ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากที่ได้รู้ข่าวร้ายว่า ไอ้เหมียวหมอก หรือไอ้อ้วนดำ เป็นโรคนิ่ว หมอตุ๊กสาธยายถึงวิธีการรักษา ถ้าแมวยังพอฉี่ออกได้บ้าง ก็แค่กินยา แต่ถ้าเมื่อไรก็ตาม ที่มันฉี่ไม่ออกเลย มันจะทรมานมากกกก ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ คือฉี่ไม่ออกเลยประมาณสองสามวัน มันก็จะไตวาย แล้วก็ตายในที่สุด เพราะว่าฉี่มันก็มีแต่เชื้อโรคแล้วก็ตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วอุดตันท่อฉี่ของมัน หมอตุ๊กว่า ท่อฉี่ของแมวเส้นเล็กพอ ๆ กะเส้นผมของคน เพราะงั้นเวลามันมีอะไรไปขวางก็ถือว่าอันตรายมาก เคสของไอ้หมอก หมอตุ๊กว่าต้องแอ๊ดมิดมันอย่างเร่งด่วน เพราะว่าคลำท้องเจอก้อนปัสสาวะก้อนใหญ่มาก แสดงว่ามันฉี่ไม่ออกเลย แต่ที่ออกมาเป็นเลือดนั้นเพราะว่ามันออกแรงเบ่งอย่างมากและข้างในกระเพาะปัสสาวะคงอักเสบอย่างมาก จนเลือดออก ดังนั้น วิธีรักษาคือ ก่อนอื่นต้องเอาฉี่ในกระเพาะปัสสาวะออกมาก่อน โดยต้องสวนท่อปัสสาวะ แค่ได้ยินก็เสียวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกไม่รู้ว่าเค้าจะสวนท่อปัสสาวะให้แมวยังไง เหมือนทำกับคนรึป่าวก็ไม่รุ แต่ในที่สุดก็ได้คำตอบ คนทำยังไง ก็ทำกะแมวยังงั้นเลย ....  อ๊ายยยย เค้าทำกันยังไงละเนี่ย หมอตุ๊กบอกว่า ก่อนอื่นต้องวางยาสลบแมวก่อน ซึ่งเจ้าของต้องให้ความยินยอม แม๊ เหมือนผ่าตัดคนเลย จากนั้นหมอก็จะเอาท่อพลาสติกอันเล็ก ๆ ที่ปลายมีสายท่อยาว ๆ เล็กเหมือนเส้นเอ็น ยาวประมาณ 3-4 นิ้วเห็นจะได้ สวนเข้าไปในจู๋ของแมว อึ๋ยยยย แค่คิดก็หยองแล้วอ่ะ แล้วก็เย็บท่อพลาสติกที่โผล่ออกมาติดกะจู๋ของมันเพื่อไม่ให้หลุดออก อึ๊ยยยย... เสียววุ๊ย หมอว่าเป็นการดันให้ก้อนตะกอนนิ่วหลุดออกจากท่อฉี่ แล้วก็ให้ฉี่ที่ค้างเป่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะไหลออกมาตามสายยาวๆด้วย ตอนแรก ๆ ที่ใส่ท่อสวน ฉี่ที่ออกมามีเลือดปน น่าฉงฉานมันจริง ๆ  ไอ้หมอกต้องนอนซมอยู่ที่ รพ.สวนหลวงประมาณสองวัน ที่นี่ดีนะมีกรงสำหรับสัตว์ป่วย และมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ตัวไอ้หมอกเหม็นฉึ่งไปหมด เพราะมันนอนแช่ยูเรียตัวเอง กลิ่นมาดามหอมชื่นจายจริง ๆ  พอเข้าไปในห้องที่ขังบรรดากรงสัตว์ป่วย กลิ่นไอ้หมอกมาก่อนเลยอ่ะ เห็นมันนอนซม ไม่ซ่า เหมือนก่อน หมอบอกมันไม่ยอมกินน้ำ เลยต้องเจาะให้น้ำเกลือมันแทนเพื่อจะได้มีน้ำเข้าร่างกายแล้วกลั่นออกมาเป็นฉี่ให้ได้ ต้องใส่ท่อสวนจนกว่าฉี่ที่ออกมาจะใสไม่มีเลือดปน แค่นึกถึงตอนนั้นก็โคตรสงสารมันเลยอ่ะ ร้องก็แทบจะไม่มีเสียงเลย หน้ามันเศร้าสุดๆ จากคุณ : whatawanna - [ 6 พ.