ความคิดเห็นที่ 1 เง ธรรมชาติสุดๆก็คง ให้ปุ๋ยและยาป้องกันแบบชีวภาพมั้งค่ะ เพราะกุหลาบโรคเยอะจริงๆน่ะ จะปล่อยให้โตตามธรรมชาติเหมือนต้นอื่นไม่ได้เลยอ่ะ ไม่มีดอกใ้ห้เชยชมซะอีก ต้องคอยตัดแต่งค่ะ เรื่องตัดแต่งต้นไม้ทุกชนิดก็ควรเป็นแบบนั้นน๊า อยากให้กุหลาบอายุยืน อยู่ที่สภาพแวดล้อมด้วยน่ะ ดิน น้ำ อากาศ แสงแดด ถ้าไม่มีปัญหาก็อยู่กับเราไปอีกนานนนนน รอผู้รู้คนต่อไปดีฟ่า จากคุณ : radiergummi - [ 21 ม.ค. 52 08:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ต้องตาม คห.1  เลยค่ะ กุหลาบนี่ ปลูก ยาก น่ะ   ต้องดูแล ใส่ใจ  มากๆค่ะ ไม่งั้นแคร่ะแกรน เค้าชอบ แดด ค่ะ จากคุณ : honeybfit - [ 21 ม.ค. 52 08:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังคิดว่าปีนี้หลังจากชมดอกแล้ว จะมีต้นเหลือ เพราะได้ความรู้จากห้องต้นไม้เพียบ จากคุณ : หญ้าสีเขียว - [ 21 ม.ค. 52 09:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาแจมกุหลาบสวยๆค่ะ :) จากคุณ : แม่น้องเบสท์ - [ 21 ม.ค. 52 11:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกซักรูป :) ได้เห็นดอกก็ชื่นใจแล้ว.... ตัดแล้ว..ชมต้นไปซักพัก :) จากคุณ : แม่น้องเบสท์ - [ 21 ม.ค. 52 11:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารอฟังเทคนิคของเซียนกุหลาบด้วยคนค่ะ จากคุณ : ใบเหลียง - [ 21 ม.ค. 52 11:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปลูกกุหลาบโดยวิธีธรรมชาติ  ...ไม่ค่อยได้ผลคะ ถ้าไม่พึ่งสารเคมี...ใหม่ๆก็สวย  นานๆไปไม่รอดเพลี้ยไฟคะ..เจอมาแล้ว แนะนำวิธีดูแลแบบมือสมัครเล่นค่ะ...... http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7435864/J7435864.html จากคุณ : Mai_ZaZa_ZuZu - [ 21 ม.ค. 52 13:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กุหลาบโรคและแมลงรบกวนเยอะค่ะ ที่ปลูกไว้ก็ไม่ได้ใช้สารเคมี ช่วงที่โรคแมลงรบกวน ก็ทำใจเอาหนะคะ ได้แต่ตัดแต่งกิ่งเค้าไปรอให้เค้าแตกกิ่งออกใหม่ แต่เค้าชอบปุ๋ยนะคะ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดก็ได้ค่ะ ลองแล้วก็ได้ผลพอสมควร แม้ว่าจะไม่งามมากนักคะ เป็นมือสมัครเล่นเหมือนกันค่ะ ^^ จากคุณ : บ้านสีขาว - [ 21 ม.ค. 52 15:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ก็คงจะต้องใช้พวกสารสกัดจากธรรมชาติ พวกยาฉุน ไม่ก็พวกสะเดา หรือจะเป็นพวกหางไหล ที่มีขายอยู่ทั่วไปอ่ะครับ ผลที่ได้อาจจะไม่เท่าสารเคมี แต่ก็คงจะปลอดภัยกว่ามากเลยครับ สารสกัดจากธรรมชาติคงต้องใช้บ่อย ๆ ครับ เพราะผลโดยส่วนใหญ่จะ "ไล่มากกว่าฆ่า" อาจจะอาศัยการปลูกที่อยู่ในแนวที่อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันโรคพืช และแมลงได้อีกทางหนึ่งครับ ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง โดยเฉพาะบริเวณกลางทรงพุ่ม จะได้ไม่เป็นที่หลบซ่อนของแมลงครับ จากคุณ : Supachaijak - [ 21 ม.ค. 52 15:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับคุณ Supachaijak ครับ ! จากคุณ : Uncle Rose - [ 21 ม.