ความคิดเห็นที่ 1 ชัดเจนดีแล้วค่ะ ร่วมลงชื่อค่ะ จากคุณ : NSY - [ 13 ต.ค. 51 21:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วแมวที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของโครงการล่ะครับ อดีตแมวจรที่หาบ้านมาหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับเลี้ยง แล้วสุดท้าย ป้ารักษ์ พี่เจี๊ยบ พี่สมคิดต้องรับดูแล   แมวเหล่านี้ก็น่าจะได้รับสิทธิ์ในการเบิกจ่ายค่ารักษาด้วยครับ  เพื่อไม่เป็นภาระหนักกับคนที่เสียสละดูแล และน่าจะขอเสียงเพื่อนๆสมาชิกรับรองด้วยครับ  (  ขอเสียงสมาชิกสนับสนุน  อย่างกับประชุมสภาแน่ะ) เพื่อไม่ให้มีคำครหาจากพวกปากหอยปากปูทีหลังว่า  แมวเหล่านี้ก็มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งแล้ว ทำไมยังมาใช้เงินของโครงการอีก จากคุณ : kittyob - [ 13 ต.ค. 51 21:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับหมออ๊อปนะ เพราะบ้านรักษ์แมวเป็นศูนย์กลาง ใครไม่มีที่ไปก็มาแปะไว้ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณรักษ์ พี่เจี๊ยบ พี่คิดที่จะต้องรับผิดชอบ จากคุณ : iluvtravel - [ 13 ต.ค. 51 22:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รับทราบคับผม ส่วนที่เพิ่มเติม เมื่อซักครู่ขาดในส่วนสถาณะภาพของแมวจรครับ ขออภัยด้วย ซึ่งคุณรักษ์ระบุเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว รัตตีความผิดเองครับ เพราะระบุว่า สถาณะภาพแมวจร สิ้นสุดลงเมื่อมีผู้อุปการะหรือตาย มันมีความเป็นมาเป็นไปตามหลักเหตุและผลอยู่แล้ว เลยไม่ได้ใส่ไปในตอนแรกครับ ก็ในเมื่อคำจำกัดความ "แมวจร" คือ แมวที่ไร้บ้าน  ก็หาบ้านได้แล้วก็ไม่เป็นแมวจรแล้วไง แต่ลืมนึกถึงกรณีอย่างที่หมออ๊อบว่า แมวที่หาบ้านไม่ได้อีกไม่รู้กี่สิบตัวที่อยู่ทั้งพี่เจี๊ยบ พี่คิด คุณรักษ์ ซึ่งดูท่าจะต้องดูแลกันชั่วชีวิต จะเอาอย่างไร อันนี้รัตขอออกความเห็นว่า ถือว่าอยู่ในเคสของแมวจรครับ เพราะฉะนั่นควรจะเบิกเงินจากโครงการได้ เพราะรัตถือว่า โครงการรักษ์แมว เป็นเพียงสื่อกลางของแมวจร เป็นผู้สนับสนุนดูแล เพราะฉะนั่นที่พักพิงทั้ง ๓ ที่ ก็เป็นเพียง"บ้านชั่วคราว" มากกว่า อีกอย่าง แมวพวกนี้ที่ต้องอยู่ไม่ใช่เพราะ"ตั้งใจ"จะเก็บเอาไว้เอง แต่ต้องรับไว้เพราะ เป็นแมวป่วย หาบ้านยาก แก่เกิน เป็นกรณีสุดวิสัยที่เรารู้ๆกัน ถ้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง เกิดวันนึงสายป่านหมด  เครียส ซักวันก็ท้อกันอีก ซึ่งจริงๆ กรณีแมวที่อยู่ตรงนั่นมีอะไรบ้าง รัตไม่ทราบลึกๆ ขอคิดอย่างนี้เน้อ กรณี แบบที่หมออ๊อบ ป้าอุษาว่ามา ผู้ใดคิดเห็นประการใดกันมั่งครับ แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 51 22:46:54 จากคุณ : outside islander - [ 13 ต.