวจรไว้อุปการะเอง   ไม่ประสงค์จะนำออกหาบ้าน  ดังนั้น สภาพของแมวจรจะสิ้นสุดลง   กรณีนี้เจ้าของเคสจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆเองทั้งหมด ยกเว้น แมวจรที่เจ้าของเคสรับอุปการะอยู่นั้น เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า แมวนั้นถึงจะนำออกหาบ้านสักกี่ครั้งก้อคงไม่สามารถจะหาผู้อุปการะใหม่ได้    เนื่องจาก - เป็นแมวป่วยต้องรักษาต่อเนื่องตลอดชีวิต - แมวเป็นโรคติดต่อร้ายแรง - แมวพิการ ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ - แมวดุร้าย - แมวแก่ อายุมาก ฯลฯ ***  กรณีนี้ทางโครงการจะสนับสนุนการรักษาให้ตามสมควร *** กรณีที่เป็นเคสรักษายาวนานต่อเนื่อง  เจ้าของเคสจะต้องขึ้นกระทู้ขอรับบริจาคเพิ่มเติมเองด้วย เพื่อเป็นการกระจายเงินให้แมวจรเคสอื่นๆได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน อ่านถึงตรงนี้แล้ว อยากเพิ่มเติม มีคำถามอย่างไร  ก็แสดงความคิดเห็นได้เลยนะคะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขั้นตอนขอเบิกจ่าย 1.ขึ้นกระทู้ขอเบิกค่ารักษากับทางโครงการที่ห้องแมวค่ะ ประกอบไปด้วยรูปแมว(ถ้ามีบาดแผลให้ถ่ายที่บาดแผลตรงนั้นมาด้วย เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย) เล่ารายละเอียดของแมว สถานที่พบเห็น พร้อมอาการและผลการตรวจรักษา ใบเสร็จค่ารักษา จะถ่ายรูปหรือแสกนก็ได้ 2 ส่งภาพถ่ายสำเนาบัตรประชาชน(ของคนที่เปิดกระทู้) และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้มาที่เมลล์ rakmaw@จีเมลล์.com ** สำหรับเคสหนักที่ต้องรักษาตัวมากกว่า 2 อาทิตย์ กำหนดให้ขึ้นกระทู้อัพเดททุก ๆ 2 อาทิตย์ การจ่ายเงิน จะจ่ายเงินได้ ต่อเมื่อได้รับใบเสร็จรับเงินตัวจริงพร้อมสำเนาบัตรประชาชน(ของคนที่เปิดกระทู้)แล้ว ดังนั้น เมื่อขึ้นกระทู้แล้ว ขอให้ส่งเอกสารมาที่ (อันนี้ก็จะเป็นชื่อและที่อยู่บ้านป้ารักษ์ เพราะป้ารักษ์เป็นคนเก็บเอกสารทางการเงิน) **จะส่งเป็น EMS หรือลงทะเบียนก็ได้ค่ะ ในเอกสารที่จัดส่งมาให้นั้น ขอให้ระุบุหมายเลขบัญชี, ธนาคาร, ชื่อบัญชีที่จะให้โอนเงินกลับด้วยนะค่ะ ถ้าแบงค์กรุงเทพหรือไทยพาณิชย์ก็จะดีมาก ๆ ค่ะ ** ขออนุญาตยกเลิกเคสที่ขอไว้ ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้แจ้งไว้นี้นะคะ อันนี้เป็นรายละเอียดปัจจุบันที่ใช้อยู่ค่ะ มีอะไรเพิ่มเติมมั้ยอะค่ะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาให้กำลังใจป้ารักษ์ อย่างต่อเนื่อง ^^ จากคุณ : Chi - Chow - [ 13 ต.ค. 51 02:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วยทำการบ้านด้วยจิ คุณ Chi - Chow จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จริง ๆ ก็ตั้งใจจะทำให้เป็นหลักเป็นเกณฑ์แบบนี้มานานแล้ว เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะ เราไม่เคยมีหลักเกณฑ์อะไรเลย ทำให้หลาย ๆ ครั้ง มีความลำบากใจในการทำงานมาก  เครียดด้วยอะ ช่วย ๆ ป้ารักษ์กันหน่อยนะจ๊ะ  ช่วยให้ความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ  เวลาอนุมัติเคสหรือมีปัญหาว่า แมวจร หรือแมวมีเจ้าของ ป้ารักษ์จะได้ ทำได้เต็มที่ เพราะว่า  พวกเราช่วย ๆ กันให้ความคิดเห็นมาแล้ว จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ป้ารักษ์ได้ คนช่วยทำบัญชีแล้ว คือ คุณข้าวแต๋นน้ำแตงโม เมลล์กลางสำหรับ รายรับ รายจ่าย  การขอเบิก  การโอนเงินช่วยเคสต่าง ๆ  ขอให้ ส่งมาที่เมลล์ rakmaw@จีเมลล์.com เมลล์กลางนี้นะคะ  ป้ารักษ์โล่งไปเปราะแรก อิ อิ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องต่อมา คือ เรื่องการอนุมัติเคส ป้ารักษ์ อยากได้คนช่วยค่ะ   อย่างถ้าเกิดมีกระทู้ แบบฉุกเฉิน ไปเจอแมวกลางถนน รถชน  จะได้ไม่ต้องรอให้ป้ารักษ์มาอนุมัติ ตรงนี้ ขออาสาสมัครหน่อยค่ะ อย่างภาพกลางวัน  พี่เหมียวอารีย์  หรือ คุณโออาอิชิ  ได้หรือเปล่าค่ะ หรืออย่างภาพกลางคืน  พี่เปิ้ลทิวลิบ หรือคุณหนิง NSY  ได้หรือเปล่าค่ะ เสาร์อาทิตย์นี่ ใครเข้าห้องแมวบ้างอะค่ะ  ขออาสาสมัครหน่อยค่ะ  เดี๋ยวป้ารักษ์จะได้แจ้งรายละเอียดการพิจารณาเคสให้อีกทีว่า  ต้องมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง จริง ๆ แล้ว หลักใหญ่  ถ้าเค้าแจ้งว่า สถานที่เกิดเหตุหรือพบแมวที่ไหน ก็พอจะสันนิฐานได้อะค่ะ ว่าน่าจะเป็นแมวจร อ่านถึงตรงนี้แล้ว  เพื่อนๆ  แนะนำหรือให้ข้อคิดเห็นมาได้นะคะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รับทราบค่ะพี่รักษ์ ยินดีรับหน้าที่ที่มอบหมายค่ะ ดีใจจังที่พี่รักษ์ นางฟ้าของแมวจรกลับมาอีกครั้ง เย้ เย้ จากคุณ : NSY - [ 13 ต.ค. 51 02:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 และเรื่องสำคัญคือการ จ่ายเงิน ตรงนี้  ขอคำแนะนำหน่อยว่า  ใครควรจะเป็นคนโอนเงินจ่ายให้กับแต่ละเคสดี คนอนุมัติเคส คนเก็บเอกสารการเงิน คนทำบัญชี หรืออื่น ๆ (โปรดแนะนำ) คือกำลังพยายามออกห่างจากเรื่องเงินแต่ทีนี้ ถ้าป้ารักษ์เป็นคนเก็บเอกสาร  ได้รับเอกสารใบเสร็จและบัตรปราะชาชนแล้วเรียบร้อย ก็โอนเงินไป ตรงนี้ มีใบโอนเงินจากธนาคารมาแปะแบบนี้ ถือว่า เคลียร์หรือยัง มีคนเคยบอกว่า  หลัก ๆ อย่างให้มีคนสามคนมาทำงานทางการเงิน คนหนึ่งเปิดบัญชี คนหนึ่งทำบัญชี และอีกคนหนึ่ง รับจ่าย  หุ หุ แนะนำกันเข้ามาเยอะ ๆ  นะคะ  อยากให้โครงการรักษ์แมวดำเนินต่อไป  อยากให้โปร่งใส ชัดเจนแค่ไหน ก็แนะนำกันเข้ามาได้นะคะ จะได้สบายใจทั้งคนที่ช่วย และคนที่ทำงานตรงนี้  ป้ารักษ์ไปนอนก่อนหล่ะ จะตีสามหล่ะ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก http://play.kapook.com/photo/show-50408 จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ก่อนเกือบลืม อย่างในเรื่องการหาบ้าน อยากให้คุณ SaNoyNa หรือคุณ กินดะ  รับเป็น Headตรงนี้ ได้หรือเปล่า หรืออย่าง รักษ์แมวสัญจร  เรื่องการเบิกจ่ายวัคซีน ตรงนี้ หมออ๊อบ รับเป็น Head ได้มั้ยอะค่ะ อิ อิ   กระจายงาน  ป้ารักษ์จะได้โล่ง อิ อิ ไปนอนจริง ๆ แล้วค่ะ   แนะนำกันเข้ามาเยอะ ๆ นะคะ เดี๋ยวจะได้สรุปอีกทีเพื่อจัดเก็บในคลังกระทู้เป็นระเบียบปฏิบัติไปเลยอะค่ะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 02:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะค๊า ดูจิ๊ ดึกดื่นป่านนี้ พี่รักษ์ยังต้องมานั่งเครียดเรื่องแมวอยู่เล้ย ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ กรณีรับไปแล้วแมวป่วยภายใน ๑เดือน นี่ พิกว่าถ้าหากอาการป่วยไม่ได้เกิดเพราะความประมาทเลินเล่อของเจ้าของ เช่น เป็นหวัด เชื้อรา รถเฉี่ยว แต่เป็นเพราะเป็นมาแต่ก่อนอยู่แล้วพึ่งแสดงอาการ แล้วเจ้าของไม่ไหวจริงๆ ก็น่าจะรับเข้าโครงการนะคะ เพราะก็พึ่งรับไป จขใหม่เค้าก็คงไม่อยากได้แมวป่วย(กลัวเค้าเอาไปทิ้งค่ะ) จากคุณ : piggy colon - [ 13 ต.ค. 51 02:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่าาาาาาาาาาาาาา ป้ารักษ์อ่ะ ก็ยินดีที่ป้ารักษ์กลับมานะ แต่โจทย์ยากอ่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  เค้าโดนป้ารักษ์แกล้งอ่ะ ขมองรัตยิ่งมีอยู่น้อยๆ ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ขอเวลาคิดซ๊ากกกกกก ซักพักใหญ่ๆนะ -_-" แงงงงงง แถมได้เลขสวย 13 อีกอ่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 03:32:37 จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 03:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาดู โครงการรักษ์แมว เปิดดำเนินการตามปกติแร้ว เย่ๆ จากคุณ : ข้าวแต๋นน้ำแตงโม - [ 13 ต.ค. 51 03:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องอื่นๆ ชัดเจนดีแล้วค่ะ แต่อยากเสริมนิดนึง เรื่องน้องแมวที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ถ้าผู้รับผิดชอบ สามารถพาน้องแมวไปรักษาในคลีนิก หรือ รพส. ที่เราจะไปขอเข้าร่วม ตัวอย่าง ร้านของหมอจอม หรือ รพส. เกษตร อันนี้อยากให้ติดต่อ ขอทำบัญชีอย่างเป็นทางการไปเลยค่ะ อันนี้ไม่ทราบว่า มีคลีนิกไหน หรือ รพส. ใดยินดีเข้าร่วมโครงการ โดยการรับแมวเข้าไปรักษาและทางโครงการจะจ่ายเงินให้โดยตรงกับทางสถานที่พยาบาลสัตว์นั้นๆ ค่ะ ส่วนผู้รับผิดชอบเคส ก็จะได้ค่าเดินทาง ตามความเหมาะสมไปค่ะ ในส่วนนี้หมายถึงแมวจรที่ได้เข้ารักษาในคลีนิกหรือ รพส. ที่เข้าร่วมนะคะ หนิงคิดว่าตรงส่วนนี้จะได้ตัดเรื่องเอกสาร หรือใบเสร็จ ที่จะต้องไปตามเก็บกับผู้รับผิดชอบเคส จะได้ตามกับสถานที่รักษาได้โดยตรง และจะได้หมดปัญหาเรื่องใบเสร็จสูญหาย หรือส่งใบเสร็จให้กับทางโครงการช้าด้วยค่ะ จากคุณ : NSY - [ 13 ต.ค. 51 03:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 I will read all above and think about it if I can help I will :) Will come back and write in Thai when I got home na ^O^ ( Sorry for not typing in Thai @ the office ka ). จากคุณ : annana - [ 13 ต.ค. 51 04:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หลังจากอ่านจบไปหนึ่งรอบ เค้นขมองอันน้อยนิดตอนตี ๔ ตอนนี้ติดอยู่กรณีเดียว คือ กรณีรับอุปการะไปแล้ว เกิดป่วยขึ้นมา ใน คหที่๑ เห็นด้วยกับ คหที่ ๑๒ คงต้องดูที่เคสที่ป่วยมากกว่าว่าเป็นอะไร ถ้าภายใน ๑ ถึง ๒ เดือน โรคที่เป็นน่าจะเกิดก่อนหน้าที่รับมาแต่พึ่งจะมาแสดงอาการ (อย่างลูคิเมีย เอดส์ มะเร็งเม็ดเลือด) **** แล้วผู้อุปการะไม่สามารถ และ ไม่อยากดูแลต่อได้ อันนี้ก็ขอรับกลับมาเถอะ ดีกว่าเขาเอาไปปล่อย ซึ่งเท่าที่เห็นหลังๆก็เจอกรณีนี้อยู่หลายตัว(ใช่ม๊ะ) ถ้าเป็นไปได้ขอรบกวนโพสกระทู้และดำเนินการพาไปรักษาเอง หรือแค่เบื้องต้นก็ยังดี เพื่อความปลอดภัยของแมว และงานจะได้ไม่ตกอยู่กับทีมงานอย่างเดียว (แต่มันจะเป็นไปได้หรอในเมื่อเขาไม่ได้สนใจจะเลี้ยงต่อแล้วนี่) **** แต่ถ้าป่วยแต่ผู้อุปการะต้องการดูแลต่อ เพียงแต่ยังไม่มีปัจจัยพอรักษา เป็นไปได้หรือเปล่าที่จะเป็นในลักษณะการสำรองจ่ายล่วงหน้า แล้วผู้อุปการะโอนเงินกลับให้โครงการภายหลัง(กี่วัน เดือน ปี ก็ว่าไป) (( กรณีนี้จริงๆ โอกาสหนี้สูญแยะ ก็ถือว่าทำทานไปแล้วกัน ) อ๋อ ซึ่งผู้อุปการะจะต้องตั้งกระทู้รายงานความคืบหน้า และโพสกระทู้เพื่อขอรับบริจาคด้วย เงินส่วนนี้ถือเป็นเงินของโครงการเพื่อนำไปเวียนใช้กับเคสอื่นต่อไป อีกกรณีนึง ที่รับไปแล้วเป็นปีแล้วเอามาคืนหน่ะ เจ้าของโพสต้องกระทู้เอง แต่สามารถส่งเข้าชิง เป็นแมวหาบ้านที่จัตุจักรได้ โดยมีทางโครงการ แผนกหาบ้านเป็นตัวกลางและให้คำแนะนำ ในระหว่างที่ยังไม่ได้บ้านต้องอยู่กับเจ้าของเดิมก่อนจนกว่าจะได้บ้าน ใครแอบเอาไปทิ้งก่อนอย่าให้รู้บ้านนะ จะเอาสมุย ลันตาไปโยนใส่ให้ถึงในครัว (อันนี้เรากลัวคนเอาไปทิ้งอีกรอบ แต่ถ้าเก็บกลับมาทั้งหมดแต่แรกก็ตายซิครับ ) เมื่อกี้คิดออกแล้ว ลืมไปแล้วง่วง เด๋วพรุ่งนี้ตื่นแล้วเสร็จธุระเมื่อไหร่ จะเข้ามาช่วยคิดต่ออีกรอบ ผิดตก ดูตลกตรงไหน ขำได้แต่อย่าล้อ อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนง่วง ถ้าคุณรักษ์หรือทีมงานบอกปัญหาที่เจอบ่อยๆ จะคิดได้กว้างขึ้นครับ ปอลอ เพราะชีวิตไม่แน่นอน และไร้ความรับผิดชอบ ขออนุญาตเป็นหน่วยสนับสนุนเฉพาะกิจนะครับ ส่วนถ้าเป็นกรณีฉุกเฉิน เรียกใช้ได้ตลอดเวลา จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 05:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่มอีกนิดก่อนหลับไปจริงๆ คหที่ ๑๕ ของคุณหนิงเรื่องคลินิคที่เข้าร่วมน่าสนใจ ถ้าเราเข้าไปติดต่อตามคลินิค หรือ รพส.ที่รู้จัก เพื่อเอามาเป็นลิสรายชื่อสถาณพยาบาลที่เข้าร่วมกับโครงการฯ คล้ายกับระบบประกันสังคม หรือประกัน ที่มีรพ./คลินิคในเครือ ถ้ากระจายในจุดใหญ่ๆก็จะดี ๑. ได้คลินิค หรือรพส.ที่เรามั่นใจได้ กระจายตามจุดต่างๆในกรุงเทพ หรือจังหวัดอื่น อย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต เพื่อง่ายกับการตรวจเช๊คไม่ว่าเรื่องอาการหรือค่าใช้จ่าย ๒. ขอราคาเรทพิเศษ ๓. ถ้าสามารถจ่ายโดยตรงจะลดขั้นตอนเรื่องเอกสาร และความสับสนอย่างมาก ถ้าหมอคนไหนใจป้ำพอขอเครดิตการจ่ายเงิน ชื่อรพส.หรือคลินิคนั่นจะอยู่อันดับต้นๆ ^0^ ๔. การที่เราพาเข้ารพส.เดิมที่รู้จักและมีเครดิต ทำให้สามารถประมาณค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และจัดสรรการเบิกจ่ายได้ง่ายขึ้น ๕. นอนก่อนนะ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 05:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม แต่อยากได้เลข ๑๙ ^____________________^ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 05:27:46 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ว่าไงว่ากันครับ ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ แนวคิดคุณ outside islander ใน 18 ดีครับชอบและเป็นไปได้ แต่อยากทราบว่า 1.  แมวที่มีคนรับไปแล้วตั้งแต่เริ่มโครงการ มีการติดต่อเจ้าของบ้างไหมครับ ว่าตอนนี้เค้าเป็นยังไง สบายดี/มีคนใจร้ายเอาไปทิ้งแล้ว   แล้วเราจะทราบได้ยังไงว่าสบายดีอยู่จริงๆ   สำหรับคนรับไปแล้ว   ผมว่าหากคนที่มารับไปแล้ว  แมวเกิดไม่สบาย เอาไปหาหมอ ก็ควรออกค่าใช้จ่ายเอง เหมือนเราเลี้ยงลูก ลูกไม่สบายเราจะกล้าไปขอเงินคนอื่นมารักษาหรือ   เมื่อเราจะรับอีก 1 ชีวิตมาดูแลเราควรแน่ใจว่าพร้อมจริงๆนะครับ จากคุณ : PUEK - [ 13 ต.