ความคิดเห็นที่ 1 หลีกให้ไกลโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ Post Today - เมื่อพูดถึงโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ หลายคนอาจจะงง และสงสัยว่าโรคนี้คือโรคอะไร เกิดจากสาเหตุอะไร มีอันตรายอย่างไร และถ้าหากว่าเกิดอาการแล้วจะมีวิธีการรักษาอย่างไร นพ.พูนศักดิ์ อาจอำนวยวิภาส แพทย์ศัลยกรรมกระดูก และข้อ จะมาอธิบายให้ฟัง ... สาเหตุของโรค นพ.พูนศักดิ์ บอกว่า ปกติบริเวณข้อมือของคนเรานั้นจะมีลักษณะเป็นโพรง และมีพังผืดอยู่บริเวณด้านบน โดยจะมีทั้งเส้นเอ็นและเส้นประสาทใหญ่ที่เรียกว่า เส้นประสาทมีเดียน ลอดจากโพรงข้อมือไปสู่ฝ่ามือ และเมื่อพังผืดเกิดการหนาตัวมากขึ้น หรือเกิดการอักเสบขึ้น พังผืดนั้นก็จะไปกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ ทำให้เส้นประสาทเกิดอาการอักเสบ และเกิดอาการชาที่มือตามมา การที่พังผืดเกิดการหนาตัวมากขึ้นนั้นก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะมาจากสภาพร่างกาย เช่น อายุที่มากขึ้น ทำให้พังผืดอักเสบ และหนาตัวขึ้น, เพศ ซึ่งเพศหญิงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย, ลักษณะโครงสร้างของมือที่ผิดปกติ หรือลักษณะการใช้ข้อมือ หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ก็สามารถเป็นสาเหตุได้เช่นกัน นอกจากการที่พังผืดเกิดการหนาตัวมากขึ้น และไปกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือแล้ว โรคนี้ยังอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย เช่น เกิดการกระดูกหักที่ข้อมือก็จะทำให้โพรงข้อมือแคบลง หรือเกิดการบาดเจ็บบริเวณข้อมือจากการหกล้ม หรือโรคบางอย่างเช่น เบาหวาน รูมาตอย ไทรอยด์ หรือเป็นโรคบางอย่างที่เกี่ยวกับพังผืดก็จะทำให้หนาตัวขึ้นได้ นอกจากนั้น ผู้ที่ใช้ข้อมืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เช่น ช่างฝีมือ พนักงานโรงงาน หรือผู้ที่ทำงานออฟฟิศที่ต้องใช้เมาส์คอมพิวเตอร์นานๆ หรือผู้ที่ต้องรับโทรศัพท์นานๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเส้นประสาทถูกกดทับนานๆ เข้าก็อาจจะทำให้กล้ามเนื้อลีบลง และประสิทธิภาพการทำงานของมือลดลงตามไปด้วย จากคุณ : หมูหวานน้อย - [ 13 ก.พ. 52 15:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาการที่สังเกตได้ การที่จะสังเกตว่าตนเองเริ่มมีอาการของโรคนี้หรือไม่นั้น สังเกตได้จาก เกิดอาการชาที่ฝ่ามือ อาจจะชาๆ หายๆ เหมือนเป็นเหน็บชา แต่พอนานๆ เข้าอาการก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ คือ เกิดอาการชาที่บริเวณนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง หลังจากนั้นอาการชาก็จะเป็นมากขึ้น และพบว่ามีอาการปวดร้าวร่วมด้วย และอาการจะกระจายขึ้นมาที่แขน มักจะมีอาการปวดเวลากลางคืน หรือมีอาการชามากเวลาใช้มือ เช่น ทำงานบ้าน ถ้ามีอาการมากๆ อาจจะเกิดอาการมืออ่อนแรงตามมา อาจจะถึงกับถือหนังสือพิมพ์อ่านก็ยังไม่ได้ และถ้าปล่อยเอาไว้นานๆ ไม่รักษากล้ามเนื้อก็จะอ่อนแรง กล้ามเนื้อมือจะลีบลง ผิดรูป ซึ่งอันตรายถ้าปล่อยเอาไว้นานๆ โดยไม่รักษา จากคุณ : หมูหวานน้อย - [ 13 ก.