ค. 52 16:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ นะครับ การปลูกกุหลาบ แบบ ธรรมชาติ น่าจะเรียกว่า กุหลาบปลอดสารพิษ ซึ่งเหมาะสำหรับ ผู้รักสุขภาพ หรือ วัตถุประสงค์เพื่อ นำมาใช้ สกัดน้ำหอม หรือ นำมาทำอาหาร เครื่องดื่มจากดอกกุหลาบ ส่วนตัวคิดว่า ก่อนอื่นควรจะเลือกพันธุ์กุหลาบ ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ไม่ต้องการเอาใจใส่มากกว่ากุหลาบทั่วไป เป็นพันธุ์ที่มีปลูกมานาน ชาวบ้านในต่างจังหวัดนิยมปลูกกันซึ่งก็มีหลายพันธุ์ครับ เช่น มอญแดงประเสริฐ บางคนเรียกมอญสุโขทัย ต่างจังหวัด ปลูกกันเยอะมาก ในรูปบ้านนึงริมถนนสาย36 ที่ระยองครับปลูกไว้หลายต้น จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มอญแดงประเสริฐ ช่วงฤดูฝนจะงามมากๆ ไม่ต้อง ใส่ปุ๋ยอะไรเลยแต่ต้องปลูกลงดิน ดินต้องโปร่งร่วนซุย ไม่ทึบ ระบายน้ำได้ดี ดินทรายแบบ ต่างจังหวัดนี่เหมาะมากเลยครับ การบำรุงช่วงตัดแต่งกิ่ง อาจใส่ปุ๋ยคอก มูลวัว หรือ มูลไก่ แต่ต้องเป็นปุ๋ย ที่เก่าเย็นดีแล้ว แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 22:31:54 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปัจจุบันก็ใช้สะเดาหอมฉีดป้องกันเพลี้ยไฟค่ะ ได้ผลดีเหมือนกันน่ะ แต่ต้องฉีดบ่อยๆและสม่ำเสมอนี่จิ มันเสียเวลาแหะ จากคุณ : radiergummi - [ 21 ม.ค. 52 19:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อีกพันธุ์นึง ชื่อ Cecile Brunner พันธุ์นี้แข็งแรงทนทาน ไม่เห็นมีโรคแมลงรบกวน ต่างจังหวัดปลูกแพร่หลายกันมาก จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Cecile Brunner ดอกจะดกมาก เป็นช่วงๆ ในรูป ที่ระยอง อีกแล้ว จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นี่ก็อีกสายพันธุ์นึง แต่ไม่ทราบชื่อ เลี้ยงง่ายไม่มี โรคแมลงรบกวน จะมีก็พวกตั๊กแตนกินใบบ้าง แต่ไม่มากนัก ถ้าไม่รก แมลงจะน้อย แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 19:34:37 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดอกดกเหมือนกัน จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มอญใกลกังวล ต้นนี้ที่บ้าน ไม่เคยฉีดยาเหมือนกัน มอญใกลกังวล มีกลิ่นหอมแรงชื่นใจ เหมาะทำน้ำหอม การเจริญเติบโตดี ออกดอกดกตลอดปี จะมีปัญหา เรื่องเชื้อราใบจุดดำในช่วงฤดูฝน แต่ อาจป้องกันน้ำฝนด้วยการทำ หลังคาพลาสติกใสครอบ หรือ ปลูกชายคาไม่ให้โดนฝน แต่ต้อง โดนแดด ไม่งั้นดอกอาจไม่ค่อยมี แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 21:34:33 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 19:41:05 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กุหลาบอังกฤษ EVELYN ต้นนี้ปลูกใส่กระถาง ไม่เคยฉีดยา ใส่แต่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก เท่านั้น ไม่เน้นดอกใหญ่ แต่ แข็งแรงทนทาน มีกลิ่นหอม ในช่วงหน้าฝนมีผึ้งกัดใบมากัด ใบแหว่งไปบ้าง แต่เสียหายไม่มากนัก แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 22:35:51 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 19:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 กุหลาบที่บ้าน ไม่เจอแดด เลยไม่งาม ตอนปลูกไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีๆซะก่อน(เชื่อคนทำสวน ว่าดี) คิดว่าถ้าไม่ดีขึ้นกว่านี้ จะต้องโละทิ้ง เปลี่ยนต้นไม้ใหม่ละ จากคุณ : ข้าวหน้าตาดี - [ 21 ม.