ความคิดเห็นที่ 1 ของดีต้องมีสูตร.. ... วิธีการทำปุ๋ยปลาหมักสูตร วท.   ปุ๋ยปลาหมักเป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพที่ได้จากการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จากปลา ได้แก่ หัวปลา ก้างปลา หางปลา พุงปลา และเลือด ผ่านขบวนการหมักโดยการย่อยสลายโดยการใช้เอนไซม์ ซึ่งเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หลังจากหมักจนได้ที่แล้ว จะได้สารละลายสีน้ำตาลเข้ม ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม นอกจากนี้ปุ๋ยปลายังประกอบด้วยธาตุอาหารรองได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน และธาตุอาหารเสริมได้แก่ เหล็ก ทองแดง และแมงกานีส   นอกจากนี้ปุ๋ยปลายังประกอบด้วยโปรตีนและกรดอะมิโน ซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยสลายของโปรตีนในตัวปลา ซึ่งจากข้อมูลทางวิชาการบ่งชี้ชัดว่ากรดอะมิโนสามารถจับตัวกับธาตุอาหารปุ๋ยทำให้ ปุ๋ยสามารถดูดซึมเข้าสู่ต้นพืชได้เร็วขึ้น ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของเกษตรกรที่พบว่าปุ๋ยปลาหมัก ช่วยพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ดอกไม้มีสีสดขึ้น ผลไม้มีคุณภาพดี และช่วยเร่งการแตกยอดและดอกใหม่ ตลอดจนการเพิ่มผลผลิตของพืช จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 20:44:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อ..   1. หมักโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์ Lactobacillus plantarum   ในการหมักปุ๋ยปลาหมัก พบว่าได้ผลดี โดยการหมักเศษปลาจำนวน 100 กิโลกรัม ใช้กากน้ำตาล 20 ลิตรเติมเชื้อจุลินทรีย์ Lactobacillus sp. จำนวน 10 ลิตร คนให้เข้ากันใช้เวลาการหมักประมาณ 1-2 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยปลาหมักจากเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์สำหรับพืชและสัตว์ นอกจากนั้นหลังจากหมักเป็นปลาหมักแล้วยังสามารถนำปลาหมักไปเป็นอาหารเสริมสำหรับสุกร ลดการติดเชื้อของโรคทางเดินอาหารของสุกรอีกด้วย    2. หมักโดยการใช้กรดอินทรีย์ กรดอินทรีย์ที่นิยมใช้ในการผลิตปุ๋ยปลาหมักได้แก่ กรดมด (กรดฟอร์มิค หรือกรดกัดยาง) และกรดน้ำส้มสายชู (กรดอะซิติก) ซึ่งกรดทั้งสองมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศเดนมาร์ค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1948 การใช้กรดทั้งสองชนิดในการผลิตปลาหมักเนื่องจาก กรดมดหรือกรดกัดยาง เป็นกรดที่หาได้ง่ายในพื้นที่ที่ทำสวนยาง ได้แก่ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนกรดน้ำส้มสายชูจะถูกนำมาใช้ในพริกดอง ซึ่งมีความเข้มข้นของกรด 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่จะนำมาใช้ในการผลิตปลาหมักเป็นกรดน้ำส้มสายชูเข้มข้นที่เรียกว่า “หัวน้ำส้ม” สามารถหาซื้อได้ในตลาดสดแทบทุกแห่ง จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 20:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อ..  ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยปลา ปุ๋ยปลาสามารถผลิตได้โดยการนำเอาพุงปลาและเลือดปลามาทำการบดให้ชิ้นส่วนต่างๆเหล่านี้มีขนาดเล็กลง จากนั้นนำไปหมักโดยใช้กรดมดเข้มข้น (formic acid) หรือกรดน้ำส้มสายชูเข้มข้น (acetic acid) ในปริมาณร้อยละ 3.5 มาผสมให้เข้ากันกับพุงปลาและเลือด นอกจากนี้ยังต้องเติมกากน้ำตาลในปริมาณร้อยละ 20 เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวจากเศษปลา จากนั้นทำการคนให้เข้ากันและคนติดต่อกันอย่างน้อยเป็นเวลา 7 วัน ในระยะนี้จะสังเกตเห็นว่าพุงปลาเริ่มมีการละลายออกมาเป็นสารละลายเกือบหมดแล้ว จากนั้นทำการหมักต่อไปอีกเป็นเวลา 21 วัน ในระหว่างที่ทำการหมักให้คนปุ๋ยปลาเป็นครั้งคราว การหมักปุ๋ยปลาถ้าใช้เวลานานจะได้ปุ๋ยปลาที่มีคุณภาพและกลิ่นที่ดี บางครั้งปุ๋ยปลาที่หมักได้จะมีคุณภาพของปุ๋ยที่มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุดิบและกระบวนการหมัก แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีธาตุอาหารไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบประมาณ 3.5 เปอร์เซ็นต์ โพแทสเซียม 0.5-1เปอร์เซ็นต์ และมีจุลธาตุดังกล่าวข้างต้น เป็นองค์ประกอบ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 21:29:09 จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 20:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อ..       วิธีการผลิต                                          เศษปลา ไส้ปลา 100 กก.                                                      v                                                      v  ผสมกากน้ำตาล 20 กก. กรดกัดยาง(ฟอร์มิด)3.5ลิตร                                                      v  หรือน้ำส้มสายชู 3.5 ลิตร                                                      v                                                      v                                           หมักในถังพลาสติก 30 วัน กวนทุกวัน                                                      v                                                      v                                                      v                                                      v                                            ปุ๋ยปลา 100 ลิตร    หลังจากหมักเป็นเวลา 1-2 เดือน แล้วปุ๋ยปลาจะมีกลิ่นหอมและกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำปุ๋ยปลาไปใช้ต้องทำการสะเทินกรดที่เหลืออยู่ในปุ๋ยปลาเสียก่อน (กรดที่เหลือจะเป็นอันตรายต่อพืช ทำให้ใบไหม้ถ้าใช้ในความเข้มข้นสูง) โดยการใส่หินฟอสเฟตบด (ปุ๋ยสูตร 0-3-0) ในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อปุ๋ยปลาจำนวน 100 ลิตร หมักทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ จึงนำปุ๋ยปลาไปใช้ได้  ในกรณีที่ไม่มีหินฟอสเฟต อาจใช้กระดูกป่นหรือปูนโดโลไมท์ หรือปูนขาว อย่างใดอย่างหนึ่งในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อปุ๋ยปลา 100 ลิตร เช่นเดียวกันกับหินฟอสเฟต การหมักกรดอินทรีย์มีข้อดี คือกรดสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่ากรดฟอสฟอรัส และสามารถนำไปใช้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่มีข้อเสียคือ มีปริมาณธาตุอาหารฟอสฟอรัสต่ำ ดังนั้นหากมิใช่นำไปใช้กับเกษตรอินทรีย์จึงมักแนะนำให้ผสมปุ๋ยเกล็ดที่มีสูตรตัวกลางสูง เช่น 12-57-17 หรือ 10-30-20 หรืออาจเป็นปุ๋ยเม็ดเช่น 16-20- 0 หรือ 15-15-15 อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้จะทำให้ปุ๋ยปลาหมักมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 20:59:11 จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 20:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วิธีสังเกตดูว่าเมื่อไรจึงจะนำปุ๋ยน้ำมาใช้ได้ 1. ระยะที่ 1 