ค. 51 06:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดีใจที่ป้ารักษ์กลับมาแล้ว เห็นด้วยกับ คคห.12คุณ piggy colon คุณหนิง และคุณรัต ค่ะ ส่วนเรื่องการสำรองจ่ายค่ารักษาไปให้ก่อนที่คุณรัตบอกขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ ให้แบ่งจ่ายคืนโครงการ เป็นงวด ๆ ละเท่าไหร่ก็ว่ากันไป และขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการรักษาว่ามากหรือน้อย  เช่นหากใช้เงินรักษามากก็ระบุไปเลยว่าต้องนำเงินมาคืนโครงเป็นระยะเวลากี่เดือน จะได้มีเงินหมุนเวียนสำหรับเคสอื่น ๆ ด้วย ขอคิดอีกรอบนะคะ ตอนนี้คิดได้เท่านี้ง่ะคะ เข้าห้องแมวทุกวันก๊าบ (ตอนเย็น ๆ ) ยิ่งวันอาทิตย์มะได้ขายของ เข้าได้ทั้งวันค่ะ แต่อาจมีบางอาทิตย์ที่ไปทำธุระบ้าง แต่กลับก็มาก็จะเข้าห้องแมวประจำ มีอะไรให้ช่วยบอกได้ค่ะ จากคุณ : ฉันจะมีความสุขทุกวัน (ฉันจะมีความสุขทุกวัน) - [ 13 ต.ค. 51 07:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ดีใจที่พี่รักษ์กลับมาแล้วค่ะ..เย้เย้เย้..แมวน้อยทั้งหลายยังมีคนดีคอยช่วยอยู่..ดีใจจังเลยค่ะ.. จุ๊บ จุ๊บพี่รักษ์น๊าค๊า..เย้ เย้ เย้ จากคุณ : มะหมา+มะเหมียว - [ 13 ต.ค. 51 07:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ดีใจที่โครงการเปิดตามปกติ สงสารพี่รักษ์ อ่ะ ทำงานหนัก และเหนื่อยมั่ก มั่ก แบ่งงานกันไปก็ดีค่ะจะได้ไม่โหลด ที่คนคนเดียว มีไรให้ช่วยก็บอกได้นะคะ ยินดีเสมอค่ะ - เห็นด้วยกับการที่จะหาคลีนิคเพื่อร่วมในโครงการฯ ขอส่วนลดพิเศษให้กับโครงการ แต่เรื่อง ขอเครดิตในการจ่ายเงินด้วยจะได้มั้ยอ่ะคะ อย่างเช่น 15 วัน หรือ 30 วันเนี่ยค่ะ หรือจะเป็นการเพิ่มภาระในคลีนิคที่ร่วมโครงการฯ อ่ะ อันนี้เสนอให้พิจารณาค่ะ - แล้วเรื่องการประมูลของเพื่อหาเงินเข้าโครงการฯ เนี่ย พี่รักษ์ต้องกระจายงานให้ใครด้วยมั้ยคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 07:56:14 จากคุณ : black kitty - [ 13 ต.ค. 51 07:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เย้...โครงการกลับมาแล้วววว การบ้านของคุณรักษ์ ป้าเหมียวคงยังช่วยให้คำตอบอะไรมิได้มากนัก เพราะเพิ่งเข้ามาเล่นห้องแมวได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จริง ๆ ก็คือ ไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่เป็นจุดอ่อน หรือ จุดแข็งของโครงการ ขอตัวเป็นผู้สังเกตการณ์ ของการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ก่อน ก็แล้วกันนะคะ จากคุณ : ทาสในเรือนมิ้วว - [ 13 ต.ค. 51 07:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : ซีเหน่หาx2 - [ 13 ต.ค. 51 07:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาดีใจ ............ เย้  เย้  เย้ ......... จากคุณ : cattym - [ 13 ต.ค. 51 08:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับการกระจายงาน / แจกจ่ายงายที่ป้ารักษ์นำเสนอ เห็นด้วยกับ คห. 12 / 15 / 17 / 18 และ 20 โดยเฉพาะ คห. 20 ที่เกี่ยวเนื่องกับ คห. 12 *ติ๊งหน่อง* อยากให้มีการรายงานความคืบหน้าการนำแมวจรไปเลี้ยงทุกๆ 1 เดือน เป็นระยะเวลาสัก 1 ปี เพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ ในการเลี้ยง เพื่อติดตามความคืบหน้า รวมทั้งเป็นแนวทางในการประเมินผลโครงการหาบ้าน ส่วนเรื่องที่นำแมวจรไปเลี้ยงได้สักระยะเวลาหนึ่งแล้ว... เลี้ยงไม่ไหว อยากจะนำกลับมาหาบ้านใหม่ / ผู้อุปการะรายใหม่ (ตาม คห.17) >>> ยังนึกไม่ออกเลยอ่ะว่าน่าจะมีกติกาอย่างไรบ้าง จากคุณ : zardamonoxication (zardamon) - [ 13 ต.ค. 51 08:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชะอุ๊ยยยยยย... อย่าลืม โหวตกระทู้ ด้วยนะคร้าบบบ... จากคุณ : zardamonoxication (zardamon) - [ 13 ต.ค. 51 08:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : เหมียวตั้ม - [ 13 ต.ค. 51 08:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กรณีแมวป่วยเมื่อรับไปแล้วนี้เพื่อนที่ทำงานก้อเจอค่ะ รับมาวันเสาร์วันจันทร์ป่วยหมอบอกเป็นหัด แต่เพื่อนก้อพาไปรักษาเองน่ะค่ะก้อไม่บ่นรัยกลัวแมวไม่รอดมากกว่าตอนนี้หายดีแล้วค่ะ   ค่ารักษาก้อเยอะเหมือนกันเกือบห้าหลักอ่ะค่ะ ถ้าเป็นแบบให้ผ่อนใช้ก้อดีค่ะเพื่อที่คนรักแมวแต่ไม่มีกำลังจะได้มีโอกาส  แต่จะผ่อนยังงัยไม่ให้เป็นหนี้เสียนี้ซิยากจัง จากคุณ : พบพลอย - [ 13 ต.ค. 51 08:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาช่วยสรุป และให้กำลังใจกับคุณรักษ์ และพี่ๆ น้องๆ ทุกคนค่ะ โครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร * แมวในโครงการ oo แมวจร +++ คุณสมบัติแมว #### ปัจจุบันและอนาคตไม่มีที่พักพิง หรือไม่ปลอดภัย #### ต้องหาบ้านในอนาคต +++ สถานภาพสิ้นสุด #### มีบ้าน #### ตาย oo แมวบ้าน +++ คุณสมบัติแมว #### พิการ ต้องดูแลเป็นพิเศษ #### อุบัติเหตุ +++ สถานภาพสิ้นสุด #### ตาย oo อดีตแมวหาบ้าน +++ เป็นโรคติดต่อร้ายแรง +++ ต้องรักษาต่อเนื่องตลอดชีวิต +++ พิการ ต้องดูแลเป็นพิเศษ +++ สถานภาพสิ้นสุด #### ตาย oo ผู้อุปการะ +++ มี login +++ ต้องตั้งกระทู้ขอเบิก และรายงานทุก 2อาทิตย์ +++ ต้องดูแลรับผิดชอบแมวเอง * โครงการ oo ช่วยรักษาพยาบาล +++ ผู้อนุมัตเคส #### ภาคกลางวัน ***** คุณเหมียวอารีย์ ***** คุณโออาอิชิ #### ภาคกลางคืน ***** คุณเปิ้ลทิวลิป ***** คุณหนิง NSY oo แมวหาบ้าน +++ ผู้ดูแล #### SaNoyNa #### กินดะ +++ จัดหาบ้าน #### เบื้องต้นอยู่กับผู้อุปการะช่วยคราว +++ รับคืน หรือช่วยค่ารักษา เมื่อ #### เป็นโรคติดต่อร้ายแรง #### ต้องรักษาต่อเนื่องตลอดชีวิต #### พิการ ต้องดูแลเป็นพิเศษ oo รักษ์แมวสัญจร +++ ผู้ดูแล #### หมออ๊อบ * การเบิกจ่าย oo ค่ารักษาพยาบาล +++ ต้องตั้งกระทู้ #### แจ้งสถานที่พบแมว รายละเอียด และรูป #### Update ข้อมูล ทุก 2 อาทิตย์ จนกว่าจะสิ้นสุดสถานภาพ +++ เอกสาร ส่งไปที่ rakmaw@gamil.com หลังได้รับการอนุมัติ #### สำเนาบัตรประชาชน #### สำเนาใบเสร็จรับเงิน #### email/เบอร์โทรติดต่อกลับ #### หมายเลขบัญชี / ธนาคาร / ชื่อบัญชี +++ ควรรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ในโครงการ (เพื่อโอนเงินเข้าโดยตรง) #### รพส. เกษตร #### คลินิคหมอจอม oo การอนุมัติ +++ แจ้งทางหน้าเว็บ และติดต่อกลับผู้ขอเบิก * การเงิน oo ผู้ดูแลบัญชี +++ คุณข้าวแต๋นน้ำแตงโม oo email การขอเบิก การโอนเงินช่วย +++ rakmaw@gmail.com oo เบิกจ่าย เมื่อมีผู้อนุมัติหรือผู้ดูแลขอเบิกเท่านั้น oo เงินบริจาค +++ หยอดกระปุก +++ ระบุเคส #### ส่วนที่เหลือจากการเบิก ต้องหยอดกระปุก oo ผู้รับโอนเงิน +++ ผู้ดูแล +++ ผู้อุปการะ +++ รพส. / คลีนิค ดีใจที่ทุกคนมีส่วนร่วม และช่วยเหลือกันด้วยใจจริงค่ะ จากคุณ : hyper - [ 13 ต.ค. 51 08:56:53 A:10.20.58.82 X:203.149.16.43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ดีใจด้วย ค่ะ จากคุณ : honeybfit - [ 13 ต.ค. 51 09:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดแม่ปี้ฉีดามเจ๋งมากๆค่ะ  เราช่วยๆ กันหาคลีนิค  ให้โครงการติดต่อโดยตรง  เวลามีแมวเจ็บป่วยฉุกเฉินจะได้มีความรวดเร็ว ในการรักษาในเครสเร่งด่วนด้วย แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 09:08:30 จากคุณ : น้องจ้มกุด~ - [ 13 ต.ค. 51 09:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34     จากคุณ : ~ เหมียวอารีย์ ~ - [ 13 ต.ค. 51 09:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอร่วมด้วยช่วยออกความคิดเห็นคะ ถ้าเป็นแมวที่รับไปเลี้ยงเราน่าจะประกันสุขภาพให้อาจจะซัก 3 เดือน หลังจากนั้นเจ้าของต้องเป็นคนดูแลคะ หากเป็นปีแล้วยังต้องขอเงินโครงการไปรักษามันก็ดูเกินไปหน่อย เพราะเขารับไปเลี้ยง เจ้าตัวน้อยก็เป็นคนของครอบครัวไปแล้ว ครอบครัวก็ควรรับผิดชอบดูแลเขา เราคารจะได้เอาเงินไปรักษาแมวที่เป็นแมวจรจริง ๆ คะ เป็นกำลังใจให้คะ จากคุณ : โป้งจัง - [ 13 ต.ค. 51 09:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ดีมากๆเลยค่ะ มาโหวต จากคุณ : cardiogenic - [ 13 ต.ค. 51 09:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้ก็มี รพส.หมาแมวยิ้มแฉ่ง ลาดพร้าว 101 เข้าร่วมโครงการได้ เช่นถ้าเพื่อน ๆ พบแมวจรเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็นำส่ง รพส.ก่อน แล้วให้ผู้รับผิดชอบโทร.บอกคุณหมอ ก็ไม่ต้องสำรองจ่าย(ป้าทำอย่างงี้ประจำ) บางครั้งถ้ารอตั้งกระทู้ก็จะช้าไป เมื่อนำส่งแล้วค่อยมาตั้งกระทู้ แต่ขอให้เป็นกรณีฉุกเฉินนะคะ เพราะการรับเคสควรจะมีการคัดกรองก่อน  ไม่อย่างงั้นโครงการงานเข้าตายเลย เช่นแมวได้รับอุบัติเหตุ เจอแมวจรป่วยหนักถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีจะเป็นอันตราย ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขก็จะไม่จ่าย ถ้าไม่ฉุกเฉินก็อาจจะพิจารณาส่งไปคลีนิคของโครงการที่ราคาย่อมเยากว่า ต้องยอมรับนะคะว่านำเข้ารักษาที่ รพส.ราคาย่อมสูงกว่าคลีนิคของโครงการ เคสไหนประหยัดได้ก็ควรประหยัด  เพื่อจะได้เฉลี่ยการช่วยเหลือไปยังเคสอื่น ๆ แมวจรที่ต้องการความช่วยเหลือมีมากมาย     เท่าที่นึกออกตอนนี้ได้แค่นี้ มันสมองน้อยกว่าคุณรัตน์อีก เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นทุกประการ จากคุณ : iluvtravel - [ 13 ต.ค. 51 09:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เย้ๆ ดีใจที่โครงการกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติแล้ว เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ของพี่รักษ์และข้อเสนอแนะต่างๆ แหะๆ ไม่ช่วยทำการบ้านเลยวุ้ย เป็นกำลังใจให้พี่รักษ์และโครงการรักษ์แมวค่ะ จากคุณ : เพ่มู๋ยูกน้องนู๋ฝ้าย (DL4 1EX) - [ 13 ต.ค. 51 09:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เย้ๆๆๆ....โครงการไม่ปิดแว๊ววว...ดีเอ๋ยดีใจ...หุหุ จากคุณ : KaNaR_ThE_CaT - [ 13 ต.ค. 51 09:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ป้ารักษ์ ..   ภาพใน คห.10  ไม่มีคู่ .. เอาภาพป้ารักษ์นอนตีพุง มาคู่ให้หน่อยจิ...  จะได้สมบูรณ์   จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 13 ต.ค. 51 09:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะมีการทำทะเบียนว่าใครรับผิดชอบแมวจรยังไงบ้าง เพราะป้าเองก็ไม่สบายใจนักเพราะมีทั้งแมวลี้ภัย แมวตัวเอง และแมวลี้ภัยที่โอนมาเป็นแมวตัวเอง หลังจากได้รับแจ้งจากคุณรักษ์แล้ว ป้าก็มาแยกปรากฏว่าแมวลี้ภัย (นอกจากแมวสยามที่ดุเหลือเกิน แมวที่ติดโรคช่องท้องอักเสบ) มีแมวหาบ้านที่รอคิวไปหาบ้านอยู่แค่ 10 ตัว เป็นแม่แมว 3 ลูกแมว 7 หลังจากทำวัคซีนครบ 2 ครั้งก็จะเอาไปหาบ้าน เพราะเคยเอาไปหาบ้านแล้วเป็นหัดตายยกล็อต ก็เลยอยากให้เค้ามีภูมิคุ้มกันเสียก่อน เพราะเอามาเลี้ยงแล้วก็ผูกพันธ์ กว่าจะตัดใจเอาไปหาบ้านได้ แต่ก็ต้องหาบ้านให้เค้า เพราะถ้าไม่หาก็จะไม่สามารถช่วยรายใหม่ได้  เดี๋ยวงานเสร็จแล้วจะทำทะเบียนว่ามีแมวตัวไหนบ้างที่เข้าข่ายขอความช่วยเหลือจากโครงการได้ เพราะอะไร ดุหรือว่าป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรง  หรืออยู่ระหว่างรอหาบ้าน ทำรายชื่อแจ้งโครงการไว้เลย นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นแมวที่ป้าต้องรับผิดชอบเอง ถ้าไม่เอาออกหาบ้าน ตรงนี้แหละที่ป้าหนักใจ เพราะลูกสาวเป็นคนใจอ่อนแล้วก็รักแมวมาก พอเลี้ยงไปเค้าก็จะรักไม่ยอมเอาออกหาบ้าน ไป ๆ มาๆ แมวหาบ้านก็จะเป็นแมวส่วนตัวไปเสียหมด จากคุณ : iluvtravel - [ 13 ต.ค. 51 09:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับคุณรักษ์ เห็นด้วยกับทุกๆคนที่เสนอมา น้อมรับเงื่อนไขตามนั้นทุกประการค่ะ... จากคุณ : พิมปะการัง - [ 13 ต.ค. 51 09:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เย้ๆๆๆๆ ดีใจที่โครงการกลับมาแล้ว เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะค๊า จากคุณ : MeawKing - [ 13 ต.ค. 51 09:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ยินดีที่เห็นป้ารักษ์กลับมาแข็งแรงขึ้นแล้ว เรื่องกฎเกณฑ์ขอเวลาทำความเข้าใจก่อนนะคะ เช้านี้ยังมึนๆ อยู่ ป้ารักษ์ เข้าไปคลายเครียดมายัง http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7086736/J7086736.html จากคุณ : ban_ri - [ 13 ต.ค. 51 09:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เย้ :-)ีใจป้ารักษ์กลับมาแล้ว มีการแบ่งหน้าที่ก็ดีนะคะ  คนเดียวหนักเกิน จากคุณ : เทวดามิคาเอล - [ 13 ต.ค. 51 09:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขออนุญาตนิดนึงค่ะ จาก............ ความคิดเห็นที่ 8   เรื่องต่อมา คือ เรื่องการอนุมัติเคส ป้ารักษ์ อยากได้คนช่วยค่ะ   อย่างถ้าเกิดมีกระทู้ แบบฉุกเฉิน ไปเจอแมวกลางถนน รถชน  จะได้ไม่ต้องรอให้ป้ารักษ์มาอนุมัติ ตรงนี้ ขออาสาสมัครหน่อยค่ะ อย่างภาพกลางวัน  พี่เหมียวอารีย์  หรือ คุณโออาอิชิ  ได้หรือเปล่าค่ะ หรืออย่างภาพกลางคืน  พี่เปิ้ลทิวลิบ หรือคุณหนิง NSY  ได้หรือเปล่าค่ะ เสาร์อาทิตย์นี่ ใครเข้าห้องแมวบ้างอะค่ะ  ขออาสาสมัครหน่อยค่ะ  เดี๋ยวป้ารักษ์จะได้แจ้งรายละเอียดการพิจารณาเคสให้อีกทีว่า  ต้องมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง จริง ๆ แล้ว หลักใหญ่  ถ้าเค้าแจ้งว่า สถานที่เกิดเหตุหรือพบแมวที่ไหน ก็พอจะสันนิฐานได้อะค่ะ ว่าน่าจะเป็นแมวจร อ่านถึงตรงนี้แล้ว  เพื่อนๆ  แนะนำหรือให้ข้อคิดเห็นมาได้นะคะ ......................................... ขออนุญาตไม่รับการอนุมัติเคส ในช่วงกลางวันค่ะ เพราะไม่สะดวกในการรับโทรศัพท์เลย (เดี๋ยวตกงานนนนนนนน..) ขอเป็นตัวช่วยในการส่งของทางไปรษณีย์ดีกว่าค่ะ เช่น ส่งปฎิทิน ส่งของประมูล ฯลฯ หรืออื่น ๆ ที่พอช่วยได้ ลองดูว่า ใครที่พอจะเสนอตัว และมีเวลาว่างในการสกรีน + อนุมัติเคสต่าง ๆ ดีกว่าค่ะ จากคุณ : ~ เหมียวอารีย์ ~ - [ 13 ต.