ค. 52 20:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าไม่ใช่นักเล่นกุหลาบ คิดว่า กุหลาบไม่ควรปลูก หลายสายพันธุ์มากเกินไป เพราะ บางพันธุ์ โรค-แมลง จะชอบเข้าทำลายมาก ทำให้ลามเข้าไปรบกวน พันธุ์อื่นๆที่ปรกติ แมลงไม่ค่อยรบกวนด้วย จำได้ว่ากระทู้นึง คุณลุง Uncle Rose เคยบอกว่า กุหลาบอังกฤษ จะแข็งแรงทนทานกว่า พวก ไฮบริดที การซื้อกุหลาบ หากซื้อจากแหล่งที่มีการดูแลดี มักจะ ไม่มีปัญหา มีโรค และ แมลงติดมา ส่วนตัวจะชอบแบบกุหลาบล้างรากครับ แต่ที่บ้านก็ไมมีกุหลาบล้างรากสักต้นเหมือนกัน กุหลาบ ที่มีขายทั่วไป ทั้งแบบ ติดตา และ กิ่งชำ ส่วนมาก มักจะมี โรคแมลง ติดมา ทั้งนั้น ช่วงนี้ จะพบ เพลี้ยไฟ ไรแดง มากที่สุด ช่วงหน้าฝน มักจะพบเชื้อราใบจุดดำ ก่อนซื้อพลิกดูใต้ใบ และ ลองแหวกกลีบดูสักนิด พบแมลงบ้างหรือไม่ หากอยากได้จริงๆซื้อมาแล้ว ก่อนอื่น ต้องตัดดอกทิ้งทั้งหมด สำหรับผม ตัดดอกทิ้งที่ร้านนั่นแหละ เพราะเพลี้ยไฟ จะชอบ อาศัย ในกลีบดอก ส่วนไรแดง จะอาศัยอยู่ใต้ใบดูดกินน้ำเลี้ยง บางคนจะเด็ดใบทิ้งทั้งหมด แต่คิดว่าเสี่ยงไปต้นอาจจะโทรมถึงตาย แต่ถ้าไม่เด็ดใบ ต้องขยัน ฉีดน้ำใต้ใบแรงๆ บ่อยๆ ทุกวัน เช้าเย็นก็ดี คอยพลิกใต้ใบดู ไม่กี่วันมันก็หมดไปเอง ไม่ต้องฉีดยา ทั้งเพลี้ยไฟ ไรแดง มันไม่ชอบน้ำ บางตำราเค้าว่ามันจะเป็นหวัดตาย หน้าฝนถึงพบเพลี้ยไฟ ไรแดงน้อยมาก   ส่วนเชื้อรา ก็คอยเด็ดใบทิ้งไป แต่กุหลาบหากมีใบติดต้นน้อยมาก อาจถึงตายได้ หลีกเลี่ยงการรดน้ำไม่ให้น้ำเปียกใบ และ ไม่ให้ใบเปียกน้ำกลางคืน ในช่วงอากาศแห้งมักจะไม่พบเชื้อรา ในช่วงหน้าฝน อาจจะต้องปลูกไม่ให้โดนฝน ส่วนกุหลาบสีเหลือง และ สีขาว เพลี้ยไฟ จะชอบมากกว่า กุหลาบสีอื่นๆ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 20:28:12 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 20:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ในการปลูกกุหลาบเป็นการค้านั้น เจ้าของสวนเขาจะฉีดยากุหลาบ สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกัน โดยรวม ต้นไม่สวยลูกค้า ก็ไม่อยากซื้อ แต่บางสวนการฉีดยา ไม่ค่อย ทั่วถึง เมื่อซื้อกุหลาบมาจึงพบว่า มีโรคแมลง-แถมติดมาด้วย โรค-แมลง ศัตรูกุหลาบมีหลายชนิด หลักๆก็ เพลี้ยไฟ ไรแดง ใบจุดดำ ส่วนในที่อากาศเย็นชื้น ก็จะมีโรคราน้ำค้าง ส่วนศัตรูอื่นๆ ที่พบไม่บ่อย ก็ จะมี เพลี้ยเกล็ด เพลี้ยหอย , หนอนเจาะลำต้น , ผึ้งกัดใบ , แมลงด้วงนูนกินใบในเวลากลางคืน หนอนเจาะดอก ราสนิม ไวรัส เป็นต้น หากจะเลือกปลูกพันธุ์ที่แข็งแรงอื่นๆ ลองศึกษาในตำรา หรือ ปรึกษาเจ้าของสวนมืออาชีพที่ปลูกมานาน จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 20:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ูู^ ^ ^ เก็บความรู้เพิ่มเติมค่ะ ว่าแต่ให้คะแนนยังไงล่ะเนี่ย งง จากคุณ : radiergummi - [ 21 ม.ค. 52 21:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 การปลูกกุหลาบ หากจะไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ฉีดยาฆ่าแมลงเลย ก็ต้องเลือกพันธุ์ที่แข็งแรง ไว้ก่อน เพื่อลดปัญหา ไประดับนึงครับ การกำจัดโรคแมลง ก็มีทั้ง ใช้น้ำฉีด เด็ดใบ ตัดกิ่ง หรือ เด็ดดอกส่วนที่มีโรค-แมลง อาศัยอยู่ ไปทิ้งใกลๆ หรือ เผาทำลาย ทำหลังคาคลุม ใช้สมุนไพรไล่แมลง กับดักกาวเหนียว และ รวมทั้ง ใช้มือจับตัวหนอน หรือ แมลง ที่มาเกาะไปทำลาย การให้ปุ๋ย ก็มีทั้ง ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อินทรีย์วัตุอื่นๆ ซึ่งมีหลายชนิด ที่มีธาตุอาหารบำรุงต้นกุหลาบ แตกต่างกันไป ถ้าไม่ใช่มืออาชีพ แต่จะบำรุงให้ดี กว่าชาวบ้านทั่วไปหน่อย ก็ต้องหา สิ่งที่หาได้ง่ายก่อน เช่น ปุ๋ยปลา ปุ๋ยมูลไก่ ปุ๋ยมูลวัว กระดูกป่น ขี้ค้างคาว ปูนโดโลไม้ท มะพร้าวสับ ขุยมะพร้าว ขี้แกลบ ปุ๋ยน้ำหมักอินทรีย์ เปลือกไข่ป่น หรือ น้ำล้างเนื้อ ล้างปลา ฯลฯ ปุ๋ยปลา ปุ๋ยมูลไก่ น้ำล้างเนื้อ ล้างปลา จะมีธาตไนโตรเจนสูง และธาตุเหล็ก บำรุงต้นได้ดี ส่วนกระดูกป่น มูลค้างคาว บำรุงดอกได้มีคุณภาพดี ปูนโดโลไมท์ และ เปลือกไข่ป่น จะมีแคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยให้ราก และ ต้นแข็งแรง ช่วยต้านทานโรคแมลงดีขึ้น จำๆได้เท่านี้ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 21:30:48 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 21:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอขอบคุณความรู้ที่คุณ CYROSE ให้มานะคะ จากคุณ : coffeenut - [ 21 ม.ค. 52 21:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าจะปลูกกุหลาบแบบ บริสุทธิ์ ไม่เคยผ่านยาฆ่าแมลง เลย เวลาไปต่างจังหวัด เห็นกุหลาบที่ชาวบ้านเขาปลูก ขอตัดกิ่งเขามาชำเลยครับ กุหลาบพวกนี้มักจะชำง่าย หรือถ้าจะปลูกกุหลาบไม่ต้องการให้มีแมลงรบกวนเลย คงต้องทำโรงเรือน ปิดทุกด้าน แต่จะลงทุนสูงสักหน่อยครับ แต่ กุหลาบผม ก็ปลูกกลางแจ้ง ถ้าพบโรค-แมลง ก็จะตัดส่วนที่ ติดออกไปทิ้งใกลๆ ช่วงนี้อากาศเย็น โรคแมลงน้อยมาก แต่เข้าหน้าร้อนอาจจะมีเยอะขึ้น ดอกไม่ต้องรอให้โรยคาต้น พอดอกใกล้จะโรยตัดใส่ถุงไปทิ้งเลยครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 21:55:43 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 21:52:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บ้านนี้รู้จักกัน เค้ามีอาชีพรับซักรีด เสื้อผ้า ผมเอาต้นกุหลาบไปให้เขาบ่อยๆ เค้าไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้ใดๆทั้งสิ้น และ ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ต้นไม้เท่าที่ควร แต่กุหลาบบ้านนี้ ไปทีไรทึ่ง ทุกที ไม่เคยมีไม่เคยพบโรค แมลง ใดๆทั้งสิ้น ไม่เคยฉีดยา ปุ๋ย ก็ให้แค่ ขี้ไก่ ที่เลี้ยงไว้ ข้างบ้าน นานๆใส่ที แต่กุหลาบ ขยันออกดอก ไม่เคยขาด กิ่งสมบูรณ์มาก ไม่มีก้านสั้น หรือ ก้านผอมเลย ดอกก็บานทน เอากุหลาบมาให้เค้าที่ไร เค้าจะตัดก้านสั้นลงหน่อย ไม่ไว้ดอก สัปดาห์ก่อนซื้อกุหลาบ ที่มีไรแดงเต็มต้นไปให้ เมื่อวานไปดูอีกที ไม่มีแมลง อะไรซักตัว สงสัยว่า เพราะใกล้กระถางกุหลาบ มีทั้ง บ่อปลา ตู้ปลา บางทีมีน้ำแฉะบางครั้ง และ บางที่เค้าชอบฉีดน้ำใส่ดอก แมลงมันคงไม่ชอบ หนีไปหมด และ เค้าปลูกใต้ชายคา โดนแดด แต่ไม่เคยโดนฝน จึงไม่พบเชื้อรา แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 22:25:37 จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 22:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวยแบบง่ายๆ กุหลาบ ฟูเซียร์ จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 22:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ดอกไม่ใหญ่โต แต่ มีออกมาไม่เคยขาด มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า กุหลาบที่บางประเทศในที่อากาศหนาวเย็น โรค แมลงจะไม่ค่อยมี และ ปุ๋ยก็ไม่ต้องใส่ หรือ ใส่น้อย แต่งามมาก จากคุณ : CYROSE - [ 21 ม.ค. 52 22:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณคุณ CYROSE และเพื่อนๆมากค่ะที่กรุณาเข้ามาให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ จะเก็บไว้เป็นข้อมูลและจะลองเลี้ยงดูนะคะ ได้ผลยังไง แล้วจะมาบอกค่ะ จากคุณ : พุดตะแคง (พุดตะแคง) - [ 21 ม.