ขอฝากเพื่อน ๆ นิดนึงนะค่ะ
สำหรับเรื่องโรงพยาบาล ที่มีหมอมักวินิฉัยโรคผิดจากความมั่นใจของหมอเอง โดยไม่อิงเครื่องมือ (ยาวหน่อยนะค่ะ) อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ทุกท่านค่ะ
เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ม.ค 2552 ตอนประมาณ 16.00 น. น้องหมาที่บ้านมีอาการถ่ายเหลว พอถ่ายครั้งที่ 2 ก็ปนเลือดสด ๆ และมีอาเจียนด้วย ประมาณ 18.00 น. พาไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้บ้านที่สุด คือ โรงพยาบาลชื่ีอ โรงพยาบาลสัตว์เทพา.... แถวแยกบางนา
เมื่อไปถึง นั่งรอพบหมอ น้องหมาก็ถ่ายเป็นเลือดพุ่งปรี๊ดออกมาเลย เมื่อเข้าไปพบคุณหมอ ก็บอกอาการและเวลาที่เริ่มเป็น และถ่ายไปแล้วกี่ครั้ง ลักษณะของอุจจาระเป็นอย่างไร สีอะไร อาเจียนสีอะไร คุณหมอก็นั่งดูห่าง ๆ ไม่เข้ามาจับน้องหมาเลย แล้วบอกให้ผู้ช่วยเอาปรอทมาวัดไข้ แล้วเราบอกว่ามีอึมาด้วย คุณหมอก็บอกให้ผู้ช่วยเอาอึมาไว้ตรวจ แล้วก็เดินมาถามเราว่าน้องหมาดุรึเปล่า เราบอกไม่ดุ ก็เดินมาแตะหน่อยนึง แล้วบอกให้เรามานั่งรอข้างนอก โดยบอกว่าจะเอาน้องหมามาให้น้ำเกลือ ก็ให้ผู้ช่วยเอาน้องหมาเราไป
เรานั่งรอสักครู่ คุณหมอ มาบอกว่า น้องหมาเราเป็นโรคลำไส้อักเสบ ต้องให้ยาต้านไวรัสโดยเร็ว และทางโรงพยาบาลก็มียาต้านไวรัสตัวใหม่ ซึ่งจะให้ผลที่ดีกว่าตัวเดิม แต่ราคาแพงมาก (เป็นยาฉีด 1 ขวดฉีดได้ 3 ครั้ง) 1 ขวด ราคา 7,000 บาท แต่ 1 ขวดยังไม่หายดี ต้อง ใช้ประมาณ 2 ขวด
เราก็ถามคุณหมอว่า เค้าเป็นลำไส้อักเสบเหรอค่ะ เพราะว่าทำวัคซีนแล้ว และคุณหมอได้ตรวจกับชุดตรวจแล้วเหรอค่ะ หมอบอกชุดตรวจหมด แต่หมอมั่นใจว่าน้องหมาเรา เป็นโรคลำไส้อักเสบอย่างแน่นอน อุจจาระที่เอาไปตรวจก็ปกติ ไม่มีพยาธิ (ตอนนั้นคุณหมอดูเหมือนคนน่าเชื่อถือมาก)
และน้องหมาเราอาการถ่ายยังถ่ายไม่หยุด ขณะนั้นคุณหมอก็เป็นเหมือนที่พึ่งสุดท้ายสำหรับเราเและน้องหมา ก็เชื่อที่หมอบอกว่า หมอมั่นใจว่าน้องหมาเราเป็นลำไส้อักเสบ และต้องการได้รับยาโดยเร็วที่สุด ยิ่งเร็วยิ่งดี (หมอบอกช่วงนี้โรคกำลังระบาดมาก)
เราก็เลยทำตามที่หมอบอก ให้ยาต้านไวรัสกับน้องหมา เข็มแรก พร้อมกับให้น้ำเกลือ นั่งรอให้น้องหมาให้น้ำเกลือเสร็จก็กลับบ้าน เพราะคุณหมอบอกว่า น้องหมาเราเล็กมาก เอากลับบ้านดีกว่า (ประมาณว่ากลัวตายที่โรงพยาบาลเค้าน่ะ) แล้วพรุ่งนี้ให้เอาน้องหมามาส่งแต่เช้า (ที่นี่เปิด 08.00-20.00 น.) ไปเครียร์ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 9,000 บาท (ค่ายาต้านไวรัส ค่าหมอ ค่าน้ำ้เกลือ ค่าฝากน้องหมาของวันพรุ่งนี้ ประมาณว่าค่ามัดจำน่ะ)