ค. 51 10:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วนเรื่องแมวหาบ้านที่ไปป่วยทีหลัง พิจารณาเป็นราย ๆ ไปได้ไหมคะ ว่าตรงไหนเป็นความรับผิดชอบของโครงการ เมื่อหาบ้านให้แมวก็อยากจะให้เค้าได้คนที่พร้อมจะรับผิดชอบดูแลเค้า ไม่อยากให้มีกรณีที่เห็นแมวสวยก็อยากได้ แต่พอเค้าป่วยก็ไม่อยากรับผิดชอบ เป็นการตัดโอกาสที่จะได้บ้านที่ดี ๆ ของแมว อย่างขอไปนานแล้วจะให้โครงการรับผิดชอบค่ารักษาก็เกินไป จากคุณ : iluvtravel - [ 13 ต.ค. 51 10:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พอจะช่วยรับเคสได้ทั้งกลางวันกลางคืน แต่ไม่ขอเป็นผู้อนุมัติได้ไหมคะ รับเคสช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วส่งต่อผู้อนุมัติอีกที คือเป็นคนใจอ่อนแล้วหูเบา อยากช่วยเหลือเค้าไปหมด เกรงจะเป็นจุดอ่อนค่ะ จากคุณ : iluvtravel - [ 13 ต.ค. 51 10:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มาแจ้งเพิ่มว่า  ได้รับของแล้วนะครับกับกระทู้ประมูล  ขอบคุณครับ จากคุณ : PUEK - [ 13 ต.ค. 51 10:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกะ ข้อสรุปของ คห.ที่ 31 ค่ะ แล้วก็เห็นด้วยกับ คห.ที่ 35 ค่ะ ช่วงแรกๆที่รับแมวมา แมวอาจมีปัญหาบ้างนิดหน่อย เช่นติดหวัดจากแมวที่ไปหาบ้านด้วยกัน อาจจะเจอฝนตกตอนหาบ้านแล้วแมวไม่สบาย โครงการอาจแนะนำให้ไปหาหมอที่ช่วยโครงการอยู่ เช่นลดหย่อนค่ารักษาอะไรประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้นู๋ก็เหมือนคุณทาสในเรือนมิ้วค่ะ เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ยังไม่รู้เรื่องอะไร ยังช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ช่วยได้แค่เป็นกำลังใจ ช่วยได้แต่วันที่พาแมวไปหาบ้านนิดๆหน่อยๆค่ะ ดีใจที่โครงการกลับมา เอาใจช่วยให้ทุกคนทำงานได้อย่างสะดวกราบรื่นนะคะ จากคุณ : Rikan - [ 13 ต.ค. 51 10:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกับการกระจายงานค่ะ มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะคะ จากคุณ : Clouseau - [ 13 ต.ค. 51 10:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แมวจรรอดแล้วเย๊ๆๆๆๆๆ เป็นกำลังใจให้พี่รักษ์และทีมงานทุกๆคนต่อไปนะคะ จากคุณ : your_natty - [ 13 ต.ค. 51 10:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ดีใจนะคะที่คุณรักษ์กลับมา เสาร์-อาทิตย์ทั้งกลางวันกลางคืนเพราะโรงเรียนปิดเลยว่าง สามารถรับเคสได้แต่ก็เหมือนคุณiluvtravel ไม่กล้าที่ตัดสินใจเรื่องเคสอ่ะค่ะ ช่วยอย่างอื่นได้ก็ยินดีนะคะ จากคุณ : นู๋ต้นอ้อ - [ 13 ต.ค. 51 10:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พูดถึงเรื่องคลินิคในโครงการ เราควรจะได้รับแจ้งจากเจ้าของเคส ทางหน้ากระทู้ หรือทางโทรศัพท์ก่อนพาไปรักษา   เพื่อคอนเฟิร์มกับหมอว่า  เป็นเคสของทางโครงการจริง  เพื่อป้องกันผู้แอบแฝง  (หมอมักจะบ่น ทำนองว่า  ผมคิดราคาพิเศษกับแมวจรของโครงการ เพราะมีเคสมาเยอะ แต่ถ้าเป็นทั่วไป ผมคิดอีกราคาหนึ่งอะ) แล้วปัญหาคือ พอเราคอนเฟิร์มกับหมอแล้ว เจ้าของเคสรักษาเสร็จ เอาแมวกลับ  ทิ้งค่าใช้จ่ายไว้ให้ ป้ารักษ์ไปเคลียร์กับหมออะ  ป้ารักษ์ไปเคลียร์ที ใบเสร็จเพียบเลยอะ ทำไปทำมา กลายเป็นเคสของป้ารักษ์เลยอะ ซึ่งจริงๆ  เค้าต้องได้รับตัวเลขว่า ค่ารักษาเท่าไหร่ เพื่อโพสต์สรุปค่าใช้จ่ายเคสของเค้า  คนทำบัญชีจะได้ทราบ  ผู้บริจาคจะได้รับทราบโดยทั่วถึงกันอะค่ะ  อันนี้ก็กลายเป็นว่า  เจ้าของเคส รับทราบตัวเลข รับใบเสร็จรับเงินมาเพื่อโพสต์กระทู้ แล้วก็ไม่ได้ส่งใบเสร็จกลับมาให้ป้ารักษ์   ตรงนี้   ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 10:32:02 จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 10:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อ้าว. ทำยังงั้นได้ไงล่ะ พาแมวไปรักษา แล้วทิ้งให้รักษ์ไปเคลียร์ใช้จ่าย ไม่ค่อยถูกต้องนักน่ะแบบนี้ จากคุณ : ~ เหมียวอารีย์ ~ - [ 13 ต.ค. 51 10:34:33 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ดีใจที่คุณรักษ์ นางฟ้าของแมวจรกลับมาอีกครั้ง เราว่าเรื่องขอคืนแมว เราว่าก็น่าจะรับคืนทุกกรณีนะคะ เพราะถ้าคนที่เอาไปแล้วไม่อยากเลี้ยงแล้ว คงปล่อยแมวทิ้งขว้าง สงสารแมว จากคุณ : ไอวี่ *-ivy-* - [ 13 ต.ค. 51 10:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ดีใจจัง ที่ป้ารักษ์ กลับมาแล้ว ..... จากคุณ : น้องซาซ่า - [ 13 ต.ค. 51 10:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์การพิจารณา และการกระจายงาน ดีใจมากๆๆๆ ที่ คุณรักษ์ กลับมานะคะ จากคุณ : Nannaphas - [ 13 ต.ค. 51 10:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ดีใจคะ ที่ยังมีโครงการดีๆ อยู่ต่อไปอีกนานๆ จากคุณ : ก๊วนมังกรหยก - [ 13 ต.ค. 51 10:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มาให้กำลังใจกับคนดีๆ ที่ทำโครงการดีๆ นะคะ ตั้งแต่เริ่มเลี้ยงแมวมา3ปีกว่าก็วนไปวนมาในห้องแมวตลอด เห็นโครงการดีๆก็แอบชื่นชมอยู่ในใจ แต่หลังๆนี้รู้สึกว่าการชื่นชมอย่างเดียวมันคงไม่พอแล้วหล่ะค่ะ การออกแรงทั้งกายและใจก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน มีงานอะไรเรียกกรรมกรคนนี้ได้เลยค่ะ ^^ จากคุณ : = มั น อ ยู่ ที่ จั ง ห ว ะ = - [ 13 ต.ค. 51 10:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่ค่อยได้โพสหรือว่าตอบกระทู้ Log in เลยไม่ค่อยจะคุ้นกัน แต่ว่าเข้าห้องแมวทุกวันหรือทุกครั้งที่มีโอกาส ก็ได้ติดตามกระทู้ปิด โครงการรักษ์แมวมาโดยตลอดและก็ยินดีอย่างยิ่งที่รู้ว่าคุณรักษ์กลับมาช่วยต่อแล้ว เห็นด้วยอย่างยิ่งนะครับ ที่จะกำหนดอะไรให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เพราะไม่อย่างนั้นแล้ววันนึงคนทำงานอาจรู้สึกท้อใจจนถึงเลิกทำไปในที่สุด ดังนั้นผมคิดว่าเราควรวางโครงสร้างของโครงการให้ชัดเจนครับ ว่าเราจะประกอบไปด้วยส่วนใดบ้าง ตามรูปผมได้ลองตั้งขึ้นมาคร่าวนะครับ เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้ช่วยกันคิดต่อ อย่างตามภาพผมได้วางโครงสร้างให้มี ประคณะกรรมการ ซึ่งจะมีหน้าที่ กำกับ ดูแล ควบคุมการดำเนินงานของโครงให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ต่อมาจะเป็นส่วนของ คณะกรรมการ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องช่วยกันคิดครับว่าคณะกรรมการควรจะมีกี่คน แล้วที่มาอย่างไร เช่นมาจากการแต่งตั้งของประธาน หรือจะให้สมาชิกเลือกขึ้นมาและคุณสมบัติของกรรมการจะเป็นอย่างไร โดยจะมีหน้าที่หลักๆ คือ กำหนดคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ต่างของโครงการ พิจารณาอนุมัติเคส ในส่วนของคณะทำงาน ก็แบ่งเป็น ฝ่ายบัญชี คณะทำงานในส่วนต่างๆ คือ ส่วนพิจารณาเคสเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นผู้ที่จะติดต่อกันผู้ที่ขอความช่วยเหลือกับโครงการ ส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณา และหากเป็นกรณีเร่งด่วนก็สามารถให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นได้ก่อน ส่วนงานด้านโครงการหาบ้านและรักษ์แมวจร อันนี้ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดเท่าไหร่นัก ต้องช่วยกันคิดต่อนะครับ ในแต่ละส่วนงานควรจะมีหัวหน้าเพื่อเป็นผู้ควบคุม ตัดสินในส่วนงานของทีมงานที่ดูแลอยู่ อันนี้เป็นแนวคิดนะครับ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมหรืออาจจะเป็นในรูปแบบอื่นก็ได้ครับ ซึ่งผมก็ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ทำให้โครงการรักษ์แมวอยู่ได้ต่อไปเพื่อแมวด้อยโอกาสทั้งหลาย ซึ่งก็รู้ว่ามันไม่ง่ายเพราะเป็นงานที่ไม่มีผลตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่เท่าที่ผมได้ติดตามห้องนี้มาตลอด อย่างโครงการหาบ้านที่จตุจักร ทุกท่านก็ได้ช่วยกันอย่างเต็มความสามารถ ผมมั่นใจว่ามันต้องเป็นไปได้ครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 10:53:16 จากคุณ : TurboAdd (turboadd) - [ 13 ต.ค. 51 10:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อยากช่วยแบ่งเบาภาระพี่รักษ์อยู่เหมือนกันครับ แต่บอกตรงๆเลยครับ  ช่วงนี้อ๊อบมีปัญหากับหัวหน้าอยู่พอสมควร เศรษฐกิจตกต่ำ  เคสน้อยลง + หัวหน้าเค้าจัดระเบียบการเงินไม่ดีเอง (ประมาณว่าสั่งของเข้ามาพร้อมๆกันหลายเจ้า  พอถึงกำหนดเก็บเงินก็โดนเดือนนึงเป็นแสน) หัวหน้าอารมณ์ไม่ดี  อะไรๆก็มาลงที่อ๊อบหมด  ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ตอนนี้เลย  ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ  อย่างยาถ่ายพยาธิ Pratel  ที่เคยฝากสั่งได้ สงสัยในอนาคตก็คงไม่ได้แล้วครับ    ไม่อยากมีปัญหากับหัวหน้ามากกว่านี้ครับ รอให้มีกิจการเป็นของตัวเองก่อน  ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีครับ   ============================================= ในเรื่องสั่งวัคซีน  คงต้องขอไว้ก่อนครับ  หาคนรับผิดชอบให้หน่อยครับ ส่วนเรื่องอื่นๆในการออกหน่วยรักษ์แมวสัญจร  ยังคงเดิมครับ  แต่จะพยายามถ่ายรูปหลักฐานให้ชัดเจนขึ้นครับ เวชภัณท์  อ๊อบยังคงจัดหาไปเองเหมือนเดิมครับ  เข็ม ไซลิงค์  สำลี แอลกอฮอล์ ยาทาแผล ยาม่วง  ยาฉีดขี้เรื้อน  ถุงมือยาง ไม้แคะหู   พวกนี้อยู่ในข่ายที่อ๊อบจัดการได้ครับ  ไปซื้อเอาเอง  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคลินิกที่อ๊อบทำงานอยู่ =============================================== ส่วนเรื่องขั้นตอนการออกหน่วยรักษ์แมวสัญจร   ลองเอาคร่าวๆดูก่อนครับ 1. ขั้นตอนการขออนุมัติจากโครงการ - ถ่ายรูป  ตั้งกระทู้นำเสนอเรื่องราว เพื่อขออนุมัติ ค่าวัคซีนจากโครงการ 2.หลังจากโครงการอนุมัติ - ต้องมีคนรับผิดชอบเคสนั้นๆ  โดยตรง  หรือเป็นผู้ประสานงานทั้งหมด   * ยกตัวอย่างวัดย่านฝั่งธน  คุณข้าวแต๋นน้ำแตงโมเป็นคนรับผิดชอบโดยตรง   * เมื่อได้รับการอนุมัติวัคซีนแล้ว  ติดต่อประสานงานนัดวันทำวัคซีนและแจ้งจำนวนแมวกับจุนหมอ เพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ฉีดวัคซีนให้พอกำจำนวนแมว   * ประสานงานหลวงพี่ และพี่ที่ดูแลแมว เพื่อนัดวัน  และจับแมวใส่กรงเพื่อรอทำวัคซีน 3.ก่อนเริ่มออกหน่วย - ก่อนถึงวันนัดทำวัคซีน 1 อาทิตย์ (เช้าวันจันทร์) ตั้งกระทู้รวบรวมอาสาสมัคร เพื่อช่วยในการออกหน่วย     * คนถ่ายรูป (หน้าที่สำคัญเพื่อความโปร่งใสของโครงการ  ว่าได้ไปทำวัคซีนจริง)   * คนจับแมว  (สำคัญมาก  ความปลอดภัยของจุนหมอ  และจำนวนแมวที่จะทำวัคซีนได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจับบังคับแมว)   * คนเตรียมวัคซีน (จุนหมอไม่รู้ว่า นุ้งสาวคนสวยจะว่างไปช่วยจุนหมอทุกครั้งได้หรือเปล่า ดังนั้นควรมีคน เตรียมวัคซีนสำรองไว้ 1 คนครับ)   * กรณีแมวมีจำนวนเยอะน่าจะมีคนช่วยทำตำหนิแมว 1 คน   ***  จริงๆถ้าเป็นไปได้  ควรนัดหมายให้คนที่ดูแลแมวบริเวณนั้น  หรือคนที่แมวไว้ใจมาช่วยด้วย  ไม่งั้นบางครั้งจับแมวไม่ได้เลยแมวไม่ยอมให้เข้าใกล้   * ก่อนถึงวันออกหน่วย 1 วัน  ตั้งกระทู้เตือนอีกหนึ่งครั้ง  นัดหมายคอนเฟิร์มสถานที่และเวลาจุดนัดพบ  สมาชิกที่ออกหน่วยครั้งนั้นๆ 4. การออกหน่วย - เมื่อรวบรวมคนครบที่จุดนัดแล้ว  ยังไงจะแบ่งหน้าที่แจ้งขั้นตอนการทำงานอีกครั้งครับ ============================================= ตอนนี้กะว่าคงจะรับออกหน่วยให้เสร็จไปเป็นทีล่ะที่นะครับ เนื่องจากถ้าเป็นการออกหน่วยครั้งแรก  จะต้องมีการกระตุ้นซ้ำในเดือนถัดไป   ดังนั้นถ้ารับพร้อมๆกันในเดือนเดียวหลายที่  นั้นจะเป็นภาระผูกพันติดต่อกัน ถึง 2 เดือน  เกรงว่าจุนหมอจะตายก่อนครับ มีใครรู้จักจุนหมอใจดีคนอื่นอีกไหมครับ  ชวนๆมาช่วยงานกันหน่อยเหอะ   แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 10:56:00 จากคุณ : kittyob - [ 13 ต.ค. 51 10:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ดีใจมากๆ เลยค่ะ  ^ ^ จากคุณ : Pootalayw - [ 13 ต.ค. 51 10:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รูปไม่ขึ้นครับ เอาใหม่ จากคุณ : TurboAdd (turboadd) - [ 13 ต.ค. 51 10:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ง่า...  อย่างแรก ดีใจนะคะที่คุณรักษ์กลับมา พร้อมกับอะไรดีๆ ที่จะทำให้โครงการดำเนิการต่อไปได้ดีขึ้น และเพื่อความโปร่งใสกับทุก ๆ ฝ่าย ขอบคุณค่ะ         อื่นๆ เดี๋ยวจะเข้ามาอ่านรายละเอียดค่ะ  ตอนนี้ งานเข้า แหะๆ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน - [ 13 ต.ค. 51 10:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ดีใจค่ะ ที่พี่รักษ์ กลับมาแล้ว ปลื้มใจน่าดูเลย ขอเป็นกำลังใจ กำลังกาย และ กำลังทุน เท่าที่จะสามารถทำได้นะคะ ขอเป็นแรงหนุน เบื้องหลังค่ะ  ขอรับอาสาเป็นกองหนุนเรื่องงานพาแมวหาบ้าน ขอเป็นแรง พูม่า ช่วยด้วยนะคะ (จะช่วย เท่าที่จะช่วยได้)  แต่คงไม่สามารถทำได้เต็มที่ เท่า ๆ กับเพื่อน ๆ ในโครงการค่ะ ถ้าหากว่าเป็นเสาร์ทำงานพอดี ก็ยากส์ที่จะขอลางานได้ (บริษัทหนู โหดน่ะค่ะ เรื่องลา)   มีโครงการอะไร ที่จะเป็นกำลังได้จะช่วยนะคะ @^_^@ === ขอออกความเห็นนิดนุง === เรื่องของการพาแมวไปรักษา แล้ว คนที่พาแมวไปรักษาแล้ว ทิ้งไว้ให้พี่รักษ์ ตามมาจ่ายเงินนี่ ขอประนามว่า คุณแย่ มากกกกกก !!!!     