พ. 52 15:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีการรักษา อาการคร่าวๆ แบ่งได้เป็น 3 ระดับ - เกิดอาการชาอย่างเดียว ลักษณะอย่างนี้แพทย์มักจะแนะนำให้ปรับท่าทางการใช้มือ เช่น คนที่ต้องพิมพ์ดีด หรือใช้คอมพิวเตอร์บ่อยๆ ก็ให้หาหมอนมารองข้อมือ หรือพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มือข้างที่เกิดอาการชานั้นสักพักหนึ่ง รวมทั้งรับประทานยาแก้อักเสบ - มีอาการชามากขึ้น และมีอาการปวดร่วมด้วย แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยา และควบคู่กับการใส่เฝือกพยุงข้อมือ เพื่อให้ลดการใช้งานเกี่ยวกับมือลง - ถ้าชา และมีอาการปวดมาก อาจจะต้องมีการฉีดยาแก้อักเสบที่โพรงข้อมือ ร่วมกับการรับประทานยา แต่ถ้าฉีดยาแล้วไม่ได้ผลก็อาจจะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดต่อไป จากคุณ : หมูหวานน้อย - [ 13 ก.พ. 52 16:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การผ่าตัดนั้นก็จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ผ่าตัดแบบเดิม คือ แพทย์จะทำการผ่าตั้งแต่ข้อมือถึงฝ่ามือ ซึ่งแผลจะยาวประมาณ 5-6 เซนติเมตร เพื่อเอาตัวพังผืดออกมา ทำให้เส้นประสาทไม่ถูกกดทับ ซึ่งหลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแผล มือบวม ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ แผลจึงจะหายพอที่จะทำงานเบาๆ ได้ และจะกลับมาเป็นปกติประมาณ 3 เดือน การผ่าตัดโดยส่องกล้อง โดยจะสอดกล้องเข้าไปในโพรงข้อมือ แล้วตัดพังผืดออกมา โดยแผลจะมีขนาดเล็ก และไม่ค่อยปวดแผลมากนัก การผ่าตัดแบบนี้แผลจะหายไว และสามารถกลับไปทำงานได้หลังจากผ่าตัด 3 วัน จากคุณ : หมูหวานน้อย - [ 13 ก.พ. 52 16:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วิธีการป้องกัน หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือซ้ำๆ เป็นเวลานาน และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่เป็นอันตรายต่อข้อมือ หรือลดอาการใช้มือข้างนั้นลง หลีกเลี่ยงการกระแทกโดยตรงบริเวณข้อมือตอลดเวลา อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน หรือใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อลดการกระแทก คนที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยเบาหวานควรติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และเคร่งครัด ควบคุมไม่ให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ถ้าเริ่มรู้สึกว่ามีอาการมือชา และไม่ดีขึ้น หรือจับของและหล่นบ่อย ก็แสดงว่าเริ่มเกิดอาการแล้ว ควรจะไปพบแพทย์ อีกสิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ การออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายข้อมืออย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อต่างๆ มีความแข็งแรง เมื่อกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นต่างๆ แข็งแรงจะเป็นตัวป้องกันอาการบาดเจ็บที่จะเกิดจากการกระแทกได้ รู้ข้อมูลแบบนี้แล้ว การระมัดระวังตัว และดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงการใช้มือซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็น่าจะทำให้ห่างไกลจากอาการของโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือได้ไม่ยาก จากคุณ : หมูหวานน้อย - [ 13 ก.พ. 52 16:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูลดีๆ  ถ้าใครยังไม่เป็น  ป้องกันไว้ก่อนก็ดีนะคะ มือเป็นอวัยวะที่สำคัญมากจริงๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : coffeenut - [ 13 ก.พ. 52 16:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะค๊า จากคุณ : แจ๊คกี้ (JackY_Pan) - [ 13 ก.พ. 52 16:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : ngor1812 - [ 13 ก.พ. 52 16:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นประโยชน์มากๆๆ   เพราะเราปวดนิ้วมือบ่อยขึ้นตั้งแต่ทำงานฝีมือ ชอบปวดตอนกลางคืนจนนอนไม่หลับ  (เราอายุ 40 up) จากคุณ : Tipsao (Tipsao) - [ 13 ก.