ค. 52 23:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ จากคุณ : Tiwanon48 - [ 22 ม.ค. 52 10:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ใช้มูลกระต่ายเป็นปุ๋ยได้มั๊ยคะ เพราะที่บ้านมีตัวผลิต 2 ตัว แต่ยังไม่เคยลองกับกุหลาบที่บ้านค่ะ จากคุณ : noo_mom - [ 22 ม.ค. 52 11:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคน จากคุณ : operation 24 - [ 22 ม.ค. 52 11:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 34 Q. ใช้มูลกระต่ายเป็นปุ๋ยได้มั๊ยคะ เพราะที่บ้านมีตัวผลิต 2 ตัว แต่ยังไม่เคยลองกับกุหลาบที่บ้านค่ะ A. สามารถใช้มูลสัตว์ทุกชนิดเป็นปุ๋ยได้ครับ แต่ต้องทิ้งไว้จนเก่าหลาย ๆเดือนเพื่อให้สลายตัวดีก่อนจะได้ไม่เกิดความร้อนจึงค่อยนำมาใส่ต้นไม้ครับ ถ้าเป็นมูลสัตว์ใหม่ ๆ จะทำให้ต้นไม้ตายได้ จากคุณ : ม่อนแสงดาว - [ 22 ม.ค. 52 14:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วิธีไล่หรือกำจัดเพลี้ยไฟแบบชีวภาพ น้ำซาวข้าวโดยใช้ข้าวเหนียวจะดีมาก 1 ลิตร น้ำส้มสายชูกลั่น 1 แก้ว หรือ 250 ซีๆ ยาขึ่น 1 ก้อน เหล้าขาว 35 ดีกรี 1 ขวด กากน้ำตาล 1 แก้ว หรือ 250 ซีๆ นำส่วนผสมหมักไว้ 7 วัน ในถังพลาสติกปิดฝาไม่ให้อากาศเข้า ใช้ในอัตราส่วนผสม 250 ซีๆต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นทุกๆ 3 วัน ซึ่ง ใช้ป้องกันเพลี้ยไฟ ผึ้งกัดใบ แมงมุมแดง สูตรนี้หมอดินที่ำลำปางสอนผมไว้ใช้ ซึ่งได้ผ่านการทดลองแล้วจาก แม่โจ้เชียงใหม่ให้ผลดีมาก และยังมีสูตรน้ำหมักสมุนไพรสำหรับป้องกันโรคและศัตรูกุหลาบอีกไว้ผมจะมาโพสต์บอกเพิ่มครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 22 ม.ค. 52 17:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะ คุณม่อนแสงดาว แล้วควรเก็บยังไงคะ ตากแดดให้แห้งแล้วค่อยเก็บหรือเปล่าคะ จากคุณ : noo_mom - [ 22 ม.ค. 52 20:00:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ยาขื่น คืออะไรคะแล้วหาซื้อได้ที่ไหนคะ  คุณศิษย์ลพ. จำปา ถ้ามีสูตรสมุนไพรป้องกันโรคกุหลาบอื่นๆอีก จะกรุณาแนะนำจะขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ จากคุณ : พุดตะแคง (พุดตะแคง) - [ 22 ม.ค. 52 22:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ยาขึ่น เป็นภาษาทางเหนือที่ใช้เีรียก ยาเส้นที่นิยมใช้มวนบุหรี่สูบครับซึ่งส่วนมากหาซื้อตามตลาดสดทั่วๆไปเขาจะขายเป็นก้อนใหญ่ๆส่วนราคาแล้วแต่แม่ค้าแต่ละพื้นที่ จะกำหนดราคาขายครับ ซึ่งสูตรที่ให้ไว้ในกระทู้นี้ใช้ได้กับพืชทุกชนิดครับที่มีปัญหาเดียวกัน ส่วนโรคและแมลงอื่นๆผมจะนำมาลงให้แน่นอนสำหรับใช้กับกุหลาบหรือพืชอย่างอื่นก็ได้ถ้าประสบปัญหาแบบเดียวกัน ซึ่งผมก็เป็นผู้ที่ชื่นชม เกษตรอินทรีย์ชีวภาพคนหนึ่ง คือผมตั้งใจทำเป็นงานหลัก โดยพื้นฐานแล้วผมไม่เคยทำเกษตรมาก่อนในชีวิตและเกลียดมากๆ ที่ต้องจับ ฝุ่น ดิน มูลสัตว์ และสารเคมีต่างๆ ซึ่งในการทำเกษตรมันต้องใช้ความรู้และความเข้าใจอย่างมากๆและถูกต้อง มิฉนั้นมันเสียเงินไปปล่าวประโยชน์และเสียเวลาซึ่งเวลามันซื้อคืนไม่ได้ ปกติผมซื้อขายพระเครื่อง ของสะสมเก่าๆหรือโบราณ มันได้เงินไวดี และใช้แรงงานคนน้อยมาก การตลาดเราก็กว้างรู้ราคาแน่นอนว่าขาดทุนหรือกำไร เน้นใช้ความสามารถในการใช้สายตาตรวจสอบสินค้า กำหนดทิศทางเงินได้80 % แต่ การทำเกษตรมันไม่ใช่เลย มันต้องใช้เวลา ทุน และต้องทำใจเรื่องการตลาดมากๆ มักต้องเป็นผู้ตามเกมส์คนอื่น