ทำไมทำแบบนี้ล่ะคะ   คงต้องแจ้งให้คลินิค ทราบแล้วล่ะค่ะ ว่าอนุญาตให้เป็นเงินโครงการไหม หมอถึงปล่อยกลับบ้านได้นะคะ ++++++++++++++++++++++++++++++ ยินดี ที่โครงการ ยังคงอยู่นะคะ จากคุณ : Meaw&&Font - [ 13 ต.ค. 51 11:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เรื่องรักษ์แมวสัญจร  ถ้าไม่สามารถหาจุนหมอท่านอื่นมาช่วยได้  สุดท้ายเมื่อถึงระดับนึงจะไม่สามารถ  รับเคสเพิ่มขึ้นได้ครับ เพราะทุกเคสเมื่อทำวัคซีนครบแล้ว  จะต้องไปกระตุ้นปีล่ะครั้ง  ซึ่งเป็นภาระผูกพันระยะยาวครับ ตัวอย่าง เดือน ก.พ. ของทุกปี  กระตุ้นวัคซีนแมววัดย่านฝั่งธน (ในความรับผิดชอบคุณข้าวแต๋นน้ำแตงโม) เดือน พ.ค. ของทุกปี กระตุ้นวัคซีนแมวย่านห้วยขวาง (พี่สมคิด) เดือน มิ.ย. ของทุกปี กระตุ้นวัคซีนแมวห้องรักษ์แมว เดือน ก.ค. ของทุกปี กระตุ้นวัคซีนแมว วัดหลวงพี่ใจดี (โออาอิชิ) เดือน ส.ค. ของทุกปี กระตุ้นวัคซีนแมว วัดป้อมยาม และวัดหมาแมวสามัคคี (แม่ไมโล) เดือน ก.ย. ของทุกปี กระตุ้นวัดบางพลัด (เช้านี้ยังมีเธอ) เดือน ต.ค. ของทุกปี กระตุ้นวัคซีนแมวบ้านป้านิดา นั้นคือตารางงานปีหน้าและทุกๆปีครับ   ดังนั้นถ้าหาหมอท่านอื่นมาช่วยเพิ่มไม่ได้จริงๆ   สุดท้ายมันก็จะมีขีดจำกัดในการออกหน่วยครับ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 12:02:05 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 11:18:09 จากคุณ : kittyob - [ 13 ต.ค. 51 11:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ดีใจจังเลยที่โครงการนี้ไม่ปิดตัวลง ดีใจแทนน้องเหมียวจร ขอบคุณทุก ๆ ท่านในโครงการนี้ ชีวิตน้อย ๆ มีหวังแล้ว เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่านนะคะ จากคุณ : my kara - [ 13 ต.ค. 51 11:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดีใจด้วยครับ.. จากคุณ : Kinkora - [ 13 ต.ค. 51 11:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แวะมาส่งกำลังใจให้คะ จากคุณ : sawkitty - [ 13 ต.ค. 51 11:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ดีใจด้วยค่ะ.... ขอเสนอความคิดนิดหนึ่งนะคะ ในเรื่องเกี่ยวกับคลีนิค หรือ รสพ ที่รับการรักษาเคสฉุกเฉิน ( กลางวัน และ กลางคืน ) ตรงในส่วนนี้ มองว่า ในเมื่อเราทุกคนพร้อมที่จะรับกฎเกณฑ์ และกติกากันแล้ว ขอเสนอให้เพื่อน ๆ สมาชิคในห้องแมว รวบรวมรายชื่อคลีนิค สถานพยาบาลสัตว์ ทั้ง 24 ชม หรือ ตามเวลาทำการ หมายเลขโทรศัพท์ ผู้ที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งที่อยู่ที่ถูกต้อง ( เชื่อว่าสมาชิคของห้องแมวมีจำนวนมาก และแต่คนก็มีคลีนิคที่ท่านเองเชื่อใจ และไว้ใจในการรักษา และราคา ) จากนั้น โครงการการณ์ ทำหนังสือขอความร่วมมือกับสถานพยาบาลเหล่านั้น เพื่อเข้าร่วมโครงการรักษาแมวจร ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งในหนังสือขอความร่วมมือเข้าโครงการ อาจจะระบุความเป็นมาของโครงการ และความความอนุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลในราคาพิเศษ และ ติดต่อชำระเงินโดยตรงจากโครงการ เป็นต้น อย่างน้อย คิดว่า อาจจะสามารถกระจายคลีนิคที่ร่วมเข้าโครงการณ์ได้เกือบครบทุกพื้นที่ หรืออย่างน้อย ก็จะได้เป็นทางเลือกให้ผู้ที่พาแมวไปรักษา ได้  โดยที่ไม่ต้องกลัวเรื่องการสำรองจ่าย และไม่ยุ่งยากในการอธิบายรายละเอียด รวมถึงการชำระเงิน และใบเสร็จรับเงิน จะได้ไม่หายด้วย ง่าย ๆ ก็คือ คล้าย ๆ กับโรงพยาบาลในโครงการณ์ประกันสังคม.. คือ ถ้าสามารถพาไปที่ สถานรักษาสัตว์นั้น ๆ ได้ ก็ขอให้ไปตามนั้นก่อน แต่หากฉุกเฉินจริง ๆ อันส่งผลให้เกิดการสูญเสีย หรือ ล่าช้าไม่ทันการณ์ ก็ให้พาไปที่ใกล้ที่สุด.. ในส่วนนี้ ไม่ทราบว่ามีความเห็นอย่างไรบ้างคะ.. จากคุณ : neenabkk - [ 13 ต.ค. 51 11:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอ่อ  เชียงใหม่ไม่รู้เรื่องกรุงเทพหรอกนะครับ แต่ว่าเรื่องการอนุมัติเคส  ผมว่า แนะนำให้ ทำเป็นเขตพื้นที่แบ่งดูแลมั้ยครับ เช่นเกิดรถชน (แมว) ที่นี่ ก็ติดต่อผู้ที่รับผิดชอบที่นี่ (ขอโทษครับ ใช้คำว่าที่นี่ เพราะไม่รู้ชื่อสถานที่เลย) แล้วผู้รับผิดชอบพื้นที่ ก็จะติดต่อคนที่เข้าขอรับการอนุมัติ  เพื่อรับคำแนะนำ  อาจจะหาคลีนิคใกล้ๆ  อาจจะพาแมวเข้ามาดูตัว หรือออกไปดูแมวที่นั่น  หรืออะไรก็ตาม  เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่รู้ทางดี สะดวกกว่า ว่องไวกว่า  จริงมั้ยครับ แต่ว่า  ผมไม่รู้ว่าอยู่กันครบทุกพื้นที่หรือเปล่านี่สิ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 11:56:01 จากคุณ : uppalux - [ 13 ต.ค. 51 11:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ก่อนอื่นยินดีกับแมวจรที่อย่างน้อยยังมีคนใจดี คอยประคับประคองชีวิตให้ดีขึ้น........... ขออนุญาตทุกท่านในการเสนอแนะความคิดเห็น เนื่องจากตนเองเพิ่งเข้ามาให้น้องนี้ได้ไม่ถึงปี จึงไม่ทราบว่ามีปัญหาในด้านการจัดการอย่างเป็นระบบ (เพราะเห็นว่าการหาบ้านก้อมีคนช่วยเหลืออยู่เป็นนิจ จึงไม่ทราบว่างานโดนส่วนใหญ่นั้น ป้ารักษ์ จะเป็นผู้รับผิดชอบ) จึงขอเสนอแนะให้ด้านการจัดการ ดังนี้ 1. list งานที่มีอยู่ทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง พร้อมทั้งเขียนภาระงานนั้นๆ โดยละเอียด และ แต่ละกลุ่มงานจะประกอบด้วยสมาชิกกี่ท่านในการดำเนินงาน ต้องมีหัวหน้า/ รองหัวหน้าทีม (กรณีฉุกเฉิน อย่างน้อย 1-2 ท่านต่อทีม) เช่น งานหาบ้าน 5 ท่าน ต่อแมว 30 ตัว จำนวน 2 ทีมหลัก, ฝ่ายประชาสัมพันธ์, ฝ่ายบัญชี, ฝ่ายจัดทำประวัติทั้งสมาชิกและแมว, รับรับประสุขภาพแมว (อันนี้เชิงธุรกิจไปมะ) เป็นต้น ต้องช่วยกันคิดให้ครบนะ จะได้แบ่งเบางานได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง (โดยต้องช่วยกันตั้งหลักเกณฑ์ เช่น กรณีหัวหน้าทีมไม่ว่างต้องใช้รองหัวหน้าแทน) 2. จัดทำ Organize Chart เพื่อให้ทราบตำแหน่งและภาระหน้าที่กันอย่างชัดเจน (กรณีลาออกต้องหาคนมาทดแทน) 3. รับสมัครหาอาสาสมัครในแต่ละตำแหน่ง 4. ระดมสมองในเรื่องปัญหาหรืออุปสรรคที่พบในแต่ละกิจกรรมที่ทำ (สำหรับคนที่เคยไปแล้ว) เพราะไม่ให้น้องๆ หน้าใหม่เจอปัญหา 5. จัดทำ network ทั้งสมาชิกและ คลินิกหรือโรงพยาบาล 6. etc., (ตามท่านอื่นๆ เห็นสมควร) ฝากรับไว้พิจารณานะ เหมือนๆ ว่าเป็นการบริหารธุรกิจ ทั่วๆ ไป แต่พวกเราทำด้วยใจ ได้ความสุขเป็นเงินเดือนตอบแทน เท่านั้นเองละ หากมีความผิดพลาดประการใดๆ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะจ๊ะ เออ สำหรับเรื่องจ่ายเงิน ตรงนี้  ขอคำแนะนำหน่อยว่า  ใครควรจะเป็นคนโอนเงินจ่ายให้กับแต่ละเคสดี เห็นสมควร >>>> คนอนุมัติเคส เพราะได้เห็นอาการน่าจะทราบค่าใช้จ่ายได้ และให้คนเก็บเอกสารการเงิน/ คนทำบัญชี เป็นผู้ตรวจสอบ เด่วมาอ่านต่อนะทำงานก่องจร้า.......... หากมีอะไรด้านให้ช่วยเหลือ ช่วยได้จะช่วยเต็มที่นะ.... แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 12:05:07 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 12:00:39 จากคุณ : Noo_winnie - [ 13 ต.ค. 51 11:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน เหอ ๆ ๆ ตื่นแล้ว อ่านดูคร่าวๆแล้ว ขอเพิ่มเติมของคุณรักษ์ กรณีเรื่องใบเสร็จในคลีนิค คหที่ ๕๔ -------------------- แล้วปัญหาคือ พอเราคอนเฟิร์มกับหมอแล้ว เจ้าของเคสรักษาเสร็จ เอาแมวกลับ  ทิ้งค่าใช้จ่ายไว้ให้ ป้ารักษ์ไปเคลียร์กับหมออะ  ป้ารักษ์ไปเคลียร์ที ใบเสร็จเพียบเลยอะ ทำไปทำมา กลายเป็นเคสของป้ารักษ์เลยอะ ซึ่งจริงๆ  เค้าต้องได้รับตัวเลขว่า ค่ารักษาเท่าไหร่ เพื่อโพสต์สรุปค่าใช้จ่ายเคสของเค้า  คนทำบัญชีจะได้ทราบ  ผู้บริจาคจะได้รับทราบโดยทั่วถึงกันอะค่ะ  อันนี้ก็กลายเป็นว่า  เจ้าของเคส รับทราบตัวเลข รับใบเสร็จรับเงินมาเพื่อโพสต์กระทู้ แล้วก็ไม่ได้ส่งใบเสร็จกลับมาให้ป้ารักษ์   ------------------------ อันนี้ อย่างที่คุณรักษ์บอก - ผู้อนุมัติเคสในเขตนั่นๆโทรแจ้งหมอ เพื่อเฟริมเรื่องราคา - ผู้อุปการะ/เจ้าของ <b>รับใบแจ้งหนี้ แทนใบเสร็จตัวจริง</b>มาเพื่อโพสกระทู้ - ผู้อุปการะ โพสค่าใช้จ่ายตามในแจ้งหนี้ พร้อมสรุปยอดที่หน้าทู้ - สรุปยอดที่ได้รับบริจาคเพิ่ม กรณีขอรับเพื่อเป็นรายเคส บวกลบคูรหารเหลือเท่าไหร่ ว่ามา - เก็บใบเสร็จตัวจริงที่คลินิค พร้อมสั่งจ่าย *** เพราะฉะนั่น เวลานำสัตว์ออกจากคลินิค จะป็นใบแจ้งหนี้ ไม่ใช่ใบเสร็จตัวจริง ใบเสร็จไม่หาย ได้รู้ยอดก่อน อีกอย่าง ถ้าแต่ละเคส แบ่งออกเป็น - เจ้าของเคส คือ เจ้าของ/ ผู้ดำเนินการรักษา - ผู้สนับสนุน คือ โครงการฯ (เพื่อยืนยันในราคาของแมวจร) - สั่งจ่าย ตีไปเลยว่า เจ้าของ หรือ โครงการ (เจ้าของจ่ายเองได้ใบเสร็จ โครงการจ่ายได้ใบแจ้งหนี้) เผื่อบางท่านเห็นว่ายอดน้อย จ่ายไปเองไม่ต้องรบกวนโครงการ อีกอย่างน่าจะมีกรณีนี้มั่วนิ่มมา เจ้าของรับไปแล้วไม่นาน ป่วยรับผิดชอบเอง แต่ขอราคานิดนึงจะได้เจ็บตัวน้อยหน่อย อันนี้โครงการจะรับรองเป็นผู้สนับสนุนมั่ย คหที่ ๖๑ เห็นด้วย เราน่าจะทำเป็นโฟรชาร์ตเพื่อให้คนอื่นที่เข้ามาหลังๆเข้าใจง่าย สรุปในตำแหน่งและหน้าที่กันก่อน ว่าควรมีอะไรบ้าง แบ่งเป็นฝ่ายๆ แต่ละฝ่ายมีหลัก๑คน ช่วยอีกคน เผื่อหลักชำรุด ขอเวลาคิดที่เหลืออีกหน่อยเน้อ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 12:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาดีใจครับ อยากให้มีโครงการดีๆแบบนี้ต่อไปครับ ขอให้กำลังใจเต็มที่เลยครับ จากคุณ : jonenike - [ 13 ต.ค. 51 12:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 76 อยู่เชียงใหม่เหมือนน้องอับ ขอสังเกตการณ์ไปก่อน เป็นกำลังใจให้นะคะ ดีใจจัง โครงการกลับมาอีกครั้ง จากคุณ : หนูเหมียว (meow_jr) - [ 13 ต.ค. 51 12:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องแผนทำวัคซีนที่คุณหมออ๊อบกล่าวถึง แคทเห็นด้วยค่ะ เนื่องจากเราทราบตารางการทำวัคซีนของแมวแต่ที่จุดอยู่แล้ว การวางแผนเรื่องกำลังคน สิ่งของที่ต้องใช้ น่าจะประเมินได้ก่อนล่วงหน้า ทำให้การทำงานไม่ยุ่งยากและยังปฏิบัติได้อย่างมีระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น ยกมือสนับสนุนค่ะ ----------------------------------------------------------------- กรณีแมวหาบ้านที่ถูกอุปการะไปแล้วเกิดป่วย โครงการฯ ควรรับหรือไม่?? ขอแสดงความเห็นว่า หากแมวป่วยหลังจากรับอุปการะจากโครงการฯ ไป เราอาจจะพิจารณาจากความรุนแรงของโรคนะคะ ยกตัวอย่าง เช่น ป่วยเป็นโรคหวัด อาการไม่หนัก รักษาให้หายได้ภายใน 1 อาทิตย์ รวมถึงเคสที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ผู้อุปการะน่าจะรับผิดชอบเองได้ แต่หากเพิ่งรับไปแล้วป่วยเป็นโรค **ย้ำนะคะว่าเป็นโรค เช่นโรคที่มีเวลาฟักตัว เกิดขึ้นพอดี แล้วเกิดเป็นโรคร้ายแรง ระยะการรักษาตัวเป็นเวลานานหรือค่าใช้จ่ายสูง เกินที่เจ้าของจะรับภาระคนเดียวได้ โครงการอาจจะช่วยส่วนหนึ่ง บวกกับเจ้าของช่วยออกค่าใช่จ่ายออกอีกส่วน แต่แคทก็มีความเห็นขัดแย้งตัวเองนิดหน่อยคือ การที่มีคนรับน้องแมวไปอยู่ด้วย ก็ต้องรับผิดชอบในชีวิตน้องแมว เพราะเจ้าของใหม่ต้องพิจารณาแล้วว่าสามารถดูแลแมวของตนเองได้แน่นอน ถึงแจ้งความประสงค์รับเลี้ยงแมว จะให้โครงการรับผิดชอบทุกอย่างหลังรับอุปการะไปแล้ว คงไม่เหมาะนะคะ **เราอาจให้เวลาซัก 2 เดือนหลังรับแมวไปแล้ว หากแมวป่วย ก็ยังสามารถขอความอนุเคราะห์จากโครงการได้ แต่หลัง 2 เดือนไปแล้ว หากแมวป่วยความรับผิดชอบจะอยู่ที่เจ้าของแค่เพียงผู้เดียว ***อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นนะคะ แหะๆ จากคุณ : แคท (Pussy_kittycat) - [ 13 ต.ค. 51 12:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มีอะไรให้ช่วยก็บอกเด้อ พี่รักษ์.. สู้ๆๆ เป็นกำลังใจให้เสมอนะค้าบบบ จากคุณ : Dino เหมียวจอมซ่าส์ - [ 13 ต.ค. 51 12:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ผมว่าเรื่องใหญ่ โครงการขนาดนี้ต้องจัดประชุมโดยพร้อมเพรียงและแบ่งงานกันให้ชัดเจน เห็นหน้าเห็นตากัน น่าจะเหมาะกว่าการมาโพสต์ในนี้ครับ จากคุณ : Fan Mint - [ 13 ต.ค. 51 12:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 80 นึกออกนิดหน่อย แวะมาเสนอก่อนค่ะ คนอนุมัติเคส คิดว่าควรจะมีกะละ 3 คน อนุมัติ สองในสาม ดีกว่ามั้ยคะ ลดความขัดแย้งด้วยค่ะ ถ้ามีเคสที่รอได้และกรรมการอนุมัติยังลังเลใจ หรือไม่กล้าตัดสินใจเองเพราะคุณสมบัติไม่ผ่าน100% ก็ตั้งทู้โหวดช่วยตัดสินเลยค่ะ ให้ head สำหรับแต่ละส่วนงาน พิจารณาตั้งทีมของตัวเอง ตามความเหมาะสมค่ะ (อาจจะมีทั้ง fix และหน่วยสนับสนุน) และก็ให้เป็นตัวแทนส่วนงานดิวกะบัญชี(หรือป้ารักษ์)ค่ะ บัญชีจะได้ทำงานสะดวกขึ้นไม่มึนมาก การตามเอกสารจากสมมุติ 5 คน จาก 5ส่วนงาน ง่ายกว่าตามจาก 50 คนมากมาย ยกตัวอย่างนะคะ คุณกินดะ เป็นหัวหน้าทีมหาบ้าน มีลูกทีม 10 คน ไปออกตลาด ถ้ามีค่าใช้จ่ายอะไรก็รวบรวมเอกสารให้ครบ แล้วก็เอาไปส่งป้ารักษ์(หรือบัญชี) ถ้าไม่ครบคุณกินดะต้องเป็นคนตามจากลูกทีมให้ครบ และเป็นผู้เซ็นเอกสารเบิกจ่ายด้วยตัวเอง หรือเซ็นกำกับกรณีลูกทีมเป็นผู้เบิก คล้ายๆ กับการทำบัญชีย่อยของหน่วยงานน่ะค่ะ เหมือนกับที่ทำอยู่ตอนออกตลาดทุกสัปดาห์ เพียงแต่มีผู้รับผิดชอบชัดเจนขึ้น และก็มีเอกสารเป็นรูปแบบมากขึ้น นึกออกแล้วจะมาใหม่ค่ะ จากคุณ : ban_ri - [ 13 ต.