ความคิดเห็นที่ 1 พี่ออมว่าหนูไปหาหมอเถอะจ้ะ เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลใหญ่ๆ หรือโรงพยาบาลเอกชนมีหมอจักษุทุกที่ ดวงตาสำคัญมากนะจ๊ะ อย่าวางใจทิ้งเอาไว้นาน เดี๋ยวเป็นอะไรมากแล้วจะแก้ไขลำบาก จากคุณ : Pattylala - [ 11 ก.พ. 52 09:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ พี่ออม *-* ตอนนี้มันเป็นๆ หายๆ เลยไม่แน่ใจค่ะ เด๋ววันเสาร์นี้ว่าจะไปหาหมอแล้วค่ะ จากคุณ : Lisozo - [ 11 ก.พ. 52 09:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อาจจะเป็นเส้นเลือดฝอยในตาแตก หรือตะกอนในตาอ่ะค่ะ ลองไปหาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด บางรพ.ต้องนัดล่วงหน้านะคะ อยู่ดีๆไปถึงเลย อาจจะไม่ได้เจอจักษุแพทย์ ต้องเสียเวลาหลายที จากคุณ : ++แขวน++ - [ 11 ก.พ. 52 10:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นเหมือนใยๆ วิ่งไปวิ่งมา ยิ่งมองตา ยิ่งวิ่งเคลื่อนไป โดยไม่มีปัญหาตามัว หรือภาพเบี้ยวภาพเพี้ยน เรียกว่า Vitreous floator เกิดจากวุ้นตาเสื่อม แนะนำควรไปหาหมอตาเพื่อตรวจตาอย่างน้องออมบอกแหละ จากคุณ : หยิบหย่ง - [ 11 ก.พ. 52 10:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ้ย ยิ่งมองตาม ตก ม ม้า จากคุณ : หยิบหย่ง - [ 11 ก.พ. 52 10:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 'โรควุ้นในลูกตาเสื่อม' คนที่เล่นคอมพ์เกือบทุกคน เป็นโรค 'วุ้นในลูกตาเสื่อม' ตอนนี้ในประเทศไทย มีคนเป็นโรคนี้ถึง 14 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ (นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้ คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นจะมากขนาดไหน?) อาการก็คือ ! คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนหยากใย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก จะเห็นชัดกต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา ถ้าอาการมากกว่านั้นก็คือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ) และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่?) สาเหตุของโรคนี้คือ ! 'การใช้สายตามากเกินไป' (เล่นคอม) แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ที่สายตามากๆ เช่น ช่างเจียระไนเพชรพลอย ! ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ แต่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ เล่นคอม (คุณฟังไม่ผิดหรอก เดี๋ยวนี้คนเป็นโรค นี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ) ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก? ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต, เล่นเกมส์, อ่านไดอารี่, อ่านบทความ, อ่านหนังสือหรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้นเพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ 'ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอนเพราะขอบของตัว หนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอนกว่า กล้ามเนื้อและประสาทตาจึงทำงานค่อนข้างคงที่ แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่คมชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส ( เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต่เรามองผ่านมันไป ) (จอ LCD เราก็ต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือน อยู่บนแผ่นกระดาษ) การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน บวกกับ ลักษณะการอ่านหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง เพื่อที่จะอ่านบรรทัดด้านล่างได้หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้ ไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ ที่แขนกับคอเราจะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนม้าส์นั้น มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ (คุณสังเกตุดู ) มันจึง ทำให้ปวดตามากๆ เพราะจะต้องลากลูกตาเลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางทีคุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว ว่ากดตำแหน่งบนแป้นพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ คุณจะปวดตามากๆ ตัวอย่างเช่นกรณีเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน ! สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดใช้โปรแกรม word ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีขาวสว่าง (ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือสีดำบนพื้นสีขาว) สีพื้นที่สว่างจ้านี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป หรือไม่ก็คนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อย ๆ มักจะมีการปรับแสงสว่าง เพราะเวลาเล่นเกมส์ ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ ภาพแสดงของจอประสาทตาที่หลุดลอกออกมาแยกชั้นออกจากส่วนหลังของลูกตา สรุปก็คือ 1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก 'ทำให้สายตาเสีย' 2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ทำให้สายตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย 3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา 'ทำให้สายตาเสีย ' 4. การปรับจอภาพที่! มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว 'ทำให้สายตาเสีย' (คล้ายๆ กับการเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน) 5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !! (จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!) เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12นิ้ว) แต่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกิน ระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่ อีกขอบหนึ่ง (ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา) ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอกสาร ที่ใช้ในการอ่านการเขียนทั่วไปจึงมีขนาด A4 ? คำตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดีกับการกวาดสายตามอง และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่าทำไมขนาดของจอคอมคุณที่ใช้ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง ส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวันนั้น จะเป็นสาเหตุใหญ่ที่สามารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดอาการรุนแรงเพราะกว่าจะรู้ตัวแล้วไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่า คุณไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!! ***เครดิตจาก ฟอร์เวิร์ดเมล์นะคะ*** จากคุณ : SununseT - [ 11 ก.พ. 52 10:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีค่ะ   แอร์ เคยเป็นอยู่น๊ะ  เวลานักถักไหมพรมนิ เหมือน ปิดไฟน๊ะมืดไปเลย แค่แวปเดียว ตอนแรกๆ แอร์ คิดว่าไฟฟ้าดับ  อิอิ แต่ช่วงนี้  นานๆเป็นครั้งน๊ะ  แฮะๆๆ  *--*++ ((( เป็นโรคกลัวหมอ กลัวเข็มฉีดยา )))) จากคุณ : แอร์ค่ะ (ขวัญใจ) - [ 11 ก.พ. 52 10:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวเราเองก็เป็น หลังจากหาหมอแล้ว หมอบอกว่า อย่าไปมองตามมันมากนัก ถ้าเป็นน้อย ๆ อาจรักษาหายได้ แล้วก็อย่าขยี้ตาแรง ๆ อย่าใช้สายตาจดจ่อที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป มันไม่ถึงกับเป็นอันตราย แค่ทำให้เรารำคาญเวลามองเท่านั้นเองค่ะ แต่ที่ควรระวัง คือประสาทตามากกว่า ถ้ามีอาการแสงแว๊บในตาเหมือนแสงแฟลช อันนี้แหละค่ะที่จะต้องรีบรักษาด่วน ถ้าประสาทตาเสีย จะทำให้ตาบอดได้ค่ะ จากคุณ : SununseT - [ 11 ก.