ย. 51 17:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การที่ไอ้หมอกต้องไปนอนแช่ยูเรียตัวเองเป็นแมวดอง เพราะท่อสวนที่ต่อไว้ทำให้มีฉี่ไหลออกมาตลอดเวลา ในระหว่างนั้นก็ต้องให้น้ำเกลือตลอดเวลาเช่นกัน โดยสายน้ำเกลือจะแทงเข้าที่ขาหน้าข้างหนึ่งแล้วก็พันเทปปิดไว้ให้แน่น ไอ้หมอก ปกติก็หน้าตาขี้เหร่อยู่แล้ว พอมันเป็นอย่างงี้ยิ่งตอกย้ำความขี้เหร่หนักเข้าไปอีก ขนกระเซอะกระเซิงแถมตัวยังแฉะตลอดเวลา เปียกทั้งฉี่ทั้งน้ำสารพัด ตอนที่ทิ้งมันไว้ที่ รพ. ว่าง ๆ ก็แวะไปเยี่ยมมันทีสลับกับคนที่บ้าน เพราะหมอบอกว่ามันไม่ยอมกินอาหารเม็ดเลย มันดุมาก ทั้ง ๆ ที่ตะก่อน ตอนยังดี ๆ มันก็ดูเป็นแมวซื่อบื้อ ๆ เฉย ๆ ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเวลาคนไปยุ่งหรือไปแหย่กะมันซักเท่าไร (ผิดกับนังหยกเมียมันที่เรียกว่า โคตรดุ ดุตลอด ขี้บ่นขี้โมโห ขี้รำคาญ สารพัด) แต่ตอนป่วย ไอ้อ้วนดำกลับกลายเป็นแมวดุร้ายมาก ทั้งขู่ ทั้งข่วน ทั้งกัดไม่เลือก จนทั้งหมอทั้งผู้ช่วยขยาด แบบว่าจนถึงทุกวันนี้ (เวลาผ่านไปประมาณสี่ปี หมอตุ๊กก็ยังจำได้ไม่มีวันลืม) คงเพราะหมอทำมันเจ็บนี่เอง ต้องรอให้เจ้าของมาจึงจะยอมกินอาหาร แมวมันก็คงเหมือนคนแหล่ะ เวลาป่วยก็ต้องการกำลังใจ พอเห็นญาติเอ้ยเจ้าของมาเยี่ยมก็ตาวาวขึ้นมาร้องแง้วทีนึงแล้วก็กินอาหารโชว์ให้ดูเลย เห็นสภาพมันแล้วน่าสงสารมากเลยตัวมันนอกจากจะมีท่อสวนคาที่ปากจู๋แล้วยังต้องสวมจานดาวเทียมเป็นไลอ้อนคิงไว้ที่หัวเพื่อกันไม่ให้มันไปเลียจู๋ ไม่งั้นท่อที่เย็บไว้อาจหลุดได้ หมอตุ๊กบอกว่าตอนนี้ฉี่เริ่มใสแล้ว แต่จากการตรวจฉี่จะต้องเอาฉี่ไปเพาะเชื้อในห้องแลปซึ่งจะต้องส่งไปที่ รพส.เกษตรอีกทีจะได้รู้ว่ามีเซลส์อักเสบขนาดไหนยังไง ซึ่งผลการตรวจฉี่คือมีเซลส์อักเสบและค่าอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด รู้แต่ว่าไม่ดีเลยสูงมาก วิธีรักษา นอกจากเอาก้อนนิ่วที่อุดตันที่ท่อปัสาวะออกแล้ว จะต้องให้ไอ้หมอกกินยาทุกวันตอนอยู่ รพ. ก็จะฉีดยาให้สามเข็ม แต่พอเอากลับบ้านจะให้เป็นยาเม็ดไปกิน จะมียาปฏิชีวนะ และยาขยายท่อฉี่เพื่อให้มันฉี่ได้ง่ายขึ้น แต่จะมีผลข้างเคียงคือหลังจากกินยาขยายท่อฉี่ มันจะเอ๋อ ๆ นิดนึง มันเป็นยังไงหว่าไอ้ที่ว่าเอ๋อ ๆ   พอได้ถามถึงสาเหตุของการเกิดโรคนี้ หมอตุ๊กผู้อารีก็แถลงให้ฟังว่า เผอิญโรคนิ่วโรคไตมันเป็นโรคทางพันธุกรรมของแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย ส่วนใหญ่จะเป็นกัน เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะเลี้ยงแมวฝรั่งก็ต้องระวังเรื่องการกินและความเครียด แมวมันเครียดเป็นด้วยเหรอ เราก็งงอะดิแล้วมันทำให้เป็นนิ่วได้ไงเนี่ย หมอบอกว่าหมาแมวก็เครียดเป็นนะจ๊า บ้านใครมีแมวหรือมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวมันจะแสดงอาณาเขตของตัวเอง โดยการฉี่รดบางจุดทับกลิ่นกันเองแสดงความเป็นเจ้าถิ่น พอมันไปดมเจอกลิ่นตัวอื่นมันก็เครียดแล้ว บางทีก็กัดกัน ตบกันอุตลุดโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือบางทีเพราะทรายแมวที่เป็นส้วมของมันไม่พอ หรือไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็นหรือมีขรี้หรือฉี่ของเก่าคาอยู่มันก็จะไม่ยอมมาเข้าส้วม เกิดการกลั้นฉี่ขึ้นมา มันก็เครียดอีก ไอ้เรามานั่งคิด จริงด้วย ที่บ้านมีตั้งห้าตัว แถมแสบทรวงกันทั้งน้าน ไม่ค่อยสมานฉันท์กันเท่าไร บางทีก็ฟัดกันอุตลุด นี่อาจเป็นสาเหตุให้ไอ้หมอกเครียดได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องอาหารการกิน หมอตุ๊กบอกว่าอาหารเม็ดหรืออาหารแมวส่วนใหญ่จะมีค่าโปรตีนสูงมาก ซึ่งเราก็ว่ามันน่าจะดีมีประโยชน์นะ แต่กะแมวกลับไม่ใช่ ยิ่งค่าโปรตีนสูงมาก หรืออาหารที่มีความเค็ม ยิ่งทำให้เกิดตะกอนเป็นก้อนนิ่วมาก เพราะฉะนั้น อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดนิ่วขึ้น คือ ยี่ห้อมีโอ (ต้องขอโทษที่ต้องบอกยี่ห้อ แต่มันเป็นเรื่องจริง ลองไปดูส่วนประกอบของมันได้) ยี่ห้อนี้พวกแมวจะชอบกินมาก เราเคยลองชิมดูแล้วปรากฏว่ามีรสเค็ม มิน่าเล่าพวกแมวถึงชอบกินกัน(แบบว่าไม่ใช่แย่งแมวกินนะ แค่ลองชิมเฉย ๆ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้อร่อยสักนิด) และบรรดาฟิสกี้ วิสกัส ที่เป็นแบบเม็ด ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หมอตุ๊กบอกว่า สำหรับแมวเป็นนิ่วหรือเป็นโรคไตต้องเลิกกินพวกนี้เด็ดขาด แต่ถ้าเป็นอาหารเปียก นาน ๆ ให้กินทีได้เพราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบ แต่ห้ามให้กินบ่อย ไอ้หมอกถูกไฟต์บังคับว่าต้องกินอาหารสำหรับแมวเป็นนิ่วโดยเฉพาะ คือ S/D 34 กินได้ทั้งแบบเปียกแบบเม็ด และยี่ห้อ "ยูรินารี่" เพราะว่าอาหารพวกนี้ทำให้มีสภาพเป็นกรดลดการเกิดตะกอนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ถ้าหายแล้วก็สามารถกินยี่ห้อรอยัลคานินได้ เพราะมีค่าโปรตีนต่ำและช่วยกำจัดก้อนขนด้วย แต่ที่สำคัญคือ พอพากลับไปบ้านแล้วจะต้องป้อนน้ำให้มันมาก ๆ ยิ่งฉี่ออกมาบ่อยเท่าไร มากเท่าไรยิ่งดี เซลส์อักเสบจะได้ลดลง จากคุณ : whatawanna - [ 6 พ.ย. 51 17:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไอ้เหมียวหมอก ต้องแอ๊ดมิดอยู่ที่ รพ.