ยากในการเดินเกมส์เองเพราะมันมีปัจจัยหลายๆอย่างมาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ผมต้องหันมาทำเกษตรเพราะ สินค้าต่างๆๆปัจจุบันหายาก เช่นพระเครื่องเดี๋ยวนี้หาของฟลุ๊คของหลงไม่ค่อยเจอ ส่วนมากจะไปอยู่กะเซียนใหญ่หมดละ ซื้อของกะเซียนราคาไม่มีกำไรเลยเอาไปขายต่อใหู้ลูกค้าได้กำไรน้อยมากๆ ซึ่งทำให้เดี๋ยวนี้นักซื้อขายพระบางส่วนจึงหาเงินโดยเล่นของเก๊ฝีมือจัดๆ เอาไปขายใหู้ลูกค้าในราคาของแท้เขาจึงจะอยู่ได้ แต่สำหรับผมคิดว่าผมซื้อขายพระโดยตั้งใจจะเล่นแต่ของแท้ๆมันสบายใจ มองหน้าทุกคนได้เต็มตาไม่ละอายใจไม่มีใครมาด่าว่าลับหลัง ผมจึงต้องวางแผนการในการหาเงินใหม่ โดยต้องทำเกษตรเป็นงานหลักเพราะว่าผมมีที่ดินอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทุนมาก และบ้านผมแม่ของผมก็ทำอาชีพขายดอกไม้สดมาหลายปี ซึ่งการตลาดก็ไม่วิตกกังวล โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงท่าน โดยผลิตขายในครอบครัวให้พอใช้แล้วถ้าเหลือก็ขายให้ร้านค้าอื่นๆๆ ซึ่ง เท่าที่ลำปางบ้านผมประสบปัญหาคือ ช่วงหน้าหนาวดอกมะลิขาดแคลนมากๆๆต้องใช้ดอกรักมาร้อยมาลัยแทน และถ้าสั่งซื้อก็ราคาแพงมากๆๆ ฉนั้น ผมจึงจะทำเกษตรครั้งแรกโดยคิดจากหลักการแบบนี้ละ จะปลูกมะลิก่อน กับ ดอกกุหลาบใช้พันธุ์แดงต้อย เพราะพันธุ์แดงต้อยมันต้องใช้ร้อยมาลัย ตราบใดที่ประเทศไทยยังมีมาลัยขายมันต้องใช้ดอกกุหลาบเพื่อทำอุบะด้วย และที่สำหรับปลูกตอนนี้ผมจะปลูกแค่ ประมาณเกือบๆ 1 งานก่อนเพราะผมจะ ต้องทดสอบทฤษฎีเกษตรชีวภาพว่ามันให้ผลผลิตเป็นไง ถ้ามันได้ผลผมจะทำใน เนื้อที่ 1 ไร่กว่าๆๆซึ่งเป็นที่ๆผมมีอยู่แล้วในลำปาง สำหรับแหล่งความรู้ผมจะปรึกษาหมอดินเป็นหลักเพราะจะเป็นความรู้ที่ผ่านงานทดลองจากของจริงมาแล้ว นำไปใช้ได้เลยไม่ต้องนำมาเสียเวลาลองผิดลองถูก เพราะมันหมายถึงเม็ดเงิน และเวลาที่เสียไปปล่าวประโยชน์ และรองลงมาผมก็จะหาความรู้ทางอินเตอร์เนต และหนังสือต่างๆๆ ซึ่งเน้นด้านอินทรีย์ชีวภาพเท่านั้นโดยผมจะไม่ใช้ พวกสารเคมีใดๆเลย ซึ่งทำให้เรากำไรนะ คือ กำไรชีวิตเราได้สุขภาพแข็งแรง คนรอบๆข้างก็แข็งแรงเช่น คนในครอบครัวเราไม่ต้องโดนภัยจากสารเคมี และเราทำได้เองประหยัดเงินลงไปพอควร มันทำให้ชีวิตไม่จำเจเพราะเราได้สนุกกับการหมักปุ๋ยอินทรีย์ต่างๆทั้ง ปุ๋ยแห้งและปุ๋ยน้ำ เราต้องเสาะหาวัตถุดิบมาเพื่อทำการหมักมันก็เหมือนกับการที่เราพจญภัยนะละลุ้นผลที่หมักออกมาจะ ตรงตามสูตรไหมและเมื่อนำมาใช้ผลจะเป็นอย่างไร มันท้าทายความสามารถดีนะ และถ้ามันจะดีมากถ้าพวกเรามีใจรัก พืชเหมือนกันมาช่วยประคับประคองให้ พืชที่รักของพวกเราได้รับสิ่งที่ดีกว่าเคมีต่างๆๆ ฉนั้นในเวลานี้คงมีแค่ทางเลือก ที่ดีในขณะนี้คือเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ ส่วนในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการเกษตรเพิ่มแน่ๆๆ แต่ผมจะช่วยสนับสนุนเพื่อนๆทุกท่านที่รักเกษตรอินทรีย์เต็มที่เท่าที่ผมรู้ แล้วผมจะนำข้อมูลทำปุ๋ยน้ำชีวภาพสำหรับป้องกัน โรคและแมลงของกุหลาบมาโพสต์บอกให้ครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 23 ม.ค. 52 11:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณมากค่ะ คุณศิษย์ลพ. จำปา ที่กรุณาให้ข้อมูลนะคะ จากคุณ : พุดตะแคง (พุดตะแคง) - [ 23 ม.