พ. 52 10:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราก็เป็นเหมือนกันค่ะ วุ้นในลูกนัยน์ตาเสื่อม อายุยังไม่ 30 เลย แงแง แต่ให้เลิกทำงานกะคอมก็คงอดตาย เศร้าอีก แงแงแง จากคุณ : Orange Jasmin - [ 11 ก.พ. 52 10:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วุ้นในตาเสื่อมเหรอคะแง แง  เป็นเหมือนกันค่ะ แต่น๊าน ... นาน จะเป็นทีนึง นอนตอนกลางคืน ตื่นมาเช้าก็หาย แต่นี่สงสัยต้องไปตรวจแล้วล่ะมั้งเนี่ย จากคุณ : ชินโจมายุ - [ 11 ก.พ. 52 10:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกๆ คนมากนะค่ะ เป็นโรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งจริงๆ ค่ะ เด๋วต้องรีบไปตรวจให้แน่ใจอีกครั้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 52 11:03:00 จากคุณ : Lisozo - [ 11 ก.พ. 52 11:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยคะ ไปหาจักษุแพทย์ ดีที่สุดคะ เพราะแต่ละคนอาการคล้ายกันแต่สาเหตุอาจแตกต่างกัน ซึ่งแนวทางการรักษาย่อมต่างกันคะ จากคุณ : ชมนาดแสนหวาน - [ 11 ก.พ. 52 11:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลองไปโรงพยาบาลจักษุรัตนินสิคะ ที่นั่นดังเรื่องหมอตา เห็นว่าพระราชินีของเราท่านก็รักษากับที่นี่ค่ะ พี่หนูก็เคยไปหาเหมือนกันเพราะว่าตามองเห็นเป็นเส้นๆเลย หนักกว่าอีก คุณหมอก็บอกว่าให้พักสายตา เพราะว่ามันรักษาไม่หายอ่ะโรคนี้ แต่อาจจะไม่ใช่โรคเดียวกันก็ได้เนอะ ทางที่ดีที่สุดไปหาหมอก่อนค่า จากคุณ : PooNuenG - [ 11 ก.พ. 52 11:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เวรกรรม เราก็น่าจะป็นโรคนี้ด้วยอะ แต่เราเห็นเส้นๆ ลอยไปลอยมา ตั้งแต่เด็กๆ แล้วอะ จนคิดว่าเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็มี คิดว่าเป็นเพราะเราคงไปขยี้ตาแล้วมันสกปรก เลยมีเส้นๆ ลอยๆ อยู่ ไหนกลายเป็นโรคได้หว่า แงๆๆๆๆๆๆ... จากคุณ : เจ้าปิ้ง - [ 11 ก.พ. 52 13:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นอยู่คะ 2 จุด ไปหาหมอมาแล้ว หมอบอกไม่ซีเรียส มีทางเป็นได้ทุกคน โดยเฉพาะคนสายตาสั้น คนที่ใช้คอมบ่อยๆ แต่ให้สังเกต ถ้ามีอาการหลับตาแล้วเกิดเส้นๆ เหมือนฟ้าผ่าตลอด หรือเป็นจุดดำเยอะมากกกกกก  อันนี้อันตรายค่อยมาหาหมอ แต่ถ้าจุดสองจุดสามจุด ไม่เป็นไรมาก ...เรื่องปกติ ...แต่ตอนตรวจนะ หมอหยอดยาขยายรูม่านตา แสบนิดๆ แต่ตาดำขยายใหญ่ เหมือนใส่ Big eye เลย อ่อ เค้าไม่ให้ขับรถด้วย เพราะจะมองแสงไฟเป็นแฉกๆ หลายชั่วโมงกว่าจะกลับมาเป็นปกติค่ะ จากคุณ : tabo_noi - [ 11 ก.พ. 52 15:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นวุ้นในตาเสื่อมค่ะ เราก้อเป็นอยู่ ไปหาหมอนะหมอให้ยาหยอดตามา แต่หมอบอกว่ารักษาไม่หาย มันจาอยู่ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเห็นเหมือนแสงแฟต หรือใยแมงมุม แสดงว่าเป็นเยอะอันนี้น่าจะต้องลอกตามั้งไม่แน่ใจค่ะ ไปหาหมอมา3ครั้ง หมอบอกว่าถ้ามีอาการเยอะค่อยมาอีกที ต้องไม่ใช้สายตาเยอะคะ เล่นคอมฯ ต้องให้มีแสงสว่างมากพอนะ และต้องไม่ใช้ติดต่อกันนานๆอ่ะคะ ที่เป็นเนี่ยเพราะเล่นคอมนานๆมาก เล่นจนน้ำตาไหลเรยอ่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะค่ะ ไปหาหมอเด๊วหมอจะบอกเองสบายใจค่ะ ไม่ร้ายแรง จากคุณ : lovemonkey - [ 12 ก.พ. 52 13:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นเหมือนเพื่อนเราเลย พอเพื่อนไปหาหมอ เห็นบอกว่า เส้นเลือดในตาแตกน่ะคะ คงเพราะใช้สายตามากไป จากคุณ : เรนนี่ (Rainy_ae) - [ 12 ก.พ. 52 17:29:06 ]