Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องของ “ดี้” สุนัขพิการสุดอาภัพ (เจ้าของสุนัขพิการควรอ่าน)

    2 มกราคม 2552
    ผมกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ผมแถวบางแค นัดจะพาท่านไปตลาดน้ำท่าคาช่วงเช้า ขณะที่ขับรถออกจากบ้านมาประมาณ 200 เมตร ผมเห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินด้วย 2 ขาหน้าเท่านั้น ลำตัวด้านหลังและขาหลัง + หัวเขาทิ้งครูดตามทาง การเคลื่อนไหวทุกลักทุเลหน้าสงสารมาก ผมขับรถไปใกล้ๆ  ผมบอกกับพ่อแม่ในรถว่า หมาตัวนี้น่าสงสารมาก ทำงัยดี  พอผมไปจอดรถอยู่ใกล้ๆ เห็นมันมองตาแป๋ว ผมรู้สึกสงสารมันมาก จึงบอกพ่อแม่อีกทีว่าเดี๋ยวกลับมาจะรับมันไปทำขาเทียม ค่าผ่าตัด และทำล้อไม่น่าจะเกิน 5000 บาท แต่ เนื่องจากเรามีนัด  จึงรีบไปก่อน

    ช่วงบ่ายผมกลับมาส่งพ่อแม่แล้วจึงเดินมาจุดที่หมาตัวนั้นอยู่ ผมพยายาม เรียกมัน และทำความคุ้นเคย จนมันยอมให้จับหัว มันน่ารักมาก แต่ที่ผมต้องทำคือ หาตัวเจ้าของ ผมจึงไล่ถามชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งเป็นเรือนแถวให้เช่าราคาถูก ประมาณ 1000 - 1200 บาท ต่อเดือนทีละห้อง จนทราบว่า เจ้าของชื่อคุณโน้ต อาชีพหาบเร่ขายไม้กวด ผมรอสักพักหนึ่ง เจอคุณโน้ต จึงสอบถามได้ความว่า ดี้ ถูกรถชนมาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่เจ้าของมีอาชีพขายไม้กวาดจึงไม่สามรถช่วยเหลืออะไรมันได้ ปล่อยให้มัน ทรมารมา 1 เดือนเต็ม ตอนนี้ 2 ขาหลังใช้ไม่ได้ หัวเข่าถลอก มีแผลเนื่องจากเดินครูดพื้นตลอดเวลา เจ้าของบอกว่า สัปดาห์แรกมันร้องโหยหวนมาก แต่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ผมจึงบอกว่าเอาอย่างนี้ ผมจะพาไปรักษา และทำขาเทียมให้ ขออย่างเดียวขอให้คุณโน้ต ไปเป็นเพื่อนผม เนื่องจาก และ ดี้ยังไม่คุ้นกัน ถ้าผมเอามันขึ้นรถไป มันคงไม่ยอม หรือใจเสียแน่ๆ คุณโน้ตตกลงที่จะไปกับผม

    เนื่องจากอยู่ในช่วงปีใหม่ ผมพยายาม หาโรงพยาบาลสัตว์ที่เปิดบริการ จนนัดคุณหมอได้ท่านหนึ่ง

    3 มกราคม 2552
    ผมไปรับคุณโน้ต และดี้ขึ้นรถ พาไปพบหมอตามนัด ดี้มีอากาสตกใจ และปัสสวะเป็นระยะ บางส่วนในรถผม
    หมอบอกว่า โอกาสกลับมาเป็นปกติยาก เพราะไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที โชคดีที่ ประสาทกระดูกสันหลังไม่เสีย ทำให้ควบคุมการขับถ่ายได้ตามปกติ แต่ถ้าอยากให้เดินได้ ต้องทำกายภาย อย่างหนักและใกล้ชิด และแม้ทำได้ขนาดนั้น โอกาสหายก็เพียง 30% ผมประเมินแล้วว่า ด้วยอาชีพการงานของเจ้าของ คงไม่สามารถทำได้ ผมจึงปิดประเดินเรื่องการรักษา แต่ตัดสินใจสั่งทำล้อเลื่อน แทน คุณหมอบอกว่าที่โรงพยาบาลไม่รับทำ แต่ยินดีประสานงานให้

    ผมรอคุณหมดประสานงานประมาณครึ่ง ชั่วโมง เนื่องจากเป็นช่วงปีใหม่ โทรไปทุกแห่งติดต่อไม่ได้ และคุณหมอมี case เข้ามาเรื่อยๆ ผมจึงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้รอปกติ คุณโน้ตและดี้ นั่งอยู่กับพื้นตรงมุมห้อง ผมสังเกตว่าดี้ มองมาทางผม และพยายามเดินลากขามาหาตรงที่ผมนั่ง ผมจึงเดินไปหา เห็นแววตาแล้วน่าสงสารมาก ผมลูบหัวมัน พอมันนิ่งผมก็กลับมานั่งเก้าอี้ใหม่  อีกซักพักหนึ่ง มันก็พยายามคลานมาหาผมอีก ผมจึงถามข้าวของว่า มันจะเอาอะไร เจ้าของบอกว่ามันอยากมาหาผม ผมจึงมานั่งอยู่กับมัน เพื่อไม่ให้มันต้องเดินขาลากมาหาผม ผมมองตาอมัน แววตามันบริสุทธิ์มาก เจ้าของบอกว่ามันรู้ว่าผมมาช่วยมัน มันเลยพยายามมาหา ผมสบตามันแล้วแทบร้องให้ ไม่อยากเชื่อว่าเราสื่อถึงกันได้  มันเลียมือและเท้าผม และผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ แม้ว่มันเป็นสุนัขข้างถนนที่เพิ่งเจอกันเมื่อวาน

    คุณหมอพยายามแนะนำวิธีให้ยาและทำกายภาพบำบัดให้ ผมเห็นคุณโน้ตเจ้าของ ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดตำหนิอะไรเขา เพราะกะว่าจะทำล้อเลื่อนให้อยู่แล้ว พอออกจากโรงพยาบาล ผมได้แวะไปซื้อ ลูกชิ้น เพื่อการป้อนยาที่ง่าย และ Vasline ทาแผล พาคุณโน้ตและ ดี้ไปส่งที่ห้องเช่า พร้อมกับนัด ช่างทำล้อจาก Dog Modern Life มาให้  ผมชำระค่ายาไป 900 บาท

    4 มกราคม 2552
    เจ้าหน้าที่ มาวัดตัวดี้ กำหนดส่ง ล้อเลื่อน 11 มกราคม เนื่องจากช่วงนั้นผมมีภารกิจในต่างจังหวัด จึง clear เรื่องเงินไว้ให้ก่อน ค่าทำล้อ 4000 บาท เป็นไปตามงบที่ผมวางไว้คือ ทั้งหมด 5000 บาท แต่ถ้าหากมีผ่าตัดคงเอาไม่พอ

    11 มกราคม 2552
    ล้อเลื่อนมาส่ง คุณโน้ตและ แฟน มาศึกษาวิธีใช้

    17 มกราคม 2552
    ผมกลับมาเยี่ยมบ้านพ่อแม่อีกครั้ง แม่บอกว่าได้เดินไปดูเป็นระยะ และเห็นหมาใส่ล้อเลื่อน ไม่น้อยกว่า 3 หนแล้ว ผมดีใจ ว่าผมช่วยมันได้แล้ว และเดินไปถามชาวบ้านแถวนั้นก็ทราบว่า หมาได้ยากินและทาทุกวัน ก็ทำให้ผมรู้สึกดี แต่สิ่งที่แม่ผมและชาวบ้านพูดเหมือนกันคือ คนที่พาดี้ ใส้ล้อเลื่อน และ ดูแลเรื่องยากินและยาทา คือ แฟนคุณดี้ ผมพยายามคิดในแง่ดีว่า ไม่เป็นไร ใครช่วยก็ได้ ขอให้หมาดีขึ้นก็พอแล้ว

    24 มกราคม 2552
    ผมกลับมาเยี่ยมบ้านพ่อแม่อีกครั้ง ถามพ่อแม่ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นหมาใส่ล้อบ้างมั๊ย คำตอบคือไม่เห็น ผมจึงไปเยี่ยมดี้ด้วยตัวเอง น่าจกใจมากที่ขาดี้มีแผลเพิ่มขึ้น เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้กิน-ทายา และ เดินโดยไม่ใช้ล้อเลื่อน แต่ไม่เจอเจ้าของ จึงกะว่าวันพรุ่งนี้จะมาอีกที ดี้เลียมือ เท้าผมอีกแล้ว ผมเชื่อว่ามันเป็นสุนัขนิสัยดีครับ

    25 มกราคม 2552
    ผมมาเยี่ยมดี้ มันนอนอยู่และพยายามลุกยืนเพื่อเลียมือผม ผมสงสารจนลงไปนั่งใกล้มัน เพื่อให้มันเลียได้สะดวก หลักจากนั้นก็ได้คุณกับชาวบ้านแถวนั้น พบความจริงอันเลวร้าย สำหรับผมไม่เท่าไหร่ สำหรับดี้ มันนะสะเทือนใจมาก