ค. 51 22:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยนะคะ แมวพวกนี้ ที่ต้องเลี้ยงกันโดยสภาพจำยอม ให้ใคร ก็ไม่มีใครเอา จะปล่อยไปไหน ก็ไม่ได้ เลี้ยงไว้ ก็ต้องดูแล มีค่าใช้จ่าย ลำพังคนเลี้ยง ก็เสียสละมากอยู่แล้ว ก็ควรได้เบิกค่าใช้จ่ายตามสมควรค่ะ จากคุณ : ทิวลิบ - [ 13 ต.ค. 51 22:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราจะทราบได้อย่างไรคะ ว่าเป็นแมวจร จริงหรือเปล่า หรือ แมวเจ้าของเบื่อ เนื่องจากไม่สบาย หรือ เกิดปัญหาอื่น แล้ว อยากทิ้ง หรือ ไม่อยากรับผิดชอบต่อไป มีวิธีที่จะพิสูจนได้ หรือเปล่าคะ เจ้าของแมวอาจไม่แสดงตัว แต่ให้คนอื่นมาแจ้งแทน หรือ คำว่าแมวจร อาจหมายถึงแมวที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว เมื่อเจ็บป่วย  ไม่อยากดูแล ก็ทิ้งขว้าง แมวพวกนี้ก็น่าสงสาร แต่จะทำให้โครงการ มีภาระมากขึ้น เดี๋ยวใคร ๆ ก็จะมาพึ่ง โครงการไปซะหมด จากคุณ : วังน้ำวน - [ 13 ต.ค. 51 23:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รวมของลุงตั้มด้วยอะเปล่าคะ  ลุงตั้มทอุตส่าห์ไปทำบ้านอยู่ต่างจังหวัด เจอแมวงอกมาอีก  ตอนนี้ลุงแกแมวร่วมสี่สิบตัวแล้วก๊าบ จากคุณ : วชิรา - [ วันออกพรรษา 00:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นั่นอ่ะดิคุณวังน้ำวน รัตว่านั่นคือปัญหาหล่ะ คิดว่าคงเพราะเหตุนี้ด้วยหล่ะมั่ง คุณรักษ์ถึงแยกนิยามของแมวจรออกมาเป็นอีกหนึ่งกรณี คุณวังน้ำวนมีข้อเสนอแนะแก้ตรงจุดนี้มั่ยครับ ตอนนี้คิดไม่ออกแระ คุณรักษ์ แมวของคุณตั้มที่เอาไปไว้บ้านที่โน้นมาจากไหนมั่งครับ ขอข้อมูลเพิ่มเพื่อ ผู้อื่นที่ไม่ทราบที่มาที่ไปจะได้พิจารณาได้ อย่างของคุณรักษ์ พี่เจี๊ยบ พี่คิด อยู่กรุงเทพ เห็นกันบ่อยรู้กันทั่ว แต่คุณเหมียวตั้มไม่ค่อยมา ชอบไปหล่อพระประธานหลังหมู่บ้านโน้น ไม่มีใครรู้อ่ะ หมายเหตุ คุณรักษ์ เมื่อกี้นายเสือลายเกือบทำทีวีพังไปหนึ่งเครื่อง หลังจากทำจอคอมพิวเตอรล้มลงมา(แต่ไม่พัง) วันนี้วันโกนหรอ พวกนี้เฮี้ยนกันจริง จากคุณ : outside islander - [ วันออกพรรษา 01:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9         ก่อนอื่นให้กำลังใจคุงรักษ์กะทีมงานก่อง..         อ่ะ.. นานๆ เข้ามาที ช่วงนี้.. เข้ามาก็เจอกระทู้ดีๆ เด๋วตามไปอ่านอันก่อนๆ ด้วย มีข้อสงสัยง่ะคับ.. *** มีแหล่งพักพิง แต่แหล่งพักพิงนั้นไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิต เช่น  บ้านร้าง  วัด สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ  หรือเป็นสถานที่ที่ไม่ได้เหมาะสมกับการเลี้ยงแมว*** แล้วถ้ามันเป็นแมวที่เราให้ข้าวแต่ไม่ได้เลี้ยงในบ้านล่ะคับ ..