สัตว์ 2 วัน ก็ถึงคราวที่จะต้องรับกลับบ้าน บอกตรง ๆ ไม่อยากจะแตะตัวมันแม้แต่น้อย แบบว่าเหม็นฉี่โคตรๆๆๆๆ ตัวมันชโลมไปด้วยปุ๋ยยูเรียบริสุทธิ์ แต่ก็ต้องฝืนใจลากมันออกมาจากกรง หมอยังไม่เอาท่อสวนออกให้มันเพราะไม่แน่ใจว่ามันจะฉี่เองได้หรือไม่ และบอกให้ใส่จานดาวเทียมไปก่อน ตายละวา ถ้าไม่เอาท่อสวนออก ฉี่ก็ต้องไหลตลอดเวลา แล้วจะไม่เหม็นทั้งบ้านหรือนี่ ที่บ้านกรงก็ไม่มีซะด้วย ขังมันไว้ไม่ได้ คงต้องให้ไอ้อ้วนนอนตีพุงกลางบ้านเหมือนเคย พวกเราคิดแก้ปัญหาว่าจะทำไงดี เพราะไม่อยากให้ฉี่มันเรี่ยราด ก็เลยคิดจะเอาผ้าขนหนูเก่า ๆ มาปูเป็นที่นอนให้มันตรงมุมที่ไอ้อ้วนชอบนอนเป็นประจำ ก็หวังว่ามันจะไม่เดินเพ่นพ่านไปไหน (ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีที่ไหนขายผ้าปูซับฉี่หรือผ้าอ้อมสำหรับสัตว์) ปรากฏว่าเอาเข้าจริง ไอ้อ้วนมันเล่นเดินสำรวจรอบบ้านเลย ประมาณว่าจากบ้านไป 2 วัน คิดถึงจังเยย พอพาไอ้อ้วนกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันเอามันออกจากตะกร้า นังหยก ไอ้ลักกี้ ไอ้ชิ ไอ้เช่ ตอนแรกมารุมดูกันใหญ่ ประมาณว่ามารับขวัญต้อนรับไอ้หมอกกลับบ้าน แต่พอเอาไอ้หมอกออกจากตะกร้าพร้อมกับจานดาวเทียมเท่านั้นแหล่ะ บรรดาลูกสมุนน้อยใหญ่ต่างวิ่งหนีกันกระเจิงหลบหัวซุกหัวซุน บางตัวก็ขู่ฟ่อ ขนฟู หางตั้งขึ้นมาเชียว ก็จะไม่ตกใจได้ไง ไอ้หมอกมันกลายเป็นไลอ้อนคิงไปแล้ว แถมกลับมาพร้อมกับกลิ่นมาดามหอมชื่นจายยยยย... แม้แต่คนข้างบ้านแวะมาดูยังต้องเอามืออุดจมูกอย่างแรง ก็เลยต้องหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มันอย่างเร่งด่วนที่ซู๊ดดดก่อนที่จะถูกสังคม(ทั้งคนทั้งแมว)รังเกียจไปมากกว่านี้ เพราะจะอาบน้ำให้มันคงไม่ได้ ท่อฉี่ยังคาอยู่เดี๋ยวน้ำสบู่จะเข้าไปในท่อปัสสาวะ เอาวะ เอาผ้าเปียกเช็ด ๆ พอถูไถไปได้มั่ง ถึงแม้จะเอาไอ้อ้วนกลับมาบ้านได้ ซึ่งจริง ๆ ควรจะอยู่ที่ รพ. ต่อ แต่เพราะมันไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ และมันยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่ก็เลยจำเป็นต้องให้เอากลับบ้าน เพื่อไม่ให้มัน ปสด. มากไปกว่านี้ หมอสั่งไว้ว่าจะต้องเอาไอ้หมอกมาตรวจฉี่ทุก 2 วัน ระหว่างนี้ก็ต้องให้กินน้ำมากๆ ให้กินอาหารสำหรับแมวเป็นนิ่ว (S/D แบบเปียก) เอายาเม็ดไปกิน (ยาปฏิชีวนะ กะยาขยายท่อฉี่) อย่างละครึ่งเม็ด สามเวลาหลังอาหาร ต้องหัดป้อนยาเข้าปากมัน ตอนแรกก็ทำไม่เป็น โดนกัดไปหลายทีเหมือนกัน แต่ตอนนี้เหรอชำนาญมาก เพื่อเป็นวิทยาทาน จะขอสาธยายถึงวิธีป้อนยาให้แมว ดังต่อไปนี้ 1. เอาผ้าห่อตัวมันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันข่วน 2. จากนั้นก็เอามือข้างหนึ่งจับคอแมวด้านหลังให้หัวของมันเงยหน้าขึ้น ปากแมวจะเผยอโดยอัตโนมัติ 3. เราก็เอานิ้วชี้หรือนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งกดขากรรไกรล่างของมันให้อ้ากว้างขึ้น 4. จากนั้นให้เอายาเม็ดดันเข้าไปในคอแมวให้ลึกที่สุดแล้วรีบปิดปากมันสักครู่ ลูบคอหอยมันเบา ๆ จนกว่ามันจะกลืนยาลงไป 5. ถ้าแมวยังไม่ยอมกลืนยาก็ให้เอามืออุดจมูกมัน...  