 |
คุณชอบนโยบายแก้น้ำเสียของผู้สมัครคนไหนครับ
| แก้วสรร (1 คน) | | ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ (3 คน) | | ยุรนันท์ (0 คน) | | ลีนา จัง (3 คน) | | ม.ล.ณัฏฐกรณ์ (3 คน) | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 10 คน |
ไปตั้งในห้องราชดำเนินแล้วเงียบเหงามากเลยครับ
ส่วนตัวผมชอบของคุณลีนา นะ กฎหมายมีนานแล้วว่าทิ้งขยะลงคลองปรับ2พันบาทแต่มีไม่มีการบังคับใช้จริงจัง เลยเสียนิสัยครับ ไม่มีใครกลัว
ในรัฐธรรมนูญก็มีตั้งแต่ปี40 แล้วว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยเหมือนต้องไปเลือกตั้ง ต้องเสียภาษี ผู้ชายต้องเกณฑ์ทหาร (มาตรา73 รธน.50)
ต้องสร้างจิตสำนึกกับคนไทยให้มากครับ ไม่ใช่จะเรียกร้องสิทธิเสรีภาพกันอย่างเดียวแต่หน้าที่ไม่ทำ (เหมือนพวกพันธมิตรที่ไปทำทำเนียบเน่านั่นแหละครับ)
และการใช้น้ำหมักชีวภาพประหยัดกว่าวิธีอื่นครับ เอาหัวเชื้อไปขยายก็ตกลิตรละแค่ 5-8 บาทเองครับ
ว่าที่ผู้ว่าฯโชว์วิสัยทัศน์ แก้น้ำเน่าเสียในกรุง
คอลัมน์ ศึกสะท้านลานคนเมือง เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 11 ม.ค.2552 http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01bkk01241251§ionid=0126&day=2008-12-24
กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีคลองประมาณ 1,165 คลอง ความยาวรวม 2,284 กิโลเมตร เป็นคลองหลักที่มีความสำคัญต่อระบบระบายน้ำในพื้นที่ทั้งสิ้น ปัจจุบันทุกคูคลองในกรุงเทพฯ มีสภาพไม่แตกต่างกัน คือ น้ำเน่า ส่งกลิ่นเหม็น มีขยะลอยเกลื่อนในบางช่วงเวลา แม้ว่าผู้ว่าฯกทม.ยุคก่อนๆ จะแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย รณรงค์ให้ประชาชนรักษาความสะอาด จัดทำโครงการ 10 คลองสวย น้ำใส เพื่อเป็นโครงการนำร่อง แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นการแก้ไขปัญหาที่ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
หากเป็นเช่นนี้ มาดูกันว่า...ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ จะมองเรื่องนี้อย่างไร
นายแก้วสรร อติโพธิ หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ บอกว่า จะเร่งจัดการกับขยะและน้ำเสียในพื้นที่นอกเมืองและชุมชน เพื่อรักษาพื้นที่ในเมืองและพื้นที่เกษตรกรรมให้สามารถดำรงอยู่ด้วยกันได้ โดยจะประสานขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับชุมชนที่อาศัยบริเวณริมคลอง ให้ร่วมกันบำบัดเพื่อไม่ให้เกิดน้ำเสีย
ซึ่งต้องร่วมมือตั้งแต่ครัวเรือน ตลาดสด และร้านอาหาร สำหรับโครงการแก้มลิงนั้นจำเป็นต้องกระจายให้อยู่รอบๆ กรุงเทพฯ เพราะแก้มลิงจะเป็นแหล่งเก็บน้ำในหน้าแล้ง และเป็นที่รองรับน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม นอกจากนี้ ต้องรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในการเปลี่ยนขยะสดให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี และสร้างระบบบำบัดขยะตามตลาดสดทั่วกรุงเทพฯ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยา โดยร่วมกับรัฐบาลช่วยกันฟื้นฟูสภาพแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มตั้งแต่การดูแลต้นน้ำ จ.นครสวรรค์ ขอความร่วมมือประชาชนริมคลองต่างๆ ให้รักษาความสะอาด หากต้องมีการลงทุนสูงก็จะประสานรัฐบาลเข้ามาสนับสนุนงบประมาณด้วย
ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย บอกว่า จะทำอุโมงค์รับน้ำเสียจากบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองแสนแสบ โดยทำท่อหลักรับน้ำเสียออกมาจากบ้านเรือน และไหลไปตามท่อน้ำเพื่อลงสู่อุโมงค์บำบัดน้ำเสีย และจะไม่ให้น้ำเสียลงสู่แสนแสบโดยตรง ขณะนี้โครงการได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว และสามารถทำได้ทันทีที่เป็นผู้ว่าฯกทม. แต่ยังไม่มีการตั้งงบประมาณว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเท่าใด
ส่วนนางลีนา จังจรรจา หมายเลข 3 กล่าวว่า หากเป็นผู้ว่าฯกทม. จะรณรงค์ไม่ให้บ้านเรือนริมคลองต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทิ้งขยะและน้ำซักล้างลงคลอง โดยจะต้องมีการบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างจริงจัง
นอกจากนี้คลองน้ำเน่าเสียต่างๆ จะรณรงค์ให้ใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ ซึ่งได้ติดต่อมหาวิทยาลัยหนึ่ง ให้คิดค้นสูตรน้ำหมักจุลินทรีย์และล่าสุดทำสำเร็จแล้ว พร้อมนำไปลาดลงคลองเพื่อเพิ่มออกซิเจน
นอกจากนี้ จะพัฒนาตลาดน้ำริมคลอง เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดย กทม.จะเข้าไปบริหารจัดการ ตัดชุดไทย ให้กับพ่อค้าแม่ค้าใส่เป็นชุดฟอร์มขายของเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
ขณะที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หมายเลข 8 กล่าวว่า ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนกับปัญหาน้ำเน่าเสียตามแม่น้ำ ลำคลอง ในกรุงเทพฯ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่แก้ปัญหายาก เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน เกินที่จะเยียวยารักษาได้ ทั้งนี้ หลายๆ วิธีที่ผู้สมัครบางรายเสนอไว้เป็นการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายน้ำต้องกลับมาเน่าเสียอยู่เหมือนเดิม
"ปัญหาน้ำเสียไม่สามารถแก้ไขได้โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐบาล เอกชน และประชาชนทั่วไป ให้ได้รับทราบสถานการณ์กัน เพื่อทุกฝ่ายได้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา" ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าว
จากคุณ :
mean2523
- [
28 ธ.ค. 51 13:37:53
]
|
|
|
|
|