 |
***อย่าเป็นอะไรนะ ...เปียกปูน...
หลังจากที่เราตัดสินใจเลี้ยงเปียกปูนเอง ทำใจยกให้ใครไม่ลง สงสารใจเปียกปูน ภาพที่เปียกปูนนั่งมองคนเขาสนุกสนานยังติดตาเราจนทุกวันนี้
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7236362/J7236362.html#9
เปียกปูนเป็นเด็กดี เตี่ยเราบอกว่า เปียกปูนต้องเคยมีเจ้าของ และฝึกมาอย่างดี เพราะเปียกปูน ยืน 2 ขาทำท่าเหมือนยกมือไหว้เตี่ย ขอกินขนม
มีคนเคยพูดว่า เวลาที่มีความสุขมักจะผ่านไปเร็ว แต่เวลาที่มีความทุกข์มักจะผ่านไปช้า คงจะจริง
อาการป่วยของเปียกปูน เริ่มจากไอ น้ำมูกไหล ตามอากาศที่เปลี่ยน กินยาสักพัก อาการไอก็ดีขึ้น ทุกคืนเปียกปูนจะมานอนขดตัวใกล้ ๆเรา บางครั้งก็มานอนหนุนแขน มองหน้าเรา มีความสุขที่สุดเลย
อย่างที่บอก เวลาที่คนเรามีความสุขมักจะผ่านไปเร็ว เมื่อคืนเปียกปูนก็ยังร่าเริงดีอยู่เลย จนเมื่อเช้า เราเห็นเปียกปูนนอนเงียบ ๆอยู่ในผ้าห่ม จนเราอุ้มเปียกปูนไปนอนในเบาะ เปียกปูนก็ยังนอนนิ่ง ๆ ตอนนั้นคิดนะ อากาศตอนเช้ามันเย็น เปียกปูนคงขี้เกียจลุก ส่วนไอ้เจ้าพี่ พี่อีก 2 ตัวน่ะตื่นแล้ว
ก่อนมาทำงาน จับตัวเปียกปูนรู้สึกว่าตัวร้อน ๆนะ ให้กินยาลดไข้ไปก่อน กลับไปบ้านตอน 3 โมงเย็น เปียกปูนอาเจียนออกมาเต็มระเบียงบ้านเลย เดินมาหาเราก็เดินเซไปเซมา ใจเสียมาก รีบพาเปียกปูนไปหาหมอนัตที่คลินิค
ถ้าเป็นเวลาปกติ นั่งรถมาด้วยกัน เปียกปูนมักจะมานั่งตัก มองวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ แต่วันนี้เปียกปูนนอนนิ่ง ๆ ตาที่พยายามจะมองเรา แต่เหมือนลืมไม่ขึ้น เราได้แต่เอามือลูบหัวเปียกปูน อย่าเป็นอะไรนะลูก
หมอนัตบอกว่าเปียกปูนมีไข้สูงมาก 41องศาแน่ะ สงสัยว่าจะเป็นพยาธิเม็ดเลือด ต้องให้น้ำเกลือเพื่อลดไข้ เราอึ้งไปเลย ไม่อยากทิ้งเปียกปูนไว้ที่คลินิค สงสารเปียกปูน
หมอนัตคงเข้าใจ บอกเราว่าเดี๋ยวหมอฉีดยาลดไข้ให้ ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดซัก 15 นาทีนะ ระหว่างนั้นหมอนัตเอา a/d มาให้กิน เปียกปูนกิน หมอเลยบอกไม่ต้องนอนก็ได้ แต่เที่ยงคืนต้องฉีดยาลดไข้ซ้ำ หมอนัตยังแซวเปียกปูนเลยว่า "หมดฤทธิ์เลยนะไอ้ซ่าส์" เพราะเปียกปูนนอนให้น้ำเกลือนิ่งมาก ๆ
เจไฮน์ของน้าปุ๊ก เปียกปูนก็ไม่กิน เราจะซื้อ a/d หมอนัตบอกไม่ต้องหรอกแพง ซีซาร์ก็พอ เทให้กินในรถ เปียกปูนมันใช้จมูกดันถาดซีซาร์คว่ำเลย เรานะถอยรถกลับไปคลินิค เอาซีซาร์ที่เหลือ 2 ถามเพิ่มเงินเปลี่ยนเป็น a/d หมอบอก มันจะกินของแพง
นั่งมาในรถ เปิด a/d ให้กิน ไม่กินอีก แต่ท่าทางร่าเริงขึ้น ไม่นอนซึมเหมือนครั้งแรก เราค่อยใจชื้นมาหน่อย แต่ผลเลือดออกมา เราน่ะใจเสียมากเลย
เกล็ดเลือดเหลือ 43,000 จากค่าปกติต้อง 150,000 ค่าตับก็สูงขึ้นจากปกติถึง 4 เท่า ตอนแรกที่หมอนัตจะตรวจหัด เราก็แย้งว่าเปียกปูนฉีดวัคซีนแล้วนะ แต่หมอก็บอกเราว่าช่วงที่เปียกปูนเร่ร่อน เขาอาจจะได้รับเชื้อก่อนหน้านี้มาแล้ว ดีที่ผลตรวจหัดไม่พบ หมอบอกไม่เป็นไร ยังมีทางหาย
เข้าไปดูอีกครั้ง ประมาณ 2 ทุ่ม เปียกปูนทำท่าที่เราเรียกว่า ท่ามามําอุ้ม คือยืน 2 ขาส่ายตัวไปมา จะให้อุ้ม ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ที่อยากซัดมันซักตุ้บ ก็ตรงที่ ซีซาร์หายไปครึ่งถาด แต่ a/d ไม่ยุบเลย มันน่ามั๊ยเนี่ยะ น้าเจี๊ยบฝากบอกว่า เงินน่ะมันหายากนะลูก
น้องสัตวแพทย์บอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเปียกปูนได้รับเชื้อพยาธิเม็ดเลือดชนิดไหน โอกาสที่จะรักษาหายก็มีมากขึ้น พรุ่งนี้เราจะพาเปียกปูนไปตรวจเลือดที่สุพรรณบุรี คลินิครักสัตว์ คุณหมอแก้วขวัญ เก่งและใจดีมาก มาก
วันนี้เราได้แต่ภาวน่ว่า ขออย่าให้ความสุขของเปียกปูนสั้นนักเลย ขอให้เปียกปูนมีความสุขอยู่กับเรานาน ๆด้วยเถอะ
จากคุณ :
ชิโร่ kung
- [
26 พ.ย. 51 21:54:32
]
|
|
|
|
|