ค. 52 13:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับ ผมจะเพิ่มวิธีการหมักน้ำสมุนไพรป้องกันแมลงและโรคของกุหลาบเท่าที่รู้นะครับ โรคของกุหลาบท่าที่รู้ มี 1 โรคใบจุด 2 โรคราแป้ง 3 โรคหนามดำ 4 โรคใบจุดสีน้ำตาล 5 โรคไวรัส หนอนและแแมลงของกุหลาบเท่าที่รู้มี 1 หนอนเจาะดอก 2 หนอนกินใบ 3 หนอนเจาะต้น 4 แมลงปีกแข็งบางทีเรียกด้วงปีกแข็งมีทั้งชนิดสีดำ และ น้ำตาล 5 ผึ้งกัดใบ 6 เพลี้ยไฟ 7 เพลี้ยแป้ง 8 เพลี้ยหอย 9 เพลี้ยอ่อน 10 แมงมุมแดง สำหรับใช้ป้องกันเพลี้ยไฟ ผึ้งกัดใบ แมงมุมแดง ผมได้ชี้แนะไปแล้วนะครับที่จะบอกต่อแต่นี้เป็นการป้องกันโรคและแมลงส่วนที่เหลือ 1 โรคใบจุด ใช้ กระเทียม ข่า ขิง ตัวใดตัวหนึ่งเลือกเอาเลยแต่หมอดินแนะให้ใช้ขิงเพราะมันแรงมากๆๆ 2 โรคราแป้ง ใช้ ยางมะละกอ 3 โรคหนามดำ ใช้สูตร พด.3 4 โรคใบจุดสีน้ำตาล ใช้สูตร พด.3 5 โรคไวรัส ใช้ กระเทียม  ยาสูบ ใบมะเขือเทศ เลือกเอาตัวใดตัวหนี่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ ยาสูบ มันแรงมากๆๆ หนอนและแมลง 1 หนอนเจาะดอก ใช้ ยี่โถ สะเดา ขมิ้นชัน คูน เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะ ขมิ้นชัน 2 หนอนกินใบ ใช้ ยี่โถ สะเดา  เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ ยี่โถ 3 หนอนเจาะต้น ใช้ สะเดา ใบมะเขือเทศ คูน เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ คูน โดยใช้ส่วนที่เป็นเมล็ดใช้จากการนำฝักที่แก่ๆทั้งฝักเลยมาหมัก 4 แมลงปีกแข็ง ใช้  มะระขี้นก  คูน เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้  คูน 5 ผึ้งกัดใบ แนะไปแล้ว 6 เพลี้ยไฟ แนะไปแล้ว 7 เพลี้ยแป้ง ใช้ ยาสูบ สะเดา เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ ยาสูบ 8 เพลี้ยหอย ใช้ สาบเสือ 9 เพลี้ยอ่อน ใช้ มันแกว ยาสูบ สะเดา เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ ยาสูบ 10 แมงมุมแดง แนะไปแล้ว นำสมุนไพรทั้งหมดมาหมักรวมกันและผมมีวิธีหมักตามรูปถ่ายนี้เลยครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เพิ่ม จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เพิ่มรูป จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เพิ่ม จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เพิ่มเติม จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เพิ่มเติมนะ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตามนี้ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 12:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 47 แต่ผมเห็นว่า 30 โลมันอาจจะมากเกินไปผมเลยให้หมอดินจัดอัตราส่่วนใหม่ ขมิ้นชัน 4 กิโล ยี่โถ 1 กิโล ฝักคูน 3 กิโล ยาสูบ 1 ก้อนหรือ 1 กิโล สาบเสือ 1 กิโล ข่าแก่ 5 กิโล ยางมะละกอ 75 ซีซี กากน้ำตาล 5 กิโล ซึ่งใช้แทนน้ำตาล น้ำ 25 ลิตร พด.7  1 ซอง ซึ่ง สาร พด.7  สามารถติดต่อขอได้ที่กรมพัฒนาที่ดินฟรีนะครับไม่มีขายทั่วไป สงสัยอะไรโพสต์ถามผมได้นะครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 นี่ืคือสูตร พด.3 นะครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เพิ่ม จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เพิ่ม 3 จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เพิ่ม 4 จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เพิ่ม 5 จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่ม 6 จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 มีปัญหาไม่เข้าใจจุดไหนถามผมได้นะครับ ยินดีครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 27 ม.