พ. 52 17:22:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะ แอร์ แวะมาอ่าน ค่ะ เป็นประโยชน์มากๆๆ   เลยนะค่ะ ขอบคุณนะค่ะ *--*++ จากคุณ : แอร์ค่ะ (ขวัญใจ) - [ 13 ก.พ. 52 17:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แหม...พออ่านจบ มันรู้สึกว่าแขนจะเริ่มชาๆ ขึ้นมาเลย ก็เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยบ่อย จะเป็นช่วงที่ทำงานเยอะๆ จริงๆ อย่างนี้ต้องระวังแล้วคะ ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่มาแบ่งปันกัน จากคุณ : กระต่ายน้อย (กระต่ายซ่าส์) - [ 13 ก.พ. 52 17:43:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ใช่ที่เค้าเรียกกันว่านิ้วล็อคหรือเปล่าคะ แม่เราเคยเป็นนิ้วล็อคค่ะ เป็นมากจนต้องผ่าสะกิดตัวพังผืดออกมา สาเหตุคือเวลาหิ้วของจ่ายตลาดหิ้วหนักไป บางทีใช้ไม่กี่นิ้วเกี่ยวถุง คุณหมอเค้าแนะนำวิธีการดูแลตัวเองว่าถ้ามีอาการปวดไม่มาก ให้เอามือแช่ในน้ำอุ่น ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ทำสักอาทิตย์ละครั้ง และนวดตามนิ้วตามข้อ ... อื่นๆก็ตามข้อมูลที่คุณหมูหวานน้อยเอามาลงค่ะ คือหลีกเลี่ยงการใช้มือที่ผิดลักษณะ ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ ขอให้สมาชิกห้องชาวฝีมือดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ จากคุณ : pungo - [ 13 ก.พ. 52 17:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราเคยเป็นแบบนี้มาแล้วปวดและชาจนนอนไม่หลับ แถมมีอาการนิ้วล็อคร่วมด้วยนอนไม่หลับลุกขี้นเดินไปมาจนสว่างเลยค่ะอยู่หลายคีน ไปหาหมอ    หมอบอกว่าเป็นมากเลยให้ผ่าเลาะพังผืดออก   ตอนนี้ผ่าข้างขวามาได้7เดือนแล้วข้างซ้ายกำลังมีอาการตามมาเพราะอาชีพที่ทำเลี่ยงไม่ได้ทำให้เป็นแบบนี้ค่ะ ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 18:16:50 จากคุณ : ตาสก๊อตสีส้ม - [ 13 ก.พ. 52 18:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นอยู่ค่ะ เพราะใช้คอมมาสิบกว่าปี ยิ่งช่วงหลังที่บ้าถักไหมพรหม จะเป็นมาก ตื่นมานิ้วงอไม่ได้ จะชามาก แต่ถ้าขยันทำขยำมือให้ได้ 100 ครั้งทั้งสองข้างต่อ 1 วัน จะดีขึ้นนะค่ะ อันนี้คิดเอง เพราะจะ ปวดหัวเข่า แต่ถ้ายกขา และทำท่างอเข่า ได้วันละ 100 ครั้ง ต่อ 1 ข้าง จะดีขึ้น เวลาเดินรู้สึกสะดวก เลยเอามาใช้กับมือ ... ใครที่เป็นลองทำดูนะค่ะ หรือเวลานั่งรถ ว่าง ๆ ก็กางนิ้วแล้วทำ คล้ายพิมพ์ดีด แต่คนข้าง ๆ จะหันมามองคิดบ้าหรือเปล่า อิ อิ (คุณยายทำอยู่ นิ้วเราเนอะ) จากคุณ : โบราณของแท้ [ คุณยาย ^___^ ] - [ 13 ก.พ. 52 19:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับความรู้คะ เมื่อคินนี้นาก้อนั่งถัก ถักไปถักมา ปวดจนร้าวขึ้นมาที่ข้อมือ เลยพักถักตุ๊กตาไปแป๊ปนึง แล้วนาก้อนั่งถักดอกไม่ต่อ ก้อค่อยยังชั่ว แต่ก้อยังปวดๆบ้าง สงสัยต้องไปหาหมอแล้วละ -////- จากคุณ : amicafe - [ 13 ก.พ. 52 20:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค่าที่นำข้อมูลมาบอกกัน มีประโยชน์มากๆเลย คุณสาวๆ (รวมทั้งตัวเราด้วย) ก็ควรระวังนะคะ ถ้ามีอาการหาหมอดีที่สุดจ้า จากคุณ : sweet butterfly - [ 13 ก.พ. 52 23:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณมากค่ะ คิดว่าจะเป็นแต่กับคนมีอายุ คือ แม่ๆกับป้าๆ เป็นกันถ้วนหน้า ไม่รู้เป็นกรรมพันธุ์หรือเปล่า เราเริ่มบังคับนิ้วนางกับนิ้วก้อยไม่ได้ มันรั้งๆค่ะ กลัวจัง.. จากคุณ : ดูดีดี ดูไม่ดีไม่ต้องดู - [ 14 ก.