มันจะขาดใจตายยยย ฮี่ฮี่ฮี่..ย้อเย่น มันจะอ้าปากหายใจตะหาก ทีนี้มันก็จะกลืนยาเข้าไปเอง 6. จากนั้นก็ป้อนน้ำให้กินด้วยไซลิงก์ฉีดเข้าปากมัน เป็นอันจบกระบวนการ หลังจากไอ้หมอกกินยาแล้ว มันก็จะเกิดอาการเอ๋ออย่างที่หมอตุ๊กบอกจริงๆ คือ มันเดินขาเผละ เซไปเซมาหัวทิ่มหัวตำ สงสัยมันจะเมายา แต่เป็นไม่นานสักพักก็หาย ตอนแรกไอ้หมอกโทรมมั่กๆๆ ไม่ยอมกินอาหารเลย แบบว่ามันจะเลียแต่จู๋ของมันอ่ะ ...ก็มันเจ็บนี่หว่า.. ดีที่ใส่จานดาวเทียมเอาไว้ อาหารแมว S/D มันก็ไม่ยอมกิน น้องสาวเลยใช้วิธีเอา S/D ผสมน้ำบด ๆ ให้เละแล้วใส่ไซลิงก์ฉีดเข้าปากมัน ต้องใช้วิธีนี้แหล่ะถึงจะยอมกิน ซึ่งคนป้อนต้องใช้ความอดทนและพยายามมากๆ ช่วงที่เอาไอ้หมอกกลับมาอยู่บ้าน เป็นช่วงที่ห้ามไม่ให้ใครมาที่บ้านอย่างเด็ดขาด ใครมาหาก็ให้รออยู่หน้าบ้านนั่นแหล่ะ ห้ามเข้า ก็จะให้เข้ามาได้ไง ทั้งบ้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นฉี่ไอ้หมอกอ่ะ ขนาดนังหยกเมียมันยังวิ่งหนีเลย จะห้ามไม่ให้มันเดินไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ด้วย ก็มันไม่มีกรงอ่ะ ผ้าอ้อมก็ไม่มีใส่ให้มันอีก ก็เลยต้องปล่อยให้ฉี่หยดติ๋ง ๆ เลอะเทอะไปตามทาง แต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้มันเลียถูกจู๋ของมัน เดี๋ยวท่อสวนที่ยังคาอยู่จะหลุดออกจะยุ่งกันใหญ่ แล้วก็ต้องคอยสังเกตว่าฉี่มันเป็นสีอะไร เพราะบางทีก็ยังเห็นว่ารอยฉี่ของมันที่พื้นบ้านยังมีเลือดปนออกมาด้วย แล้วยังจะต้องคอยป้อนน้ำให้มันอีก เฮ่อ..ช่วงนี้ชีวิตลำเค็ญ (ชีวิตของคนในบ้านนะ) เราต้องสลับกับน้องสาวคอยป้อนยา ป้อนน้ำ หมั่นเช็ดตัวให้มัน แถมยังต้องตามเช็ดบ้านอีก ต้องทนเหม็นฉี่ จำได้ว่าจมูกด้านไปพักใหญ่ สูดดมจนจมูกด้าน ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย โห..อ่านแล้ว รู้สึกว่าเว่อร์ไม๊อ่ะ เลี้ยงแมวยังกะเทวดาเลย แต่ขอบอก นี่คือเรื่องจริง ทาสแมวเท่านั้นถึงจะเข้าใจ ยังไม่จบนะจ๊ะ เรื่องของไอ้หมอกต้องเรียกว่า มินิซีรีย์ ยังมีต่อจ้า จากคุณ : whatawanna - [ 6 พ.