แบบนอนอ้วนอยู่แถวๆนั้น แล้วก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร กินเสร็จแล้วก็ไป ไม่มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตน ***ต้องมีจุดประสงค์เพื่อนำแมวดังกล่าวออกหาบ้านเมื่อถึงโอกาสอันสมควร*** แล้วถ้ารักษาเสร็จแล้วไม่หาบ้านไม่ได้เหรอคับ ในกรณีที่ไม่ได้โดนทำร้าย แต่เจออุบัติเหตุ หรือป่วย แล้วก็เป็นแมวโตหน่อย ไม่ใช่แมวเด็กน้อยน่ารัก หรืออยู่แถวนั้นก็ไม่ได้เดือดร้อน แต่ป่วย.. อะไรอย่างงี้อ่ะคับ.. ถามไม่ได้กวนนะคับ อยากรู้กิงกิง.. จากคุณ : lamununun - [ วันออกพรรษา 02:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คงต้องตั้งคณะกรรมการของโครงการค่ะ ช่วยกันพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ว่าจะช่วยเหลือแมวตัวนี้ หรือเปล่า  ลงความเห็นกันหลาย ๆ คนค่ะ ใช้เหตุผลของแต่ละคน ให้มีคนใจอ่อนบ้าง คนใจแข็งบ้าง ช่วยกันตัดสิน และเมื่อผลออกมาก็ต้องทำตามคณะกรรมการ ว่าจะช่วย อย่างไร แค่ไหน กรณีแมวจรจริง ก็ช่วยเหลือสุดความสามารถ และติดตามผล  อยากให้คนที่ มาขอความช่วยเหลือ ติดตามผลงาน หรือ การดำเนินชีวิต ของแมวตัวนั้น หลังจากหายแล้ว มีชีวิตอยู่อย่างไร หรือ ไปอยู่กับใคร ที่ไหน  นาน ๆ ครั้ง ถ่ายรูปมาโพสท์ให้ดูบ้าง   ว่าแมวตัวนี้รอดตายเพราะโครงการช่วยไว้  มันก็ทำให้คนที่ร่วมกันทำงานและ ช่วยเหลือ ได้ภาคภูมิใจด้วยนะคะ ส่วนแมวบ้าน เราจะช่วยเหลือ หรือไม่ ก็ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเหมือนกัน แต่กรณี้คงไม่เร่งด่วน ให้รอความเห็นหลายคน จะช่วยเหลือได้แค่ไหน ช่วยบางส่วน  ถ้าเจ้าของกล้าที่จะมาขอความช่วยเหลือ เราก็น่าจะช่วยบ้าง อาจลงกระทู้ให้คนที่อยากช่วยโดยตรงช่วยเหลือ หรือ ถ้าไม่มี โครงการช่วยบางส่วน แต่ต้องมีกรรมการไปตรวจสอบ สถานที่อยู่ และ ดูว่าไม่ไหวจริง ๆ ดีกว่า ให้เจ้าของปล่อยให้แมวตาย หรือ แอบเอาไปทิ้ง นะคะ กรณีแมวบ้าน อาจลงกระทู้ แล้ว ให้สมาชิกหยั่งเสียงในกระทู้เลยค่ะ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น  ต้องดูฐานะการเงิน ของโครงการก่อนนะคะ ว่าพอช่วยได้ไหม  เดี๋ยวจะมาให้ช่วยกันมาก แล้ว เป็นภาระของโครงการเพิ่มขึ้น เหมือนอย่างที่เคยทำบางครั้งค่ะ ที่เขาช่วยเหลือกันโดยตรง ผ่านทางกระทู้ ไม่ต้องอาศัย เงินโครงการ แต่ให้โครงการช่วยดู ว่าอันนี้ ยอมโหวตให้ คนทั่วไป ช่วยเหลือค่ะ  แต่เราต้องติดตามและ ไปดู ว่า เขาเอาแมวมาหลอก หาเงินหรือเปล่า  หรือ รายรับอาจมากกว่ารายจ่าย กลายเป็นการหากำไร เรื่องเงินนี่พูดยากค่ะ  พูดไม่ดี ก็กลายเป็นดูถูก หรือ เข้าใจกันผิด คนห้องแมวก็ใจบุญกันเยอะ อาจเป็นช่องทางหาเงินของบางคนได้ เราทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวัง และ คนที่ถูกสงสัยต้องไม่โกรธ  เพื่อความรอบคอบ และ ตรงตามจุดประสงค์ของคนที่ร่วมบริจาค และช่วยเหลือมาค่ะ โดยปกติ เราทำงานตอนกลางคืน และเปิดอ่านทุกกระทู้ในห้องแมวทุกวันค่ะ ดีใจที่มีโครงการนี้ค่ะ ชื่นชมทุกคนที่รักแมว และ เสียสละเวลาส่วนตัวค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 51 03:30:42 จากคุณ : วังน้ำวน - [ วันออกพรรษา 03:27:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประเด็นไม่สิ้นสุดเลยก่ะ...อ่านมาหลายกระทู้แล้วมึน -*- เสาร์ 25 ไปประชุมหาข้อสรุปกันดีกั่วไหมก๊ะ... เอาแบบฟันธง!! ไปเลยค่ะ ตอนนี้เก็บประเด็นที่งอกออกมาแล้วไปถกกันอีกที จากคุณ : แคท (Pussy_kittycat) - [ วันออกพรรษา 09:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่ผ่านมาแมวเจ็บป่วย ถ้ามาขอความช่วยเหลือ คุณรักษ์ก็อนุมัตินะคะ เพราะเห็นแก่แมว ทำให้เป็นภาระที่หนักของคุณรักษ์ ถ้ามีการวางหลักเกณฑ์ตรงนี้ไว้ก็ดีนะ จากคุณ : iluvtravel - [ วันออกพรรษา 10:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ประเด็นที่ว่า ถ้ากรณีที่จำเป็นต้องดูแลตลอดชีวิต อันนี้ในระเบียบบอกไว้แล้วครับ ว่าถ้ากรณีที่หาบ้านไม่ได้แน่ๆ เช่น แมวดุมาก  แมวพิการ แมวป่วยต้องรักษาตลอดชีวิต   ในระเบียบเค้าบอกไว้แล้วครับ ว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากโครงการฯได้ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 09:08:21 จากคุณ : กินดะ - [ วันออกพรรษา 12:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แบ่งเป็นเกณฑ์แทนได้มั้ยคะ แบบว่า 1. ถ้าเป็นแมวจรจริงๆ เช่น เจอนอนอยู่ข้างทาง ให้ตั้งกระทู้เรี่ยไรที่เหลือโครงการช่วย 100% 2.แมวจรแบบชั่วคราว เช่นแมวแถวปากซอย ให้ข้าวให้น้ำ แต่ไม่ได้เลี้ยงเองอะไรประมาณนี้ หรือแมวทีเมื่อรักษาแล้วสามารถปล่อยกลับไปอยู่ถิ่นเดิมได้ เป็นแมวโตแล้วหาบ้านคงไม่มีใครเอา เช่น แมวตลาด อันนี้ตั้งกระทู้เรี่ยไรแล้วที่เหลือโครงการช่วย 70-80% ทั้งนี้คงต้องให้คณะกรรมการที่เป็นคนตัดสินเคสนั้นๆช่วยกันออกมติและตัดสินใจร่วมกัน อาจจะมีคณะกรรมการสัก 3 คน เพื่อป้องกันการครหาว่าลำเอียงและจะได้แบ่งเบาภาระให้ป้ารักษ์เรื่องนี้ด้วยค่ะ แบบนี้ใช้ได้รึเปล่าคะ จากคุณ : แม่ค้าหน้าแป้น - [ วันออกพรรษา 12:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอฝากไว้ด้วยครับ ซึ่งหลาย ๆ ท่านอาจจะยังสงสัยอยู่ เรื่องแมวของผมนั้น ส่วนมากจะเป็นแมวที่เก็บมา (แมวที่ตั้งใจเลี้ยงเองจริง ๆ มีอยู่ไม่ถึงสิบตัว) บางทีก็ไปเจอแมวป่วยแถว ๆ ข้างถนนบ้าง ตามวัดบ้าง ก้อุ้มกลับมารักษาตัว พอรักษาหายแล้วก็ต้องเลี้ยงเอาไว้เอง แต่ที่หนักหน่อยเคยเจอแบบมาเป็นเพคเก็จเลย คือใส่กล่องมาทิ้งให้เลี้ยงให้ดื้อ ๆ เลย ทั้งแม่และลูก เราก็ต้องก้มหน้าก้มตาเลี้ยงกันไป เพราะถ้าขืนไม่เอามันก็ต้องเอาไปปล่อยวัดอยู่ดี ซึ่งทางครอบครัวของผมนั้นนิสัยเสียกันทั้งบ้าน คือ เป็นโรคใจอ่อน ซึ่งพอเลี้ยงไปได้ซักระยะหนึ่ง ก็จะสงสาร สุดท้ายก็งอกอีก.........จนทุกวันนี้ถึงไม่อยากรับฝากแมวจริง ๆ แต่ด้วยจำนวนแมวที่เยอะมากขึ้น จึงทำให้รายจ่ายตอนนี้มากขึ้นตามไปด้วย (แต่รายรับยังเท่าเดิม) ก็เลยทำให้มนุษย์เงินเดือนคนนึงลำบากมากขึ้นกว่าเดิมอีก (แต่สุขใจที่ได้เลี้ยงพวกเขา) บอกตามตรงเลยว่าบรรดา มะหมา เหมียว ๆ ตอนนี้ ที่เลี้ยงอยู่รวม ๆ กันแล้ว 50 ตัวพอดี แมวที่กรุงเทพ 8 ตัว ที่บ้านต่างจังหวัด 36 ตัว และหมาที่บ้านอีก 6 ตัว ซึ่งแต่ละเดือนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อยู่ทีประมาณ 5000 บาท ซึ่งเงินเดือนผมเองยังไม่ถึง 10000 บาทด้วยซ้ำ ต้องอาศัยทำงานพิเศษ ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พ่วงเข้าไปด้วยครับ จนป้ารักษ์รู้เรื่องเข้า จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องอาหารเม็ดกับวัคซีนไข้หัดหวัดแมว และวัคซีนพิษสุนัขบ้า จึงทำให้พอประทังไปได้บ้าง โดยเฉลี่ยแล้วทาง โครงการ จะช่วยอาหารเม็ด supper cat ประมาณ 2 เดือน 1 ครั้ง ครั้งล่ะ 10 กระสอบ 80 กิโล   ส่วนเรื่องค่ารักษาแมวที่เจ็บแมวป่วยในบ้านของเหมียวตั้มเอง เหมียวตั้มจะเป็นคนออกเองน่ะครับ (คงไม่กล้ามามั่วว่าเป็นแมวจรไปเก็บมาจากใหนก็ไม่รู้แล้วมาขอโครงการ เพราะว่าถึงไม่มีใครรู้ก็จริง แต่ตัวเรารู้อยู่แก่ใจ) เพราะถือว่าเป็นแมวที่เรารับเลี้ยงด้วยความเต็มใจของเราเอง แต่นอกเสียจากไปเจอแมวป่วย แมวเจ็บ แบบอาการหนักจริง ๆ  ซึ่งดูแล้วค่าใช้จ่ายคงเยอะและคงจะเกินกำลังตัวเองก็จะขอให้ โครงการ ช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่หนักมากค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ก็จะออกเองมาตลอดครับ ก็ขอฝากไว้พิจารณาด้วยครับ ถ้เกิดมีการประชุม หารือกันเป็นเรื่องเป็นราว หรือมีการกำหนดกฏเกณฑ์ต่าง ๆ กันขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งจะได้ไม่ทำให้มีปัญหากันในภายหลัง และจะไม่ทำให้ลำบากใจทั้งผู้ให้และผู้รับครับ ด้วยความเคารพครับผม แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 51 15:51:40 จากคุณ : เหมียวตั้ม - [ 15 ต.