....................'ก๊าซชีวภาพ-ดีเซล'ลดต้นทุนค่าไฟ-น้ำมัน

                    ก๊าซชีวภาพ เป็นพลังงานทดแทนอีกทางเลือกหนึ่งที่ปัจจุบันนิยมนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ มาผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ชุดเครื่องยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์ที่ใช้จะดัดแปลงมาจากเครื่องยนต์ดีเซล หรือแก๊ส โซลีน โดยติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้สามารถทำงานได้โดยใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิง แต่มักพบปัญหาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ต่ำ และมีการสึกหรอของเครื่องยนต์สูง จึงเป็นแนวทางในการศึกษา และพัฒนาเครื่องยนต์เชื้อเพลิงคู่ (ก๊าชชีวภาพ หรือน้ำมันดีเซล) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้า ช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์

                    ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงาน (สวพ.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เห็นว่า น่าจะมีการผลิตเครื่องยนต์ที่สามารถช่วยเหลือในเรื่องของการนำก๊าซชีวภาพมาใช้ เพื่อเป็นการ    ประหยัดทั้งเรื่องของการจ่ายค่าน้ำมัน และค่าไฟฟ้าให้ลดน้อยลง ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการศึกษาพัฒนาและสาธิตระบบเครื่องยนต์ดีเซลเกษตรขนาดเล็กและขนาดกลางให้สามารถใช้เชื้อเพลิงคู่ (ก๊าชชีวภาพ หรือน้ำมันดีเซล) ขึ้นมา และสามารถพัฒนาเครื่องยนต์เชื้อเพลิงคู่ให้มีประสิทธิภาพการผลิตพลังงานไฟฟ้าสูง และค่าบำรุงรักษาต่ำ แล้วนำเครื่องยนต์ เชื้อเพลิงคู่มาเป็นต้นกำเนิดพลังงานที่นำไปใช้ในฟาร์มได้
   
                    รอง ผอ.สวพ. กล่าวอีกว่า หลักการ   ทำงานของเครื่องยนต์ระบบเดิม จะต่อท่อก๊าซชีวภาพเข้ากับท่อไอดีของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดูดก๊าซชีวภาพไปใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลได้เพียง 50–60% เท่านั้น อีกทั้งเครื่องยนต์จะมีอายุการทำงานสั้น โดยหลักการทำงานของระบบเชื้อเพลิงคู่นี้จะใช้น้ำมันดีเซลมาใช้ร่วมกับก๊าซชีวภาพ หรือที่เรียกว่า เชื้อเพลิงคู่ (Dual fuel) โดยใช้ก๊าซชีวภาพผสมกับอากาศเป็นไอดีเข้าห้องเผาไหม้ โดยอาศัยอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า ท่อเวนทูรี่ เป็นตัวเพิ่มแรงดูดและการผสมคลุกเคล้าให้เป็นส่วนผสมเดียวกัน ส่วนการจุดระเบิดยังใช้น้ำมันดีเซลฉีดเข้าห้องเผาไหม้เหมือนเดิม วิธีการแบบนี้เครื่องยนต์ต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อใช้ในการจุดระเบิดประมาณ 10-20% ของการใช้เครื่องยนต์ดีเซลปกติ ดังนั้นจึงประหยัดน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 80% โดยระบบเชื้อเพลิงคู่จะเพิ่มระบบบำบัดก๊าซชีวภาพขึ้นเพื่อลดปริมาณก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) และปริมาณความชื้นในก๊าซชีวภาพ เพื่ออายุการทำงานของเครื่องยนต์ที่ยาวนานขึ้น

                    สำหรับเครื่องยนต์ดังกล่าวเมื่อมีการติดตั้งเสร็จสามารถนำก๊าซชีวภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องนำไปทำให้เป็นก๊าซบริสุทธิ์ และการใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ โดยราคาจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ และขนาดของฟาร์มปศุสัตว์ แต่ในการวิจัยนั้นได้ใช้ทดสอบกับพัดลมระบายอากาศในฟาร์มปศุสัตว์ที่ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ พบว่าเครื่องที่ สามารถใช้กำเนิดกระแสไฟฟ้าได้ 2 กิโลวัตต์ นั้นสามารถให้พัดลมระบายอากาศที่มีขนาด 48 นิ้ว ทำงานได้ 4 ตัว หากต้องการใช้ในการให้กระแสไฟฟ้าในตัวอาคาร สำหรับหลอดไฟฟ้าขนาด 100 วัตต์ สามารถใช้ได้ 18-20 ดวง หากเป็นหลอดสปอต ไลต์ 500 วัตต์ ก็สามารถใช้ได้ 3 ดวง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่า ฟาร์มปศุสัตว์มีขนาดเท่าไหร่ และต้องใช้เครื่องประมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับขนาดของฟาร์มด้วย สำหรับเกษตรกรและผู้ที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0-5394-2007-9 ต่อ 109 ในวันและเวลาราชการ.


ที่มา  http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=180841&NewsType=1&Template=1

จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 28 ต.ค. 51 00:52:55 ]