ค. 51 12:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ดีใจที่โครงการกลับมา ทุกปัญหามีทางแก้เนอะๆ อยู่ตจว.จะคอยให้กำลังใจและให้การสนับสนุนเท่าที่จะช่วยได้น๊า จากคุณ : jeab-diejang - [ 13 ต.ค. 51 12:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คห ๖๒ ของจุนหมอรูปหล่อ --------- ในเรื่องสั่งวัคซีน  คงต้องขอไว้ก่อนครับ  หาคนรับผิดชอบให้หน่อยครับ --------- ลองคุยกับรพส.หรือคลินิคที่สนิท หรือที่ขอเข้าร่วมโครงการดีเปล่าครับ อย่างหมอซี ^__^  หรือหมอจอม แบบนี้ ถือเป็นการฝากสั่ง เผื่อมาด้วย เพราะอาจจะได้เครดิตการจ่ายเงินของที่นั่นได้มาเป็นของแถม ว่าแต่ที่นี่ นอกจากจุนหมอรูปหล่อแล้วไม่มีใครเป็นสัตว์แพทย์ หรือ ดีเทลยามั่งเลยหรอ ส่วนผู้ประสานงานในการสั่งเข้าโครงการ รบกวนหมออ๊อฟได้หรือเปล่าครับ เพราะจะได้ชัดเจนเกี่ยวกับยาที่สั่ง ไม่สับสนกรณีตัวที่ใช้ประจำเกิดขาด ต้องใช้ตัวอื่น จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 12:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ดีใจค่ะ  มาเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมน๊ะค่ะ จากคุณ : Colonycute - [ 13 ต.ค. 51 12:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 82 คห ๖๒ ของจุนหมอรูปหล่อ --------- ในเรื่องสั่งวัคซีน  คงต้องขอไว้ก่อนครับ  หาคนรับผิดชอบให้หน่อยครับ --------- ลองคุยกับรพส.หรือคลินิคที่สนิท หรือที่ขอเข้าร่วมโครงการดีเปล่าครับ อย่างหมอซี ^__^  หรือหมอจอม แบบนี้ ถือเป็นการฝากสั่ง เผื่อมาด้วย เพราะอาจจะได้เครดิตการจ่ายเงินของที่นั่นได้มาเป็นของแถม ว่าแต่ที่นี่ นอกจากจุนหมอรูปหล่อแล้วไม่มีใครเป็นสัตว์แพทย์ หรือ ดีเทลยามั่งเลยหรอ ส่วนผู้ประสานงานในการสั่งเข้าโครงการ รบกวนหมออ๊อฟได้หรือเปล่าครับ เพราะจะได้ชัดเจนเกี่ยวกับยาที่สั่ง ไม่สับสนกรณีตัวที่ใช้ประจำเกิดขาด ต้องใช้ตัวอื่น จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 12:17:10 ] ^ ^ ^ ถ้ายืนยันจะให้จุนหมอรูปหล่อรับผิดชอบเรื่องวัคซีนจริงๆ  สงสัยต้องพึ่งคลินิคหมอจอมครับ เพราะอยู่ใกล้บ้านอ๊อบที่สุดแล้ว (หมอจอมอยู่สามแยกไฟฉาย บ้านอ๊อบอยู่พรานนก ห่างกัน 3 ป้ายรถเมล์) ว่าแต่เอาตามนั้นจริง  ขั้นตอนการทำงานคร่าวๆ น่าจะประมาณนี้มั้ง 1. เมื่อมีเคสติดต่อรอการออกหน่วยรักษ์แมวสัญจร  ---> คณะทำงานอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ 2. หลังจากคณะทำงานอนุมัติ แล้ว ผู้รับผิดชอบแจ้งจำนวนแมวให้จุนหมอทราบ 3. จุนหมอ ติดต่อ คลินิคที่ร่วมมโครงการ (สมมุติว่าคลินิกหมอจอม) เพื่อสั่งวัคซีน (ควรมีหนังสือสั่งซื้อ ลงรายเซ็นต์จุนหมอ และรายเซ็นต์รับทราบของหมอจอม ---> ทำเป็นแบบฟอร์มสำหรับโครงการสำหรับการสั่งซื้อของของโครงการดีมั้ยครับ  ดูว่าควรผ่านการเห็นชอบกี่คนตามขั้นตอน  ทำเป็นไฟล์ word หรือ PDF ก็ได้มั้งครับ) 4. เมื่อสั่งของได้แล้วจุนหมอไปรับของ (ควรมีใบเซ็นต์รับมอบของมั้ย หรือ ถ่ายรูปส่งมอบ  ถ่ายรูปจำนวนของที่รับ) 5. ก่อนออกหน่วยถ่ายรูปจำนวนทั้งหมด 6. หลังออกหน่วยถ่ายรูปจำนวนที่เหลือ  และแจ้งรายละเอียดจำนวนที่เหลืออยู่ในกระทู้สรุปการทำงาน 7. เมื่อถึงเวลาการจ่ายเงิน  มีแบบฟอร์ม การรับเงิน อีกหนึ่งฉบับ ลงชื่อผู้สั่งจ่าย ลงชื่อผู้รับเงิน - ช่วยกันกำหนดแผนการคร่าวๆก่อนครับว่าควรเป็นอย่างไร ที่รัดกุม โปร่งใส และคล่องตัวในการทำงาน - ช่วยๆกันร่างแบบฟอร์มต่างๆของโครงการให้เป็นมาตรฐานดีมั้ย? จากคุณ : kittyob - [ 13 ต.ค. 51 12:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 85 คิดว่าน่าจะคุยภาพกว้างและกำหนดหลักเกณฑ์การเข้าโครงการ กำหนดผู้รับผิดชอบแต่ละส่วนงาน กันก่อนนะคะ ส่วนดีเทลระบบการทำงาน น่าจะคุยกันทีหลังอีกทีน่ะค่ะ เห็นด้วยว่าควรมีการนัดประชุม แต่ก็ควรจะสรุปเบื้องต้นกันให้ได้ก่อน เพื่อความเข้าใจตรงกัน เวลาไปประชุมจริงจะได้ลงดีเทลกันไปเลย จากคุณ : ban_ri - [ 13 ต.ค. 51 13:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เย้ๆๆๆๆ ดีใจแทนแมวจรทั้งหลายด้วยนะ อ่าน คห. ข้างบนจนมึน สรุปว่าดีใจจริงๆ ที่โครงการยังอยู่ จากคุณ : fishmeaw - [ 13 ต.ค. 51 13:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านแล้วซาบซึ้งจัง ที่ทุกคนต่างช่วยให้กำลังกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างสรรค์ คนห้องแมวเป็นอย่างนี้เสมอไม่เคยเปลี่ยนเลย ในสภาวะที่มีแต่ความบาดหมางในสังคม ยังพบความรัก ความสามัคคี ได้จากที่นี่ ขอให้โครงการอยู่ต่อไปนานๆ จากคุณ : fairflower - [ 13 ต.ค. 51 13:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ตามอ่านเงียบๆมามาหลายวันจากกระทู้ที่แล้ว มาเป็นกำลังใจก่อน ดีใจที่กลับมานะคะ อาจจะเป็นการเพิ่มภาระในการติดตามของเจ้าหน้าที่อยู่... จะข้ามไปก็ได้นะคะ เรื่องการส่งแมวเข้ารักษาโดยใช้ค่าใช้จ่ายของโครงการ อยากให้เพิ่มงานให้ผู้ขอความช่วยเหลืออีกนิด อาจจะเป็นการรายงานสภาพแมวหลังการรักษาในรพส.ให้กับหมอหรือผู้เกี่ยวข้องไปอย่างน้อยครึ่งปี (โดยถือว่าเป็นแมวในโครงการชั่วคราว) หรือมีการให้ค่าช่วยเหลือเป็นเปอร์เซ็นต์ไป เช่น 75% ของราคาเต็ม ไม่ใช่ทั้งหมดค่ะ (จะยกเว้นในบางเคสที่เครดิทดีก็ได้) จะได้เป็นการกระตุ้นให้ผู้ขอฯรับทราบต่อสิ่งที่ทางโครงการต้องทำ และเพิ่มความรับผิดชอบในการจัดข้อมูลให้กับทางโครงการโดยอัตโนมัต ไม่ทิ้งภาระไว้เมื่อได้รับแมวกลับบ้านไปค่ะ เอาใจช่วยเสมอค่ะ จากคุณ : abstract - [ 13 ต.ค. 51 13:11:07 A:58.10.155.31 X: TicketID:071021 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คหที่ ๗๗ คุณแคท เห็นด้วยครับว่า รับไปแล้วถือเป็นความรับผิดชอบของผู้รับเลี้ยง แต่ปัญหามันเกิดจากคนไร้ความรับผิดชอบนี่สิ จะทำไงกันดี ทุกวันนี้ ที่เห็นก็คือ  ไปรับกลับมา เผาพริกแช่งแล้วอนุโมทนาว่า อย่างน้อยยังดีกว่าเอาไปปล่อยทิ้งๆขว้างๆ เหมือนอย่างที่ป้าอุษาว่าหน่ะครับ เพราะความใจอ่อน ขี้สงสาร เลยทำให้เป็นจุดอ่อน อีกอย่างก็เลยนึกไปถึง การสำรองจ่ายจากโครงการฯ แล้วจ่ายคืนทีหลัง อย่างที่คิดใน คหที่ ๑๗ กรณีรับไปไม่นาน พึ่งออกอาการในเคสอันตราย ค่ารักษาแยะ อยากรับผิดชอบแต่ยังไม่มีเงินจ่าย ลุงม่อน Fan Mint ครับ (ถ้าจำชื่อผิดเพราะสับสนต้องขอโทษ) มันก็เริ่มจะเป็นงานช้างแล้วหล่ะครับ -_-" แต่ถ้าประชุมกันทั้งหมดคงได้คนเข้าร่วมไม่กี่คนอ่ะสิครับลุง ข้อจำกัดเรื่องเวลากับระยะทางแยะ อันนี้ถือว่าเป็นการเบรนสตอมกันก่อนดีกว่า ได้คำแนะนำอันไหนน่าสนใจรวบรวมไว้ แล้วพอได้ตัวหลักๆที่จะทำงาน จัดประชุมอีกทีเพื่อสรุปแนวทางที่แน่นอนอีกที คนแยะ เสียงเริ่มแตก ความคิดกระจายก็จริง แต่ก็ได้หลายคำแนะนำเอาไปเลือก แบบนี้ดีลุงเห็นว่าเป็นยังไงครับ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 13:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์สำหรับโครงการรักษ์แมวทั้งสิ้น... สำหรับผม คิดว่าปัญหาอยู่ที่ จำนวนคนที่จะเข้ามาช่วยเหลืองานของโครงการครับ  เนื่องจากปัจจุบันงานมีจำนวน แต่คนที่เป็นหลักมีอยู่เพียงไม่กี่คน  ดังนั้นจึงอยากเรียนเชิญทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วม มาช่วยกันคนละไม้ละมือ ใครถนัดด้านไหน ใครเก่งเรื่องอะไร เสนอตัวเข้ามาได้เลยครับ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่ได้ ขอเพียงแต่ความเสียสละ ทุ่มเทและมีหัวใจเต็มร้อย เท่านี้ก้อเพียงพอครับ จากคุณ : กินดะ - [ 13 ต.ค. 51 13:26:00 ]

ความคิดเห็นที่ 91 หมอครับ นู๋รัตแค่นำเสนอ บ่ได้ยืนยันเน้อ ถ้าได้โครงงานคร่าวๆแล้วจะช่วยร่างแบบฟอร์มอีกแรงนะครับ ไม่มีใครรู้จัก หรือเป็นดีเทลยามั่งหรอครับ คิดว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาส่วนวัคซีนได้ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 13:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มาเชียรทุกคน เดี๋ยวขอไปจูนสมองก่อนนะ ยังมึนๆ เดี๋ยวมาอ่าน คห.ทุกคนค่ะ จะได้ช่วยๆกันออก คห. นะ จากคุณ : kitty_pk - [ 13 ต.ค. 51 13:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อืม .. เรื่องอื่นเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนักอ่ะคะ ยิ่งการทำงานนี่พับเก้บไปได้เลย 55+ ไม่ขอยุ่งเกี่ยว แต่เท่าที่ดูๆมาถือว่าหลักเกฑณ์การรับพิจรณา ถือว่าค่อนข้างชัดเจนอ่ะคะ เขียนละเอียด ป้องกันปัญหาที่เกิดในภายหลัง ส่วนเรื่องกรณีนำแมวไปแล้วป่วย .. หากเลี้ยงไปแล้ว 1-2 เดือน สามารถนำกลับมาคืนได้ เราว่าระยะเวลา ค่อนข้างจะนานไปสักหน่อย 1 เดือน เป็นคำขาดกำลังดี เพราะถ้าสองเดือน แมวอาจจะไม่ได้เป็นโรคเพราะเชื้อในตัวเอง แต่อาจจะเกิดจาก สภาพแวดล้อมภายในบ้านใหม่เสียมากกว่า เพราะฉะนั้น เราคิดว่านานไปคะ .. แต่จริงๆแล้ว ถ้ารักเค้าจริงๆ ไหนก้รับมาเลี้ยงแล้ว น่าจะดูแลกันไปนะคะ ถึงแม้ว่าสภาพการเงินไม่เพียงพอให้เค้ารักษาตัว ก้อยากให้เค้าตายอย่างสบายใจ กับคนที่เค้ารักมากกว่า เราว่าแมวคงจะมีความสุข และรู้สึกดี มากกว่าการนำมารักษาให้หาย แล้วกลับไปอยู่แต่ในกรง หรือเอาไปหาเจ้าของใหม่ ปรับตัวใหม่แน่ๆ .. ขอบคุณป้ารักษ์ทีมงานทุกคนมากๆนะคะ ที่ยังทำงานตรงนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง มีแมวอีกหลายๆตัว ที่ชีวิต น่าสงสารมาก บางคนก็ไม่เคยจะให้ความรักกับมันเลย ให้แค่ข้าว ให้แค่น้ำ แล้วก้ตี บอกเลี้ยงไว้เพราะสงสาร เราก้ไม่รู้ว่าความสงสารของเค้านั้นเป็นแบบไหนกันแน่ เมื่อเช้า ลุกของแมวตัวนี้ ตัวสุดกท้าย เพิ่งถุกเจ้าของบ้านขับรถทับตาย และเค้าก้มมอง และทำหน้าตาเซ็งๆ คำพุดที่หลุดจากปากเค้าคือ "แม่ม มาอยู่ใต้ท้องรถกุอีกแระ .." ทำใจคะ เกิดมามีบาปมีกรรม ไปเป็นแมวบ้านเค้า อยู่บ้านติดๆกันกับเค้า แต่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้กำลังมีแผนจะเอาแม่แมวไปทำหมันและพามาอยู่ที่บ้านซะ ให้รู้แล้วรู้รอด พวกเค้าคงจะสบายใจ โยนภาระออกไปจากชีวิตได้ เศร้าใจจริงๆคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 13:34:28 จากคุณ : Tablo_Oumma - [ 13 ต.ค. 51 13:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ดีใจที่โครงการรักษ์แมวเปิดดำเนินการค่ะ ดีใจแทนน้องแมวจรทั้งหลายด้วยค่ะ เห็นด้วยกับการทำแผนผังการทำงาน แล้วก็ขอเสนอให้ทำปฏิทินการทำงานคร่าวๆ อาจจะเป็นรายเดืน หรือรายปี เพื่อให้คนที่เพิ่งเข้ามาห้องแมว และ ยังไม่ค่อยรู้จักโครงการรักษ์แมว ได้รับทราบค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จะพยายามช่วยงานเท่าที่จะสามารถค่ะ จากคุณ : ทางแยกในสายหมอก - [ 13 ต.ค. 51 13:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 79   ผมว่าเรื่องใหญ่ โครงการขนาดนี้ต้องจัดประชุมโดยพร้อมเพรียงและแบ่งงานกันให้ชัดเจน เห็นหน้าเห็นตากัน น่าจะเหมาะกว่าการมาโพสต์ในนี้ครับ จากคุณ : Fan Mint  - [ 13 ต.ค. 51 12:06:44 ] ^ ^ ^ เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : soomchon - [ 13 ต.ค. 51 14:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอเวลาอ่านก่อนค่ะ  (ป้าฟี่ทำงานด้วย  อ่านด้วย  ประเด็นมันเริ่มเยอะ) คนแก่คิดช้าค่ะ  แต่เห็นด้วยกับคุณ banri  กับคุณรัต  ช่วงนี้ระดมสมองสักนิด เด๋วอีกแป๊บ  >>  ให้คุณรัต สรุปรายงาน  สรุปประเด็นซ้ำให้หน่อยนะคะ จากคุณ : ป้าฟี่กะลูกสาวหน้าตาเบิกบาน (แม่น้องแทน) - [ 13 ต.ค. 51 14:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 97 มาเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับน้องแมวทั้งหลายคร้าบบบ... แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 51 09:26:30 จากคุณ : zardamonoxication (zardamon) - [ 13 ต.ค. 51 14:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นด้วยเรื่องการประชุมกั๊บ.... แคทเห็นว่า เนื่องจากเรามีการหาบ้านให้แมวเกือบทุกเสาร์แล้ว ก็มีคนมากันเยอะ น่าจะแบ่งซักเสาร์มาประชุมกันหน่อยดีกว่า อย่างน้อยหาตัวคนรับผิดชอบหลัก ตามด้วยคนรับผิดชอบรองลงมา หรือเลขาฯ ในหน้าที่หลักแต่ละหน้าที่ จะได้แบ่งตัวบุคคลที่มีเวลาพอที่จะช่วยงานโครงการอย่างจริงจังเพื่อแบ่งเบาภาระจากพี่รักษ์ด้วยก่ะ เวลาทำงานหรือมีการประชุมภายในโครงการเกิดขึ้น จะได้มีการรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรว่าสรุปไปอย่างไร แล้วนำมาแจ้งหน้าเว็บ+บลอคให้ทุกคนทราบอย่างเป็นทางการ งานหาบ้านแต่ละครั้ง คนที่เหนื่อยก็จะมีคนหลักๆ ไม่กี่คน อย่างที่บอกจริงๆ เท่าที่เห็นก็...พี่รักษ์ พี่เกียรติ กิฟท์ เปิ้ล พี่หน่อย แคทเองก็ทำไม่เต็มที่ (ยอมรับ) ได้แค่เอาเสียงช่วย งั้นก็...ขอรับหน้าที่ PR ไปทุกงานแล้วกันค่ะ....ถ้าไปได้... + ใบประกาศเล็กๆ น้อย หรือใบประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแมว ที่สามารถทำได้ค่ะ จากคุณ : แคท (Pussy_kittycat) - [ 13 ต.ค. 51 14:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เย้ ในที่สุดคุณรักษ์ก็กลับมา ขอบคุณนะคะที่กลับมาสู้ใหม่อีกครั้ง เป็นกำลังใจให้คุณรักษ์และทีมงานนะคะ จากคุณ : babize - [ 13 ต.