สังเกตน้ำปุ๋ยจะออกเข้มข้น เป็นฟองใหญ่ไม่แตกง่าย 2. ระยะที่ 2 ฟองจะค่อยๆ เล็กและแตกง่าย จะมีกลิ่นหอม 3. ระยะที่ 3 ฟองจะค่อยๆ เล็กลงมากๆ มีกลิ่นน้ำส้มคล้าย ๆกลิ่นแอลกอฮอล์และฟองจะละเอียดมาก จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 21:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยน้ำ 1. ออกดอกเร็ว เก็บผลผลิตได้เร็ว ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้นและมีคุณภาพดี 2. ลงทุนน้อย ลดต้นทุนในการผลิตและสามารถผลิตไว้ใช้เองในครัวเรือน 3. ไม้ผลจะมีรากแข็งแรง ใบสวย ใบใหญ่และยังปรับให้สภาพพื้นที่ดินดี ไม่เสีย ไม่เปรี้ยว           วิธีใช้ 1. กรณีใช้ฉีดพ่นทางใบ ใช้ปุ๋ยน้ำ 1ลิตร ต่อน้ำ 100–150 ลิตรปริมาณการพ่น 7–10 วัน / ครั้ง 2. กรณีใช้ราดลงดิน ราดโคน ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตร ต่อน้ำ 50 ลิตรปริมาณการใช้อย่างน้อยปีละ 3–4 ครั้งหรือ 30–40 วัน/ครั้ง ที่มา..http://www.doae.go.th/soil_fert/biofert/fish.htm จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 21:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับปริมาณสารอาหารที่พบในจุลินทรีย์น้ำหมักชีวภาพจากปลาทะเลหรือปุ๋ยปลาร้า ได้แก่ Aspratic acid          0.779%, Methionine            0.005%, Threonin               0.093%, Isoleucine              0.059%, Serine                   0.145%, Phenylalanine         0.102%, Glutamic acid          8.014%, Lysine                    0.39%, Proline                   0.099%, Arginine                 0.021%, Glycine                   0.066%, Histidine                 0.007%,  Alanine                  2.324%, Tyrosine                 0.026%, Cystine                   0.036%,  TN                         5.066%, Valine                     0.241%, AN/TN                     57.37%, pH                           5.55%, P2O2                       0.423%, K2O                         0.894%, CaO3                       3.420%, Bo                           2.0%, MgO                        0.517%, SO4                        0.209%, Organic Matter         39.47%, Crude Protein           35.0% .............เป็นต้น จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 21:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อควรระวังในการใช้น้ำสกัดชีวภาพ              1.  การใช้น้ำสกัดชีวภาพกับพืชบางชนิด เช่น กล้วยไม้  อาจทำให้วัสดุที่ใช้ปลูก เช่น กาบมะพร้าวผุเร็วก่อนเวลาอันสมควร              2.  การใช้น้ำสกัดชีวภาพกับพืชนั้นในดินควรมีอินทรีย์วัตถุอยู่ เช่น มีการใส่ปุ๋ยหมัก และเศษพืชแห้งคลุมดินไว้   ซึ่งทำให้การใช้ประโยชน์จากน้ำสกัดชีวภาพหรือน้ำหมักชีวภาพได้ผลดี              3.  ควรใช้ตามอัตราที่กำหนดไว้ในคำแนะนำ   เพราะอาจมีผลทำให้ใบไหม้ได้   เนื่องจากความเป็นกรดหรือความเค็มในน้ำสกัดชีวภาพ  หรือน้ำหมักชีวภาพ              4.  น้ำสกัดชีวภาพหรือน้ำหมักชีวภาพที่มีธาตุไนโตรเจนสูงระวังการใช้ เพราะใช้มากอาจทำให้เฝือใบและไม่ออกดอก ออกผลได้ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 51 21:19:56 จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 21:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ค้นหาเพิ่มเติม..