ความคิดเห็นที่ 1 รายละเอียดข้อความเดิมของคุรรักษ์ จากทู้ก่อน การขอความอนุเคราะห์เงินจากโครงการฯ ในระหว่างที่แมวจรได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของเจ้าของเคสนั้น   หากยังไม่สามารถนำแมวออกหาบ้านได้ เช่น แมวยังป่วย  หรือยังบาดเจ็บอยู่นั้น  หากเจ้าของเคสมีความจำเป็นจะขอความอนุเคราะห์เงินจากโครงการเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยดังกล่าว  เจ้าของเคสจะต้องถ่ายรูปและนำเรื่องราวมาโพสเพื่อชี้แจงให้ผู้อื่นรับทราบอาการป่วยด้วย    แต่ทั้งนี้การให้ความอนุเคราะห์เงินช่วยเหลือจากโครงการฯนั้น   จะยึดถือลำดับความจำเป็นเร่งด่วนก่อน-หลังของปัญหาเป็นสำคัญ และ ทั้งนี้จะต้องพิจารณาถึงเงินของโครงการที่มีในขณะนั้นประกอบด้วย   เนื่องจากเป็นเงินที่ผู้ใจบุญได้บริจาคเข้ามา  จึงไม่สามารถกำหนดจำนวนเงินในการช่วยเหลือได้แน่นอน อนี่ง  กรณีที่เจ้าของเคส มีความประสงค์จะรับแมวจรไว้อุปการะเอง   ไม่ประสงค์จะนำออกหาบ้าน  ดังนั้น สภาพของแมวจรจะสิ้นสุดลง   กรณีนี้เจ้าของเคสจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆเองทั้งหมด ยกเว้น แมวจรที่เจ้าของเคสรับอุปการะอยู่นั้น เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า แมวนั้นถึงจะนำออกหาบ้านสักกี่ครั้งก้อคงไม่สามารถจะหาผู้อุปการะใหม่ได้    เนื่องจาก - เป็นแมวป่วยต้องรักษาต่อเนื่องตลอดชีวิต - แมวเป็นโรคติดต่อร้ายแรง - แมวพิการ ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ - แมวดุร้าย - แมวแก่ อายุมาก ฯลฯ ***  กรณีนี้ทางโครงการจะสนับสนุนการรักษาให้ตามสมควร *** กรณีที่เป็นเคสรักษายาวนานต่อเนื่อง  เจ้าของเคสจะต้องขึ้นกระทู้ขอรับบริจาคเพิ่มเติมเองด้วย เพื่อเป็นการกระจายเงินให้แมวจรเคสอื่นๆได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน จากคุณ : outside islander - [ วันออกพรรษา 06:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเสนอ  ประเด็น ตามนี้ 1.  อดีตแมวหาบ้านเป็นปี ที่โดนส่งกลับจะทำอย่างไร มีกฎกติกาอย่างไรดีที่จะช่วยให้เขาได้บ้าน โดยที่ไม่เป็นภาระของโครงการเกินไป   - ที่รับไปแล้วเป็นปีแล้วต้องการคืนโครงการด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เจ้าของโพสต้องกระทู้เอง แต่สามารถพาเป็นแมวหาบ้านที่จัตุจักร หรือนอกสถานที่ได้  โดยมีทางโครงการ แผนกหาบ้านเป็นตัวกลางและให้คำแนะนำ ขั้นตอนขอไปหาบ้านที่จตุจักรเหมือนที่น้องกิ๊ฟ หรือเปิ้ล เคยเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ในระหว่างที่ยังไม่ได้บ้านต้องอยู่กับเจ้าของเดิมก่อนจนกว่าจะได้บ้าน 2. ขอเสนอให้มีการสำรองจ่าย ไม่ทราบว่าจะเหมาะสมหรือไม่  โดยโอนเงินคืนโครงการตามยอดค่าใช้จ่ายจริงในภายหลัง ถ้าเป็นไปได้ เราจะมีข้อกำหนดยังไงดี ใช้ได้ทั้งกรณี แมวบ้านรับการรักษาฉุกเฉิน ที่ประสบอุบัติเหตุ และป่วย ในกรณีรับแมวไปแล้วไม่เกิน ๑ เดือน เกิดเป็นโรคแฝงร้ายแรง ซึ่งน่าจะเกิดก่อนได้บ้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงและผุ้อุปการะไม่สามารถชำระได้ณ.เวลานั่น ผู้ของบสำรองจ่ายนี้จะต้องเป็นสมาชิก Pantip เท่านั่น ซึ่งถ้าไม่ใช่ก็ต้องสมัครในระหว่างนี้สามารถให้ สมาชิกของพันทิพเป็นผู้ดูแลเคสชั่วคราวให้ก่อน ถือเป็นประหนึ่งผุ้ค่ำประกัน ซึ่ง ผู้อุปการะหรือผู้ค้ำประกันจะต้องเป็นคนโพสกระทู้ พร้อมรูปถ่ายและดำเนินการพาไปรักษาเอง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย ขั้นตอนเหมือนกรณีอื่นในโครงการ รวมถึงต้องโพสกระทู้ขอรับบริจาคแยกเป็นกรณีพิเศษภายใต้ชื่อของโครงการรักษ์แมว   เงินที่ได้ทั้งหมดถือเป็นของโครงการฯ เพื่อเวียนใช้ในเคสอื่นต่อไป ทั้งนี้การอนุมัติต้องอยู่ที่บัญชีค่าใช้จ่ายเป็นหลัก น่าจะถือเป็นอันดับสุดท้ายในการพิจารณา จากคุณ : outside islander - [ วันออกพรรษา 06:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่มเติมข้อสงสัย ขอรบกวนช่วยออกความคิดเห็น 1. แมวที่ได้รับอุบัติเหตุ   ถ้าภายหลังทราบว่าเป็นแมวมีเจ้าของจะทำยังไง (ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าทราบว่ามีเจ้าของแล้วก็ควรปล่อยมือและส่งต่อตั้งแต่ตอนที่ทราบ  ค่าใช้จ่ายที่เหลือก็ควรจะเป็นหน้าที่ของเจ้าของ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วก็อยากได้คืนด้วยหล่ะ แต่คงยากและลำบากใจในการพูดคุยพอดู ก็งกอยู่หรอก แต่จ่ายไปแล้วถือว่าเป็นน้ำใจ เราอาจจะใช้วิธีแนะนำโครงการเพื่อสารสัมพันธ์อันดีต่อไป) 2. แมวบ้าน แต่ป่วย เป็นเหตุฉุกเฉิน ในเมื่อเป็นแมวมีเจ้าของ แต่เป็นเหคุเร่งด่วน ต้องทำการรักษา แต่รักษาจนถึงเมื่อไหร่ หายหรือปลอดภัย ใช้กฎเกณฑ์อะไรในการพิจารณา และหลังจากดำเนินการรักษาแล้ว จะทำอย่างไรต่อดี (ความคิดเห็นส่วนตัว  ขึ้นอยู่กับเหตุผลของเจ้าของว่าทำไมไม่ทำการรักษา ไม่มีปัจจัยเพียงพอ หรือไม่ใส่ใจเพียงพอ ถ้าเพราะไม่มีปัจจัย คงไม่พ้นรักษาให้เรียบร้อยอยู่ดี แมวกำลังจะตายใครจะทนไหว ถ้าเพราะไม่ใส่ใจ อันนี้หาทางลองเอามาหาบ้านใหม่ดีกว่ามั่ย ลองไม่ใส่ใจดูแลจนเราต้องมารับภาระเองแบบนี้ ถ้าป่วยซ้ำอีกแล้วเราไม่ทราบก็คงไม่รอดแน่) ทั้งหมดนี้เป็นข้อปลีกย่อย ขอฝากเอาไว้ให้พิจารณา รัตหน่ะเข้าใจนะ คนในนี้ก็มีเมตตาทั้งนั่น ถ้าคิดแบบใช้ใจด้วย เอาความเมตตาเป็นที่ตั้งยังไงก็รับรักษาไร้ข้อโต้แย้ง แต่ลองคิดแบบเกรียนดู ลองมองจากมุมเกรียนก็จะเห็นอีกมุมนึง เผื่อเอาไว้ถ้าไม่ใช้ใจคิดก็คงไม่พ้นเจอคำถามแบบนี้ เผื่ออีกอย่าง สำหรับคนที่ใช้ช่องว่างประเด็นแมวบ้าน มั่วมาขอ คนเห็นแก่ตัวสามารถเห็นมุมมากกว่าคนปกติเสมออ่ะ จากคุณ : outside islander - [ วันออกพรรษา 06:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนที่ไม่ใส่ใจ แล้วโครงการต้องรับภาระรักษา อยากจะยึดแมวเลยนะคุณรัตน์ (ไม่อยากจะบอกว่าอย่างเช่นป้านิดา ฮิฮิ) ไม่รู้ทำได้ป๊ะ จากคุณ : iluvtravel - [ วันออกพรรษา 10:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเรายึดมาทั้งหมดจะเอาไปไว้ไหนดีอ่ะครับป้าอุษา แล้วถ้าเราเพิ่มข้อกำหนดสำหรับ แมวบ้านที่ป่วย ว่า ถ้าต้องการใช้เงินจากโครงการ จะต้องให้สิทธิเราพามาหาบ้านเท่าที่จะหาได้ดีหรือเปล่า ถ้าไม่ต้องการให้เอาออกมาหาบ้าน ค่ารักษาที่โครงการจ่ายไปถือเป็นการสำรองจ่าย ต้องนำกลับมาคืน แต่เป็นจำนวนเต็ม หรือเท่าไหร่ก็ว่าไป แล้วถ้าหาจนสุดแล้วภายในกำหนดเวลา(สมมุติ 1-2 เดือน) แล้วไม่ได้บ้าน ก็กลับไปอยู่ที่เดิม แต่ยังได้โอกาสที่จะมีที่ๆดีกว่า ห่วงเรื่องเดียวว่าจะเป็นการเพิ่มภาระให้โครงการฯ โดยเฉพาะเรื่องของเงินในบัญชี จากคุณ : outside islander - [ วันออกพรรษา 16:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แวะมาให้กำลังใจคุณรัดและทุก ๆ ท่าน ค่ะ ขอเป็นผู้ตืดตามอ่านนะคะ มึน ๆ ง่ะค่ะ งง งง อ่านดูแล้วทุกความเห็นดีหมด แต่คิดว่าคงต้องเลือกที่ดีที่สุดเนอะ.... เฮ้อ...เข้ามาก็ช่วยไรกะเค้ามะได้เล้ย... จากคุณ : ฉันจะมีความสุขทุกวัน (ฉันจะมีความสุขทุกวัน) - [ วันออกพรรษา 22:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เจ้าของเคสจะต้องถ่ายรูปและนำเรื่องราวมาโพสเพื่อชี้แจงให้ผู้อื่นรับทราบอาการป่วยด้วย     = ขอเพิ่มเติมตรงนี้หน่อยคะ อยากให้เจ้าของ ลงรายละเอียดอื่นๆ ในกรณีที่กำลังรักษาอยู่ ว่ารักษาอยู่ที่ไหน พิกัดอะไร เบอร์โทรร้านหมอ  ละคุณหมอท่านใดเป็นเจ้าของเคส OPD ของแมว เบอร์อะไร เพื่อในกรณี พวกเราใครอยู่ใกล้ก้แวะไปดูได้คะ อีกอย่าง กันพวกแอบอ้าง ฉกแมวป่วยคงอื่นมาเป็นของตนชั่วคราวแล้วเอาเงินนะคะ เศรษฐกิจไม่ดี พูดยากคะ กันไว้ก่อนดีกว่า จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ - [ 16 ต.ค. 51 15:43:16 ]