ค. 51 14:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เพิ่งตื่นสักพัก กว่าจะอ่านมาถึงนี่ นานอยู่ เข้ามาอ่านคร่าวๆแล้วนะคะ ยินดีช่วยเหลือทุกกรณี ก่อนอื่น ขอเอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองก่อนนะคะ เรื่องจะให้เป็นผู้อนุมัติเคสช่วงกลางคืน ก็ไม่ปฏิเสธนะคะ แต่ว่า ต้องขอข้อสรุปในการรับเคสให้ชัดเจนที่สุดก่อน ------------------------------------------------------------------------ ความคิดเห็นที่ 37   ตอนนี้ก็มี รพส.หมาแมวยิ้มแฉ่ง ลาดพร้าว 101 เข้าร่วมโครงการได้ เช่นถ้าเพื่อน ๆ พบแมวจรเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็นำส่ง รพส.ก่อน แล้วให้ผู้รับผิดชอบโทร.บอกคุณหมอ ก็ไม่ต้องสำรองจ่าย(ป้าทำอย่างงี้ประจำ) บางครั้งถ้ารอตั้งกระทู้ก็จะช้าไป เมื่อนำส่งแล้วค่อยมาตั้งกระทู้ แต่ขอให้เป็นกรณีฉุกเฉินนะคะ เพราะการรับเคสควรจะมีการคัดกรองก่อน  ไม่อย่างงั้นโครงการงานเข้าตายเลย เช่นแมวได้รับอุบัติเหตุ เจอแมวจรป่วยหนักถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีจะเป็นอันตราย ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขก็จะไม่จ่าย ถ้าไม่ฉุกเฉินก็อาจจะพิจารณาส่งไปคลีนิคของโครงการที่ราคาย่อมเยากว่า ต้องยอมรับนะคะว่านำเข้ารักษาที่ รพส.ราคาย่อมสูงกว่าคลีนิคของโครงการ เคสไหนประหยัดได้ก็ควรประหยัด  เพื่อจะได้เฉลี่ยการช่วยเหลือไปยังเคสอื่น ๆ แมวจรที่ต้องการความช่วยเหลือมีมากมาย    เท่าที่นึกออกตอนนี้ได้แค่นี้ มันสมองน้อยกว่าคุณรัตน์อีก เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นทุกประการ จากคุณ : iluvtravel  - ----------------------------------------------------------------------- ...........แล้วให้ผู้รับผิดชอบโทร.บอกคุณหมอ ก็ไม่ต้องสำรองจ่าย(ป้าทำอย่างงี้ประจำ.......... แล้วอย่างเราอยู่ ตปท จะทำอย่างไร อย่างเจ้าของเคสพาแมวไปรักษาฉุกเฉิน เรื่องโทรไปเมืองไทย เราไม่มีปัญหา ค่าโทรถูกมาก ๆ  แต่ว่า หมอจะรู้ได้ไง ว่าเราเป็นผู้รับผิดชอบจากโครงการจริง ๆ คะ --------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 48   พอจะช่วยรับเคสได้ทั้งกลางวันกลางคืน แต่ไม่ขอเป็นผู้อนุมัติได้ไหมคะ รับเคสช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วส่งต่อผู้อนุมัติอีกที คือเป็นคนใจอ่อนแล้วหูเบา อยากช่วยเหลือเค้าไปหมด เกรงจะเป็นจุดอ่อนค่ะ จากคุณ : iluvtravel --------------------------------------------------------------------------- เป็นคนใจอ่อนเหมือนป้าอุษาเลยค่ะ ถึงได้คิดว่า เราเป็นผู้นำไม่ได้อ่ะ คุณรักษ์แกเก่ง สามารถทำตรงนี้ได้อ่ะ คิดว่าบางครั้งถึงได้เกิดกรณีที่ว่า คุณรักษ์ไม่รับเคส อะไรทำนองนี้บ้างหรือเปล่า คือจริง ๆ แล้ว การอนุมัติเคส มันก็เหมือนกับว่า ถ้าเรามีข้าวจานนึง เราจะแบ่งให้ลูกกินสิบคน เท่า ๆ กัน หรือให้กินห้าคนเต็มอิ่ม แล้วที่เหลืออดตาย ตรงนี้ต้องตัดสินใจให้ได้ ++ ถ้าป้าอุษา พอช่วยรับเคสได้ทั้งกลางวันและกลางคืน งั้นอยากขอป้าให้มาช่วยกันได้หรือเปล่าคะ ++ ++ ขออาสาสมัคร ผุ้อนุมัติเคสทีมกลางคืน ด้วยค่ะ จะอยู่ไทยก็ได้ ตปท ก็ได้ หลายคนได้ก็ดีค่ะ เพราะว่า ไม่ใช่ทุกคนจะว่างในช่วงเดียวกันหมด มีผู้ช่วยเยอะหน่อย ในกรณีฉุกเฉิน จะได้มีคนปรึกษาได้ตลอดเวลาค่ะ ++ พวกแวมไพร์ ที่ชอบมาดึก ๆ เช่น คุณหนิง คุณแม่นุ้งซิน คุณแม่พี่จ้อย คุณรัต อ่ะ แล้วก็ ใครก็ได้นะคะ ที่อยู่ดึก ๆ มาช่วยกันหน่อยค่ะ เรื่องอื่น ๆ เดี๋ยวต้องขออ่านอีกรอบก่อนนะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 14:29:36 จากคุณ : ทิวลิบ - [ 13 ต.ค. 51 14:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เข้ามาลงชื่อ เป็นกำลังใจให้พี่รักษ์ก่อนค่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะเข้ามาอ่าน จากคุณ : hilary pee - [ 13 ต.ค. 51 14:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 103 แสดงความคิดเห็นตามระดับอายุนิดนึงนะคะ อาจจะมีข้อคิดเห็นอะไรที่ไม่เข้าท่าหรือล่วงเกินไปบ้างต้องขออภัย พี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ  ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 1. มีการวมกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ประชุมกันเดือนละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อย 3 เดือนครั้งเพื่อสรุปและประเมินงาน (ถกปัญหา หรือแก้ไขข้อผิดพลาด เถียงกันสดๆ มันส์กว่า อิ อิ) 2. แบ่งเขตพื้นที่การดูแล หรือมีแผนกตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยก็ดีค่ะ ได้รู้เป็นแมวจรจริงหรือเปล่า หรือเจ้าของเลี้ยงไว้แล้วมา โมเม เอาค่ารักษากับโครงการ ในส่วนนี้เพื่อเข้าถึงและสามารถไปดูแลสอบถาม และเห็นอาการน้องแมว เพื่อสะดวกต่อการตัดสินใจช่วยเหลือเคสนี้หรือไม่ (จะทำให้การพิจารณาง่ายยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าของเคสเองก็ต้องมีล็อคอินส่วนตัว ไม่ใช่มายืมล็อคอินเราโพส เหมือนเป็นเคสของผู้ดูแลพื้นที่เอง ซะงั้น) 3. เห็นด้วยกับการที่ถ้ารับน้องแมวไปแล้วในช่วงเวลาสั้นๆ น้องแมวป่วยเพิ่งแสดงอาการ ให้โครงการรับรักษาน้องแมวให้ ส่วนที่อยู่เป็นปีแล้วเพิ่งจะป่วยก็เจรจาออกค่ารักษาคนละครึ่งได้ไหม (เพราะกลัวเค้าจะเอาไปปล่อย) 4. กรณีที่ป้ารักษ์บอกว่าเป็นแมวจรป่วยหรือบาดเจ็บ แล้วผู้ที่พาเค้าไปรักษามีความประสงค์จะเอาไว้เลี้ยงเองให้จ่ายเงินเอง โครงการไม่รับผิดชอบ เกรงว่าเมื่อเค้าไปพบแล้วจะไม่ช่วยเหลือเพราะไม่อยากต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด อาจจะผ่อนผัน ช่วยเหลือไปบ้างเท่าที่สามารถทำได้ น้องแมวจะได้ไม่ต้องหาบ้านใหม่ ได้มีโอกาสให้แมวตัวอื่นมีบ้านอีกด้วย หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ ถ้ามีโอกาสอยากจะช่วยป้ารักษ์ทำงานจริงๆ ค่ะ วันนี้ขอเป็นกำลังใจให้ก่อนนะคะ ^^ ป้ารักษ์และทีมงานทุกคน สู้ ๆ ๆ ๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 14:39:59 จากคุณ : Baychita - [ 13 ต.ค. 51 14:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 105 จริงๆ  แล้วกรณีศึกษามีเยอะมากค่ะ เอาเป็นว่า  กระทู้ ขอให้เพื่อน ๆ ช่วยดูให้หน่อยว่า 1. นิยามของแมวจรตามความหมายของโครงการ โอเคหรือเปล่า  จะเพิ่มเติม หรือแก้ไขอย่างไรบ้าง 2. การขอใช้เงิน   3.  การจ่ายเงิน 4. การอนุมัติเคส และขอผู้ร่วมงานเพิ่มเติมด้วยค่ะ **  เรื่องการสั่งวัคซีนไม่มีปัญหาสำหรับหมออ๊อบค่ะ  ถ้าหมอไม่สะดวก เราทำตามเดิมก็ได้ค่ะ  ส่วนเรื่องแบบฟอร์ม คงต้องรบกวนขออาสาสมัครจัดทำขึ้นมาให้ค่ะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 14:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เรื่องการประชุม ถ้าสะดวก ก็คิดว่าที่จตุจักรในวันที่ไปหาบ้านอะค่ะ  สะดวกสุด  แต่ก็นะ อาจจะยุ่ง ๆ กับการหาบ้านให้แมว สัมภาษณ์แมว  ขายปฏิทิน ส่วนถ้าจะไปประชุมกันที่ไหน  อันนี้ ตามเสียงใหญ่หล่ะกันค่ะ   ถ้าไปได้ก็จะไปค่ะ   ช่วงนี้เปลี่ยนนายใหม่ แถมเป็นผู้หญิงด้วย  ดีเทลเยอะกว่านายผู้ชาย  ต้องมีเรียนหนังสือ on line เพิ่มเติม ภายใน 6 เดือนต้องให้ได้เซอร์  หุ หุ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 14:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอเลขาประจำกระทู้ สรุปกระทู้เป็นระยะ ๆ ด้วยนะคะ อ่านไปอ่านมาเริ่มมึนว่า ถ้าเป็นแมวหาบ้าน แล้วป่วย เราจะให้เวลากี่เดือนดี 1 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 2 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 3 เดือนหลังจากรับไปแล้ว จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 15:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ทั่วไปแล้ว 1 เดือนก็พอครับ โรคทั่วๆไป ระยะฟักตัวจริงๆ ประมาณ 3-7 วัน (พวกหวัด ท้องเสีย หัดแมว)   ส่วนพวกโรคแฝง ที่รอวันประทุ FIP ลิวคีเมีย เอดส์แมว  กว่าจะแสดงอาการค่อนข้างนานครับ  ยกเว้นจับตรวจด้วยชุดตรวจถึงจะรู้   ซึ่งถ้ารับไปนานแล้ว  เราก็ตอบไม่ได้ว่า  ว่าแมวติดเชื้อทีหลังหรือติดเชื้อมาตั้งแต่แรก (ยกเว้นจากประวัติว่าพี่น้องร่วมครอกชุดนั้น ป่วยด้วยโรคเดียวกันทุกตัว) ปกติโดยทั้วไปกรณีรับแมวไปเลี้ยง  อ๊อบว่าควรจะต้องมีคำถามนี้ด้วยนะครับ "ในอนาคตกรณีแมวเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา  ผู้รับเลี้ยงยินดี หรือมีความพร้อมที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่หรือเปล่า" แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 15:21:17 จากคุณ : kittyob - [ 13 ต.ค. 51 15:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จริง ๆ แล้ว ทุกเรื่องที่ว่ามา ถ้าคุณรักษ์ ไม่นำมาแจงให้เห็นถึงปัญหาอันแก้ไม่ตก พวกเราก็คงช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ ก่อนหน้านี้ คุณรักษ์เคยปรึกษาเรื่อง การรับเคส การขอเบิก แต่บอกได้เลยว่า ถ้าไม่เคยได้ทำมาก่อน หรือไม่เคยเจอปัญหาหลาย ๆ อย่างมาเองเหมือนคุณรักษ์  ก็เริ่มไม่ถูกเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าปัญหาอันไหน ที่คุณรักษ์เคยเจอมา หรือยังไม่เคยเจอ ถ้าให้ช่วยคิด ให้เริ่มคิดใหม่ ก็คงต้องคลำกันอีกนาน ดีแล้ว ที่คุณรักษ์ นำปัญหานี้มาแจง เพราะคุณรักษ์ ต้องรู้แล้ว ว่าจุดไหนคือปัญหาที่แท้จริงในปัจจุบัน ทำให้พวกเราช่วยคิด สานต่อ และปูหนทางไปต่อได้ง่ายขึ้น ข้อเสนอว่า กระทู้นี้ ขอให้ระดมความคิดกันไปก่อน ภายในอาทิตย์นี้ อาจจะได้ข้อสรุปดี ๆ หลายข้อ และคงจะได้อาสาสมัครอีกหลายคน เมื่อพอได้ข้อสรุปจากหลายฝ่ายแล้ว ค่อยมาประชุมกันภายหลัง จะได้ไม่เสียเวลาในการประชุมมากนัก ไม่สนับสนุนให้ประชุมในวันแมวหาบ้าน เพราะคิดว่า วันนั้นทุกคนจะยุ่ง และเหนื่อยกันมากพออยู่แล้ว ในการประชุม อยากให้มีบุคคลหลากหลาย ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ หรือจะไม่มีวุฒิอะไรเลยก็ได้ ใครว่างและต้องการสนับสนุนโครงการณ์ ก็ขอให้ไปช่วยกันในการหาข้อสรุปอีกที เท่านี้ก่อนนะคะ ไม่มีสติ มีคนรบกวนตลอดเวลา จากคุณ : ทิวลิบ - [ 13 ต.ค. 51 15:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 110 จากคห107 ขอเสนอ1เดือนหลังจากรับไปแล้วค่ะ จากคุณ : Clouseau - [ 13 ต.ค. 51 15:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มารอ ดูสรุปกระทู้ เพื่อเปงผู้ปฏิบัติที่ดีคร้าบ จากคุณ : เอจิราภา (เอจิราภา) - [ 13 ต.ค. 51 15:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อยากให้สรุปคำว่า แมวในโครงการก่อน แมวในโครงการ มี 2 กรณี 1. แมวจร แมวจร หมายถึง แมวที่ปัจจุบันเป็นแมวเร่ร่อนไร้บ้าน เช่นถูกนำมาปล่อยทิ้ง หรือ มีแหล่งพักพิง แต่แหล่งพักพิงนั้นไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิต เช่น บ้านร้าง วัด สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ หรือเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะสมกับการเลี้ยงแมว หรือปัจจุบันมีที่พักพิงแต่ ในอนาคตจะต้องกลายเป็นแมวเร่ร่อน เช่นแมวในชุมชนที่จะโดนไล่ที่ 2. แมวบ้าน แต่ป่วยฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ 3. อดีตแมวหาบ้าน (อุปการะไม่เกิน 1 เดือน) ป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง หรือเจ้าของไม่สามารถอุปการะต่อได้ แมวที่อยู่ในโครงการทุกตัว ต้องทำประวัติไว้ในโครงการ และเจ้าของเคส ต้องมี login มีใครต้องการเพิ่มเติมอะไรอีกไหมคะ เดี๋ยวเรื่องอื่นๆ โครงการอื่นๆ ค่อยสรุปกันต่อ ... (อ่านไปอ่านมาโพสหลายเรื่อง เริ่มงง ^_^ ) จากคุณ : Meow_hyper_7 - [ 13 ต.ค. 51 15:42:22 A:10.20.58.82 X:203.149.16.43 ]