ค. 52 13:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พึ่งเข้ามาอ่าน ขอบคุณมากค่ะคุณศิษย์ลพ.จำปา ที่นำสูตรดีดีมาให้เดี๋ยวจะลองไปทำดูค่ะ จากคุณ : tiNgrOyArrAi - [ 30 ม.ค. 52 14:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะที่กรุณาแนะนำสูตรชีวภาพดีๆแบบนี้ แต่ว่าที่คุณศิษลพ.จำปาส่งรูปมาเข้าดูไม่ได้ค่ะ แต่ถึงยังไงก็ต้องขอบคุณมากๆค่ะ จะลองไปทำดูนะคะ ต่อไปอาจจะมีการบ้านมาส่งให้ดูค่ะ จากคุณ : พุดตะแคง - [ 31 ม.ค. 52 23:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ตอนนี้ดูได้แล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 52 23:40:32 จากคุณ : พุดตะแคง - [ 31 ม.ค. 52 23:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอให้พวกเราช่วยกันใช้วิธี อินทรีย์ชีวภาพกันเยอะๆนะครับถ้าไม่ดีจริงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเหรด คงไม่หอบเอาเงิน 500 ล้านเหรียญดอลลาห์มาลงทุนที่กัมพูชาเพื่อผลักดันให้กัมพูชาปลูกข้าว แบบชีวภาพโดยไม่ให้มีการใช้เคมีใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเขาจะดันให้กัมพูชาเป็นประเทศส่งออกข้าวใหญ่ที่สุดในเอเซีย โดยเขาจะควบคุมการผลิตเองทั้งหมด ถ้าเป็นแบบนี้ชาวนาไทยคงแย่แน่ๆๆ ซึ่งลำพังตัวผมเองเป็นห่วงมากๆครับแต่ทำไงได้เราก็ทำได้แค่นี้คือพยายามสนับสนุนวิธีปลูกพืชแบบอินทรีย์ชีวภาพตามความรู้ที่ผมมีให้แก่เพื่อนๆๆทุกท่าน ก็ต้องอาศัยเพื่อนๆๆทุกท่านนำไปเผยแพร่ให้แก่ชาวเกษตรกรท่านอื่นๆๆให้เขาได้หันมาทำเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ เพื่อจะได้สู้ต่างชาติครับ จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 1 ก.พ. 52 12:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ช่วงนี้เริ่มเลี้ยงกุหลาบโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลยและก็ไม่ให้ปุ๋ยเคมีเลยด้วยค่ะ ช่วงหลังมานี่รู้สึกว่ากุหลาบดอกจะเล็กลงหน่อย คงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่แมลงก็น้อยลงมาก แต่ยังมีบ้างนิดหน่อยเป็นพวกเพลี้ยไฟน่ะค่ะแต่ก็จะพยายามให้ใช้พวกสมุนไพรต่างๆในการไล่แมลงแทน และมีความรู้สึกว่าต้นกุหลาบมีความสมบรูณ์มากขึ้นด้วยค่ะ ที่ญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้ปุ๋ยเคมีแต่ใช้ปุ๋ยชีวภาพกับข้าวโพด ปรากฏว่าได้ผลผลิตมากกว่าเราประมาณ 500 กิโลต่อไร่ และข้าวโพดก็ลูกใหญ่กว่าของเราด้วย ต้นไม้ก็เหมือนคนนั่นแหละค่ะโดนสารเคมีเข้าไปมากๆ ช่วงแรกก็ดูดีหรอก แต่พอต่อไปก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆและไม่มีภูมิต้านทานตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ต้องขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีให้พวกเราจะได้มีส่วนช่วยลดมลภาวะเป็นพิษให้กับโลกของเรา จากคุณ : พุดตะแคง (พุดตะแคง) - [ 10 ก.พ. 52 14:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่องดอกเล็กลงไม่ใช่ปัญหา มันอยู่ที่สูตรการผสมปุ๋ยและวิธีการให้ปุ๋ย ไว้เดี๋ยวผมจะบอกสูตรการผสมปุ๋ยและการให้ปุ๋ย และมันมีเสริมนอกจากอาหารพืชอีกอย่าง คือ น่าจะเปิดเพลงคลาสสิคให้ต้นไม้ฟังบ้างช่วงกลางวันเพราะต่างประเทศเขาวิจัย ได้ผลที่แน่นอนว่าทำให้ต้นไม้ออกดอกออกผลดี และขึ้นกับแสงแดด กุหลาบต้องการแดดจัดๆอย่างน้อยวันละ 6 ชม. จากคุณ : ศิษย์ลพ.จำปา (ศิษย์ลพ.จำปา) - [ 13 ก.พ. 52 12:06:49 ]