ด้วย     คำว่า..   ปุ๋ยปลา   ปุ๋ยปลาร้า    การผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจากปลา   นะครับ... จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 20 ต.ค. 51 21:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : DukDikMaru - [ 20 ต.ค. 51 22:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เนี่ยกำลังจะทำอยู่พอดีเลย...รอปลาอยู่เท่านั้นเองแถวๆสวนมีคนเค้ายกยอได้ลูกปลานิลเล็กๆเพียบเค้าขายให้กิโลละ 8 บาท... ......ปลาทะเลไม่มีเอาปลาน้ำจืดได้ปะ..น้าคนดง........ .............นี่ถัง กะ กากน้ำตาลก็พร้อมแล้ว...รอแต่ปลาครับ....... ซื้อถังแบบถูกอะใบละ 450 เอามาผ่าเปิดฝาเอาแล้วเอาฝาที่มีอยู่ใช้ปิดอะครับ...แบบเนี้ยยยยยย จากคุณ : lungwan - [ 21 ต.ค. 51 07:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น้าดง ช่วยส่งปลาร้ามาให้ลุงแว่นทีค่ะ หมักได้ที่แล้ว เดี๋ยวตามพี่สาวสวนแตง มาตำส้มตำกัน จากคุณ : yanet - [ 21 ต.ค. 51 07:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลุงแว่น แล้วปุ๋ยปลาครั้งที่แล้วเป็นงัยครับ สำเร็จไหมรายงานด้วยครับ จากคุณ : ลุงใหญ่ (ป้าแอ๊ว) - [ 21 ต.ค. 51 08:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แจ่วปลาร้า  ปลาร้าสับ  หมักปลาได้ที่แล้วปล้นลุงแว่นกันเนอะ จากคุณ : สาวสวนแตง (จาปาตี) - [ 21 ต.ค. 51 08:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้ปุ๋ยปลามา20ปีแล้ว ซื้อเอา ทำไม่เป้น...รับรองคุณภาพ สุดยอดใครยังไม่เคยใช้รีบใช้ซะไวๆๆ..โดยเฉพาะ กุหลาบ กล้วยไม้ แอ๊ฟริกัน ..สารพัดชนิดที่ลองใช้...ใช้มากๆระวัง โรคใบเน่า ใชช่วงฝน จากคุณ : Handsome old - [ 21 ต.ค. 51 09:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ ลุงใหญ่..คราวที่แล้วผมซื้อปลามา 50 โลเองเอาใส่ในบ่อหมักรวมกะปุ๋ยหมักอะครับได้ใช้ไปครั้งนึงแล้ว..ผมอัดเข้าไปในระบบรดน้ำที่สวนอะครับ...ผลว่าต้องเผ่นหนีกลับบ้านครับ..เหม็นสุดยอดเลย......เพราะหมักยังไม่ได้ที่อะครับ...แต่อาทิตย์หลังไปมานี่ต้นไม้ก็เขียวดีครับ..บางต้นแตกยอดออ่นเพิ่มครับ.... .ปุ๋ยปลาสมัยก่อนเค้าไม่มีตัวเร่งช่วยไม่ใส่กากน้ำตาลใส่โอ่งฝังดินกว่าจะเอามาใช้ได้นานมากเลย...แถมเหม็นสุดๆด้วย...เพื่อนที่สวนข้างผมอะสมัยก่อนเค้าปลูก พลู อะครับใช้ปุ๋ยปลามาโดยตลอด... ....แต่ต้องระวังหน่อยปุ๋ยปลานี่อย่าใส่มากนะเด๋วต้นไม้จะบ้าใบไปเลย....... ....นี่กะว่าถ้าได้ปลารุ่นนี้ผมจะใส่ ซุปเปอร์ พ.ด. 2 อะครับ..ลองดู ...เด๋วพรุ่งนี้ไปสวนจะลองไปถามอีกทีว่าปลามียัง...อิอิ...จะได้ทำปลาร้าแจกห้องหัวมุมเอาไปใส่ส้มตำ...เอิ๊กซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคุณสาวสวนแตงคงชอบ...อิอิตำส้มตำให้คุณ Yanet..ไปทานด้วยกัน...คริๆ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 51 15:54:03 จากคุณ : lungwan - [ 21 ต.ค. 51 15:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ได้ทำปลาร้าแจกห้องหัวมุมเอาไปใส่ส้มตำ... เอิ๊กซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคุณสาวสวนแตงคงชอบ...อิอิตำส้มตำให้คุณ Yanet..ไปทานด้วยกัน...คริๆ ................................................................................................  ถ้ามีปาร์ตี้ ส้มตำ  ช่วงนั้นผมคงมีธุระไปไม่ได้แน่ๆ    ขออนุญาตไม่สบายครับ  อิอิ จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 21 ต.ค. 51 20:42:17 ]