ความคิดเห็นที่ 113 1.จาก#107 ตรงนี้โหวตดีมั้ยคะ  ว่าควรจะเป็นกี่เดือนดี  แต่ถ้ารับไปเป็นปีแล้วนี่ก้อไม่น่าจะกลับมาขอแล้วนะเราว่า   2.เห็นด้วยกะ#79ค่ะ 3.***ใกล้บ้านอ๊อบที่สุดแล้ว (หมอจอมอยู่สามแยกไฟฉาย บ้านอ๊อบอยู่พรานนก ห่างกัน 3 ป้ายรถเมล์)***กี๊ซ...มิน่าล่ะถึงคุ้นหน้าจัง  เด็กคนนั้นน่ะเอง  หุหุหุ ***ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  มีแต่แรงใจเท่นั้นที่พอจะช่วยส่งมาให้ได้ค่ะ*** จากคุณ : บูดูหวาน - [ 13 ต.ค. 51 15:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึง เรื่องที่มี   คนแอบอ้างโครงการ  แล้วนำแมวไปรักษา  แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ    แล้วรักษ์ก็ต้องตามไปใช้หนี้น่ะ     ถ้าใช้ระบบสมาชิก   น่าจะแก้ไขตรงจุดนี้ได้     กล่าวคือ  1   ทุกคนที่อยู่ในโครงการ   หรือ  ต้องการเข้าร่วมกับโครงการจะต้องสมัครสมาชิก  โดยใช้ชื่อlogin   ของตน แล้วทางโครงการจะออกpassให้     2   ค่าธรรมเนียมการ  เข้าเป็นสมาชิก  อาจจะเก็บปีละ50บาทหรือ100บาท   หรือจะไม่เก็บเลย   อันนี้ก็ต้องไปประชุมตกลงร่วมกัน   3   ส่งรายชื่อlogin และpass  ไปที่คลินิคที่ร่วมโครงการ   เมื่อมีเคสที่เข้ารับการรักษา    จะต้องแจ้งloginและpass  ให้ทางคลินิคทราบเพื่อยืนยันตัวตน       ป้องกันการแอบอ้าง     และต้องรับเป็นเจ้าของเคสนั้นๆ   4    ในกรณีที่ไม่ได้เป็นสมาชิก     จะต้องขอการรับรองจากสมาชิก   หรือ ผ่านการapproved    เท่านั้น         5   สมาชิกที่ให้การรับรองจะต้องแจ้งให้    ฝ่ายapproved  ทราบโดยทันที   และสมาชิกที่ให้การรับรอง   จะต้องรับเป็นเจ้าของเคสนั้นๆ   6    ในกรณีฉุกเฉิน    จะพิจารณาเป็นรายๆไป               ก็ขอเสนอแนะเพียงเท่านี้ครับ                             ลุงเม่น จากคุณ : easyboy - [ 13 ต.ค. 51 15:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 115 มาเปงกำลังใจ ให้ป้าค่ะ จากคุณ : TiGGer จัง - [ 13 ต.ค. 51 15:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เย่ ... ๆ ดีจัยจังค่ะ น้องแมวจะไม่ต้องอ้างว้างโดดเดี่ยวอีกต่อไป  ... ห้องแมวจงเจริญ .... จากคุณ : is_cat - [ 13 ต.ค. 51 16:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 117 "ถ้าเป็นแมวหาบ้าน แล้วป่วย เราจะให้เวลากี่เดือนดี 1 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 2 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 3 เดือนหลังจากรับไปแล้ว " นู๋คิดว่า 1 เดือนก็พอแล้วค่ะพี่ เห็นด้วยกับหมออ๊อบค่ะ โดยเฉพาะ ที่บอกว่า... ปกติโดยทั้วไปกรณีรับแมวไปเลี้ยง  อ๊อบว่าควรจะต้องมีคำถามนี้ด้วยนะครับ "ในอนาคตกรณีแมวเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา  ผู้รับเลี้ยงยินดี หรือมีความพร้อมที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่หรือเปล่า" ... นู๋เองก็เป็นคนนึงที่รับแมวไป แล้ววันต่อมาแมวทั้งสองตัวที่รับมาป่วย เนื่องจากวันที่ไปหาบ้านเค้าโดนฝน  ต้องเสียค่ารักษา ค่านู่นค่านี้ แต่ก็ไม่บ่นอ่ะ เพราะรับเค้ามาแล้ว ยินดีที่จะดูแลเค้าทุกอย่าง ตอนนี้รับแมวจากโครงการมาแล้วกว่า 1 เดือน เจ้าแมวทั้งสองดันเกิดเป็นเชื้อราขึ้นมา ก็ยังรักเค้าเหมือนเดิม ทายา รักษาเค้า ไม่มีบ่น ไม่คิดจะพาคืนกลับโครงการ เพราะฉะนั้น 1 เดือนก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ   ก็อยากให้สกรีนคนที่มารับไปค่ะ ว่าถ้าเค้าป่วยจะดูแลเค้าได้ เป็นอย่างดี กรณีนี้อาจจะทำให้หาบ้านยากขึ้นนิดนึง แต่ก็มั่นใจได้มากขึ้นว่า แมวที่พาหาบ้านจะได้บ้านที่พร้อมสำหรับเค้าจริงๆ แต่ก็ยังเห็นด้วยกับที่โครงการบอกว่า รับคืนแมวทุกกรณี  เพราะบางทีแมวดันป่วย ในช่วงที่เจ้าของเจอมรสุมชีวิต  หรือ เจ้าของต้องย้ายไปอยู่ในที่ที่แมวไปด้วยไม่ได้ ไม่มีใครดูแลแทนค่ะ   การรับคืนดีกว่าปล่อยให้เจ้าของนำแมวไปปล่อยค่ะ ตอนนี้เป็นผู้ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องการดำเนินการต่างๆของโครงการเท่าไหร่ค่ะ ที่ทำได้ก็คงจะช่วยเป็นแรงงานพูม่า ได้เป็นครั้งคราวค่ะ แต่มีอยู่อย่างนึงที่คิดที่อยากจะทำ ก็คือการขอกล่องรับบริจาคเงินจากโครงการ ไปตั้งไว้ในที่ทำงานของนู๋ กะที่อื่นที่มีคนเดินผ่านไปมาเพื่อรับบริจาคสตางค์จากการหย่อนใส่กล่องมาช่วยแมวเพิ่มเติมค่ะ   คือได้ไปเห็นกล่องบริจาคของโครงการรักษ์แมว ในร้านหมอร้านประจำที่สวนลุมไนท์ ที่นู๋พาแมวไปรักษา ก็ได้คุยกับหมอค่ะว่า แมว 2 ตัวที่มาหาประจำนี่ก็รับมาจากโครงการนี้เหมือนกัน  หมอยังฝากบอกเลยว่าให้คนในโครงการมาเอาตังค์ไปด้วย แต่นู๋เห็นว่ายังไม่เต็มกล่อง เลยยังไม่ได้บอกค่ะ อิอิ เลยคิดว่าถ้ามีกล่องนี้ในหลายๆที่(ไม่ต้องเยอะมากก็ได้) ก็จะได้ตังค์มาเข้าโครงการ ช่วยรักษาน้องแมวเพิ่มขึ้นได้ แม้จะไม่มากนักแต่ก็น่าจะช่วยได้บ้าง ความลำบากใจในการปฏิเสธเคสอาจจะน้อยลง(รึป่าวววว) ก่อนวันที่ที่พี่รักษ์ตั้งกระทู้ปิดโครงการ นู๋ก็ไปถามที่ทำงานแล้วว่าถ้าจะเอากล่องมาตั้งรับบริจาคอย่างกล่องอื่นๆต้องทำจดหมายขออนุญาตรึป่าว พี่ที่นั่งทำงานอยู่ตรงนั้นก็บอกว่าต้อง รึขอกับเจ้านายเลยก็ได้ นู๋ก็อยากจะช่วย กะว่าจะหลังไมค์ไปคุยกะพี่รักษ์เรื่องการขออนุญาตวางกล่อง แต่มาเจอกระทู้ ปิดโครงการซะก่อน เลยยังไม่กล้าทำอะไร แหะแหะ ตอนนี้โครงการเปิดแล้ว ก็อยากถามเลยว่าถ้านู๋จะเอากล่องมาตั้งที่ทำงานนี่จะได้มั้ยคะ ทางโครงการมีแบบฟอร์มขออนุญาตเกี่ยวกะการตั้งกล่องมั้ยเอ่ย แล้วพอกล่องเต็มนู๋ก็จะได้บอกให้พี่ที่ดูแลเรื่องนี้มาเปิดกล่องเอาตังค์ไป อยากช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้าง คิดได้แค่เรื่องกล่องรับบริจาคนี่แหละค่ะ แล้วก็นู๋เล่นเนตที่ทำงานได้เกือบตลอดเวลาค่ะ ถ้าไม่ติดงาน ก็จะมีเนตให้เล่นทั้งวัน แบบว่าเครื่องใครเครื่องมัน ถ้าอยากให้ช่วยประสานงานอะไร เรื่องเร่งด่วนอะไร ก็ช่วยได้ค่ะ ^^ รอฟังข้อสรุปของโครงการนะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 16:36:21 จากคุณ : Rikan - [ 13 ต.ค. 51 16:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เอ่อออออ กลับมาแล้วครับ มารายงานตัวก่อน เมื่อตะกี้เห็นแว๊วๆว่า พี่ฟี่ให้รัตสรุปที่ซ้ำใช่เปล่าครับ หมายถึงของรัตหรือทั้งหมดอ่ะ -_-" แต่ไม่เป็นไร กะเด๋วจะเรียบเรียงทุกความคิดเห็นแล้วเอามาสรุปให้ แต่ต้องขอเวลาซักพักใหญ่เด้อ เมื่อกี้มีเหตุออกไปข้างนอก ลืมหมดแล้ว ต้องอ่านอีกรอบนึง -_-" จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 17:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ปกติโดยทั้วไปกรณีรับแมวไปเลี้ยง  อ๊อบว่าควรจะต้องมีคำถามนี้ด้วยนะครับ "ในอนาคตกรณีแมวเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา  ผู้รับเลี้ยงยินดี หรือมีความพร้อมที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่หรือเปล่า" ... ****************************** "ถ้าเป็นแมวหาบ้าน แล้วป่วย เราจะให้เวลากี่เดือนดี 1 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 2 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 3 เดือนหลังจากรับไปแล้ว "... ผมอยากเสนออย่างนี้ครับ.. หลังจากรับอุปการะแมวไปแล้ว และหากแมวเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ผมว่าเจ้าของใหม่ควรจะเป็นผู้ดูแลเรื่องค่ารักษานะครับ  เพราะการที่จะรับอุปการะแมวสักตัวนึง  คนนั้นคงจะต้องพิจารณาถึงความพร้อมของตัวเองแล้วล่ะว่าไหวมั๊ย ที่จะดูแลรับผิดชอบชีวิตเค้าตลอดอายุขัย และการที่จะพาเค้าไปรักษา มันต้องเกิดจากความรักความเมตตาแมวตัวนั้น  เพราะถือว่าคุณคือเจ้าของเค้าแล้ว... หากจะบอกว่าทางโครงการรักษ์แมวตจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกรณีแมวได้บ้านแล้วเกิดป่วย ผมคิดว่าเงินที่โครงการฯมีคงไม่พอหรอกครับ  ถ้าต่างคนต่างเบิก แล้วแมวเคสอื่นๆเช่นอุบัติเหตุฉุกเฉินคงไม่ได้ใช้แน่ เอาเป็นว่าอย่ากำหนดเวลาเลยครับว่ากี่เดือน  ถ้าพอจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายได้ก้อควรจะช่วยกัน แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 17:36:06 จากคุณ : กินดะ - [ 13 ต.ค. 51 17:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 120 หนูขอช่วยด้านบริจาคเงินลูกเดียวค่ะ..ฮี่ฮี่.. เรื่องอื่นหนูไม่ชำนาญเกรงจะเป็นตัวถ่วงโครงการฯ..จุ๊บๆพี่รักษ์กับทีมงานทุกๆคนเลยค่ะ..อนุโมทนาด้วยค่ะ.. ป๋าแมวอ้วน : ขอบคุณพี่รักษ์และทีมงานทุกๆคนที่ไม่ทอดทิ้งเพื่อนๆป๋มคร้าบบบบ.. ทุกคนเลยคร้าบบบ จากคุณ : มะหมา+มะเหมียว - [ 13 ต.ค. 51 17:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 121 จากคุณ : Jookjik - [ 13 ต.ค. 51 17:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ดีใจที่ได้เห็นกระทู้นี้ : ) จากคุณ : Hermy - [ 13 ต.ค. 51 18:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ให้กิ้ฟ 117 เรื่องกล่องบริจาค ตามสถานที่ครับ นึกถึงถังผ้าป่าที่มาวางตามบริษัทอ่ะครับ Work work จากคุณ : PUEK - [ 13 ต.ค. 51 18:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 124 อยากให้โครงการดีๆ อยู่คู่สังคมอย่างนี้ตลอดไป เพื่อเป็นกระบอกเสียง  และเป็นความหวัง และเป็นทางรอด ของชีวิตและหัวใจดวงน้อยๆ ของแมวพเนจรทุกตัว จากคุณ : RLD - [ 13 ต.ค. 51 18:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อืม กฎบางกฎ  ข้อกำหนดบางข้อ  ถ้าไม่มีก็กลายเป็นว่า  เราไม่มีเส้นแบ่งว่า  ควรจะให้เวลาเท่าไหร่ แต่ถ้ามีกฎก็กลายเป็นว่า  เคสแมวป่วยซึ่งอาจจะเกิดจากแมวหาบ้านเพิ่มมากขึ้น เนี่ยหล่ะ การทำงานถึงได้ ทำให้ป้ารักษ์เครียด **  ขอขอบคุณทุก  ๆ กำลังใจที่มอบให้ในกระทู้ก่อนด้วยนะคะ  อ่านแล้วน้ำตาไหลด้วยความดีใจ  ทำให้มีแรงที่จะฮึดสู้ต่อไป ถึงแม้ว่า ในการทำงาน อาจจะต้องมีปัญหา กระทู้จะช่วยให้ป้ารักษ์ หรือผู้อนุมัติเคสทำงานได้ดีขึ้นนะคะ  แนะนำกันเข้ามาได้อีกนะคะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 18:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ให้รัต  เป็นเลขากระทู้นี้ด้วยนะคะ  ช่วยสรุปกระทู้หน่อย  ขอบคุณมากนะคะ ลำดับต่อไป เคสต่างๆ  ที่เกิดขึ้น 1  จากทางหน้ากระทู้  อันนี้รับทราบโดยทั่วถึงกัน 2 จากการโทรศัพท์มาขอเคสก่อน เพื่อที่จะนำแมวไปรักษา  อันนี้ ใครจะเป็นผู้อนุมัติ  หุ หุ และ  การเบิกจ่าย  จะประกอบด้วย 1  ใบเสร็จจริงจากทางคลินิค หรือโรงพยาบาล(อันนี้ไม่มีปัญหาอะไร) 2  คลินิคที่ราคาย่อมเยา หมอจะไม่เขียนใบเสร็จให้  อันนี้ จะเกิดขึ้นทุกเดือน สำหรับแมวป่วยที่ฝากพี่ใจดีไปรักษา หรือ แมวทำหมัน แล้วป่วยภายหลัง  ซึ่งก็จะไม่มีใบเสร็จเป็นลายลักษณ์อักษร  อันนี้ ก็จะเป็นใบเสร็จของโครงการเอง  อันนี้ เท่า ๆ ที่ผ่านมา ก็จะเห็นกันบ่อย ๆ  ทุก ๆ เดือน ไม่ทราบว่า มีใครอยากให้ปรับปรุงนี้ อย่างไร บ้างคะ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 18:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 127 อ่าาาาาา  ยิ่งอ่านยิ่งมึน ขอต่อเวลาครับ พึ่งเห็นว่าคุณ Meow_hyper_7 ได้สรุปส่วนแรกเอาไว้แล้ว ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวเรามาช่วยกันดูอีกทีเน้อ ตอนนี้ขอแยกประเด็นเฉพาะกิจ เพื่อโหวตกรณีนี้ก่อนนะครับ "กรณีที่รับแมวไปเลี้ยงแล้วแมวป่วย สมมุติว่า รับไปถึงไม่เดือน อย่างนี้ เราควรจะรับเข้าโครงการหรือเปล่า หรือ บางรายรับไปแล้ว หนึ่งปี  แมวป่วยร้ายแรง ควรรับหรือไม่ควร   ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ" จากที่สรุปมา ขอเอาระยะใกล้ก่อนนะครับ หลังจากรับอุปการะไปไม่นาน แมวป่วยควร รับ หรือไม่ควรรับ กลับเข้าโครงการ 1. ไม่ควรรับเลย เพราะถือว่าคุณคือเจ้าของเค้าแล้ว โครงการถือเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือแมวจร ไม่ใช่เจ้าของ การรับเลี้ยงก็คือการรับผิดชอบชีวิตเขาทุกกรณี 2. ควร แต่ไม่เกิน 1 เดือน ขออ้างอิงจาก คห. ๑๐๘ หมออ๊อฟที่ว่า โรคทั่วไป ระยะฟักไม่เกินสัปดาห์  โรคแฝงจะใช้เวลานานกว่าแสดงอาการ ถ้านานกว่าเดือนบอกยากว่า เป็นมาก่อนรับ หรือ หลังรับ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7097163/J7097163.html กดโหวต รบกวนแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ จะได้เก็บเป็นข้อมูลให้โครงการได้ ส่วนกรณีรับไปเลี้ยงเป็นปี เกิดอยากคืน ขอเก็บไว้ถกกันในประเด็นหลังๆนะครับ ประเด็นอื่น ขอเวลาทบทวนเพื่อสรุปให้อีกครั้ง แล้วจะแยกประเด็นให้เสนอความคิดเห็นตามหัวข้อนั่นๆไล่ไปเรื่อยๆนะครับ ไม่งั่นคนอ่านชีวิตสับสน จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 18:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยย ให้เค้าเป็นเลขาหรอออ ((ให้ไอหมุยแบกเก้าอี้มานั่งหน้าทู้ เริ่มหาลู่ทางแตกประเด็นนินทานาย ) เด๋วขอเวลาไปปะแป้ง แต่งหน้า แป๊บนะตัวเอง โดนมรสุม คห. เข้าไปเมื่อกี้ ยิ่งอ่านยิ่งมึน เด๋วไม่สวย จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 18:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ข้างบนคุยกันเรื่องทีมงานจัดการ และ เบิกเงิน เป็นรูปเป็นร่างแล้ว เราขอเสนอว่า ให้คุยกันเรื่องทีมงานหาเงินด้วยนะคะ จะได้ช่วยเบาแรงป้ารักษ์ไปอีก เห็นว่าโดยหลักๆโครงการ มีการ ออกบู๊ท ขายเสื้อ ขายปฏิทิน ประมูล กล่องรับบริจาค เพื่อหาเงินเข้า ก็ยังเห็นว่าป้ารักษ์เป็นหลักเกือบทั้งหมด เราว่าบ้านป้ารักษ์กลายเป็นโกดังเก็บของไปแล้วมั๊ง ทั้งเสื้อ ปฏิทิน และของประมูล ไหนยังต้องส่งไปรณีย์อีก น่าจะกระจายตรงนี้ออกมาได้เหมือนกันนะคะ (ขออำภัย เขียนเยอะไม่ได้ ติดงานด่วน เดี๋ยวเข้ามาใหม่นะ ฟิ้ววววว) จากคุณ : เหมียวเจย์เจย์ (Rabbit4JJ) - [ 13 ต.ค. 51 19:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ดีใจที่เห็นกระทู้นี้ค่ะ ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่กำลังใจเต็มที่ค่ะ จากคุณ : ติรติรา - [ 13 ต.ค. 51 19:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เช่นกันค่ะ ดีใจที่โครงการดีๆ  ยังมีต่อไป เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนนะคะ จากคุณ : siripa007 - [ 13 ต.ค. 51 19:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 132 อืม  อ่านจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเสนออะไรต่อดีเลยค่ะ ส่วนเรื่องหน้าที่  เอ๋ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง  เพราะทำงานทุกวันเลย  แต่ถ้าเรื่องรวบรวมข้อมูลหรือให้พิมพ์อะไร  พี่รักษ์บอกได้เน้อ  เอ๋อยากช่วยจ้า ส่วนเรื่องออกไปฉีดยา  เอ๋จะพยายามไปช่วยให้บ่อยที่สุดเด้อค่ะ  ส่วนหาบ้านนี่คิดว่าคงยากอะค่ะ  วันเสาร์ทำงานเจ้าค่ะ เรื่องการรับเครสแมวที่ได้บ้านไปแล้วเข้ารักษากับโครงการ  คิดว่าสัก 1 เดือนกำลังดีค่ะ   เพราะมองว่าถ้าผู้รับที่มีความพร้อม  คงไม่มาขอเข้าโครงการ  ส่วนผู้ที่มาขอเข้าอาจจะไม่พร้อมนัก (เพราะบางคนยังคงคิดว่าการเลี้ยงแมวคือมีข้าวมีน้ำก็พอละ...ดีกว่ามันไปอดตาย...