พ. 52 16:25:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนถักอย่างเมามันนี่ จะเกร็งๆชาๆ บางทีก้อเหมือนตะคริวกินนิ้วด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ จากคุณ : aehja - [ 14 ก.พ. 52 18:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ .... คุณแม่กะลังมีอาการแบบนี้เลยค่ะ.... ต้องรีบไปบอกจะได้ลดใช้งานมือตัวเองลงซะบ้าง...แม่เราขยันมากค่ะ ยิ่งมีอาการชามือ...ยิ่งหงุดหงิดค่ะ เพราะทำงานไม่ถนัด ไม่ได้ดั่งใจ จากคุณ : บ้านเขียว - [ 15 ก.พ. 52 16:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรามีอาการปวดข้อมือเหมือนกันค่ะ  ไปหาหมอตรวจแล้ว เช็คทั้ง X-ray และใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นเช็ค   หมอเจาะจงไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ (ทั้งหมอเฉพาะทางที่ไทย และหมอประจำบ้านที่ฮอลแลนด์)  เรามีอาการเสียงของ 3โรค   และที่ จขกท.มาแนะนำ ก็เป็น 1ใน 3 นั้น  สุดท้ายเราก็ได้แค่ยาลดปวด และยาแก้อักเสบมากิน อาการคือ บวมที่ข้อมือถึงนิ้วโป้ง  ปวดบวมที่นิ้วนางและนิ้วก้อย  บวมจนใส่แหวนได้ถึงข้อนิ้วแรกเท่านั้น   ปวดมากเวลากลางคืนและมีอาการนิ้วล๊อคด้วย  ซึ่งอาการพวกนี้เป็นๆหายๆสลับกันตลอดเวลา  ถ้าช่วงไหนใช้มือเยอะ  จะบวมและปวดทั้งแขนจนถึงหัวไหล่เลยค่ะ  (จะรู้สึกได้ว่า ถ้าเย็บผ้า หรือถักโครเชต์  จะเป็นน้อยกว่าถักนิตติ้ง  แค่ถักนิตติ้ง 3แถวก็บวมแล้ว) แต่เพราะหมอไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นอะไรกันแน่  แล้วได้คำแนะนำว่าควรไปหาphysio therapist (เราไม่รู้ว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไรอ่ะ) ตรวจๆจับๆแล้วก็เช่นเดิม ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไรกันแน่  ก็เลยให้ลองท่าบริหารข้อมือ   ลองอยู่หลายท่าเหมือนกัน  หลังจากที่ไปหามาทั้งหมด 4 หน ก็สรุปจบลงที่ 2ท่าบริหาร  ซึ่งต้องทำทุกวัน  วันละ 1 ครั้งเท่านั้น   อาการปวดก็ลดลง บวมน้อยลง   แต่เราขี้เกียจอ่ะค่ะ  จะทำเฉพาะเวลาปวดเท่านั้น  ทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้ทำเลย เพราะบางทีมันแค่บวมหน่อยๆ แต่ไม่ปวด (นิสัยไม่ดีเน๊าะ) อยากแนะนำท่าบริหารให้เพื่อนๆนะคะ แต่ไม่กล้าค่ะ  เพราะเรากลัวว่าอาการของโรคแต่ละคนไม่เหมือนกัน  กลัวว่าแนะนำไปแล้วอาการหนักกว่าเดิมจะแย่เอา    เลยแนะนำว่า  ควรไปหา physio therapist ควบคู่กับการไปหาหมอด้วยค่ะ   ทุกวันนี้เราสามารถเย็บผ้า(เย็บมือ) และถักโครเชต์ได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน  แต่นิตติ้งยังต้องเพลาๆอยู่ ไม่ค่อยกล้าจับสักเท่าไหร่  ในเมื่อรักษาไม่หาย ก็ต้องพยายามทำใจให้อยู่ร่วมกับมันให้ได้ค่ะ ทุกวันนี้เลยเรียกมันว่า "โรครำคาญ" ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ **เข้ามาเพิ่มเติมค่ะ  หมอประจำบ้านให้เราใส่เฝือกผ้าด้วย (คนขับแท็กซี่เคยถามว่าข้อมือเป็นอะไร  เลยบอกไปว่า จะขึ้นชกมวยเลยใส่ให้ชิน  กั่กๆๆ  อารมณ์นั้นเลยค่ะ)  แต่เฝือกไม่ช่วยสักเท่าไหร่เลย    พอไปหา physio therapist ทีหลัง เค้าบอกว่า ไม่ให้ใส่เฝือก เพราะมันจะทำให้ข้อมือล๊อค  อาการของเราควรให้ข้อมือเคลื่อนไหวได้สะดวกจะดีกว่า   แล้วการบริหารอื่นๆ เช่นหมุนลูกบอล 2ลูก (เหมือนที่คนจีนทำ) ก็ไม่ช่วยค่ะ  ขึ้นอยู่กับอาการของโรคและบุคคลนั้นๆค่ะ** แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 52 19:17:21 จากคุณ : Wabbit - [ 15 ก.พ. 52 19:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นเหมือนกันคะ  ต้องฉีดยาเข้าไปคะ  หมอบอกว่า ถ้าไม่หายต้องผ่าตัดอะ จากคุณ : AwithM - [ 17 ก.พ. 52 16:25:01 ]