ถ้าโดนงูกัด...
การที่จะคิดว่าสุนัขถูกงูมีพิษกัดได้นั้น จะต้องพบรอยเขี้ยวตรงบริเวณที่ถูกกัด ร่วมกับอาการพิษที่แสดงออกมา (เช่น อยู่ไม่สุข หอบ อาเจียน ท้องเสีย ช็อก อัมพาต และโคมา) จากนั้นต้องพยายามค้นหาว่าโดนงูชนิดใดกัดให้ได้ และปฏิบัติดังนี้
1 บังคับสุนัขให้อยู่นิ่ง เพราะสุนัขที่ถูกงูพิษกัดจะเจ็บปวดมาก
2 มัดเหนือบริเวณที่ถูกกัด มัดไม่ให้แน่นมากเหมือนขันชะเนาะห้ามเลือด แต่ต้องมัดให้แน่นพอที่ไม่ให้เลือดไหลกลับหัวใจได้
3 ใช้มีดเปิดตรงบริเวณที่ถูกกัดให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะให้เลือดไหลออกทำให้พิษงูออกจากร่างกาย แต่ถ้าเลือดไม่ไหลออกต้องหาเครื่องดูดมาช่วยดูดออก (ถ้าจำเป็นจริงๆเลยนะค่ะ ต้องใช้ปากดูดซึ่งพิษงูจะถูกทำให้หมดฤทธิ์ในกระเพาะอาหาร )
4 ปล่อยที่รัดไว้ให้หลวมบ้างเป็นเวลานานสัก 30 วินาทีทุกครึ่งชั่วโมง
5 พยายามให้สุนัขอยู่อย่างสงบ เพราะถ้าสุนัขตื่นเต้น และดิ้นรนจะทำให้มีโอกาสดูดซึมพิษงูได้มากยิ่งขึ้น
จากนั้นรีบพาไปหาหมอ เพื่อทำการฉีดเซรุ่มแก้พิษต่อไป

สัตว์ครึ่งบก-น้ำ
พิษของคางคกนั้นพบที่ผิวหนังตามลำตัว และที่ต่อมที่อยู่ใกล้กกหูที่เรียกว่าต่อมพาโรติด โดยต่อมนี้ทำหน้าที่ในการสร้างและสะสมน้ำเมือกที่มีสารพิษหลายชนิดออกมา ต่อมพาโรติดนี้สามารถเห็นได้ชัดเจน น้ำเมือกที่ปล่อยออกมาจากต่อมนี้มีลักษณะสีขาวเหนียวข้น ซึ่งมีพิษค่อนข้างรุนแรง น้ำพิษนี้เป็นอาวุธที่สำคัญในการปกป้องคางคกจากผู้ล่า สิ่งคัดหลั่งจากผิวหนังยังช่วยปกป้องร่างกายคางคกจากเชื้อโรคต่างๆ ได้ รวมถึงช่วยการหายใจ ทำให้ผิวชุ่มชื้นและควบคุมอุณหภูมิร่างกาย

เมื่อสุนัขไปคาบหรือกัดคางคกรวมถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดอื่น น้ำเมือกหรือน้ำพิษจะสัมผัสกับเยื่อบุในช่องปาก และถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ระดับความรุนแรงของอาการพิษจากคางคกบางคร่าว ๆ ได้ 3 ระดับ
- ระดับรุนแรงน้อย จะพบอาการระคายเคืองของเยื่อบุในช่องปาก น้ำลายไหล
- ระดับรุนแรงปานกลาง พบการระคายเคืองของเยื่อบุในช่องปาก น้ำลายไหล ซึม อ่อนแรง มีอาการทางประสาท เช่น ชัก หรือเดินเป็นวงกลม
ถ่ายเลอะเทอะ หัวใจเต้นผิดปกติ
- ระดับรุนแรงมาก พบเช่นเดียวกันกับที่กล่าวข้างต้น และมีอาการปวดท้อง ม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง เหงือกมีสีคล้ำ น้ำท่วมปอดและเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้อาจพบว่าสัตว์เกิดอัมพาต ตาบอดได้ และมีรายงานว่าสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่น บ็อกเซอร์ ปั๊ก จะแสดงอาการรุนแรง ทั้งนี้เกี่ยวเนื่องจากสุนัขเหล่านี้มีระบบทางเดินหายใจค่อนข้างสั้น เมื่อมีเมือกหรือน้ำลายไหลมากๆ มักจะทำให้หายใจลำบาก

เมื่อพบว่าสุนัขของมีความผิดปกติที่คาดว่าเจ้าตูบจะไปเล่นกับกบหรือคางคกมา ถ้าอาการไม่รุนแรงมาก ให้รีบเอาน้ำล้างพิษที่อาจหลงเหลือออกให้มากที่สุด ทั้งนี้ท่านควรสวมถุงมือหลีกเลี่ยงการสัมผัสพิษโดยตรง ถ้าสุนัขกลืนคางคกลงไปควรรีบทำให้อาเจียนโดยการกรอกไข่ขาวดิบ จากนั้นต้องรีบนำไปพบสัตวแพทย์อย่างรวดเร็วเพื่อทำการล้างท้อง และรับยาแก้พิษ เช่น atropine ยาระงับชัก สเตรียรอยด์ ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด เป็นต้น แต่ถ้าเป็นเพียงกบหรืออึ่งอ่างทั่วไป อาการมักไม่รุนแรงหรือวิกฤตมากนัก แต่ท่านควรนำไปพบสัตวแพทย์เช่นกันเพื่อล้างทำความสะอาดแผล รับยาปฏิชีวนะและยาแก้พิษอื่น ๆ เนื่องจากช่องปากของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหล่านี้มีแบคทีเรียหลายชนิดที่อาจทำให้แผลติดเชื้อได้
ขอบคุณเวป ที่มา
http://pitbullzone.com/community/comments.php?DiscussionID=3115&page=1#Item_0

จากคุณ : เบิ้มบ้านเพื่อน - [ 29 ม.ค. 52 21:37:24 ]