ค. 51 09:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณในความเมตตาของคุณตั้มที่มีต่อบรรดาแมวจรครับ... จากคุณ : กินดะ - [ 15 ต.ค. 51 12:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยากจะอธิบายแบบคุณเหมียวตั้มนะคะ เพราะป้าเองก็เลี้ยงหมาแมวไว้แล้วร่วม 100 ชีวิต เรื่องหมาไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่เกี่ยวกับห้องแมว เอาเฉพาะแมวก็แล้วกัน เมื่อก่อนป้าก็เลี้ยงของป้าไป แต่ตอนหลังหลังจากเข้ามาเล่นพันทิปทำให้มีแมวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากความเป็นคนขี้สงสาร ถ้าเค้าไม่ป่วยป้าก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอเค้าป่วยขึ้นมาก็เป็นภาระที่เกินจะรับ ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ แล้วก็โครงการรักษ์แมวฯ ซึ่งก็ได้รับความเมตตาอย่างมาก เพื่อน ๆ ช่วยโอนเงินค่ารักษา รวมกับโครงการช่วยจนพ้นวิกฤติ ตอนนี้โครงการก็ช่วยเรื่องวัคซีน ค่ารักษาแมวจรที่ต้องอุปการะอยู่แล้วก็อาหารทำให้เบาไปเยอะ การรับแมวจรซึ่งไม่ได้มีการตรวจโรคก่อน ถ้ามีโรคติดต่อมันก็ติดต่อแมวส่วนตัวของป้าด้วย เฉพาะค่ารักษาแมวส่วนตัวที่ป้ารับภาระเองก็หลายเงินอยู่ ถ้าจะให้รับภาระแมวที่รับไปจากห้องแมวด้วยมันก็เกินกำลัง ป้าคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับป้า เพราะเวลาเปิดเคสป้าต้องเปิดในชื่อตัวเอง ทำให้ดูเหมือนป้าใช้เงินโครงการเยอะ  ทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลแต่ละวันป้าก็ควักกระเป๋าเองไม่เคยเบิก ตอนหลังโครงการรักษ์แมวก็ช่วยวัคซีน+อาหารมาเดือนละ 8 กระสอบ แต่แมวบางส่วนที่ต้องดูแลใกล้ชิด ที่ป้าแยกมาเลี้ยงที่คอนโดป้าเลี้ยงเค้าด้วยแม็กซิม่า เสมือนเป็นแมวป้าเอง โดยเฉพาะแมวเด็ก มีทั้งนมทั้งอาหารเปียกซึ่งป้ารับภาระไหว ทำให้ป้าต้องปิดโครงการทำหมันไป เพราะยิ่งทำก็ยิ่งเข้าเนื้อ บางทีมีแมวลำบากพอจะช่วยได้แต่พอคิดถึงภาระที่ตามมาก็ต้องหยุดคิด  เป็นการเสียโอกาสที่จะช่วยเหลือต่อไป อยากจะให้ช่วยคิดด้วยว่าในกรณีอย่างนี้จะมีมาตรการยังไง  ให้ผู้ฝากแมวร่วมรับผิดชอบด้วยหรือยังไง จากคุณ : iluvtravel - [ 16 ต.ค. 51 12:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ก็น่าจะดีนะคะ  จะได้ไม่กลายเป็นภาระของผู้ดูแลไปอะค่ะ เพราะอย่างน้อยแมวที่รับมาช่วยดูแล  ก็ต้องมีหลัก ๆ แล้วคือเรื่องของอาหารและทรายในแต่ละวัน  ซึ่งยังไม่รวมค่าวัคซีนและการรักษาเวลาเจ็บป่วย จากคุณ : วชิรา - [ 16 ต.ค. 51 20:30:36 ]