    ความจริงที่ว่าคือ
    • ช่วงหลังคุณโน้ต-เจ้าของดี้ มีปัญหากันบ่อย ตัดสินใจเลิกกัน และต่างคนต่างไปทุกคนทิ้งดี้ไว้ตรงนี้
    • คุณโน้ตรักดี้ แต่ไม่เคยดูแลเลย แฟนเป็นผู้ทำดูแลเรื่องยา นวดกายภาพ และใส่ถอดล้อ ทุกวัน ทั้งที่ เจ้าของดี้ตัวจริงคือคุณโน้ต
    • ดี้รักนายมันมาก แม้จะคลานตัวลากจนถลอกไปหมด แต่ทุกเช้าก่อนนายไปทำงานดี้จะอาลัยอาวรณ์มาก เดินลากตัวเป็น 10 เมตร จนมั่นใจว่านายไม่กลับมาแล้ว จึงเดินกลับมาที่ของมัน
    • ดี้รักนายขนาดนี้ลองนึกดูนะครับว่า ตอนนี้นายทั้งมันไปถาวร ไม่ใช่ทิ้งตอนเช้าเย็นกลับมา และดี้จะเป็นอย่างไร
    • วันนี้มันตรอมใจครับ หงอย ไม่สดชื่นเหมือนเดิม คนแถวนั้นให้อาหารก็กินน้อยมากๆ

    ดี้จึงเป็นสุนัขที่อาภัพมากที่ผมเคยเห็น  ต้องทนเจ็บปวดจากบาดแผลนานนับเดือน ร่างการพิการ ถูกนายทิ้ง แม้มีคนรับผิดชอบดูแลรักษา พยายามช่วยเต็มที่ทั้ง ยา และล้อเลื่อน แต่ชีวิตมันกลับแย่ลง

    สภาพที่ดี้อยู่ตอนนี้คือริมถนนอย่างแท้จริง ซึ่งการทีมันเดินไม่แล้ว ได้แต่คลาน ทำให้โอกาสถูกรถทับ มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ ผมคิดว่าดี้มีโอกาสตรอมใจตาย กับถูกรถชนรอบ 2 เท่าๆกัน

    สิ่งที่ดี้ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือความรักครับ ผมรู้เพราะเวลาเราเล่นกับมัน มันแสดงอาการดีใจมากๆ ท่านผู้อ่านลองนึกดูนะครับ ชิวิตไม่เหลืออะไรแล้ว ร่างการพิการ ถูกนายทิ้ง ไม่มีบ้านอยู่ ถ้ารับหยิบยื่นความรักให้มันได้จะเป็นบุญขนาดไหน

    สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือดี้เป็นสุนัขนิสัยดีครับ จำได้ว่าคุณหมอยังบอกว่า “เค้าดูสุภาพนะครับ” วันที่มันอยู่บนเตียงหมอ

    ผมพยายามคืดว่าผมจะรับมันมาดูแลเองได้มั๊ยแต่พบว่า ทุกอย่างเป็นอุปสรรคครับ เนื่องจาก บ้านผมเป็น Apartment ซึ่ง มีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ ส่วนบ้านพ่อแม่ผม เลี้ยงแมว หลายตัว รวมทั้ง พ่อแม่ผมอายุ 72 แล้ว หากเอาภาระไปให้ท่านคงไม่เหมาะ

    ผมจึงอยากวอนขอท่นผู้มีจิตเมตตา ที่กรุณาสละเวลาอ่านมาอย่างยืดยาว ท่านไหนพอจะทำได้ ช่วยกรุณารับมันไปเลี้ยงครับ หากดี้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง มันจะมีสุขภาพจิตที่ดี และผมเชื่อว่ามันจะเป็นสุนัขที่ดีของท่าน ทั้งนี้ การรับอุปการะมัน ไม่ได้เป็นงานอย่างที่คิดครับ เนื่องจากล้อเลื่อนยังอยู่ ใหม่เอี่ยม ส่วนแผลนั้น ถ้าเราใส่ล้อให้ แผลไม่ครูด เดี๋ยวก็หายครับ ส่วนถ้าท่านคิดว่า การรับเลี้ยงอาจต้องมีภาระค่าวัคซีน และยาบางอย่างในตอนแรก ผมยินดีรับผิดชอบในส่วนนั้นครับ เพราะถ้าบ้านผมมีบริเวณ ผมจะรับเข้ามาเลี้ยงในบ้านเอง ผมก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนั้นอยู่ดี

    นอกจากนั้น หากท่านมีสุกนักพิการอยู่ด้วย ก็ สามารถ Share ล้อเลื่อนด้วยกันได้ครับ เนื่องจาก หมอให้ใส่แค่วันละ 30-60 นาที เท่านั้น ไม่งั้นเขาจะเมื่อย

    หากท่านใดมีจิตเมตตา กรุณาติดต่อที่ผม 08-1801-3534
    ขอพระเจ้าอำนวยพระพรท่านผูมีใจเมตตาครับ

    จากคุณ : Bruno2516 - [ 26 ม.ค. 52 19:30:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com