.....................นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในระยะนี้สภาพอากาศแห้งแล้งและหนาวเย็นทั้งในแถบภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีมะม่วงมีการพักตัวพร้อมที่จะออกดอก เกษตรกรจึงควรดูแลและเอาใจใส่เพื่อให้มะม่วงออกดอก ที่สมบูรณ์ เป็นการช่วยเพิ่มผลผลิต ซึ่งหากขาดการบำรุงรักษาจะทำให้ออกดอกไม่สม่ำเสมอ ส่วนมากดอกจะร่วงหมดหรือติดผลเพียงเล็กน้อยและร่วงในระยะต่อมา ทำให้ได้ผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพหรือผลผลิตต่ำ ดังนั้น การบำรุงรักษาต้นมะม่วงให้พร้อมก่อนการออกดอกและติดผลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และเมื่อมะม่วงติดผลแล้วประมาณ 2 เดือน ในสวนที่มีน้ำเพียงพอให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 ตันละ 1-2 กิโลกรัม และรดน้ำ 10-15 วัน ในสวนที่ขาดแคลนน้ำให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบสูตร 21-21-21 อัตรา 2-3 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมน้ำยาจับใบฉีดพ่นทุก 2 สัปดาห์ติดต่อกันประมาณ 5 ครั้ง จะช่วยบำรุงผลให้เจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับการป้องกันและกำจัดโรคแมลง เมื่อดอกแรกเริ่มบานให้หยุดพ่นสาร เคมีป้องกันกำจัดโรคแมลงทุกชนิดทันที ในระยะผลโตขนาดเท่าหัวไม้ขีดให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันเพลี้ยจักจั่น โดยใช้คาร์บาริลหรือถ้าพบการระบาดรุนแรงให้ใช้โมโนโครโตฟอสผสมสารเคมีป้องกันกำจัดโรคราจำพวกเบนโนมิล อัตราการใช้ตามคำแนะนำของสลากยา เพื่อป้องกันโรคแอนแทรกโนส ราดำ และราแป้งด้วย .
ที่มา http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=185932&NewsType=1&Template=1
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
23 ธ.ค. 51 00:32:08
]