ย. 51 17:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปาดรึป่าวเนี่ย คุนลุ้นก้อเป็นค่ะเพิ่งกลับมาบ้านได้ไม่กี่วันนี้เอง คุณหมอรักษาโดยการสอดท่อเล็กๆ เพื่อช่วยให้เค้าฉี่ได้ค่ะ สภาพคืนแรกลุ้นยังเอ๋อ ๆเนื่องจากคุณหมอให้ยาซึม สงสารลูกจับใจ แต่ตอนนี้กลับมาบ้านแล้วค่ะ แต่ผลกระทบที่ตามมาคือ คุนลุ้นซนม๊ากกกกก ส่วนเรื่องป้อนยานี่ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ จับนอนหงายบนตัก อ้าปากแล้วเอายาหย่อนลงไป ตามด้วยน้ำ ให้ยาลูกมา5 วันเริ่มชำนาญแล้วค่ะ ขอให้น้องหมอกหายไว ไว นะคร้า ปล,แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 51 19:36:57 จากคุณ : แมวบนฝาถังขยะ - [ 6 พ.ย. 51 19:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ค่ะ ทาสแมวทำได้ทู๊กอย่าง ชอบน้องแมวสีนี้จัง ที่บ้านมีแต่กระดำกระด่างแต่ก็รักหมดใจ จากคุณ : Lamera - [ 6 พ.ย. 51 19:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หูย.......น่าสงสารจัง จากคุณ : หลงหลง น้องกิม ติงลี่ - [ 6 พ.ย. 51 20:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนไอ้หมอกใส่ท่อสวนปัสสาวะ หมอไม่ได้ต่อสายยางยาว ๆ และถุงใส่ฉี่มาให้ด้วยเหมือนคุนลุ้นอ่ะ มีแต่ปลายท่อสวนสั้น ๆ ยื่นออกมาจากจู๋ของมันเท่านั้น ผลก็เลยต้องเหม็นฉึ่งทั้งบ้านอ่ะ สงสัยหมอคงกลัวว่าถ้าต่อสายยางยาว ๆ ออกมามันจะดิ้นจนหลุดเพราะว่าไอ้หมอกมันดุมั่กๆๆ จากคุณ : whatawanna - [ 6 พ.ย. 51 23:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถามอะไรหน่อยครับ เป็นไปได้ไหมครับ ว่าแมวตัวผู้จะมีโอกาสเป็นนิ่วมากกว่าแมวตัวเมีย (เดาเอาว่า ท่อทางเดินปัสสาวะของตัวผู้น่าจะเล็กกว่าตัวเมีย) ป.ล. บร๊ะเจ้าไหมล่ะ บร๊ะเจ้าไหม จากคุณ : JeZeus - [ 7 พ.ย. 51 00:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้องโซดาที่บ้านก็เป็นแบบนี้ค่ะ...แต่พอดีเห็นก่อนว่าเค้าพยายามเบ่ง มากเวลาจี่ แล้วมีจี่หยดเดียว เป็นสีส้มๆ อ่อนๆ เลยรีบพาไปหาหมอ ก็โดนแบบเดียวกันนี่เลย... ตอนนี้หายแล้ว กลับมาอยู่บ้าน แต่ต้องเปลี่ยนอาหารสำหรับแมวที่ เป็นโรคนี้...แล้วก็ต้องคอยดูเวลาเค้าจี่ ว่าผิดปรกติรึเปล่า เพราะหมอ บอกว่า ถ้าเค้ามีน้ำหนักมากเกิน (อ้วนเกินไป) โรคอาจกลับมาได้อีก ในแมวตัวผู้ที่ทำหมันแล้ว ระหว่างอายุ 2-6 ปี.... จากคุณ : แมวก๊วย (cpn.) - [ 7 พ.ย. 51 11:02:49 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใชค่ะแมวตัวผู้มีโอกาสเป็นนิ่วมากกว่าแมวตัวเมีย ยิ่งถ้าทำหมันยิ่งมีโอกาสเป็นมากๆ ด้วยค่ะ ถ้าปล่อยให้เค้าอ้วนเกินไป เพราะท่อปัสสวะอาจจะตีบได้ค่ะ จากคุณ : แมวบนฝาถังขยะ - [ 7 พ.ย. 51 16:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อแมวฉันเป็นนิ่ว (ต่อ) จากคุณ : whatawanna - [ 9 พ.ย. 51 13:45:52 ]