เนื่องจากมีข่าวเกี่ยวกับรอตไวเลอร์มาก็ไม่น้อย กับการที่สุนัขพันธุ์นี้ออกไปกัดหรือระรานชาวบ้านจนเป็นคดีความมาก็มาก
แต่สิ่งที่เราอยากเขียนต่อไปนี้ ขอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆอย่าได้โกรธหรือต่อว่าเราเลย
เราอยากเขียนจากใจของคนที่เลี้ยงรอตไวเลอร์ตัวเดียวมาเป็นเวลา 15 ปี
เจ้ารอตพันธุ์แท้ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เป็นลูกหมาหย่านมแม่และอยู่กับเรามาตลอด 15 ปีจนมันตายจากไปด้วยโรคมะเร็งที่ขาและปาก
เราไม่ได้อยากให้ทุกคนเปลี่ยนมามองในมุมเรา แต่อยากให้ได้รับรู้ในส่วนที่ดีๆของสุนัขพันธ์นี้บ้าง
สุนัขพันธุ์นี้เค้าอาจจะมีความรุนแรงโดยสัญชาตญาณไปบ้าง แต่...ถ้าคุณเลี้ยงเค้าดีๆ คุณจะรู้เลยว่าเค้าิเป็นสุนัขที่มีความจำแม่นเป็นเลิศ เป็นสุนัขที่ฉลาด รักเจ้าของ สนใจสิ่งแปลกใหม่ พลังกายเหลือล้นมาก เป็นมิตร และ แทบจะไม่ดุเลย!
วิธีเลี้ยงรอตไม่ให้ดุคือต้องไม่ัขังกรง ปล่อยเค้าิวิ่งเล่นบ้าง ไปวิ่งกับเค้าในสวนบ้าง แค่เนื้อที่ประมาณทาวน์เฮาส์ก็เลี้ยงได้ค่ะ เพราะบ้านเราเป็นทาวเฮาส์สมัยก่อน ถ้าไม่ยังงั้นเค้าจะเครียดและดุมาก (อ้างอิงจากบ้านเพื่อนเราที่เลี้ยงเจ้าแม่พันธุ์รอตตัวนี้ เค้าขังกรงทุกวัน ปล่อยมาวิ่งในรั้วนานๆที มันดุแม้กระทั่งบางทีก็มีงับเจ้าของบ้าง) ช่วงเปลี่ยนแปลงในด้านอารมณ์ว่าดุไม่ดุคือช่วงที่เค้ากำลังโตจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ ซัก1-3ปี ช่วงนี้ถ้าฝึกดีๆ เค้าจะน่ารักมากค่ะ ช่วงนี้ตอนฝึกอาจจะต้องมีตีกันบ้างนิดนึง เพราะเค้ายังเด็กอยู่ เหมือนเด็กๆกำลังเรียนรู้ เค้าไม่รู้หรอกค่ะว่าอะไรดีไม่ดี ส่วนใหญ่มักทำไปตามสัญชาตญาณเหมือนเด็กๆ ซึ่งตรงนี้เราต้องฝึกและคอยดูแลให้ดีค่ะ และหมาพันธุ์นี้ เค้ารักเจ้าของนะคะ และรักครอบครัวของเจ้าของ ถ้าเค้ารู้ว่าอะไรที่ทำแล้วเจ้าของจะดีใจหรือเจ้าของจะรักเค้ามากขึ้นเค้าก็จะทำค่ะ อย่างเช่นคุณบอก กัดเลย! เค้าจะรู้นะคะ เค้าจะทำ เพราะงั้นอย่าไปสอนอะไรที่ก้าวร้าวรุนแรงให้เค้าเลยนะคะ
เราอยู่ทาวเฮาส์กับเจ้ารอตตัวดำคิ้วน้ำตาลหน้าตาเหมือนจะดุตัวนี้มาประมาณ 7-8 ปีที่ทาวเฮาส์ในกรุงเทพ ที่เราบอกว่าเค้าฉลาดคือ เวลามีคนแปลกหน้ามายืนหน้าบ้านเค้าจะเห่าและขู่เสียงดังมากค่ะ แต่ถ้าสมมติว่า พ่อ หรือ เรา หรือคนในบ้าน เป็นคนไปพาคนๆนั้นเข้ามาในบ้านเอง แล้วบอกเค้าว่าเพื่อนนะ ไม่เป็นไร เค้าก็จะมาดมๆแล้วก็เดินไปดูอยู่ห่างๆ โดยไม่ส่งเสียงหรือทำท่าข่มขู่ให้น่ากลัวแม้แต่น้อย ต่างกันกับกิริยาท่าทางตอนแรกแบบหน้ามือเป็นหลังมือโดยที่ตรงจุดนี้เราไม่เคยสอนเค้าเลย
และคุณอาจจะตกใจที่เราบอกว่าเค้าเป็นมิตร มีอยู่ประมาณเดือนสองเดือนที่ปู่กับย่าเราย้ายมานอนที่ทาวเฮาส์เรา
เค้าพาปอมปอมมาด้วย 1 ตัว อายุไล่เลี่ยกับเจ้ารอตเรานี่หล่ะ ตอนแรกที่บ้านเราก็กลัวมันจะเข้ากันไม่ได้ แต่ก็น่าแปลกใจมากที่มันอยู่ด้วยกันได้สบายมากโดยไม่กัดกันเลย แถมเจ้ารอตของเรายังดูทำท่าสนอกสนใจเจ้าปอมอยู่ไม่น้อย คงเห็นว่าตัวเล็กๆป้อมๆน่ารัก ฮะๆ ส่วนเจ้าปอมตอนแรกๆมันก็หวาดๆ แต่พอซัก 2 วันมันก็เริ่มโอเค แล้ววางตัวสบายมากขึ้น
มีบางวันเราชอบพามันมานอนด้วยในบ้าน มันก็จะเข้ามาอยู่ได้แปปนึงแล้วก็ออกไปเหมือนเดิม เพราะมันไม่ชอบที่ทึบๆ ข้างนอกจะโปร่งกว่าในบ้าน
เวลาเรากลับบ้านมันมักจะแสดงความดีใจโดยการวิ่งหมุนเป็นวงกลมหลายรอบมากๆ (นึกถึงตอนหมาไล่งับหางตัวเอง) บางทีก็มีกระโดดตะกุยๆบ้างตอนเด็กๆ (พอมันโตแล้วมันคงเริ่มขี้เกียจ ฮ่าๆ)
เวลาที่เราให้กระดูกชิ้นใหญ่ๆกับมันแล้วมันแทะไม่หมดหรือแทะไม่ไหว มันมักจะแอบเอาไปฝังดิน เอาดินกลบมิดชิด แถมยังไปพยายามลากกระเบื้องมาปิดอีกตั้งหาก จนเราเริ่มสงสัยวันนึงว่าทำไมกระดูกหมดเร็วจัง จมูกเลอะด้วย -_- แอบดูไปหลายวันเข้าถึงรู้ แล้วก็เลยจัดการโดยไม่ให้กระดูกชิ้นใหญ่อีก แล้วก็นั่งดูมันกินเพราะกลัวมันเอาไปฝัง (มันจะท้องเสียถ้ากินของฝังดินนานๆ) ตอนเราไปขุดกระดูกที่มันฝังเจอมันจะนั่งทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมมากๆ ประมาณว่าจะเก็บไว้กินซักหน่อย >< เจ้ารอตของเรากินจุมากเลยวันๆ ก็เลยอ้วนนนนไปตามระเบียบ แต่เรากลับชอบเพราะมันน่ากอดมาก
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 17:17:56
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 17:11:11
จากคุณ :
synt
- [
20 พ.ย. 51 17:10:48
]