ซะงั้น) หรือเราอาจจะแนะนำคลีนิดหรือโรงพยาบาลให้เขา  เพราะบางที  คนที่เพิ่งเลี้ยงอาจจะไม่รู้ว่าแถวบ้านเขามีคลีนิคที่ไหนบ้างนะค่ะ  โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มเลี้ยง  เหมือนเราให้ความช่วยเหลือแนะนำเบื้องต้นกับเขานะค่ะ จริง ๆ เรานาสจะมีหน่วยนี่เนอะ แบบว่าแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับโรงพยาบาลหรือการรักษาพยาบาลเบื้องต้น  ไม่งั้นส่วนนี้น่าไปจัดทำเป็น Blog or Web จะได้เปิดดูได้ตลอด  ไม่ต้องมาตั้งกระทู้ถามอะค่ะ ไว้มีอะไรมาเพิ่มเติมใหม่นะค่ะ จากคุณ : AeKra - [ 13 ต.ค. 51 19:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ช่วยอะไรไม่ได้ ขอมาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจคุณรักษ์ กับทีมงานนะคะ รูปน้องแมวกะเด็กน้อย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : Lamera - [ 13 ต.ค. 51 19:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เรื่องการวางตำแหน่งรับผิดชอบงาน ก็ดีนะคะ คุณรักษ์จะได้ไม่ต้องทำทุกตำแหน่งคนเดียวหมด เหนื่อยอยู่ไม่กี่คนเหมือนแต่ก่อน แต่ว่า....เรื่องถือครองและการเบิกจ่ายเงิน อยากให้เป็นคุณรักษ์เหมือนเดิมนะคะ ไม่ใช่คิดว่า คนอื่นจะมาโกงนะคะ แต่เงินผ่านหลายมือ จะกลายเป็นว่า ฉันไม่ได้เอาไป เธอก็ไม่ได้เอาไป ใครก็ไม่ได้เอาไป แต่เงินหาย ขึ้นมาได้คะ เรื่อง การรักษาก่อนจ่ายทีหลังตามร้านที่ร่วมโครงการ เราขอมองโลกในแง่ร้ายนะคะ คือ พอใครรับแมวไปเลี้ยง ภายในระยะเวลากำหนด นิด ๆ หน่อย ๆ ก็โยนมาเบิกกับคุณรักษ์ ก็จะกลายเป็นติดหนี้ล่วงหน้า เป็นภาระให้คุณรักษ์รับใช้นะคะ   อีกประการนะคะ ให้เขาโทร.แจ้ง แล้วรอผลอนุมัติก่อนดีกว่าคะ เผื่อช่วงไหนเงินบริจาคหมด คุณรักษ์มิต้องล้วงกระเป๋าตัวเองจ่ายจนหมดตัวเหรอคะ มีอีกเรื่องที่เป็นห่วง คือ แมวบางตัวอาจจะเป็นโรคค่อนข้างรุนแรง หรือว่าต้องรักษาต่อเนื่อง เจ้าของนิสัยไม่ดีบางคนอาจจะหาเรื่องทิ้งแมว แล้วมามั่วว่า เป็นแมวจร เก็บมาได้ แล้วให้รักษาตัวในคลินิคก่อน  ท้ายสุด ก็ทิ้งแมว จะกลายเป็นภาระให้โครงการแมวหาบ้านเพิ่มไปอีกเรื่องนะคะเนี่ย ไม่ได้เข้าหลายวันมาก เนื่องจากติดเรียนเย็บผ้า เสาร์ - อาทิตย์ แถมเน็ตก็ล่มตลอดเลย ไม่ทันได้ทราบข่าวอะไร แต่ก็เข้าใจนะคะ งานกุศลแบบนี้ ไม่ใช่ชั่วครั้ง ชั่วคราวแล้วจบกัน มันก็ย่อมเหนื่อย ย่อมล้าเป็นธรรมดา เป็นกำลังใจให้คนใจบุญทุก ๆ ท่านคะ จากคุณ : วิหคลม - [ 13 ต.ค. 51 19:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ที่พี่รักษ์ว่า คลีนิกราคาย่อมเยา เค้าจะไม่ออกใบเสร็จให้ แต่ถ้าเราทำใบเสร็จสำเร็จไปทิ้งไว้ให้เค้า แค่ให้เค้าเป็นผู้ลงรายละเอียด ราคาค่ารักษา เค้าจะทำให้ไหมคะ จากคุณ : NSY - [ 13 ต.ค. 51 19:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 136 "ถ้าเป็นแมวหาบ้าน แล้วป่วย เราจะให้เวลากี่เดือนดี 1 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 2 เดือนหลังจากรับไปแล้ว หรือ 3 เดือนหลังจากรับไปแล้ว " ตามคำถามนี้ ก่อนอื่น ต้องตั้งคำถามนิดนึง ว่า คนมารับ แมวหาบ้าน ไปทำไม หนึ่ง   รับไปเพราะอยากได้แมว แล้วก็อยากช่วยรับแมวของโครงการไปเลี้ยงด้วย แต่ถ้าให้รับไปเลี้ยง ก็ต้องดูแลค่าใช้จ่ายเวลาเจ็บไข้ให้ด้วย (ซิ) สอง   รับไปเพราะรักแมวจริง ๆ ถ้าเลี้ยงก็จะรักเหมือนลูก ไม่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายในกรณีที่แมวป่วย หลังจากรับไปแล้ว สาม   รับไปเพราะรักแมวจริง ๆ แต่ไม่มีคิดว่า จะอยากได้โรคแถมมาด้วย ถ้านิดหน่อยไม่เป็นไร แต่ถ้ากรณีที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ ๆ ไม่สามารถรับค่าใช้จ่ายไหว ก็อยากให้โครงการณ์ช่วยบ้าง สี่  รับไปเพราะอยากลองเลี้ยงแมวดู ไม่ไหว แล้วจะเอามาคืน(นะ) ห้า  เหตุผลอื่น ๆ คำถามเหล่านี้ คิดว่าที่่ผ่านมา โครงการณ์ก็คงเจอมาแล้ว ถึงได้เอามาตั้งเป็นคำถามข้างบน ดังนั้น คิดว่า ต้องแก้ที่ เหตุ ก่อน ว่า "คุณสมบัติ" ของผู้ที่จะมารับแมวไป ต้องมีอะไรบ้าง คนที่มารับแมวไป จะได้รู้ว่า ไม่ใช่ "คนรับแมว" ที่มีความสำคัญกับโครงการณ์เท่านั้น  แต่ "แมวหาบ้าน" เอง ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน คนรับก็ต้องมีคุณสมบัติที่จะรับเลี้ยงและดูแลแมวได้ คุณเป็นบุคคลสำคัญ คุณ จึงต้องผ่านการพิจารณา (ส่วนคุณสมบัติในการเป็น แมวหาบ้าน ทุกแมวก็มีอยู่แล้ว) ต่อคำพูดที่ว่า เลี้ยงไม่ได้ก็ให้นำมาคืน ตรงนี้ จริง ๆ ถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้มีเลย อยากให้ คนรับแมว ไตร่ตรองให้มาก คิดให้ดีเสียก่อนที่รับแมวไปเลี้ยง ดังที่คุณหมออ๊อบว่าไว้ว่า "ในอนาคตกรณีแมวเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา  ผู้รับเลี้ยงยินดี หรือมีความพร้อมที่จะดูแลค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่หรือเปล่า" ... ที่ผ่านมา คิดว่า ทีมงานก็คงได้ทำข้อมูลไว้ให้คนที่อยากได้แมวบ้างแล้ว เรื่องการเลี้ยงแมว เช่น แมวหนึ่งตัว มีอายุได้ถึงเท่าไหร่ จะมีค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่ ค่าวัคซีน ทำหมัน ค่ากินค่าอยู่ และอุปนิสัยของแมว แต่ในกรณ์สุดวิสัยจริง ๆ เช่น แมวเข้ากับแมวในบ้านไม่ได้ ตีกัน อยุ่ไปแมวก็ไม่มีความสุข ก่อนอื่นขอให้เข้ามาหาวิธีในห้องแมวก่อน ถ้าสุดวิสัยจริง ๆ ก็รับคืนมา จริง ๆ ถ้าเจ้าของไม่รัก ไม่เลี้ยง หรือไม่ไหว เราก็ขอคืนอยู่แล้ว แต่ว่าปัญหานี้ จะไม่เกิดขึ้น ถ้าได้ทำความเข้าใจเรื่องคุณสมบัติกันก่อนแต่แรก ไม่รักจริงก็อย่าเอาไปเลย "ถ้าเป็นแมวหาบ้าน แล้วป่วย เราจะให้เวลากี่เดือนดี" จริง ๆ แล้ว ถ้าใครอยากจะเลี้ยงแมวซักตัว ไปเก็บเอามาจากข้างถนน ก็คงไม่ต้องมีคำถามนี้ หรือว่า แมว ที่ขายกันแพง ๆ ตามฟาร์มต่าง ๆ เค้ารับประกันสุขภาพกันหรือเปล่าคะ ไม่รู้จริง ๆ นะเนี่ย ใครเคยซื้อบอกหน่อย แมวจร น่าจะมีโรคได้มากกว่าแมวบ้าน ดังนั้น การที่คน ๆ นึง ไม่ได้เก็บแมวจากข้างถนน หรือไปขอลูกแมวจากบ้านเพื่อนมาเลี้ยง แต่มารับแมวโครงการณ์ไป แมวหาบ้านตัวนั้น ๆ ถ้าไม่มีคนรับไปเลี้ยง ในเวลาหนึ่งเดือน อยู่ในกรงหาบ้านต่อไป โรคนั้นก็อาจจะปรากฏ และโครงการณ์ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนั้นอยุ่ดี ตรงนี้ อยากให้ถือส่วนหนึ่งเป็น น้ำใจ ว่าเรา ไม่ได้อยากให้คุณรับแมวที่มีโรคไป แต่เพราะเราไม่รู้จริง ๆ  แต่ก็ต้องมีระยะเวลาจำกัด ตามที่คุณหมออ๊อบแนะนำมา หนึ่งเดือน นับจากวันที่รับแมวไป น่าจะเป็นเวลาอันสมควร ค่ะ เอาเรื่องนี้หนึ่งเรื่องก่อน เป็นแค่ความเห็นนะคะ ควรมิควร แล้วแต่จะพิจารณา จากคุณ : ทิวลิบ - [ 13 ต.ค. 51 19:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ช้าไปนิดนะป้ารักษ์ ขอต่อความเห็นจากเน็ตคาเฟ่แล้วกัน ที่ทำงานไม่สะดวกเอาซะเลย รับอาสาตามที่ป้ารักษ์มอบหมายนะค่ะ ในการอนุมัติเคสภาคกลางวัน อาจจะหลบๆซ่อนๆอนุมัติสักหน่อย แต่จะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ...แต่ขอรบกวนมีเพื่อนช่วยตัดสินใจ สัก 1 - 2 คนได้ไหมค่ะ เพราะการพิจารณาไม่รับเคสใดเคสหนึ่ง ค่อนข้างบีบคั้นหัวใจเหมือนกัน ถ้าทำคนเดียวอาจจะต้องรับทุกเคส.. และขอเพิ่มเติมในส่วนของแรงงาน....ในการขนส่งของโครงการนะค่ะ ซึ่งทางป้ารักษ์ขาดแรงงานตรงนี้อย่างแรง ในกรณีที่ต้องพาแมวของโครงการที่ป้ารักษ์ต้องรับดูแลทั้งในส่วนของป้ารักษ์ และพี่เจี๊ยบเกือบร้อยชีวิต ไปหาหมอ หรือกรณีเคสฉุกเฉินอื่น ที่ป้ารักษ์จำต้องรับเคสนั้นมาด้วยความเมตตาต่อสัตว์โลกผู้ด้อยโอกาสเดินไปหาหมอรักษาเอง และในบางครั้งที่ป้ารักษ์ติดภารกิจอื่นใดที่ไม่สามารถพาไปเองได้ และที่สำคัญปัญหาสุขภาพของป้ารักษ์ในเรื่องของการพักผ่อนไม่เพียงพอ... จะมีเพื่อนๆ พี่ๆ ..ที่รับอาสาในการสานต่อการรักษาแต่เป็นจำนวนที่น้อยมาก บางครั้งไม่มีเลย... เพราะติดที่แต่ละคนไม่สะดวกในการพาแมวไปหาหมอ ไม่สะดวกในการลางาน ไม่สะดวกเพราะไม่มีรถ.ฯลฯ หนึ่งในนั้น.....พี่กินดะ จะได้รับการมอบหมายภารกิจนี้ อยู่เสมอและพี่เค้าก็ช่วยเหลือแมวเหล่านี้อย่างเต็มความสามารถ และเต็มใจ.. แม้ว่าพี่กินดะ จะไม่มีพาหนะส่วนตัว หรือบ้านอยู่คนละประเทศกับเคสแต่ละเคสก็ตาม นับถือพี่มากนะค่ะ และแม้กระทั่งในเวลาที่เพื่อนๆกำลังหลับสนิทตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป ป้ารักษ์ ยังคงต้องรับส่งแมวป่วย หรือแมวทำหมันอยู่ไม่รู้เดือนไม่รู้ตะวันเลย บางครั้งคิดว่าอยากจะทำสกู๊ปพิเศษ ....หลังเที่ยงคืนกับชีวิตคุณวชิรา .... ท่านใดที่มีพาหนะส่วนตัว จะรับอาสาในส่วนนี้ ได้โปรดมาช่วยป้ารักษ์กัน...ไห้ป้ารักษ์เค้าได้มีโอกาสนอนเต็มตื่นแบบพวกเราบ้างนะค่ะ... จากคุณ : โออาอิชิ - [ 13 ต.ค. 51 20:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 138 เย้ ป้ารักษ์กลับมาแว้ววววววววว ชัยโย เพื่อโครงการรักษ์แมว อิอิ อยากช่วยโครงการค่ะมีอะไรแจ้งข่าวกันได้นะคะ จากคุณ : murimuri - [ 13 ต.ค. 51 20:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เยอะมาก เป็นกำลังใจนะคะ  ดีใจเป็นที่สุดโครงการรักษแมวสานงานต่อแร้ววว จากคุณ : Nunyna - [ 13 ต.ค. 51 20:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ขอแตกประเด็นความคิดเห็นตามหัวข้อต่างๆ ต่อไปนี้ แยกหัวข้อละกระทู้นะครับ ทู้นี้จะได้ไม่หนักจนเกินไป และเพื่อง่ายกับการเรียบเรียงและ อ่านไม่สับสน โดยอ้างจาก คห.ที่คุณรักษ์ระบุมาตอนแรกเป็นหลัก แต่ขอเพิ่มเติมและเรียบเรียงใหม่ให้ชัดเจนนะครับ 1. แมวที่สามารถเข้าโครงการได้ แบ่งเป็น .อะไรบ้าง 2. นิยามของแมวจร และกติกาในการดำเนินงาน 3. การอนุมัติเคส  (ข้อย่อย ขั้นตอนการขออนุมัติและผู้รับผิดชอบ) 4. ขั้นตอนการขอเบิกเงิน 5. การจ่ายเงิน 6. ปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ถ้ายังไม่มีลิ้งหัวข้อเพิ่มมาให้เห็น แสดงว่ายังสรุปไม่เสร็จ ผู้ใดเห็นว่าน่าจะมีอะไรเพิ่มเติมโปรดระบุให้ชัดเจนครับ  แจ้งมาได้เลย ขออภัยที่ล่าช้า เพราะมีผู้ช่วยในห้องมากมาย ทั้งช่วยพิมพ์ ช่วยปิดเครื่อง ช่วยพังของ จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 20:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ลัดคิวเริ่มจาก ข้อ 2 ก่อนนะ นิยามของแมวจร เพราะอ่านดูแล้วค่อนข้างรัดกุมและไม่มีใครเพิ่มเติมอะไร นิยามของแมวจร และกติกาในการดำเนินการ แมวจร   หมายถึง   - แมวที่ปัจจุบันเป็นแมวเร่ร่อนไร้บ้าน เช่นถูกนำมาปล่อยทิ้ง - มีแหล่งพักพิง แต่แหล่งพักพิงนั้นไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิต เช่น  บ้านร้าง  วัด สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ  หรือเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะสมกับการเลี้ยงแมว   - ปัจจุบันมีที่พักพิงแต่ ในอนาคตจะต้องกลายเป็นแมวเร่ร่อน  เช่นแมวในชุมชนที่จะโดนไล่ที่ กติกา และขั้นตอนการดำเนินส่งแมวจรเข้าโครงการฯ - ต้องมี Log In ในเว็บไซด์ Pantip.com รับเข้าเป็นเคสอยู่ในความดูแลของตนเอง(ต่อไปจะเรียกเจ้าของเคส) - กรณีเป็นคนนอกเวป จะต้องมีคนที่มี Log in Pantip เป็นผู้รับรองแทน และถือเป็นเจ้าของเคส - ขออนุมัติตามขั้นตอนการขออนุมัติ (ดูในหัวข้อต่อไป) - หลังจากได้รับอนุมัติแล้ว ต้องนำเรื่องราวมาตั้งกระทู้ และดำเนินการเอง - ต้องมีจุดประสงค์เพื่อนำแมวดังกล่าวออกหาบ้านเมื่อถึงโอกาสอันสมควร หากไม่ครบตามกติกา ขาดข้อหนึ่งข้อใด ตามที่กล่าวมาข้างต้น ไม่สามารถรับเข้าโครงการฯ และเบิกจ่ายเงินจากโครงการได้ ใครต้องการเพิ่มเติมในประเด็นแมวจร  ถกกันต่อที่กระทู้ตามลิ้งนะครับ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7097653/J7097653.html แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 21:39:23 จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 20:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 142 มาจุดพลุให้ป้ารักษ์จ้า  จุดพลุก่อง เด่วตามอ่าน  มานเยอะอ่า จากคุณ : appletabo - [ 13 ต.ค. 51 21:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ตอนนี้ได้ผู้อนุมัติเคสแย้วหล่ะ อิ อิ ภาคกลางคืน  พี่เปิ้ล(ทิวลิบ)  คุณหนิง(NSY)  เป็นภาครักษ์แมวอินเตอร์  อนุมัติเคสข้ามทวีป (ป้ารักษ์มาแซม ๆ ได้ถึงตีสอง) ภาคกลางวัน  โออาอิชิ  พี่เหมียวอารีย์  (ป้ารักษ์มาแซม ๆ ได้บางช่วง แว้บไป แว้บมา) ภาควันหยุดราชการ  ยังไม่ได้อาสาสมัครเลยอะ   ขอบคุณเลขากระทู้ นุ้งรัตด้วยนะ   จุ๊บ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 21:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 144 รับทราบค่ะ จะให้เริ่มงานวันไหนดีคะ อิอิ จากคุณ : NSY - [ 13 ต.ค. 51 21:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 145 อุ้ย น้องใหม่ ไฟแรง   เดี๋ยวรายละเอียดรักษ์ส่งหลังแมวไปให้พี่เปิ้ลกับคุณหนิงนะคะ ดีจัง  จะได้หลับสบายถึงเช้า อิ อิ จากคุณ : วชิรา - [ 13 ต.ค. 51 21:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 146 กลางคืนนี่ คือ ตั้งแต่กี่โมงคะ สองคน น้อยไปหน่อยนะ แล้วก็ อาจจะมีช่วงเวลาที่ไม่อยู่บ้านตรงกัน ที่นี้ก็จะไม่มีคนรับเคสอ่ะซิคะ ขอรับอาสาสมัครเพิ่มอีกได้ป่ะ หรือไม่ ถ้าผู้อนุมัติเคสกลางคืน ไม่ปรากฏตัวเพราะไม่อยู่ ในกรณีฉุกเฉินก็ให้ผู้อนุมัติกลางวัน ทำแทนไปได้เลย ในกรณีที่เข้ามาเจอ แบบนี้ จะได้ไม๊คะ ยังไง ต้องขอรายละเอียดก่อนนะ เดี๋ยวทำโครงการณ์เค้าเจ๊งนะจะบอกให้ พี่ยิ่งใจอ่อนอยู่ดั๊ว หุหุ จากคุณ : ทิวลิบ - [ 13 ต.ค. 51 22:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 147 --- กระผมมาเชียร์+ให้กำลังใจ แม่ยายครับผม ^o^ จากคุณ : เหมียวหล่อ...เขยวชิรา (myth) - [ 13 ต.ค. 51 22:07:12 ]