น้องหมาเราสภาพไม่ดีเลย ยังถ่ายเหลวอยู่ ถ่ายทั้งคืน วันรุ่งขึ้น 08.00 เราก็พามาส่งโรงพยาบาล เป็นหมอคนใหม่ ก็รับน้องหมาเราไป และบอกว่าจะให้น้ำเกลือ และยาต้านไวรัสอีกเข็ม เราก็ไปทำงานโดยฝากน้องหมาไว้กับโรงพยาลบาลชุ่ย ๆ
ประมาณ 10 โมงเช้า เราโทรไปถามหมอ เค้าบอกน้องหมาปกติดี กำลังให้น้ำเกลืออยู่
ประมาณ บ่าย 2 โมง โรงพยาบาลโทรมาบอกเราว่า น้องหมา ชัก ถ่ายเป็นเลือด และอาเจียนเป็นเลือด ตอนนี้ให้ยากันชักแล้ว อีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง ให้เราโทรมาถามอาการเอง
ได้ฟังดังนั้น เรา ลางานครึ่งวันออกมาเลย (บ้านอยู่สุขุมวิท 62-โรงพยาบาล อยู่แยกบางนา-ทำงานอยู่เพลินจิต) ประมาณ ครึ่งชั่วโมงเราถึงโรงพยาบาล เราเข้าไปดูน้องหมา สภาพแย่มาก ๆ น้องหมาเรานิ่งไปแล้ว หมอบอกต้องให้ยาให้เค้าหลับไม่งั้นจะชักไม่หยุด เราก็นั่งรอให้น้องหมาเราฟื้น ประมาณ 18.00 น้องหมาฟึ้น (หมอพูดว่า ฟื้นแล้วเหรอ นึกว่าจะไม่ฟื้นซะแล้ว..ดูมัน) แต่ก็ถ่ายเหลวอีก หมอก็ยังให้น้ำเกลืออยู่ และลองป้อนถ่านให้น้องหมา เรารอน้ำเกลือหมดจะได้กลับบ้าน ก็นั่งดูอาการ ประมาณ 19.30 เรากลับมาถึงบ้าน น้องหมาเราก็ชักเกร็งไปทั้งตัว ลิ้นเขียว เราก็โทรไปโรงพยาบาล ว่า น้องหมาชักเราจะเอาไปที่โรงพยาบาลนะ ตอนนี้เราต้องช่วยน้องหมายังงัยก่อน แต่คำตอบที่ได้ หมอกลับบ้านไปแล้ว ค่อยมาพรุ่งนี้เช้า เพราะโรงพยาบาลปิด 2 ทุ่ม เราเลยถามว่าชื่อยาปฎิชีวนะ จะพาน้องหมาไปที่อื่นและได้ใช้ยาต่อเนื่องกัน เค้าบอกว่าที่อื่นไม่จ่ายยาตัวนี้หรอก เพราะมันแพงมาก (ดูมันอีกแล้วซิ)(เราขี้เกียจทะเลาะ)
เรารีบพาน้องหมาไปที่โรงพยาบาลจุฬา เมื่อถึงโรงพยาบาลก็แจ้งอาการเบื้องต้น และโรคที่เป็น พอคุณหมอรู้ว่าน้องเป็นลำไส้รีบมาช่วยกันใหญ่เลย บอกให้เอาน้องหมาชั่งน้ำหนัก น้องหมาเรานิ่งไปอีกแล้ว คุณหมอขอเราเจาะเลือดน้องหมา และให้น้ำเกลือ พร้อมกับเอาอ๊อกซิเจนมาให้น้องหมาเรา หลังจากนั้นคุณหมอเอาเลือดไปตรวจหาโรคลำไส้อีกครั้ง และบอกเราว่าจะเอาเลือดไปตรวจพยาธิในเม็ดเลือดด้วย ไม่ถึง 1 ชั่วโมง คุณหมอก็มาแจ้งว่า ไม่ได้เป็นลำไส้อักเสบ แต่เป็นพยาธิในเม็ดเลือด เกล็ดเลือดต่ำ เลือดขาดอ๊อกซิเจน คืนนั้นน้องหมาเราต้องนอนให้น้ำเกลือ อ๊อกซิเจนที่โรงพยาบาล
คุณหมอแจ้งว่าขั้นตอนการรักษาก็คือ ตอนนี้น้องหมาเกล็ดเลือดต่ำมาก ถ่ายเป็นเลือด และมีอาเจียนบ่อย ๆ กินอะไรไม่ได้เลย ต้องให้น้ำเกลือ และสารอาหารทางน้ำเกลือ และรอดูการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ รักษาตามอาการที่เป็นก่อน
และรอจนกว่าน้องหมาจะทานอาหารได้โดยที่ไม่มีอาการอาเจียนและถ่ายเป็นเลือด จึงจะให้ยาฆ่าพยาธิในเม็ดเลือด ยาบำรุงตับ และยาบำรุงเลือด
ตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 26-คืนวันที่ 29 ม.ค 52 น้องหมายังมีอาเจียน และถ่ายเป็นเลือดอยู่ แรก ๆ ถ่ายเป็เลือดสด ๆ เลย ติดต่อกันหลายครั้ง และ่เริ่มลดปริมาณลงเรื่อย ๆ
วันที่ 30 ม.ค 52 เริ่มให้น้ำ/น้ำเกลือแร่/น้ำหวานเฮลบลูบอย ทีละนิด ทุก ๆ 10 นาที น้องหมาไม่มีอาเจียน ยังถ่ายเหลวแต่ไม่มีเลือดปน เราแจ้งคุณหมอ
น้องหมาเลยได้ยามาทานเอง(ดีใจมาก) ทานยาแล้วน้องหมาก็ไม่อาเจียนเป็นอันว่าการให้ยาสำเร็จผล แต่ยังติดที่น้องหมาไม่ยอมทานอาหาร จึงบังคับป้อนด้วยสลิ่ง (A/D เอามาผสมน้ำ หรือน้ำหวาน) น้องก็เริ่มจะมีแรง และอาการดีขึ้น
วันที่ 31 ม.ค 52 ตอนบ่าย ขอคุณหมอกลับบ้าน เพราะลางานมา 1 อาทิตย์แล้ว และน้องหมาก็ทานยาได้แล้ว ส่วนเรื่องอาหารก็บังคับเอา
วันนี้น้องหมาเราดีขึ้นแล้ว มีแรงมากขึ้น เริ่มที่จะเดิน และทรงตัวได้ดีขึ้น (ดีใจเป็นที่สุด)
ขอโทษนะค่ะที่ยาวไปหน่อย
ตอนนี้สิ่งที่คิดไว้ว่า หากน้องหมาป่วยอีก คงไม่ตัดสินใจไปที่ใกล้บ้านที่สุด และไม่เลือกโรงพยาบาลสัตว์เทพา.....(แยกบางนา) อีกแน่นอน วินิฉัยโรคตามความมั่นใจของตัวหมอเอง ไม่มีใจในการรักษา
เพื่อน ๆ ท่านใดได้อ่านเรื่องนี้แล้ว เราหวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่เกิดกับผู้ใดอีก
น้องหมาเรา ปอม ฯ อายุ 4 ขวบ ชื่อเกี๊ยวซ่า ตอนนี้รอยเจาะเลือด เจาะน้ำ้เกลือ พรุนไปหมดทั้งขา 4 ขา ( 2 โรงพยาบาล)ขาละประมาณ 2-3 แผล ต้องเจาะเลือดจากคอ 2 ครั้ง เพราะที่ตัวไม่มีเลือด เพราะเส้นฟีบ(เกิดจากกินอะไรไม่ได้) น้องเราตัวเล็กมาก ๆ ด้วย น้ำหนัก 1.7 กิโล
และเป็นแผลที่เกิดจากน้ำ้เกลือที่ให้ทางเส้นเลือดกัดเป็นแผลรูใหญ่ ๆ (เพราะน้ำเกลือไม่ไหลเข้าเส้นเลือด) แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้น้องยังมีชีวิตอยู่ และกำลังจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
เรื่องตรวจเลือดจาก โรงพยาบาลแรก คุณหมอไม่ได้เอาไปตรวจให้ค่ะ ทั้งที่เราได้ให้เอาเลือดไปตรวจกับชุดตรวจแล้ว(ชุดตรวจลำไส้) แต่คุณหมอไม่ทำให้ และยังบอกว่าพอดีชุดตรวจหมด แต่ยังงัยซะ น้องหมาเราก็เป็นโรคลำไส้อย่างแน่นอน (หมอบอกมา)
ขอแก้ไขคำผิดค่ะ และเพิ่มเติมเล็กน้อยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 11:45:24
แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 10:43:26
แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 52 10:36:29
แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 22:36:03
แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 52 22:34:26